วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2554

เพลิงพรหม ตอนที่ 1



ตอนที่ 1

พุทธศักราช 2301 สมัยกรุงศรีอยุธยา...

ท่านทัดกับบัวกราบพระพุทธรูปองค์ใหญ่ในพระอุโบสถทั้งสองเอาดอกบัววางใส่พานเพื่อถวายพระ ก่อนจะหันมายิ้มสบตาให้กัน ท่านทัดชวนบัวมาทำบุญวันหลังอีก เพื่อจะได้เกิดมาคู่กันทุกชาติ บัวยิ้มเขินอาย ในขณะที่เอี่ยมซึ่งนั่งอยู่ข้างหลังบัว เม้มปากแน่น แววตามีแต่ความอิจฉาริษยา แกล้งกระแทกถาดที่ใส่ขันเงินลงกับพื้นอย่างแรง จนท่านทัดกับบัวสะดุ้งหันมอง เอี่ยมยิ้มเจื่อนๆแก้ตัวว่าทำหลุดมือ ท่านทัดกับบัวไม่ติดใจพากันเดินออกไป เอี่ยมมองตามด้วยความแค้นใจ หันไปคว้าดอกบัวที่ท่านทัดกับบัววางถวายพระมาหักทิ้งแล้ววางกระแทกใส่พานตามเดิม ก่อนจะตามสองคนออกไป

บัวเป็นลูกสาวคนเดียวของเจ้าคุณสุรสีห์ แต่เอี่ยมเป็นเพียงลูกทาสในเรือนเบี้ยที่เจ้าคุณรับเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม... เอี่ยมมีแต่ความอิจฉาริษยาบัว ประกอบกับได้ยินชาวบ้านนินทาเปรียบเทียบตัวเองกับบัวมาตลอด ยิ่งสร้างความเจ็บแค้นให้เอี่ยม จนวันที่กลับจากวัด ท่านทัดพายเรือพาบัวกับเอี่ยมมาตามแม่น้ำ เกิดพายุฝนเทลงมา เอี่ยมร้องด้วยความหวาดกลัว แต่ท่านทัดกลับห่วงใยแต่บัว

"บัวจับเรือให้มั่นนะ"

"คุณบัวว่ายน้ำแข็งออก ไม่เห็นต้องห่วงเลยเจ้าค่ะ แต่อิฉันต่างหากที่ว่ายน้ำก็ไม่เป็น ถ้าเรือล่มไปมีหวังอิฉันได้ตายเป็นผีเฝ้าคลองเป็นแน่"

"พี่เอี่ยมอย่าพูดเยี่ยงนั้น ถ้าเกิดสิ่งใดขึ้น น้องจักเป็นคนช่วยพี่เอี่ยมเองค่ะ"

ทันใดเกิดฟ้าผ่าเปรี้ยง ลมกระโชกแรง เรือพลิกคว่ำโครม ท่านทัดโผล่จากน้ำขึ้นมาร้องเรียกหาบัว เอี่ยมซึ่งคว้ากอสวะไว้ได้ร้องให้ท่านทัดช่วย ท่านทัดกำลังจะว่ายน้ำเข้าไปหา พอดีเห็นบัวกำลังตะเกียกตะกายเพราะโดนรากต้นไม้พันขาเอาไว้ จึงโผไปหาบัว เป็นจังหวะเดียวกับเอี่ยมหลุดมือจากกอสวะ ตาเหลือกลานด้วยความกลัวเพราะว่ายน้ำไม่เป็น ผลุบๆโผล่ๆสำลักน้ำ เห็นท่านทัดดำลงไปช่วยบัว สร้างความอาฆาตแค้นให้กับเธอ

"เพราะมึงคนเดียวอีบัว มึงเป็นมารชีวิตกู กูขอแช่งมึง ถ้าชาติหน้ามีจริง ขอให้กูกับมึงกลับมาเกิดร่วมชาติกันอีก แต่ขอให้มึงฉิบหายแทนกู ขอให้มึงต้องทรมานจนตายอย่างที่กูเป็น"

สุดท้ายท่านทัดก็ช่วยบัวไว้ไม่ได้ บัวสิ้นใจในอ้อมแขน ท่านทัดร้องไห้ปิ่มจะขาดใจ...

ooooooo

เข้าสู่สมัยกรุงเทพมหานคร...รถหรูคันหนึ่งแล่นเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์ของไกรสร ภูมินทร์ หนุ่มหล่อทายาทนักธุรกิจส่งออก ลงจากรถมาเปิดประตูให้มนชญาคู่หมั้นสาวสวย

"ขอบคุณพี่ภูจริงๆเลยค่ะที่อุตส่าห์พามนไปทำบุญมาทั้งวันเลย"

"ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ พี่ดีใจซะอีกที่ได้ทำบุญร่วมกับมน เพราะเราสองคนจะได้เกิดมาเป็นคู่รักกันอย่างนี้ไปตลอดทุกชาติๆเลยไงจ๊ะ"

"ถ้าวันหนึ่งพี่ภูเบื่อมนขึ้นมาแล้วหนีมนไม่พ้น มนก็ช่วยไม่ได้นะคะ"

"ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่จะทำให้พี่เบื่อมนหรือเปลี่ยนใจไปจากมนได้" ภูมินทร์กุมมือมนชญา มองตาด้วยความรัก

พลัน มะปรางวิ่งหน้าตื่นออกมา "คุณมนขา...คุณมน... คุณผู้ชายค่ะ..."

มนชญาตกใจเป็นห่วงพ่อรีบวิ่งเข้าไปในบ้าน พอเปิดประตูเข้าในบ้านมืดก็แปลกใจ ทันใด...ไฟสว่างพึ่บขึ้น เห็น ไกรสร ยุวดีเพื่อนสนิทและยังเป็นน้องสาวภูมินทร์ กัลยาณีซึ่งเป็นอา ดุสิตกับวารีพ่อแม่ของภูมินทร์ นพดลหนุ่มกำพร้าที่ไกรสรอุปการะไว้ และกุ๊กไก่หลานสาวของภูมินทร์กับยุวดี ยืนเกาะกลุ่มกันอยู่กลางห้องรับแขก ทุกคนร้องว่า "เซอร์ไพรส์..."

ภูมินทร์เดินตามเข้ามากล่าว "ขอแสดงความยินดีกับมหาบัณฑิตเกรดเฉลี่ย 3.8 ด้วยนะจ๊ะ"

"โธ่...มนตกใจแทบแย่เลยค่ะ"

"เห็นมั้ยคะว่ายุรู้ใจเพื่อนแค่ไหน ยุบอกแล้วว่าวิธีนี้ต้องได้ผล"

ทุกคนหัวเราะ...วารีเข้ามามอบของขวัญให้มนชญาและแสดงความยินดีที่เรียนจบปริญญาโททั้งที่อายุยังน้อย มนชญาขอบคุณทุกคน แล้วนึกได้ถามหาอินตราพี่สาวบุญธรรม กัลยาณีชักสีหน้าไม่พอใจ

"ทำไมต้องไปถามถึงมันด้วยมน วันนี้เราจัดงานกันเองเฉพาะคนในครอบครัว คนอื่นไม่เกี่ยวซะหน่อย"

"ณี...ทำไมพูดอย่างนั้น อินก็เป็นลูกสาวพี่คนหนึ่งนะ" ไกรสรเอ็ดทันที

"ลูกสงลูกสาวอะไรคะ มันก็เป็นแค่หลานของป้านวลที่พ่อแม่ตาย พี่ไกรถึงเอามาเลี้ยง แล้วมันก็ไม่เคยทำตัวให้ดีสมกับที่พี่ไกรเลี้ยงดูมันมาอย่างดีเลย แล้วณีก็ขอหมายหัวเอาไว้เลยนะคะว่านังอินมันต้องสร้างความเดือดร้อนให้

พี่ไกรไม่มีวันจบสิ้น..." มนชญากับไกรสรมองหน้ากันอย่างเหนื่อยใจ...

ขณะเดียวกัน อินตรากำลังเต้นรำสุดเหวี่ยงอยู่ท่ามกลางนักท่องราตรี ในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง แล้วเธอได้เห็นวายุแฟนหนุ่มหยอกล้อกับสาวสวยนักเที่ยว ก็โกรธเลือดขึ้นหน้า เข้าไปกระชากสาวคนนั้นมาตบคว่ำ วายุตกใจเข้าไปดึงอินตราออก ทันใดนั้นมีเสียงคนตะโกนขึ้นว่าตำรวจมา วายุปล่อยอินตราแล้ววิ่งหนีหายไปกับผู้คน อินตราโดนตำรวจรวบตัว เธอโวยวายจนถึงโรงพักว่าไม่รู้หรือว่าเธอเป็นลูกใคร ทำให้ตำรวจเอือมระอา

ในขณะที่วารีและกัลยาณีพูดคุยกันเรื่องให้มนชญาตบแต่งกับภูมินทร์เสียที แต่มนชญาขอเวลาให้เธอได้ทำงานช่วยพ่อที่บริษัทสักพักก่อน...มะปรางหน้าตื่นเข้ามารายงานเรื่องอินตรา ไกรสรตกใจจะไปประกันตัวลูก แต่กัลยาณีขอไว้ให้นพดลไปจัดการแทน

อินตราวางท่าใส่ตำรวจเมื่อได้ประกันตัว แต่พอเห็นว่าเป็นนพดลเดินเข้ามาไม่ใช่ไกรสร สีหน้าผิดหวังอย่างแรง โวยวายใส่นพดลทำไมพ่อไม่มา

"คุณท่านไม่ว่างต้องอยู่คอยต้อนรับแขกงานเลี้ยงฉลองของคุณมน"

"อ้อ...ฉันลืมไป ลูกกาฝากอย่างฉันมันจะไปสำคัญเท่ากับลูกที่แท้จริงได้ยังไง"

"เมื่อไหร่จะเลิกคิดอย่างนี้สักที ถึงคุณจะไม่ใช่ลูกสาวที่แท้จริงของคุณท่าน แต่คุณท่านก็รักคุณไม่น้อยไปกว่าคุณมนหรอก แล้วคุณก็ควรจะทำตัวให้มันดีกว่านี้ เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนที่คุณท่านเลี้ยงคุณมาอย่างดี"

"ทำไมฉันต้องเชื่อนายด้วยล่ะ" อินตราสูดปากที่เจ็บจากการตบตีกัน

นพดลห่วงใยจะพาไปหาหมอ อินตราหัวเราะเยาะ "นี่นายยังไม่เลิกชอบฉันอีกเหรอ..."

นพดลหน้าเจื่อน อินตราพูดอย่างเหยียดหยามว่าอย่ามาหวังสูง เพราะเธอไม่มีวันเอาลูกคนขับรถกระจอกๆมาเป็นแฟน ว่าแล้วก็เดินไปที่รถ นพดลถามว่าจะไปไหน ไกรสรสั่งให้

กลับบ้าน แต่อินตราไม่สนใจ ขึ้นรถขับผ่านนพดลไปหน้าตาเฉย

นพดลกลับมารายงานไกรสรว่าอินตราไม่ยอมกลับบ้าน กัลยาณีแขวะว่าคงกลัวความผิด ไกรสรเป็นห่วงถามไถ่ข้อหาที่โดนจับ นพดลตอบว่า ทะเลาะวิวาทเหมือนเคย แต่ครั้งนี้รุนแรงถึงขั้นจะเอาของมีคมทำร้ายคู่กรณี

"ต๊าย...เลวเหมือนพ่อเหมือนแม่ไม่มีผิด" กัลยาณีร้องแว้ดขึ้น

"ณี...พ่อแม่เขาตายไปแล้ว จะไปโทษเขาทำไม"

กัลยาณีไม่พอใจที่ไกรสรออกรับแทนอินตราเสมอ ทั้งที่อินตราสร้างความเดือดร้อนให้ตลอดเวลา และเชื่อว่ามีเลือดชั่วอยู่เต็มตัว เลี้ยงให้ดีอย่างไรก็ไม่มีวันดีได้ ไกรสรได้แต่ถอนใจ

อินตรามาที่คอนโดฯของวายุ ต่อว่าที่ทิ้งให้เธอถูกจับ คนเดียว วายุอ้างว่า เขารู้ว่าต้องมีคนไปประกันตัวเธอออกมา แล้วโอบกอดเอาใจ อินตรายังติดใจเรื่องผู้หญิงคนนั้น วายุแก้ตัวว่าแค่คุยกันยังไม่มีอะไรเกินเลย เขารักเธอคนเดียว อินตรางอน วายุเข้ามากอดไซ้ซอกคอขอชวนเธอค้างกับเขาคืนนี้ อินตราตอบว่าแน่นอนอยู่แล้วเพราะคืนนี้เธอไม่อยากกลับบ้าน วายุ รู้ว่าอินตราไม่อยากกลับไปเห็นงานเลี้ยงของน้องสาว

อินตรามองตัวเองในกระจกห้องน้ำ แววตาโกรธแค้นคิดถึงอดีตวัยเด็ก ที่กัลยาณีมักจะตอกย้ำว่าตนเป็นกาฝาก อย่ามาทำตัวเทียบเท่ามนชญาหลานเขา ความแค้นฝังใจถึงกับสาบาน

"อย่าให้อีกาฝากตัวนี้มีโอกาสบ้างก็แล้วกัน ฉันจะแย่งทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของของแกมาเป็นของฉันให้หมด รวมทั้งผู้ชายของแกด้วย นังมนชญา..."

ooooooo

วันรุ่งขึ้น ภูมินทร์รีบออกจากบ้านแต่เช้า เอากุหลาบขาวช่อโตไปให้มนชญาหน้าบ้านก่อนเธอจะไปทำงานวันแรก และอาสาไปส่งที่บริษัท มนชญาขอให้เขาพาไปที่ที่หนึ่งก่อน

หน้าเจดีย์บรรจุกระดูกมัทนา มนชญามาไหว้เพื่อบอกว่าเธอกำลังจะไปช่วยงานพ่อ ขอให้วิญญาณแม่เป็นกำลังใจให้เธอด้วย พอไหว้เสร็จ ภูมินทร์พยุงมนชญาลุกขึ้น พอหันมาพบแม่ชีจันยืนมองด้วยท่าทางสงบ ทั้งสองยกมือไหว้ มนชญาถามว่าแม่ชีเพิ่งมาอยู่หรือ เธอไม่เคยเห็นมาก่อนเลย แม่ชีจันพยักหน้า

"แม่ชีคะ วันนี้มนเริ่มงานเป็นวันแรก แม่ชีอวยพรเพื่อเป็นสิริมงคลให้มนหน่อยนะคะ"

"คำอวยพรของใครก็ไม่มีค่าเท่ากับการกระทำของตัวเราเองหรอกนะหนู ถ้าเราทำดีเราก็จะได้ดี แม้ว่าต่อไปหนูจะเจอเรื่องร้ายแรงแค่ไหน ก็จงยึดมั่นในการกระทำดีเข้าไว้ เพราะความดีจะเป็นเกราะปกป้องภัยอันตรายให้หนูได้"

มนชญาแปลกใจ รู้สึกเหมือนเป็นคำเตือน...พอเดินมา

ที่รถจึงถามภูมินทร์ว่าเหมือนแม่ชีจะเตือนว่าเธอกำลังจะเจอปัญหาใหญ่ ภูมินทร์ปลอบว่าอย่าคิดมากไปเลย เตรียมใจไปเริ่มงานใหม่จะดีกว่า มนชญาพยักหน้าแต่ในใจยังกังวลในสิ่งที่แม่ชีพูดอยู่...

ตอนกลางวัน อินตรากลับมาบ้าน นิดสาวใช้แจ้นมารายงานกัลยาณี พออินตราเดินเข้ามากัลยาณีก็แขวะทันที "ไง...เมื่อคืนทำผิดจนไม่กล้ามานอนบ้านเลยหรอ ไปนอนค้างกับสามีคนที่เท่าไหร่มาล่ะ"

"คนที่เท่าไหร่อินก็นับไม่ถูกเหมือนกันค่ะ อินไม่ใช่ คุณอานี่คะ ที่ไม่มีผู้ชายคนไหนหลงเข้ามาให้นับสักคน คุณอาถึงต้องนอนแห้งอยู่บนคานอย่างงี้ไงคะ"

"แก...นังอินตรา แกนี่มันทำตัวเลวสมกับเป็นลูกโจรจริงๆ" กัลยาณีโกรธจนตัวสั่น

อินตราเดินยิ้มสะใจมาเจอป้านวลดักรออยู่ ป้านวลตำหนิอินตราที่ก้าวร้าวกับกัลยาณี ถึงอย่างไรก็เป็นผู้มีพระคุณ อินตรายักไหล่ไม่อยากฟัง และย้อนป้านวลว่าอย่ามายุ่งเรื่องของเธอ นิดตามมาได้ยิน เตือนป้านวลว่าอินตราไม่เคยเห็นป้าเป็นป้าเลยสักนิด ยังจะรักอยู่ได้ ป้านวลตอบเศร้าๆว่า เธอมีอินตราเป็นหลานอยู่คนเดียว จะไม่รักได้อย่างไร

ooooooo

นพดลเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงช่วยงานบริษัทได้มาก เขาได้รับหน้าที่จากไกรสรเป็นคนสอนงานให้มนชญา นพดลรายงานไกรสรว่า มนชญาหัวดีเรียนรู้งานได้เร็ว ไม่นานคงช่วยผ่อนแรงไกรสรได้มาก

กลางวันวันนั้น ภูมินทร์นัดมนชญามาที่บริษัทของเขา กิ่งกาญจน์ เลขาฯของภูมินทร์ เป็นสาวเปรี้ยวที่หมายมั่นจะจับเจ้านายเพื่อเลื่อนฐานะ จึงไม่ค่อยชอบมนชญาเท่าไหร่ พอเห็นมนชญามาก็ไม่พอใจ แอบบ่น "ผู้หญิงอะไร้จืดชืดน่าเบื่อจะตาย คอยดูเถอะ สักวันฉันจะแย่งคุณภูมาจากหล่อนให้ได้ นังมนชญา"

ระหว่างทานอาหารด้วยกัน ภูมินทร์ชวนมนชญาไปพบเพื่อนของเขาที่เพิ่งมาจากอเมริกา แต่มนชญาไม่อยากไปเพราะเกรงภูมินทร์จะอึดอัด แทนที่จะได้คุยกับเพื่อนอย่างสนุก

"แล้วมนไม่กลัวว่าพี่จะเถลไถลไปกับสาวๆคนอื่นเหรอจ๊ะ" ภูมินทร์ถามเล่นๆ

"ไม่กลัวหรอกค่ะ มนไว้ใจพี่ภู"

"งั้นพี่ก็จะบอกว่า...มนไว้ใจถูกคนแล้วล่ะจ้ะ เพราะสำหรับพี่ ผู้หญิงในโลกนี้ไม่มีใครจะดีเท่ามนของพี่อีกแล้ว" ภูมินทร์กุมมือมนชญาอย่างรักใคร่

มนชญายิ้มปลื้ม...กลับมาบ้าน เจอไกรสรก็เข้ามาอ้อนเหมือนเด็กๆ ไกรสรไล่ให้ไปอาบน้ำแล้วลงมาทานข้าวด้วยกัน เขามองตามลูกสาวด้วยความรัก...

คืนนั้นอินตรามาเที่ยวผับตามปกติ เห็นวายุกำลังขายยาให้วัยรุ่นก็แซวว่ากิจการดูรุ่งเรือง วายุกลับบอกว่าตอนนี้ตำรวจกำลังกวาดล้าง ทำให้เขาต้องระวังตัวแจ ค้าขายลดน้อยลง จึงขอยืมเงินจากอินตราสองแสน อินตรารับปาก พอดีเหลือบไปเห็นภูมินทร์ออกมาจากผับข้างๆ อินตราดีใจรีบแยกตัวจากวายุ เดินตามภูมินทร์ไป...สบโอกาส อินตราแกล้งเดินชนภูมินทร์ แก้วไวน์ในมือหกราดเสื้อผ้า แล้วบ่นว่าแย่เลย เธอต้องไปงานเลี้ยงต่อ

"งั้นกลับบ้านไปเปลี่ยนชุดก่อนดีไหม เดี๋ยวผมไปส่ง"

"กว่าจะย้อนไปย้อนมาก็คงไม่ทันหรอกค่ะ ฉันว่าฉันเปิดห้องของโรงแรมนี้ แล้วเอาชุดไปให้โรงแรมซักรีดให้ดีกว่า คุณภูล่ะคะ จะต้องไปไหนต่อหรือเปล่าคะ"

ภูมินทร์ตอบว่าเขากำลังจะกลับบ้าน อินตราทำเป็นขาแพลงเดินไม่ไหว ทำให้ภูมินทร์ต้องประคองขึ้นไปส่ง อินตรา แอบยิ้ม...พอเข้ามาในห้อง อินตรารีบถอดชุดออกเหลือซับในทำท่ายั่วยวน ภูมินทร์ขมวดคิ้ว

"อย่าทำแบบนี้เลยอินตรา มันไม่ได้ผลหรอก" ภูมินทร์ จะเดินออกไป

"ทำไมคะคุณภู ทำไมคุณถึงได้รังเกียจฉันนักหนา ฉันรักคุณนะคะภู" อินตรารั้งแขนไว้

"แต่ผมรักมนชญา และผมก็ไม่มีวันเลิกรักเธอด้วย"

อินตราโผกอดดันภูมินทร์ไปชนผนัง ไม่ยอมให้เขาไป พอเห็นเขานิ่งก็รุกต่อ "อยู่กับฉันต่อเถอะนะคะคุณภู ฉันสัญญาค่ะ ว่าเรื่องระหว่างเรา ฉันจะไม่บอกให้มนรู้เลย"

ภูมินทร์มองอินตรานิ่งๆ แล้วจู่ๆก็อุ้มเธอเดินไปที่เตียง อินตรายิ้มกริ่ม กอดกระชับคอเขา รับรองว่าคืนนี้เธอจะทำให้ เขามีความสุข แต่แล้วภูมินทร์กลับโยนเธอลงบนเตียง อินตราร้องลั่น

"จำเอาไว้นะอินตราว่าผมรักมนชญาและผมจะไม่มีวันหักหลังเธอทั้งต่อหน้าและลับหลัง เพราะฉะนั้น ไม่ว่าคุณกำลังจะพยายามทำอะไร ผมขอให้คุณหยุด เพราะผมไม่มีวันรักผู้หญิงอย่างคุณ" พูดจบ ภูมินทร์เดินออกไปทันที ปล่อยให้อินตราร้องกรี๊ดๆดึงทึ้งผ้าห่มบนเตียงอย่างเจ็บใจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น