วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2554

เคหาสน์สีแดง ตอนที่ 4

ตอนที่ 4

หลังจากเห็นรูปเสาวรสในห้องนอนของรุจแล้ว แม่พินอัดอั้นอยู่นาน จนคืนนี้ทนไม่ได้เลยเล่าให้ แม่พร้อมกับแม่ละม่อมฟังว่าคุณหนูมีคู่รักแล้ว ตนเห็นรูปในห้องนอน คุณน้อยก็เห็นด้วย

"อย่างนี้ คุณชาลีของฉันก็มีหวัง" แม่พร้อมที่เอาใจช่วยชาลีอยู่ยิ้มย่อง

เวลาเดียวกัน ที่ท่าน้ำ ชาลีพายเรือมาส่งอารยา พอขึ้นท่าเธอมองไปที่ตึกทันที ชาลีถามว่ากลัวหรือ เธอบอกว่าไม่ เขาไม่อยู่ไปอยู่เวร ชาลีจึงนัดพรุ่งนี้จะมาใส่บาตรด้วย

รุ่งเช้า ชาลีมาตามนัด ทั้งสองใส่บาตรแล้วคุกเข่าคู่กันไหว้พระรูปสุดท้าย นายสุขขับรถพารุจกลับจากอยู่เวรที่ โรงพยาบาลพอดี ชายหนุ่มมองด้วยสายตาคมกริบ สีหน้าเครียดนิดๆ นายสุขหันมองหน้าอย่างขอความเห็น เมื่อรุจพยักหน้านายสุขจึงขับรถเข้าไป

อารยาเห็นเขากลับมาก็ดึงแขนชาลีพาไปหา แต่นายสุขออกรถแล้ว อารยาพึมพำเบาๆว่า ไม่ทัน...ไปแล้ว แต่ชาลีเชื่อว่าเพราะเขาเห็นเราเลยไป เขาไม่อยากทักตน

"ไม่ใช่ ชาลีอย่ามองเขาในแง่ไม่ดีนะจ๊ะ เขาไม่มีอะไรที่ไม่ชอบชาลีนี่" อารยาพูดอย่างมีจิตใจงามบริสุทธิ์ แต่ชาลีขมวดคิ้วมองตามรถไปไม่วางตา

เมื่อกลับถึงบ้านพนาเวส ชาลีเล่าให้พี่สาวกับแม่ฟังว่า

"เขาหยิ่ง ถือตัว ดูถูกคน มองเราเหมือนเราเป็นเศษดินเศษหินหล่นอยู่ตามถนน" คุณนายมองหน้ากันกับวัฒนาอย่างไม่สบายใจ วัฒนาทักท้วงว่าเขายังไม่ได้พูดกับชาลีเลยไปว่าเขาอย่างนั้นได้ไง "แค่เห็นสายตาก็รู้ สายตาเขาน่ะพี่หนูนา" ชาลีมั่นใจมากกับความรู้สึกของตัวเอง

ooooooo

ถึงเวลาอาหารเช้า รุจนั่งจ้องอารยาจนเธอตัวลีบ เขาพูดขึ้นก่อนว่า "ฉันกำลังรอฟังอยู่" แต่ไม่ทันที่อารยาจะพูดอะไร เสียงแม่พร้อมก็เข้ามาพร้อมชามข้าวต้มกุ้งบอกให้ทานเสีย ทานแล้วอาบน้ำนอนเลยเพราะคุณหนูไม่ได้นอนมาทั้งคืน

พอรุจรับคำ แม่พร้อมก็หันไปทางอารยาบอกว่าชาลีโทร.มาว่าจะชวนไปบางปู สีหน้ารุจเข้มขึ้นทันที แม่พร้อมยังบอกอีกว่า ชาลีให้ถามด้วยว่าคุณน้อยว่างไปกี่โมงให้โทรศัพท์ บอกเขาด้วย

รุจหงุดหงิดขึ้นมาทันทีทะลุกลางปล้องบอกแม่พร้อมว่าข้าวต้มเค็มไปหน่อยเลยต้องหยุดทานกลางคัน ขอโทษแล้วลุกไปเลย อารยาผิดหวังมากลุกตามไปจนถึงบันได เธอเรียกเขา พอเขาหยุดเธอก้าวเข้าไปจนใกล้ รุจหันมาเห็น เขาถอยห่างออกไปด้วยกิริยาที่บ่งบอกถึงความรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด

อารยาหน้าเสีย ใจสั่นหวิวพูดไม่ออก จนเขาบอกว่ารอฟังอยู่ เธอจึงรวบรวมความกล้าบอกว่า

"เรื่องเงินค่ะ เงินเดือนค่ะ เงินเดือนหนึ่งร้อยบาท คุณรุจไม่ต้องจ่ายเงินนั้นแล้ว ต่อไปนี้ดิฉันไม่ขอรับเงินเดือนนะคะ ขอบพระคุณที่อุปการะดิฉันตลอดมา" อารยายกมือไหว้นอบน้อม

"เพราะอะไรฉันอยากรู้เหตุผล"

"ค่ะ...เหตุผลคือ ครั้งหนึ่ง คุณรุจพูดว่าดิฉันมีเรื่องปิดบังซ่อนเร้น ดิฉันไม่ทราบว่าคุณรุจหมายถึงอะไร พยายามคิดหลายครั้ง ปรึกษากับพี่หนูนา คิดกันเองนะคะว่าคงเป็นเรื่อง...เอ้อ...ทรัพย์..."

อารยาหยุดนิดหนึ่งมองหน้ารุจเห็นจ้องเขม็ง เธอรวบรวมกำลังใจรีบพูดต่อ "ทรัพย์สมบัติ ดิฉันจึงอยากยืนยันกับคุณรุจว่าดิฉันไม่...ไม่...ไม่ได้อยากได้ทรัพย์สินของคุณรุจ"

เธอผ่อนลมหายใจเบาๆอย่างโล่งใจที่พูดได้จนจบ รุจถามห้วนๆว่า จบหรือยัง เธอบอกว่าจบแล้ว เท่านั้นเองเขาก็หันเดินขึ้นบันไดไปเฉยๆ อารยายืนเหวอกับท่าทีเย็นชาของเขา

ooooooo

ความสับสน ว้าวุ่น อัดอั้น ทำให้อารยาหนีไปที่สวน พรวนดินไปร้องไห้ไป แม่พร้อมมาเห็นกลับไปบอกแม่ละม่อมกับแม่พิน คาดว่าเธอเสียใจที่ถูกคุณหนูเอ็ด แต่เอ็ดเรื่องอะไรไม่รู้ แม่พินนึกได้บอกว่า

"ยายจ้วน ฉันรู้ว่าใครที่มาพูดให้คุณหนูเชื่อ จำได้ไหมที่นายสุขบอกว่ายายจ้วนมาคุยกับคุณหนูที่ประตูบ้าน นั่นแหละไม่ผิดหรอก...ยายจ้วน"

จากนั้น นายสุขไปตามหายายจ้วนเจอที่ตลาดกำลังวางเขื่องมาเก็บค่าเช่าจากพวกแม่ค้าอยู่ พอบอกว่าแม่ละม่อมบอกให้ไปพบ ยายจ้วงก็เชิดหน้าจนเหนียงสะบัด บอกว่าถ้าแม่ม่อมอยากเจอให้มาหาตนเอง ตนไม่ลดตัวไปหาหรอก

รุจทานกลางวันเสร็จ มณียกจานผลไม้เข้ามาวางกระซิบบอกว่า คุณน้อยเป็นคนปอกทิ้งไว้ ตัวไปไหนไม่รู้ เขาทำเฉย แต่ครู่หนึ่งก็ลุกไปที่สวนเจออารยาถือเสียมเล็กๆพรวนดินอยู่ อย่างเศร้าสร้อย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น