วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2554

รักไม่มีวันตาย ตอนที่ 7

ตอนที่ 7

สิงห์นำข้อมูลจากห้องปลายฉัตรมาเชื่อมโยงกับคดีผีดูดเลือด ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ปลายฉัตรมาเกี่ยวอะไรด้วย แต่ยังคิดไม่ออก อโนก็โทร.เข้ามาบอกราคาเครื่องเพชรที่สิงห์ให้ไปสืบว่าประมาณสองแสนสาม ครั้นสิงห์ซักว่าใครเป็นคนซื้อ อโนกลับวางสายไปเสียแล้ว เพราะเธอกำลังจดจ่อกับเรื่องส่วนตัวนั่นเอง

อโนรับสายราม เขานัดเธอให้ออกไปพบที่หน้าออฟฟิศ แล้วส่งกระเป๋าแบรนด์ดังให้ แทนคำขอโทษที่คืนก่อนเขาไม่ได้ออกไปพบสิงห์ อโนตาวาวรับกระเป๋ามากอดไว้แน่น รามยิ้มแล้วขอให้อโนช่วยเรื่องปลายฉัตร อโนจึงมาหาปลายฉัตรที่บ้าน แต่ปลายฉัตรไม่อยู่ เมื่อลุงฉิ่งกับมหาถามเรื่องธุระ อโนตอบเท่าที่บอกได้ พร้อมกันนี้ก็กำชับทั้งคู่ว่าเป็นความลับ

"คือมีคนสนใจจ้างงานพี่ปลาย แบบว่าอยากซื้อตัวมาจากคุณไตรภูมิน่ะ มาช่วยเขาทำงานแบบเดียวกันเลย แต่ให้เงินมากกว่าเท่าตัวหนึ่งแน่ะ"

เมื่อลุงฉิ่งถามถึงคนจ้าง อโนย้ำว่าเป็นความลับ ถ้าปลายฉัตรสนใจ ให้รีบติดต่อเธอด่วน

"เฮ่อ มันจะลับอะไรกันนักกันหนาวะเนี่ย ลับจน จะจำไม่ไหวแล้วเนี่ย จะมีอะไรลับอีกไหม" ลุงฉิ่งถอนใจ

อโนออกมาบอกกับรามที่จอดรถหลบมุมอยู่หน้าบ้านปลายฉัตรว่า ถ้าปลายฉัตรกลับมา ต้องรีบติดต่อขอทำงานกับรามแน่ เพราะเธอต้องการเงินจ่ายค่าผ่าตัดดวงตาให้แม่

"ถ้าทำงานให้ผมได้ ผมจ่ายไม่อั้นอยู่แล้ว"

รามยิ้มร้ายแล้วขอไปส่งอโนที่บ้าน อโนหน้าบาน ไม่ทันเห็นรามแอบพยักหน้าส่งสัญญาณให้พาลีกับคีรีที่ซุ่มอยู่ไม่ไกล

ooooooo

เฉิดจะเดินเข้าห้องนอน เธอได้ยินเสียงรถรามดังกระหึ่มก็แปลกใจ จึงถามลุงฉิ่ง

"รถเพื่อนอโน น้องไอ้สิงห์มันมั้ง มันมาคุยธุระเรื่องงานไอ้ปลายมันนิดหน่อย ไม่มีอะไรมากหรอก แม่เฉิดไปนอนเหอะ เอาไว้ไอ้ปลายมันกลับมาแล้วค่อยว่ากัน"

เฉิดรับคำแล้วเดินไปนั่งบนเตียงเตรียมสวดมนต์ เธอชะงักเมื่อได้ยินเสียงหมาที่หน้าบ้าน มันส่งเสียงร้องครวญครางด้วยความหวาดกลัว เฉิดรู้สึกมีคลื่นสัญญาณบางอย่างผิดปกติ จึงลุกมาที่หน้าต่าง พาลีกับคีรีที่เล่นงานหมาอยู่หันไปเห็นก็หลบเข้าพุ่มไม้ เฉิดยังมองเหม่อมือคลำหาหน้าต่างแล้วก็ค่อยๆปิดลง

"ที่แท้ก็ตาบอด"

คีรีส่ายหน้าแล้วก็ออกจากพุ่มไม้ พาลีตามออกมา ทั้งสองคนเดินเฝ้าระวังอยู่หน้าบ้านปลายฉัตรอย่างใกล้ชิด เมฆทะมึนลอยมาปกคลุมบ้าน เหมือนบ้านทั้งหลังกำลังตกอยู่ในอันตราย

เวลาเดียวกันนั้นที่โอซาก้า ไตรภูมิโทร.สั่งอาหารเย็นมาให้ปลายฉัตรทานบนห้อง โรงแรมมอบของขวัญสุดพิเศษให้กับทั้งคู่ด้วยบัตรเที่ยวยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ปลายฉัตรตาโตตื่นเต้นชวนไตรภูมิไปด้วยกัน กลับถูกเขาเบรกจนจ๋อยรับประทาน

"ฉันโตแล้ว...ไม่ใช่เด็กๆ รีบกิน รีบไปนอน สำหรับวันพรุ่งนี้ฉันจะให้เธอพักผ่อนให้เต็มที่ เตรียมตัวสำหรับการประมูลในวันมะรืน อย่าลืมว่าเธอมาทำงาน...ไม่ได้มาเที่ยว"

"ฉันรู้หรอกน่า"

ไตรภูมิแอบสงสารนิดๆ แต่ก็ตัดใจหันหลังเดินเข้าห้องไป ปลายฉัตรมองดูบัตร...แล้วก็นึกขึ้นได้ "พรุ่งนี้จะเป็นวันพักผ่อนของฉันชิมิ...จัดไป" ปลายฉัตรยิ้มเจ้าเล่ห์

เช้าวันใหม่ในโอซาก้าท้องฟ้าสดใส ปลายฉัตรแอบเข้ามาในห้อง ในขณะที่ไตรภูมิกำลังอาบน้ำอยู่ เธอย่องไปที่ซองของขวัญแล้วหยิบบัตรมา 1 ใบ ก่อนเปิดประตูอย่างแผ่วเบา ค่อยๆแทรกตัวออกไป พักใหญ่ไตรภูมิก็เดินออกมาเรียกหา แต่ไม่พบ เมื่อหันไปที่ซองของขวัญจึงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

"เฮ่อ...เด็กหนอเด็ก..." ไตรภูมิอมยิ้มนิดๆแล้วตัดสินใจตามปลายฉัตรไป

ooooooo

ลุงฉิ่งออกมานั่งปรับทุกข์กับมหา เรื่องปลายฉัตรไม่ยอมติดต่อกลับมา มหาฟังแล้วก็พลอยกลุ้มไปด้วย แกหลุดปากมาว่า บางทีปลายฉัตรอาจจะเป็นศพไปแล้วก็ได้

"เอ้ย ไม่จริง ไอ้ปลายมันดวงแข็งจะตาย มหาเป็นคนดูดวงให้มันเองไม่ใช่เหรอ มันไม่ตายง่ายๆ แต่จะว่าไป...ข้าก็เริ่มไม่ไว้ใจเจ้านายมันเหมือนกัน"

ลุงฉิ่งชักหวั่น แกเล่าให้มหาฟังว่า ปลายฉัตรเคยบอกเรื่องไตรภูมิมือเย็นยังกะคนตาย แถมยังทำท่าเย็นชาราวกับผีดิบแต่แกไม่เชื่อ เฉิดที่แอบฟังอยู่ในบ้านถึงกับหน้าซีดเผือด เธอแอบโทรศัพท์เรียกแท็กซี่ให้มารับ
ด้านปลายฉัตร เธอเข้ามาในยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ด้วยความตื่นเต้น เธอเล่นเครื่องเล่นตามจุดต่างๆอย่างสนุกสนาน ไม่ทันเห็นไตรภูมิที่ตามมา

"ขโมยของในประเทศนี้...โทษหนักนะ"

ปลายฉัตรชะงัก "คุณบอกฉันเองว่าวันนี้เป็นวันพักผ่อนของฉัน แล้วฉันก็ไม่ได้ขโมยบัตรนะ โรงแรมเขาให้คุณมาสองใบ ใบหนึ่งของคุณ ใบหนึ่งก็ต้องเป็นของฉันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย"

"รู้กฎหมายกับเขาด้วยเหรอ"

"ก็...นิดหน่อย...อย่าเพิ่งให้ฉันกลับเลยนะ...นะ...นะ...ขอฉันเล่นต่อก่อนนะ"

ปลายฉัตรออดอ้อนด้วยรอยยิ้มสดใส พลางคว้าข้อมือ อันเย็นเฉียบของไตรภูมิลากไปเล่นเครื่องเล่นด้วยกัน

ooooooo

รถแท็กซี่มาจอดที่หน้าบ้าน ลุงฉิ่งกับมหาหันไปดูด้วยความแปลกใจ เมื่อเห็นเฉิดเดินออกมา ลุงฉิ่งถามน้องสาวว่าจะไปไหน เฉิดทำท่าจะเดินออกไปดื้อๆลุงฉิ่งกับมหาเข้าขวางไว้ สุดท้ายเฉิดก็ยอมให้ลุงฉิ่งกับมหาไปด้วย โดยไม่รู้ว่ามีรถของคีรีตามไปห่างๆ

เฉิด ลุงฉิ่ง และมหาบุกมาหาสิงห์ถึงที่ทำงาน เพราะร้อนใจเรื่องปลายฉัตร เฉิดบอกกับสิงห์ว่า เธออยากรู้เรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับคดีที่สิงห์กำลังทำ สิงห์อ้างว่ามันเป็นความลับ

"มันไม่ลับแล้ว ข้ารู้หมดแล้วว่าเอ็งกำลังตามจับผีดูดเลือด" ลุงฉิ่งโพล่งออกมา

สิงห์ชะงักหันไปมองจ่าดอน จ่าดอนหน้าเสีย สิงห์ถอนใจหันมาบอกกับเฉิดว่า ไม่รู้จะเล่ายังไง เพราะหลักฐานยังสะเปะสะปะไปหมด

"ปลายเล่าทั้งเรื่องงาน เรื่องคนที่ชื่อไตรภูมิให้ป้าฟัง บางทีป้าอาจจะพอช่วยได้ แล้วตอนนี้หลักฐานของสิงห์มีอะไรบ้าง"

สิงห์ครุ่นคิดแล้วตัดสินใจเลื่อนกระดานที่ติดหลักฐานทุกอย่างไว้ออกมา พลางอธิบายข้อมูลให้พวกลุงฉิ่งฟัง

"คนร้ายก็ไม่ได้ทิ้งหลักฐานไว้ที่ศพ นอกจากรอยเขี้ยว แต่ถ้าเราพิสูจน์ได้ว่าหนึ่งในห้าคนนี้...หรือทั้งหมดเป็น...คนที่มีเขี้ยวและดูดเลือด...เราก็จะเอาผิดกับพวกนี้ได้"

"สิงห์เคยได้ยินตำนานเกี่ยวกับสมบัติในถ้ำมังกรอมตะหรือเปล่า คุณเปรม พ่อของปลายเคยเล่าให้ป้าฟังว่าในสมัยราชวงศ์หมิงมีโจรที่เคยเข้าไปขโมยของจากในวังแล้วนำมาเก็บไว้ที่ถ้ำมังกรอมตะ แต่ยังไม่ทันแบ่งสมบัติ พวกโจรก็ฆ่ากันตายซะก่อน โจรคนสุดท้ายเลยสาปแช่งไว้ก่อนตาย...ใครก็ตามที่เข้ามาขุดสมบัติไป จะต้องมีชีวิตอยู่อย่างทรมาน ไร้ชีวิต ไปเกิดใหม่ก็ไม่ได้ ตายก็ไม่ได้ ต้องอยู่เป็นอมตะ"

สิงห์สนใจ สั่งให้จ่าดอนจดข้อมูลไว้แล้วหันไปหยิบเอกสารที่ได้มาจากห้องนอนปลายฉัตรตอนเข้าไปค้นออกมา

"ข้อมูลของปลายบอกว่า...มีคนเข้าไปเอาสมบัติออกมาได้ และขายไปทั่วโลก"

"แสดงว่า...มีคนเข้าไปในถ้ำ แล้วพวกนั้นจะโดนคำสาปหรือเปล่า" ลุงฉิ่งเปรย

"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน...มันเป็นแค่ตำนาน แต่ถึงจะมีคนที่โดนคำสาปเป็นอมตะจริงๆ ฉันก็ไม่รู้ว่ามันจะเกี่ยวกับผู้ชายที่ชื่อไตรภูมิได้ยังไง ทำไมเขาต้องตามหาสมบัติจากถ้ำมังกรอมตะ แล้วทำไมเขาต้องมายุ่งกับปลาย...ลูกสาวของฉัน" เฉิดน้ำตาคลอ

สิงห์เห็นเฉิดเศร้าก็ยิ่งเครียด เขามองที่กระดานข้อมูลและทบทวนอีกครั้ง "ไตรภูมิ สมบัติ คำสาป ความเป็นอมตะ เลือด...มันเกี่ยวกันยังไง"

ลุงฉิ่ง มหา และจ่าดอนมองหน้ากันแล้วออกความเห็นพ้องกันว่า ถ้าไตรภูมิเป็นคนเข้าไปเอาสมบัติ ก็ต้องโดนคำสาป และถ้าโดนคำสาปให้เป็นอมตะก็ต้องกินเลือดเป็นอาหาร

"ถ้าอย่างนั้น...มันก็เป็นไปได้...ที่ไตรภูมิจะเป็นฆาตกร"

คำพูดของสิงห์ทำให้เฉิดตกใจ ขอร้องสิงห์ให้ช่วยปลายฉัตรด้วย

"ป้าไม่ต้องห่วง...ผมจะดูแลปลายอย่างดีที่สุด" สิงห์รับปาก อย่างหนักแน่น ด้วยแววตาที่มุ่งมั่น

เมื่อยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องปลายฉัตร สิงห์กับลุงฉิ่งจึงมาพบชาญเพื่อสอบถามเรื่องงานประมูลที่ภูเก็ต ชาญยืนยันว่ายังไม่มีการจัดงานประมูลของเก่าในประเทศไทย แต่จะมีการประมูลสมบัติราชวงศ์หมิงในวันพรุ่งนี้...ที่เมืองโอซาก้าประเทศญี่ปุ่น

ลุงฉิ่งตะลึง สิงห์กัดกรามแน่น ทั้งเสียใจ น้อยใจ และโกรธนิดๆ ที่โดนคนไว้ใจปิดบัง

ooooooo

ปลายฉัตรรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในโลกแห่งความฝัน เพราะได้ยืนเคียงข้างไตรภูมิชมขบวนไฟพาเหรดตระการตาอย่างมีความสุข ไตรภูมิก็แอบถ่ายรูปปลายฉัตรในมุมต่างๆเก็บไว้

หลังจากชมขบวนพาเหรดจบ ไตรภูมิพาปลายฉัตรมาทานอาหารเย็นในห้องอาหารสุดหรู แล้วกลับห้องพัก ทันทีที่ประตูห้องไตรภูมิปิดลง ปลายฉัตรที่เล่นสนุกจนหมดแรงก็เอนตัวลงบนโซฟา หลับไป

ในขณะที่ปลายฉัตรนอนหลับอย่างมีความสุข สิงห์และทุกคนที่บ้านกำลังร้อนใจอย่างหนัก สิงห์ตัดสินใจไปที่บ้านไตรภูมิโดยมีลุงฉิ่งเป็นคนบอกทาง และมีสมุนของรามตามไปห่างๆ

กรเช็กภาพจากมุมต่างๆอยู่ในห้อง เห็นลุงฉิ่งกับสิงห์ยืนอยู่หน้าบ้าน ก็กดอินเตอร์คอมพ์แจ้งไปยังกัณฑ์ แล้วสิงห์กับฉิ่งก็สะดุ้งที่จู่ๆกัณฑ์โผล่มา เมื่อตั้งสติได้สิงห์ถามหาปลายฉัตรทันที

"กลับไปได้แล้ว ที่นี่ไม่มีคำตอบอะไรทั้งนั้น" กัณฑ์ ตัดบทแล้วจะเดินเข้าบ้าน

"ไม่มี หรือไม่อยากตอบ หลานข้าหายไปทั้งคนจะให้กลับไปได้ยังไง แล้วตอนนี้ข้าก็รู้แล้วว่าไอ้ปลายมันไม่ได้ไปภูเก็ต แต่มันไปญี่ปุ่น" ลุงฉิ่งโวย

กัณฑ์หยุดเดิน สิงห์ได้โอกาสขู่ว่าจะไปแจ้งความข้อหาล่อลวง กักขัง หน่วงเหนี่ยว ทำให้สูญเสียอิสรภาพ ยามนั้นอินทร์เดินเข้ามาอย่างเงียบๆ พูดขึ้น

"ผมว่าเราค่อยๆพูดกันดีกว่านะครับ เรื่องเล็กจะได้ไม่ กลายเป็นเรื่องใหญ่ คุณปลายฉัตรไม่ได้หายไปไหน...ยังอยู่กับเจ้านายผม และปลอดภัยดี"

"ตอนนี้ปลายอยู่ญี่ปุ่นใช่หรือเปล่า" สิงห์รุกถาม

"ผมคงบอกอะไรไม่ได้ และคุณปลายฉัตรคงบอกพวกคุณแล้วว่างานที่เรากำลังทำอยู่เป็นความลับ" สิงห์อ้าปากจะแย้งแต่อินทร์ไม่เปิดโอกาส "ส่วนเรื่องแจ้งความ...คงทำตอนนี้ไม่ได้ เพราะคุณปลายฉัตรเซ็นสัญญาทำงานกับเราเป็นเวลา 4 วัน วันนี้ยังไม่ครบกำหนด ผมคิดว่าตำรวจคงไม่รับแจ้งความ ทางที่ดี คุณควรจะกลับไปก่อน และรอถึงวันพรุ่งนี้ ถ้าคุณปลายฉัตรกลับมา คุณก็ถามความจริงกับเธอเอง"

"เข้าใจแล้วก็กลับไปได้" กัณฑ์ท่าทางขึงขัง

สิงห์นิ่งคิดแล้วก็พยักหน้ากับลุงฉิ่งทำนองว่า...กลับเหอะไม่ไกลกันนักพาลีกับคีรีที่ซุ่มดูอยู่รีบโทร.หาราม

ooooooo

ขณะไตรภูมิจะดื่มเลือด ได้ยินเสียงกรนของปลายฉัตรจึงชะงัก เขาเก็บขวดเลือดใส่กล่องแล้วเดินออกไปดู เมื่อเห็นเธอหลับสนิท จึงอุ้มไปวางในห้องนอน ก่อนตัดใจเดินออกไปจากห้องด้วยความสับสน

เขากลับมาเปิดตู้หยิบกระเป๋าใส่เลือดออกมาดื่มรวดเดียวหมด เผลอบีบหลอดเลือดไว้ในมือด้วยความเครียดจนหลอดแตกบาดมือ เลือดตัวเองไหลออกมา แต่ไม่นานเลือดก็ค่อยๆจางหายไป พร้อมกับรอยแผลที่ได้รับการสมานกลับคืนสู่สภาพเดิม

รามที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากหน้าบ้านไตรภูมิ เขารู้สึกเหมือนได้กลิ่นเลือดของเจ้าของบ้าน แต่ไม่ติดใจอะไรเพราะมีภารกิจใหญ่รออยู่ เขาส่งยิ้มร้ายสั่งลูกน้องทั้งสาม

"แยกย้ายกันไปหาที่ซ่อนสมบัติให้เจอ"

ระหว่างนั้น กัณฑ์กำลังปรึกษากับอินทร์เรื่องการมาของสิงห์และพรรคพวก

"พรุ่งนี้นายท่านจะมีการประมูลใหญ่ ไม่อยากให้มีเรื่องรำคาญใจ เอาไว้นายท่านกลับมาเราค่อยรายงานให้ทราบ คืนนี้คิดว่าคงจะไม่มีอะไรแล้ว" อินทร์แนะนำ

กัณฑ์พยักหน้ารับทราบ นาทีนั้นอินทร์รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวบางอย่างที่ผิดปกติ เขาสังหรณ์ใจขึ้นมา ขณะที่กรก็เห็นการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วผ่านหน้ากล้องไป จึงกดอินเตอร์คอมพ์บอกกัณฑ์ แต่ไม่ทัน เพราะคีรีพุ่งเข้าใส่กัณฑ์ เสียแล้ว กรออกไปช่วย แต่ถูกพาลีขัดขวาง

อินทร์เมื่อรู้ว่ารามพาลูกน้องบุกเข้ามาก็รีบไปที่ห้องเก็บสมบัติ กดปุ่มซ่อนสมบัติภายในห้องทั้งหมด จากนั้นกดอีกปุ่มหนึ่ง เพื่อเลื่อนชั้นวางหนังสือเข้าไปในห้องเพื่ออำพราง

"สมบัติอยู่ที่ไหน" มายากระชากเสียงถาม

แต่อินทร์ไม่ตอบคำ มายาจึงพุ่งเข้าใส่ อินทร์หลบวูบแล้วสวนกลับจนมายาตั้งตัวไม่ติด ต้องถอยร่นมาที่ระเบียงในจังหวะที่เธอเพลี่ยงพล้ำ รามก็เข้ามาช่วยไว้ เขาซัดอินทร์จนลอยทะลุกำแพงออกไป กรและกัณฑ์ผละจากคู่ต่อสู้ พุ่งเข้าไปรับร่างอินทร์ด้วยความรวดเร็ว แต่ด้วยแรงกระแทกมหาศาลจากฝ่ามือของราม อินทร์ถึงกับกระอักเลือด

รามกับสมุนกระโดดลงพื้น พลางถามหาสมบัติจากถ้ำมังกรอมตะ แต่พวกอินทร์ไม่มีใครยอมบอก รามจึงให้พาลีจัดการ พาลีหยิบกระบอกน้ำมันออกมาจากกระเป๋า เทลงบนร่างของอินทร์ กร และกัณฑ์อย่างรวดเร็ว มายาจุดไฟแช็กแล้วดีดออกจากมือ เปลวไฟพุ่งตรงไปที่กร กัณฑ์ และอินทร์ กัณฑ์ใช้พลังทั้งหมดที่มีผลักกรกับอินทร์กระเด็นลอยออกไป เปลวไฟพุ่งตรงมาที่กัณฑ์ เปลวเพลิงลุกพึ่บโชนแสง

"อ๊าก" กัณฑ์ร้องลั่น

กรวิ่งมาพร้อมกับถังดับเพลิง คีรีเข้ามาสกัด อินทร์เข้ามาแทรกรับถังดับเพลิงไปฉีดดับไฟที่ร่างของกัณฑ์ พาลีพุ่งเข้ามาหาอินทร์ กรเหลือบไปเห็น เขาฟาดฝ่ามือเข้าที่คีรีก่อนจะพุ่งไปสกัดพาลี มายาจะเข้าไปช่วย รามยกมือห้ามไว้

"วันนี้พอแค่นี้ ไม่ว่าเจ้านายแกไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ฝากบอกมันด้วยว่า...ถ้าไม่อยากตาย...เลิกคิดที่จะถอนคำสาปเดี๋ยวนี้ ฉันไม่มีวันยอมให้พวกแกมาทำลายความเป็นอมตะของฉัน ถ้ามันยังไม่เลิกคิดที่จะสะสมสมบัติ ฉันจะกำจัดมันให้หมดทั้งสมบัติและพวกแก ถ้าอยู่อย่างสงบไม่ได้ ก็ตายกันซะให้หมด" รามประกาศก้อง

กรกับอินทร์ก้มหน้ารับฟัง ในขณะที่กัณฑ์อาการน่าเป็นห่วง แต่การกระทำของรามนี้ เมื่อจิตต์รู้เข้าโกรธมากพลางบอกความจริงว่า ไตรภูมิหายไปไหน รามแค้นสั่งมายาเตรียมเครื่องบินเหินสู่โอซาก้า

ooooooo

เช้าวันใหม่ที่โอซาก้า ไตรภูมิหยิบภาพหยกแกะสลักขึ้นมาดู แล้วเดินมาเรียกปลายฉัตรที่ยังไม่ตื่นให้ลุกขึ้นเตรียมตัว หญิงสาวสะดุ้ง มองไปรอบๆห้องด้วยความงุนงง

"ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ไง แล้วคุณเข้ามาห้องฉันได้ไง"

"ไม่ต้องถามอะไรมาก รีบไปอาบน้ำ ฉันมีคนมาช่วยเธอแต่งตัว" ไตรภูมิสั่ง แล้วสาวญี่ปุ่นสามคนก็เดินเข้ามาพร้อมอุปกรณ์แต่งหน้าทำผม

"นี่มันอะไรเนี่ยคุณ" ปลายฉัตรตกใจ

"ฉันรู้ว่าเธอแต่งตัวไม่เป็น ฉันไม่อยากต้องเสียเวลา พวกนี้เป็นมืออาชีพ เขาจะช่วยเธอเอง" ไตรภูมิตอบแล้วเดินออกไป สามสาวเข้ามามะรุมมะตุ้มช่วยแต่งตัวให้ปลายฉัตรที่ยังงุนงงตกใจไม่หาย...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น