วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2554

รักไม่มีวันตาย ตอนที่ 9

ตอนที่ 9

เย็นมากแล้วปลายฉัตรยังไม่กลับมา สิงห์ลุกเดินวนไปวนมาจนลุงฉิ่งเวียนหัว ต้องสั่งให้นั่ง ขณะสิงห์จะหย่อนก้นนั่ง ก็มีเสียงตะโกนจากหน้าบ้าน

"ลุงฉิ่ง...ลุงฉิ่ง...พี่ปลายกลับมายัง"

สิงห์หันขวับไป จำได้ว่าเป็นเสียงอโนจึงรีบออกไปดู อโนเมื่อเห็นสิงห์อยู่ด้วย เธอทำท่าจะถอย แต่ไม่ทันเพราะสิงห์เข้ามาดึงไว้ แล้วลากตัวเข้าไปสอบถาม ว่ามาหาปลายฉัตรทำไม อโนมองหน้าลุงฉิ่งกับมหา หวังจะได้ตัวช่วยแต่ทั้งสองหลบวูบ อโนจำต้องโกหกว่าเป็นเรื่องงาน

"แต่ถ้าพี่ปลายไม่อยู่ ฉันกลับเลยนะจ้ะ ลุงฉิ่ง ป้าเฉิด ลุงมหา หวัดดีจ้ะ"

อโนยกมือไหว้เตรียมจะเผ่น แต่ช้าไปกว่ามือสิงห์ที่คว้าคอเสื้อไว้ เขาดักคอน้องหวั่นว่าจะโกหก

"เปล่า ฉันจะโกหกพี่ทำไม ฉันจะขอข้อมูลพี่ปลายไปทำงานจริงๆ ถ้าฉันไม่มาเรื่องนี้ พี่คิดว่าฉันจะมาเรื่องอะไร แต่ถ้าพี่ไม่เชื่อใจฉัน...พอพี่ปลายกลับมา ตอนฉันนั่งคุยงานพี่ปลาย พี่ก็นั่งฟังด้วยแล้วกัน จะได้รู้ว่าฉันไม่ได้โกหก"

อโนพูดเสียงขึงขัง

ooooooo

ปลายฉัตรกลับมาที่ห้องพัก มองโทรศัพท์มือถืออย่างคนคิดหนัก ใจหนึ่งก็อยากโทร.กลับบ้าน แต่อีกใจก็กลัวโดนดุ ขณะฟุบลงกับโต๊ะ เธอเห็นแผ่นพับของออนเซนวางอยู่ จึงหยิบมาเปิดดู พลางคิดว่าถ้าได้นอนแช่น้ำอุ่นอาจจะหายเครียด

แล้วสาวเจ้าเดินมาที่หน้าออนเซน เพื่อขอใช้บริการ แต่สื่อสารกับพนักงานไม่รู้เรื่อง ไตรภูมิมาเห็นเข้าก็แอบจัดการให้ จนได้นอนแช่น้ำอุ่นสมใจ โอกาสนี้เธอได้ปรับความเข้าใจกับไตรภูมิ โดยชายหนุ่มรับปากว่าจะช่วยอธิบายให้พวกที่บ้านเข้าใจ

"แล้วถ้าพวกเขาไม่ฟังคุณล่ะ"

"ฉันต้องทำให้เขาฟังฉันให้ได้ มันเป็นหน้าที่ของฉัน สำหรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น...ฉันขอโทษ ทางโรงแรมจะจัดอาหารเย็นให้ที่ห้องพักของเธอ คืนนี้พักผ่อนให้เต็มที่ พรุ่งนี้ฉันจะพาเธอกลับบ้านอย่างปลอดภัย"

ไตรภูมิพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นและแฝงไปด้วยความจริงใจ ทำให้ปลายฉัตรรู้สึกดีขึ้นมาทันที

"คนญี่ปุ่นเวลาเขาแช่ตัวในออนเซน เขาจะไม่ใส่อะไรเลย ถ้าเธออยากแช่ตัวแบบคนญี่ปุ่นแท้ๆก็ควรจะถอดผ้าเช็ดตัวออก" ปลายฉัตรอึ้งก้มดูผ้าเช็ดตัวที่ใส่อยู่

"แต่ยังไม่ต้องถอดตอนนี้...รอให้ฉันออกไปก่อน ฉันไม่อยากเสียสายตา" ไตรภูมิพูดพร้อมยิ้มกวนๆ

ปลายฉัตรหันขวับมา แต่ไม่เห็นไตรภูมิแล้ว เธอหันกลับมามองตัวเอง แล้วค่อยๆจุ่มตัวลงอีกครั้ง ก่อนจะดึงผ้าเช็ดตัวออกมาหย่อนเอาไว้ข้างๆบ่อ แล้วแช่น้ำร้อนอย่างมีความสุขพลางนึกถึงคำพูดของไตรภูมิ

"คุณไตรภูมิ...ฉันจะลองเชื่อคุณอีกสักครั้ง" ปลายฉัตรบอกกับตัวเอง

ooooooo

เมื่อรามกลับมาถึงบ้าน เขาโดนจิตต์เล่นงาน เพราะรู้แล้วว่าต้องพลาดกลับมาแน่ รามขอโอกาสแก้ตัว แต่จิตต์ไม่อยากฟัง พลางบอกเรื่องตำรวจหน่วยงานพิเศษกำลังสืบเรื่องฆาตกรรมฝีมือของพวกรามอยู่

"ฉันรักษาความเป็นอมตะมาได้หลายร้อยปี และฉันจะไม่ยอมเสียมันไป ไม่ว่าจะเป็นเพราะไอ้ไตรภูมิ หรือว่าไอ้ตำรวจหน้าไหนทั้งนั้น ฉันปล่อยให้พวกแกเล่นไร้สาระกันมากเกินไปแล้ว นับจากนี้ไป...ฉันจะเป็นคนสั่งการทุกอย่างเองบอกลูกน้องแกด้วย ห้ามทำอะไร ถ้าฉันไม่ได้สั่ง และถ้ามีข้อมูลอะไรเพิ่มเติม ต้องรีบรายงานฉันทันที"

จิตต์จ้องหน้าราม ก่อนจะหันไปหยิบแฟ้มเอกสารที่วางอยู่ข้างๆ โยนลงตรงหน้า

"นี่...เป็นประวัติและรูปถ่ายของตำรวจสองคนที่ดูแลคดี พวกแกดูหน้ามันไว้ แล้วก็ระวังตัวกันไว้ด้วย" จิตต์พูดจบก็เดินออกไป

รามทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาด้วยความหงุดหงิด แล้วหยิบเอกสารมาเปิดดู เห็นรูปสิงห์กับจ่าดอนติดอยู่ที่กระดาษพร้อมกับประวัติ รามจำได้ว่าหนึ่งในนั้นคือพี่ชายของอโน

ooooooo

จ่าดอนเข้ามารายงานสิงห์ เรื่องเห็นพาลีกับคีรีซุ่มอยู่หน้าบ้านไตรภูมิ แต่ไม่รู้ว่าเป็นพวกเดียวกันหรือว่าเป็นศัตรูกันแน่

"เป็นศัตรู" สิงห์โพล่งออกมา แล้วเดินออกไปหน้าตาเฉย

สิงห์มาที่บ้านไตรภูมิ อินทร์ออกมาพบและบอกว่า ไตรภูมิยังไม่กลับเพราะมีเหตุขัดข้องระหว่างการเดินทาง ปลาย ฉัตรอยู่กับไตรภูมิด้วย เธอปลอดภัยดี ทั้งสองคนจะมาถึงกรุงเทพฯพรุ่งนี้

"ผมไม่สนว่าเจ้านายคุณเป็นใคร มีศัตรูที่ไหนบ้าง แต่ถ้าปลายเป็นอะไรไป ผมไม่ยอมให้มันจบง่ายๆ" สิงห์มองอินทร์ด้วยแววตาหนักแน่น ก่อนจะหันหลังกลับไปที่รถ

สิงห์กลับมาบอกคนที่บ้านปลายฉัตรว่า ปลายฉัตรจะกลับมาถึงพรุ่งนี้เช้า เพราะมีเหตุขัดข้องระหว่างการเดินทาง ลุงฉิ่งโวยลั่นเพราะเป็นห่วงหลาน เฉิดฟังแล้วก็เครียด ถามสิงห์ตรงๆเรื่องสงสัยว่าไตรภูมิจะเป็นผีดูดเลือด

"ตอนนี้ผมยังไม่รู้แน่ชัด เพราะหลักฐานยังไม่มี แต่คุณป้าไม่ต้องห่วง ผมต้องหาทางพิสูจน์ให้ได้ ไตรภูมิ...เป็นใครและเป็นอะไรกันแน่

เช้าวันต่อมา ไตรภูมิพาปลายฉัตรกลับถึงประเทศไทย และขอไปส่งเธอที่บ้าน

"ปัญหาที่เกิดจากฉัน...ฉันจะจัดการเอง"ไตรภูมิย้ำสัญญา

ปลายฉัตรอึ้งพูดไม่ออก ทั้งตกใจและอุ่นใจในเวลาเดียวกัน ทันทีที่ปลายฉัตรก้าวเข้ามาในบ้าน ลุงฉิ่งก็เปิดฉากเล่นงาน ตามด้วยสิงห์ที่อยากรู้ว่าปลายฉัตรไปไหนมากันแน่ ปลายฉัตรพูดไม่ออก เพราะไม่รู้จะตอบยังไงดี ในขณะที่ทุกคนรอฟัง ไตรภูมิก็เดินเข้ามา

"ปลายฉัตรไปญี่ปุ่นกับผมเอง"

สิงห์ ฉิ่ง มหา ปลายฉัตรหันขวับไปที่ต้นเสียง ในขณะที่เฉิดเงี่ยหูฟังแล้วเอ่ยถามปลายฉัตรว่าเสียงใคร

"เอ่อ...คุณไตรภูมิ...จ้ะแม่"

"ผมเป็นเจ้านายของปลายฉัตร...ผมขอรับผิดชอบกับความผิดพลาดทุกอย่างที่เกิดขึ้น"

"คุณจะรับผิดชอบยังไง"สิงห์รุก

"คุณต้องการให้ผมรับผิดชอบอะไร ผมยินดีทำทุกอย่าง" ไตรภูมิตอบ

"ลุงฉิ่ง...บอกไปเลยว่าอยากให้ชดใช้อะไร"สิงห์แนะ

แต่ลุงฉิ่งกับมหายืนอ้าปากค้าง อึ้งในความหล่อของไตรภูมิ สิงห์ต้องเรียกซ้ำจนทั้งสองสะดุ้ง

"ไม่เป็นไรครับ...ไม่เป็นไร...ไม่ต้องรับผิดชอบหรอกครับ อู้ย...หล่อจริงๆพ่อเจ้าประคุณ ไม่ต้องครับ ไม่ต้องชดใช้รับผิดชอบอะไรทั้งนั้นครับ เรื่องมันแล้วไปแล้ว...ก็ให้มันแล้วแล้วไป...

แหะๆๆ" ลุงฉิ่งยิ้มแฉ่ง

"พี่ฉิ่งพูดถูก คุณไม่ต้องรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น คราวหน้าอย่าโกหกแบบนี้อีกก็พอ" เฉิดขอร้อง

"แม่จ๋า...คุณไตรภูมิเขาไม่ได้เป็นคนโกหกเรื่องไปญี่ปุ่น แล้วบอกว่าไปภูเก็ต คือมันเป็นความคิดฉันเอง...คือฉันอยากไปเที่ยว แล้วก็อยากไปทำงานด้วย แต่ฉันรู้ว่า ถ้าบอกว่าไปญี่ปุ่น แม่กับลุงฉิ่งก็คงไม่ให้ไป...ฉันก็เลยโกหกอ่ะจ้ะ"

ลุงฉิ่งหันมามองปลายฉัตรด่าไม่ออก เฉิดอึ้งไม่รู้ว่าจะต่อว่าไตรภูมิ หรือทำอย่างไรดี ไตรภูมิเห็นสถานการณ์ ดังนั้น เขายิ้มนิดๆแล้วตัดบท

"ถ้าทุกคนเข้าใจแล้ว...ผมขอตัวก่อนนะครับ"

"ครับๆเชิญครับ...เชิญเลยครับ..." ลุงฉิ่งรีบบอก

ปลายฉัตรมองอมยิ้มนิดๆโล่งอกที่ผ่านไปด้วยดี แต่สิงห์ มองด้วยความขัดเคืองใจ ขณะไตรภูมิกำลังจะหันหลังกลับ สิงห์เรียกไว้

"เดี๋ยว พวกเราขอเชิญคุณมาทานข้าวที่นี่ วันพรุ่งนี้ เพราะเป็นวันเกิดลุงฉิ่ง"

"หะ" ลุงฉิ่ง ปลายฉัตรและมหาหันมาทางสิงห์ด้วยความงง สิงห์รีบส่งซิก ลุงฉิ่งจำต้องรับมุก

"เออ...ใช่ครับ...พรุ่งนี้วันเกิดผมเอง"

"นี่มันอะไรกัน...ร้อยวันพันปีไม่เคยจัด เกิดวันไหนฉันยังไม่เคยรู้เลย แล้วจะมาจัด ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย..." ปลายฉัตรโวย

"ก็ปลายไม่อยู่ จะรู้ได้ยังไง พวกเราขอเชิญคุณด้วย หวังว่าคุณคงจะไม่รังเกียจ" สิงห์หันมาสรุปกับไตรภูมิ

ไตรภูมิไม่ปฏิเสธ เขาเอ่ยพลางยิ้มนิดๆอย่างรู้ทัน ปลายฉัตรหันขวับมาทางไตรภูมิด้วยความแปลกใจ และแอบตื่นเต้นเล็กๆ

ooooooo

ปลายฉัตรออกมาส่งไตรภูมิที่รถ ตั้งใจจะพูดเรื่องงานวันพรุ่งนี้ แต่ไตรภูมิเดาใจออก จึงบอกกับเธอว่าพรุ่งนี้เขามาแน่และมาด้วยความเต็มใจ ทำให้หญิงสาวยิ้มเขินๆ ขณะที่กรแอบมองเจ้านายด้วยความประหลาดใจ

ระหว่างที่ปลายฉัตรออกไปส่งไตรภูมิ ลุงฉิ่งลากสิงห์เข้ามาในห้องครัว โดยมีมหาคุมเชิงอยู่ด้านหลัง เพราะสงสัยว่าสิงห์คิดจะทำอะไรกันแน่ ที่โกหกไตรภูมิเรื่องงานวันเกิด สิงห์อธิบายว่าเขาอยากพิสูจน์ว่าไตรภูมิเป็นผีดูดเลือดจริงหรือไม่ ทุกคนจึงเข้าใจ

การประชุมวางแผนพิสูจน์ความจริงเป็นไปอย่างเคร่งเครียด และมีข้อตกลงร่วมกันหนึ่งข้อว่า ห้ามให้ปลายฉัตรรู้เรื่องนี้เด็ดขาด

"รู้อะไรเหรอจ๊ะ" ปลายฉัตรโผล่เข้ามา

คณะพิสูจน์ทราบสะดุ้ง รีบแยกออกจากกัน ขณะที่ปลายฉัตรส่งยิ้มสดใสกับทุกคน

"ฉันขอตัวไปนอนก่อนแล้วกัน เมื่อคืนมัวแต่เครียดกลัวโดนด่า นอนไม่หลับทั้งคืนเลย ฉัน...ไปนอนก่อนนะ ปลายขอไปงีบแป๊บนึงนะแม่ เดี๋ยวปลายลงมาคุยด้วย คิดถึงจังเลย" ปลายฉัตรหอมแก้มแม่แล้วยิ้มร่าเริงมีความสุขเดินขึ้นบ้านไป

สิงห์มองตามด้วยความแปลกใจ

"ไอ้ปลายนี่ดูร่าเริงผิดปกติ...สงสัยจริงๆที่ญี่ปุ่นมันมีอะไร มันถึงมีความสุขขนาดนี้" ลุงฉิ่งเปรย

ooooooo

รถไตรภูมิแล่นเข้ามาที่หน้าประตูใหญ่ เขารู้สึกได้ถึงคลื่นรบกวนที่มาจากพาลีและคีรี จึงสั่งให้กรหยุดรถแล้วเปิดประตูเดินออกไป

"ไปบอกเจ้านายของพวกแก...ฉันกลับมาแล้ว"

พาลีกับคีรียืนหลบอยู่ มองหน้ากันอย่างจ๋อยๆ แล้วรีบกลับไปรายงานจิตต์กับราม

"ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าทำอะไรถ้าฉันไม่ได้สั่ง ต่อจากนี้ไป พวกแกไม่ต้องไปเฝ้ามันแล้ว เสียเวลา" จิตต์ตวาด

รามยกมือไล่ลูกน้องออกไป จิตต์เริ่มประมวลเหตุการณ์ แล้วบอกกับราม

"ไอ้ไตรภูมิมันประกาศแบบนี้ แสดงว่ามันไม่ได้กลัวพวกเรา มันไม่คิดจะหนีเราเหมือนเมื่อก่อน เพราะมันมั่นใจว่ามันอยู่เหนือเรา"

"ผมคิดว่าตอนนี้มันคงสะสมสมบัติได้เกือบครบ มันถึงกล้าสู้หน้าเรา"

"ฉันไม่มีวันยอมให้มันถอนคำสาปได้สำเร็จ" จิตต์ เสียงหนักแน่น

"ผมก็ไม่ยอม...ผมต้องรู้ให้ได้ว่ามันเอาสมบัติไว้ที่ไหน...ส่วนเรื่องตำรวจที่พ่อให้ประวัติมา ผมจัดการเอง... ผมรู้จักกับน้องสาวของตำรวจคนหนึ่งที่อยู่ในทีม รับรองว่าเรื่องจะไม่มาถึงพวกเราแน่นอน"

เมื่อกลับมาถึงบ้าน ไตรภูมิก็เข้าไปดูอาการของกัณฑ์ในห้อง

"ตอนนี้พวกนั้นคงรู้แล้ว...ว่าเราตามเก็บสมบัติเพื่อถอนคำสาป มันไม่หยุดแค่นี้แน่...ขอให้ทุกคนระวังตัวมากขึ้น ฉันเหนื่อยที่จะหนีแล้ว...ถึงเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากันสักที"

ไตรภูมิมุ่งมั่นและหนักแน่น อินทร์ กร และกัณฑ์ ก้มหน้ารับคำ ค่ำคืนนั้น ไตรภูมิเดินเข้ามาในห้องเก็บของเพื่อนำสมบัติที่ประมูลได้จากญี่ปุ่นมาเก็บไว้ เขามองไปที่ชั้นวางที่ว่างอยู่สองจุดแล้วบอกกับตัวเอง

"เหลือสมบัติอีกแค่ 2 ชิ้น ได้มาเมื่อไหร่ ทุกอย่างจะได้จบสักที อีก 2 ชิ้นเท่านั้น..." ไตรภูมิมีหวัง เช่นเดียวกับปลายฉัตรที่นั่งมองสร้อยที่ไตรภูมิซื้อให้อย่างมีความสุข และหวังว่าพรุ่งนี้เธอจะได้พบเขาอีก

เสียงกุกกักดังมาจากหน้าห้องนอน ปลายฉัตรหันไปมองเห็นเฉิดเดินเข้ามา ก็รีบลุกไปประคองแม่มานั่งที่เตียง เฉิดดึงมือปลายฉัตรที่จับแขนมากุมไว้

"ปลาย...ปลายไม่เป็นอะไรนะลูก เจ้านายปลายเขาไม่ได้ทำร้ายอะไรลูกใช่ไหม"

"ไม่จ้ะ...คุณไตรภูมิเขาดีกับปลายมาก ไม่ได้ทำร้าย หรือว่าล่วงเกินอะไรเลย แม่ไม่ต้องห่วงนะ"

"ครั้งนี้เขาดีกับเรา...มันก็ดี แต่ครั้งหน้าอย่าทำแบบนี้อีกนะลูก แม่รู้ว่า...คนเราก็มีเรื่องส่วนตัวที่ไม่อยากบอก แต่เราก็ต้องระวัง ไม่ให้ความลับกลายเป็นดาบทิ่มแทงตัวเรา และคนอื่น"

"จ้ะแม่...ปลายซึ้งแล้วว่าการโกหกมันอึดอัด หงุดหงิดใจขนาดไหน ต่อจากนี้ไป ปลายจะไม่โกหกแม่อีกแล้ว ปลายไม่อยากทุกข์กับการโกหกอีกแล้วจ้ะ" เอ่ยพลางโผเข้ากอดแม่

"ดีแล้วลูก...ชีวิตเราก็ทุกข์มากพอแล้ว อย่าเพิ่มทุกข์ให้ตัวเองอีกเลย ส่วนเรื่องเจ้านายของปลาย...วันนี้เขาดีกับเรา มันก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ลูกก็ต้องเผื่อใจไว้ด้วย วันหน้าเขาอาจจะไม่ดีกับเราเหมือนเดิม ที่สำคัญเราก็เพิ่งรู้จักเขา...ปลายอาจจะยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจริงๆแล้ว เขาเป็นคนยังไง...และเขาเป็นใคร" เฉิดลูบผมลูกสาว

ปลายฉัตรอึ้งในคำพูดของแม่

ooooooo

จ่าดอนเห็นสิงห์คร่ำเคร่งอ่านหนังสือเกี่ยวกับผีดูดเลือด นึกสงสัยจึงเข้ามาถาม แต่สิงห์ไม่ตอบอะไร ได้แต่สั่งจ่าดอนเรื่องงานเลี้ยงวันเกิดลุงฉิ่ง

"งานวันเกิดลุงฉิ่ง พรุ่งนี้สามโมงเย็นเจอกัน" สิงห์สะพายเป้เดินออกไปเลย

เย็นในวันถัดมา ไตรภูมิยกแก้วเลือดดื่มรวดเดียวหมด เขาปรายตามองแก้วเลือดแล้วถอนใจเบาๆด้วยความสมเพชตัวเองลึกๆ

"ของที่นายท่านให้เตรียมเรียบร้อยแล้วครับ" อินทร์นำพระพุทธรูปเก่าสภาพยังดีอยู่ในกล่องกระจกใสมาส่งให้

"ขอบใจมาก บอกกรเตรียมรถ ฉันจะออกไปข้างนอก"

อินทร์รับคำแล้วเดินออกไป ไตรภูมิมองห่อของขวัญ ด้วยรอยยิ้มนิดๆ ขณะไตรภูมิเตรียมตัวไปบ้านปลายฉัตร เวลาเดียวกันนั้น จ่าดอน สิงห์ ลุงฉิ่ง และมหาก็กำลังสุมหัวเตรียมแผนพิสูจน์กันอยู่

"จะรอดเหรอครับหมวด" จ่าดอนถาม

"ก็ต้องลองดู ไม่ลองก็ไม่รู้ ลุงฉิ่ง ของพวกนี้ เราต้องไปไหนบ้างจะได้รีบจัดก่อนปลายจะกลับจากตลาด" สิงห์ถาม พลางมองเครื่องรางที่วางอยู่

ลุงฉิ่งนิ่งคิดก่อนสั่งการ ให้ไปวางตามที่ต่างๆในบ้าน จากนั้นสิงห์ก็เข้าครัว ทำอาหารที่เน้นกระเทียม เอาน้ำมนต์เทใส่ขวดน้ำดื่ม ส่วนมหากับลุงฉิ่งช่วยกันเอากระเทียมห้อยไว้ตามที่ต่างๆ และติดยันต์กันผีไว้ที่ประตู

ปลายฉัตรกลับมาจากตลาด เธอยืนตะลึงเมื่อเห็นในบ้านมีพระ ผ้ายันต์ และสายสิญจน์โยงไปมา

"ก็...วันนี้วันเกิดข้าไง...ข้าก็เลย...อัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ออกมาทำพิธีนิดหน่อย แล้วก็ยังไม่ได้เก็บ สายสง...สายสิญจน์ก็เอาที่มีอยู่แหละมาโยงเอง มหาแกทำพิธีให้" ลุงฉิ่งบอก

ปลายฉัตรหันไปทางมหา มหาสะดุ้งรีบรับมุก พลันสายตาก็มาสะดุดอยู่ที่จ่าดอน

"เอ้อ ลืมไป...ปลาย...นี่จ่าดอนผู้ช่วยเรา จ่าดอน...นี่ปลาย" สิงห์รีบแนะนำ

ปลายฉัตรยกมือไหว้จ่าดอน แล้วขอตัวเอาเครื่องดื่มไปแช่ตู้เย็น ทำให้พวกลุงฉิ่งถอนใจด้วยความโล่งอก

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น