ตอนที่ 4
วิชาติกับวีรชาติเตรียมตัวไปนครสวรรค์ เพื่อไปเตรียมสถานที่ตามแผนการ ทั้งสองช่วยกันยกกระเป๋าและกล่องข้าวของออกมาวางไว้ สดสวยกับแดงเด็กรับใช้เดินตามมา พร้อมกับกระเป๋าเดินทางอีกสามสี่ใบ เธอบ่นเรื่องวีรชาติรีบร้อนกลับนครสวรรค์
“ผมมีงานด่วนเข้ามาน่ะคุณ ก็เลยต้องรีบกลับ” วีรชาติอธิบาย
“เดี๋ยวอีกไม่กี่วันก็ได้เจอกันล่ะครับ คุณสวย” วิชาติเสริม
สดสวยแปลกใจ จึงถามว่าวิชาติจะไปนครสวรรค์ทำไม วิชาติอึกอักอ้างว่าไปงานเดียวกับวีรชาติ
“งานอะไรหรือคะ แล้วทำไมต้องเรียกตัวคุณกลางกลับไปอย่างกะทันหันอย่างนี้ แล้วนี่ทางจังหวัดถึงกับต้องขอความช่วยเหลือจากทางกรมตำรวจอย่างนี้ แสดงว่าต้องเป็นงานสำคัญแน่ๆ” สดสวยเดา
วีรชาติมองหน้าวิชาติเพราะตอบไม่ถูก ระหว่างนั้น สอางทิพย์เข้ามาถามหาวิชชุดา สดสวยเปรยว่าวิชชุดาอาจจะหนีออกจากบ้าน สอางทิพย์ได้ฟังก็หันมาตำหนิวิชาติทันที เพราะเมื่อวานเห็นเขาทะเลาะกับวิชชุดาอยู่
“คุณไม่ต้องสนใจเด็กคนนี้นักหรอกหนีไปเองก็ให้กลับมาเอง คราวนี้ผมไม่ไปตามแล้ว เหนื่อยใจเต็มทน” วิชาติตัดบท
สอางทิพย์ไม่พอใจทำท่าจะเอาเรื่อง วิชาติรีบไกล่เกลี่ย พลางขอร้องให้ทุกคนอยู่เฉยๆสักสามสี่วันแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง สอางทิพย์กับสดสวยมองหน้ากันจะถามต่อ แต่วีรชาติรีบเปลี่ยนเรื่องชวนวิชาติขนของไปที่รถ และเมื่ออยู่กันตามลำพัง วีรชาติก็บ่นกับพี่ชายที่เกือบพลาดเพราะลืมคิดไปว่าจะตอบคำถามพวกเมียๆเรื่องวิชชุดาหายตัวไปว่ายังไงดี แต่วีรชาติยังใจเย็นอ้างว่าวิชชุดาเคยหนีไปนอนบ้านคุณหญิงสมสวาทอยู่บ่อยๆ คงไม่มีใครสงสัย
“ว่าแต่แกเถอะ เตรียมการทุกอย่างพร้อมหมด แล้วใช่ไหม” วิชาติมองหน้าน้องชาย
“ผมสั่งการไปแล้วล่ะครับ พรุ่งนี้กระท่อมกลางป่าน่าจะสร้างเสร็จ งานนี้เรียกได้ว่าระดมคนงานทั้งจังหวัดเลยนะครับ พี่ใหญ่”
“พรุ่งนี้กระท่อมสร้างเสร็จ จับยายวิชขังไว้ซักสามวัน แล้วค่อยให้โสรัตน์ไปช่วย แผนการครั้งนี้จะต้องจบไม่เกินสี่วัน ยายวิชได้สิ้นฤทธิ์ก็คราวนี้แหละ” วิชาติยิ้มอย่างพอใจ
“ผมอยากให้เรื่องนี้จบให้เร็วที่สุด เกิดมาผมไม่เคยทำเรื่องบ้าบออะไรขนาดนี้เลย แล้วผมก็ไม่แน่ใจว่าผมจะปิดสวยเขาไปได้อีกนานแค่ไหน ก็อย่ามัวสนุกกับแผนการจับคู่ให้ยายวิช จนลืมคู่ของตัวเองล่ะครับ เอาใจคุณสอางค์เธอบ้าง”
“ฉันรู้น่าว่าควรจะทำยังไง แล้วแกอย่าลืมส่งข่าวมา
เป็นระยะๆนะ แล้วฉันกับโสรัตน์จะรีบตามไป ไปๆ รีบไปตามคุณสวยไป จะได้รีบไปสถานีรถไฟกัน” วิชาติสั่งการ
ooooooo
ศยามจับวิชชุดามัดมือ เท้า เอาถุงผ้าสีดำคลุมหัว แบกเข้ามาในห้องพัก เขาเหวี่ยงเธอลงไปบนกองกล่องกระดาษโครมใหญ่ ก่อนดึงถุงผ้าออก วิชชุดาตะลึงเมื่อเห็นศยาม พลางอุทานมาอย่างลืมตัว
“ไอ้เสือมืด”
ศยามส่งยิ้มกวนๆบอกว่า ยินดีที่ได้พบกันอีก สาวเจ้าถามถึงจุดประสงค์ที่จับตัวเธอมา
“ก็คุณอยากพบผมไม่ใช่หรือครับ คุณนี่ช่างเป็นผู้หญิงที่ใจกล้าจริงๆ กล้ามาตามเสือมืดถึงถิ่น ว่าแต่คุณมีธุระอะไรกับผมหรือครับ”
“ฉันก็จะมาจับแกเข้าคุกน่ะสิ ไอ้โจรใจทราม แกมันชั่วจริงๆ แกรับปากฉันแล้วว่าจะไม่ปล้นบ้านคุณป้าแต่แกก็ไม่รักษาคำพูด แกมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย”
“มีโจรที่ไหนรักษาคำพูดบ้างล่ะ อยากโง่เชื่อฉันเอง แล้วยังโง่ตามมาจับตัวฉันอีก ตำรวจมือปราบเก่งๆ ยังจับตัวฉันไม่ได้เลย แล้วผู้หญิงอย่างเราจะทำอะไรได้ เรามันรนหาที่จริงๆ ไม่รู้หรอกว่า เรากำลังเล่นอยู่กับใคร”ศยามทำท่าขึงขังใส่
“แก แกจับตัวฉันมาทำไม”
“เราคิดว่า โจรอย่างฉันจับผู้หญิงสวยๆ อย่างเรามาทำไมล่ะ” ศยามมองวิชชุดาพลางยิ้มอย่างมีนัยแล้วออกไปพร้อมปิดประตูดังโครม
“ฉันไม่กลัวแกหรอกนะ ไอ้เสือมืด แกทำอะไรฉันไม่ได้หรอก อีกไม่นานพี่ชายฉันจะต้องมาช่วยฉันแน่ๆ ฉันไม่กลัวแก ได้ยินไหม ฉันไม่กลัวแก” วิชชุดาตะโกนไล่หลังพลางมองไปรอบๆตัวเริ่มหวั่นใจ
ส่วนศยามเดินไปหานมคล้ามที่กำลังเตรียมอาหารกลางวันอยู่หลังบ้านพักคนงาน พร้อมกำชับว่า
“ตอนนี้เรามาจับคนเรียกค่าไถ่ ฉันเป็นโจรใจเหี้ยม ส่วนนมก็เป็นแม่โจร ใช้ชีวิตอยู่ตามป่ากินอะไรตามมีตามเกิดไป ทำอะไรกินง่ายๆนะ”
“งั้นเดี๋ยวนมผัดข้าวแล้วกันค่ะ อ้อ แล้วนี่คุณจับคุณวิชชุดามาแล้วใช่ไหมคะ เธอเป็นยังไงบ้างคะ คงตกใจกลัวมากเลยใช่ไหมคะ โถ น่าสงสารจริงๆ” นมคล้ามรำพึงรำพัน
ศยามส่ายหน้าฟ้องว่า ถ้าไม่จับวิชชุดามัดมือมัดเท้าไว้ เธอคงกระโจนเข้าเล่นงานเขาแน่
“เธอคงทำใจสู้ไปอย่างนั้นแหละค่ะ ถึงยังไงเธอก็เป็นผู้หญิง คุณมืดก็อย่าไปข่มขู่อะไรเธอมากเลยค่ะ”
“ไม่ได้หรอก ฉันต้องทำให้เธอกลัวฉัน ยิ่งกลัวมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เวลาที่พี่โสรัตน์มาช่วยเธอ เธอจะได้ซาบซึ้งในความกล้าหาญของพี่โสรัตน์มากๆ ยังไงล่ะ เดี๋ยวฉันจะไปทำธุระข้างนอกนะ ฝากนมดูแลเด็กที่มากับคุณวิชเธอด้วยล่ะ” ศยามเดินออก
ด้านเด๋อที่ถูกขังอยู่ในห้องเก็บของ วิ่งพล่านหาทางออก เขาทุบประตูโครมๆ ร้องเรียกให้วิชชุดาช่วย แต่ไร้ผล จึงทรุดตัวลงนั่ง เบะปากทำท่าจะร้องไห้ พลันข้าวห่อใบตองและกระติกน้ำก็ถูกหย่อนมาจากช่องลม
“ใครน่ะ ใครอยู่ข้างนอก” เด๋อทะลึ่งพรวดไปรับข้าวห่อกับกระติกน้ำพลางถามหาวิชชุดา
นมคล้ามที่ยืนอยู่หน้าห้องรีบทำเสียงดุ “ไม่ต้องถามมาก เดี๋ยวแกก็รู้เอง หุบปากแล้วกินข้าวซะ” เด๋อรีบปิดปากเงียบ
นมคล้ามเห็นเข้าก็ยิ้ม พอใจกับบทบาทของตัวเอง
ศยามออกมาโทร.หาโสรัตน์กับวิชาติเพื่อรายงานว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผน ทำให้โสรัตน์โล่งใจ
“แล้วมีปัญหาอะไรติดขัดหรือเปล่า” วิชาติถามต่อ
“ตอนนี้ยังไม่มีปัญหาอะไรครับ ผมห่วงเรื่องกระท่อมที่พักน่ะครับ จะสร้างเสร็จทันไหมครับ ที่คุมขังคุณวิชตอนนี้อยู่ใกล้ตัวเมืองมาก ผมกลัวว่าจะมีคนเห็นเข้าได้”
“ไม่ต้องห่วง นายกลางกลับไปที่โน่นแล้ว ถ้านายกลางไปคุมงานเอง รับรองกระท่อมเสร็จทันแน่ๆ แล้วยายวิชแผลง ฤทธิ์แผลงเดชบ้างหรือยัง”
“ก็ยังไม่เท่าไหร่ครับ แต่ท่าทางเธอยังไม่ยอมแพ้เสือมืดง่ายๆ ผมคงต้องทำให้เธอรู้ว่า เสือมืดร้ายกาจขนาดไหน”
“ตามสบายเลย นายมืด นายแสดงบทบาทเสือมืดได้เต็มที่เลย อยากทำอะไรทำไป เราได้โอกาสปราบยายวิชก็ครั้งนี้แหละ”
“ถ้าจะปราบคุณวิช คงต้องใช้วิธีรุนแรงหน่อย ขู่ว่าจะฆ่าเธอหมกป่าดีไหมครับพี่ใหญ่ หรือไม่ก็ตัดแขนตัดขาทิ้ง ไอ้เสือมืดทำได้อยู่แล้ว” ศยามหัวเราะชอบใจแล้วเบรกกึก เมื่อเห็นสายตาของคนในที่ทำการไปรษณีย์มอง “ผม ผมว่า แค่นี้ก่อนนะครับ พี่ใหญ่”
“อีกสองวันฉันกับโสรัตน์จะไปเจอนายที่โน่น ถึงตอนนั้นเรามาคุยรายละเอียดถึงแผนการขั้นสุดท้ายอีกครั้ง ขอบใจมากนะ นายมืด แล้วเจอกัน” วิชาติวางโทรศัพท์ลง แล้วหันมองโสรัตน์ที่นั่งจิบกาแฟอย่างสบายใจ
“ตกลงแกเชื่อมั่นในแผนการของกันแล้วใช่ไหม”
“แกวางแผนดีขนาดนี้ กันต้องเชื่อมั่นอยู่แล้ว รับรองงานนี้ต้องไม่มีอะไรผิดพลาดแน่ๆ กันกำลังคิดถึงวันที่กันเข้าไปช่วยน้องวิช กันว่าเราน่าจะมีการดวลปืนระหว่างไอ้เสือมืดกับกัน” โสรัตน์เริ่มแต่งบทให้ตัวเองเป็นพระเอก วิชาติเห็นดีด้วยเสริมว่าต้องมีฉากดวลปืนระหว่างโสรัตน์กับเสือมืดเพื่อเรียกคะแนน
“อีกไม่นานแกก็จะได้แต่งงานกับยายวิช ต่อไปแกจะต้องเรียกกันว่าพี่ใหญ่นะโว้ย ไอ้น้องเขย” วิชาติตบบ่าโสรัตน์
“ได้เลยครับ พี่ใหญ่” โสรัตน์หัวเราะร่วน
ooooooo
ศยามนำข้าวกลางวันมาให้วิชชุดา แต่พบว่าเธอกำลังจะหนีจึงทำหน้าเหี้ยมเข้าใส่ วิชชุดาทำใจกล้าถามศยามว่า จับเธอมาทำไม
“ถามอะไรโง่ๆก็จับมาเรียกค่าไถ่น่ะสิ ฉันสืบมาหมดแล้ว ทางตระกูลวิภาดาร่ำรวยไม่เบานี่ อย่างเราน่าจะเรียกเงินได้หลายหมื่นทีเดียว” ศยามชะโงกหน้าเข้ามา
วิชชุดาถอยหนีพลางขู่ว่า พี่ชายคนโตเธอเป็นตำรวจใหญ่ ส่วนพี่ชายคนรองก็เป็นปลัดจังหวัด อีกไม่นานพวกเขาต้องตามหาเธอพบแน่ๆ
“มีพี่ชายมีตำแหน่งใหญ่โตตั้งสองคน อย่างนี้ก็ต้องเรียกค่าไถ่เพิ่มเป็นสองเท่าสินะ ตอนแรกๆคิดว่าจะเรียกค่าไถ่ซักสามหมื่น คงต้องเพิ่มเป็นหกหมื่น หรือจะเรียกซักแสนนึงไปเลย ทำไมไอ้มืดถึงโชคดีอย่างนี้ อยู่ดีๆเนื้อก็มาเข้าปากเสือ หวานหมูจริงๆ”
“ไอ้คนสารเลว แกมันก็เก่งแต่รังแกผู้หญิงกับคนแก่ โจรที่ได้ชื่อว่าเป็นเสือจะต้องเป็นโจรที่มีคุณธรรม ต้องเก่งกล้าสามารถจริงๆ ไม่ใช่โจรกระจอกที่ใช้กำลังกับผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้อย่างแก”
“ก็ฉันคือไอ้เสือมืดยังไงล่ะ ฉันไม่เคยละเว้นให้ใครอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือคนแก่ เราไม่รู้หรอกว่าฉันน่ะเลวได้ถึงขนาดไหน” ศยามขู่กลับวิชชุดานึกได้รีบถามหาเด๋อ
“ไอ้เด็กนั่นเหรอ ฉันจะจับตัวไว้ทำไมให้เปลืองข้าวสุก ฉันฆ่าทิ้งไปแล้ว ตกลงไม่กินข้าวใช่ไหม ไม่กินก็อย่ากิน” ศยามทำเหี้ยมเหวี่ยงจานข้าวแตกกระจายแล้วเดินปึงปังออกไป
เวลาเดียวกันนั้น รถไฟแล่นมาถึงสถานีปากน้ำโพ วีรชาติกับสดสวยลงจากรถ คนขับรถปราดเข้ามารับกระเป๋าเดินทางให้ สดสวยหันไปชวนสามีแวะทานอาหารก่อนเข้าบ้าน แต่วีรชาติไม่ทันได้ฟังเพราะกำลังมองหาใครบางคน
นายช่างเดินเข้ามาหาวีรชาติอย่างร้อนใจพร้อมกับรายงานเรื่องกระท่อมกลางป่าว่ามีปัญหาเล็กน้อย สดสวยแปลกใจถามวีรชาติเรื่องกระท่อม
“เรื่องนี้เป็นความลับของทางราชการ ผมบอกคุณไม่ได้หรอก คุณกลับบ้านก่อนนะ ผมจะออกไปทำงาน เสร็จแล้วจะรีบกลับ” วีรชาติรีบดึงตัวนายช่างออกไป สดสวยมองตามได้ยินนายช่างพล่ามต่อ
“คืออย่างนี้นะครับท่าน ถึงแม้ท่านจะบอกว่าต้องการแค่กระท่อมธรรมดาเล็กๆหลังเดียว แต่เมื่อได้มีโอกาสได้รับใช้ท่าน ยังไงผมก็ต้องสร้างอย่างสุดฝีมือครับ”
วีรชาติเมื่อเข้าไปแก้ปัญหาเรื่องกระท่อมกลางป่าเรียบร้อยแล้ว เขากลับมาพบศยามในเมืองพร้อมแจ้งว่ากระท่อมน่าจะเสร็จก่อนเที่ยงพรุ่งนี้
“งั้นพรุ่งนี้ผมจะพาคุณวิชเข้าไปที่กระท่อมช่วงบ่ายๆก็แล้วกันนะครับ แต่ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลง คุณกลางต้องส่งคนมาแจ้งผมทันทีนะครับ” ศยามย้ำ
วีรชาติรับคำแล้วเตือนให้ศยามระวังตัวด้วยเพราะวิชชุดามีพิษสงรอบตัว และขอให้ศยามช่วยสอนบทเรียนกับน้องสาว หวังให้เลิกใจกล้าบ้าบิ่นเสียที ศยามยิ้มรับถามต่อเรื่องเด๋อว่าจะให้จัดการอย่างไรดี วีรชาติให้ศยามพาเด๋อไปกับวิชชุดาด้วย เพราะเธอรักเด๋อมาก
“แล้วผมจะทำยังไงให้คุณวิชเข็ดหลาบไม่กล้าทำอะไรบ้าบิ่นล่ะครับ ไม่มีอะไรที่คุณวิชเธอกลัวบ้างเลยหรือครับ” ศยามขอข้อมูล วีรชาตินิ่งคิดแล้วส่ายหน้า
“ไม่มีว่ะ ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยเห็นยายวิชกลัวอะไรเลย” ศยามได้ฟังก็หนักใจ
ในระหว่างที่พวกหนุ่มๆกำลังวุ่นกับแผนการลักพาตัววิชชุดา ฤทธิรงค์ก็มาหาวิชชุดาที่บ้านพร้อมกับกล่องของขวัญ แต่วิชชุดาไม่อยู่ สอางทิพย์ออกมาคุยด้วย แต่เมื่อเห็นท่าทาง ชายหนุ่มก็นึกสงสารจึงพูดให้กำลังใจ ฤทธิรงค์เริ่มมีความหวังเพราะได้สอางทิพย์เป็นที่ปรึกษา ไม่น้อยหน้าโสรัตน์ที่มีวิชาติเป็นกุนซือ
ooooooo
วิชชุดายังไม่ปักใจเชื่อว่าเด๋อตายแล้ว เธอรอโอกาสแล้วแอบหนีออกมา ได้เจอกับตำรวจคนหนึ่งที่ขับรถผ่านมา แต่วิชชุดาไม่ทันได้บอกเรื่องราว ศยาม ก็ตามมาทัน พลันแต่งเรื่องบอกกับตำรวจว่า วิชชุดาเป็นเมีย เธองอนที่เขากลับดึกจึงหนีออกจากบ้าน ตำรวจเชื่อสนิทขึ้นรถขับออก
“เดี๋ยวค่ะ คุณตำรวจ อย่าเพิ่งไป ฉันถูกลักพาตัวมา ผู้ชายคนนี้มันคือไอ้เสือมืด ตำรวจกำลังตามล่ามันอยู่ กลับมาก่อน กลับมาจับไอ้เสือมืดก่อนค่า เป็นตำรวจแล้วไม่รู้จักเสือมืดได้ยังไง” วิชชุดาโวยวาย
ศยามเล่นบทเหี้ยมลากตัววิชชุดามาล่ามไว้กับเสา
ในห้อง เขาดึงมีดเล่มใหญ่ที่เอวมาขู่ วิชชุดาทำใจกล้าสั่งให้ศยามปล่อยเธอไป เพราะพี่ชายเธอไม่มีวันเชื่อว่าโจรอย่างเสือมืดจะจับตัวเธอได้
“ขอบใจจริงๆที่บอก ฉันก็ลืมไปเลย นั่นน่ะสินะ แค่จดหมายเรียกค่าไถ่ฉบับเดียว ท่านรองวิชาติต้องไม่เชื่อแน่ๆว่า น้องสาวถูกจับตัวมาอย่างนี้มันต้องมีอะไรพิสูจน์ว่า คุณวิชชุดาอยู่ในเงื้อมมือเสือมืดจริงๆ ฉันควรจะตัดนิ้วหรือว่าตัดหูของเราดี ตัดนิ้วดีกว่านะ ท่านรองฯน่าจะจำนิ้วสวยๆของน้องสาวได้ หรือว่าตัดหูดี แล้วจะตัดข้างซ้ายหรือข้างขวาดีล่ะ ฉันว่าข้างซ้ายดีกว่านะ”
ศยามขยับมีดไปมาใกล้ๆวิชชุดา เธอหลับตาปี๋ เสียงผ้าถูกฉีกดังแควกวิชชุดาลืมตาขึ้นเห็นศยามใช้มีดตัดชายเสื้อไป แล้วปามีดปักเข้าข้างฝาดังฉึก
“นี่จะเป็นการเตือนครั้งที่สอง แต่จะไม่มีการเตือนเป็นครั้งที่สามอีก ไม่งั้นเธอได้แหลกเป็นผุยผงแน่ๆ” ศยามจ้องหน้าข่มขวัญวิชชุดาสุดฤทธิ์
ooooooo
ในขณะที่ศยามสวมบทเสือมืดเพื่อช่วยโสรัตน์อยู่นั้น โสรัตน์ก็ทำหน้าที่กามเทพนำจดหมายของศยามมาให้สุดถนอมที่บ้านหลวงพิศาล คุณนายจินดารีบออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง เพราะเห็นว่าโสรัตน์ดูคู่ควรกับลูกสาวของเธอมากกว่าศยาม และที่สำคัญครอบครัวของโสรัตน์ก็รวยมาก พิศาลคัดค้านไม่เห็นด้วยกับความคิดของภรรยา แต่คุณนายไม่สน เธอสั่งให้สุดถนอมพาโสรัตน์ไปนั่งคุยในสวน และพยายามจะยื้อเวลาให้อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันก่อน
ด้านโสรัตน์เมื่อได้อยู่กับสุดถนอมตามลำพังก็หยิบจดหมายที่ศยามฝากมาส่งให้ พลางอธิบายเรื่องสุมานแทนน้องชาย แต่สุดถนอมยังลังเล เธออ้างว่าศยามอาจยังไม่ลืมรักครั้งแรกก็เป็นได้
“แต่คุณจะเป็นความรักครั้งสุดท้ายของนายมืด คุณเป็นผู้หญิงคนเดียวที่นายมืดอยากอยู่ด้วยตลอดชีวิต แล้วคุณจะสนใจความรักครั้งแรกที่ไม่มีความหมายทำไม” โสรัตน์มองสุดถนอม เห็นเธออึ้งไป
เมื่อโสรัตน์ลากลับ สุดถนอมเดินมาส่งที่รถ โสรัตน์ย้ำว่า อย่าลืมอ่านจดหมายของศยามด้วย
“คุณโสรัตน์ พูดประโยคนี้เป็นครั้งที่สิบแล้วนะคะ แหววไม่ยักทราบนะคะว่า คุณโสรัตน์เป็นคนที่ชอบย้ำคิดย้ำทำ” สุดถนอมล้อ
“ผมไม่ยักทราบเหมือนกันว่า คุณแหววเป็นคนขี้หวง”
“แหววไม่ใช่เป็นคนขี้หวงซักหน่อย แหววแค่ไม่ไว้ใจ ผู้ชายบางคนเท่านั้น คนเราถ้ารักกันจริงๆ จะต้องไม่มีความลับต่อกันเลย จะต้องไม่โกหกแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆก็เถอะค่ะ”
“จะต้องไม่มีความลับ จะต้องไม่โกหก ถ้าเราจำเป็น ต้องเก็บเรื่องบางอย่างเป็นความลับ อาจจะต้องโกหกกันบ้าง ก็ไม่ได้หรือครับ”
“ไม่ได้ค่ะ ยังไงก็ไม่ได้ ผู้หญิงเราเกลียดที่สุดก็คือ การโกหกหลอกลวง แต่คุณโสรัตน์ไม่ใช่ผู้ชายที่โกหกใครได้อยู่แล้ว แหววเชื่อว่า คุณโสรัตน์เป็นคนดีเกินกว่าจะทำร้ายจิตใจผู้หญิงคนไหนแน่ๆค่ะ” สุดถนอมมั่นใจ
โสรัตน์ส่งยิ้มเจื่อนๆ
ด้านสุมานหลังจากเลิกกับสามีแล้วก็ขนข้าวของมาขออยู่กับฤทธิรงค์ เพราะเป็นญาติเพียงคนเดียวของเธอ ฤทธิรงค์ไม่อาจปฏิเสธจึงต้องแบ่งห้องที่ว่างอยู่ให้ ส่วนตัวเองออกมานั่งเศร้ามองรูปวิชชุดาคิดหาทางคืนดี สุมานออกมาเห็นเข้าก็รีบแนะนำ
“ผู้หญิงคนเดียว ถ้าเขาไม่ยอมเล่นด้วย เธอก็ไปหา ผู้หญิงคนใหม่สิ จะมานั่งเศร้าทำไม มีผู้หญิงเป็นร้อยเป็นพัน รอเฝ้าจะถวายตัวให้เธออยู่”
“ผมไม่ต้องการผู้หญิงพวกนั้น แล้วพี่สุมานก็ไม่ต้องมาแนะนำอะไรผม เรื่องของผม ผมจัดการเองได้ พี่ไปตามหาชายในฝันของพี่เถอะครับ พี่จะได้ลงหลักปักฐานกับเขาซักที ผมรอร่วมแสดงความยินดีกับพี่อยู่” ฤทธิรงค์ตัดบท
สุมานส่งยิ้มหวานมั่นใจว่า รักครั้งที่สามของเธอจะเป็นรักสุดท้าย และอาจโชคดีได้เจอผู้ชายที่สมบูรณ์ตามแบบที่ต้องการก็ได้
ooooooo
วิชชุดายังไม่ยอมสิ้นฤทธิ์ง่ายๆ เธอแอบหนีทุกครั้งที่มีโอกาส แถมยังอาละวาดไม่หยุด จนศยามแทบหมดแรง จึงเข้าไปปรับทุกข์กับนมคล้าม แล้วเสียงวิชชุดาก็ดังขึ้นอีก
“ปล่อยฉันออกไปเดี๋ยวนี้นะ ปล่อยฉันๆๆได้ยินไหม ปล่อยฉันออกไปเดี๋ยวนี้ ไอ้เสือมืด ไอ้เสือบ้า ไอ้เสือขี้ขลาด”
“สงสัยจะต้องคิดแผนใหม่แล้วล่ะ” ศยามหันไปมองนมคล้ามอย่างตริตรองพร้อมๆกับเสียงวิชชุดากระทืบเท้าปึงปังอยู่ในห้อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น