วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2554

ดอกส้มสีทอง ตอนที่ 9

ตอนที่ 9

ซิลเวียวิ่งเข้ามาในห้องรับแขก คว้าโทรศัพท์ โทร.ไปหาไทรรัตน์ด้วยน้ำเสียงร้อนรนเป็นทุกข์ แต่เวลานั้นไทรรัตน์กำลังทานอาหารกลางวันอยู่กับกรองกาญจน์ เขาจึงปฏิเสธที่จะไปพบเธอ แต่ให้เธอโทร. มาหาใหม่ตอนค่ำวันนี้ แล้วเขาจะฟังปัญหาของเธอ

กรองกาญจน์นั่งเฉยไม่สนใจว่าไทรรัตน์คุยกับใคร ขนาดเขาวางสายแล้วเธอก็ไม่คิดที่จะถามสักนิด ทำให้เขาหงุดหงิดไม่น้อยกับท่าทีของเธอ และไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะทนเป็นคู่หมั้นของเธอไปอีกนานแค่ไหน

ตกเย็นเลิกงาน ไทรรัตน์ต้องแวะไปรับกรองกาญจน์ที่มหาวิทยาลัยเพราะวันนี้เธอไม่ได้เอารถมา จากนั้นก็รีบมุ่งหน้าไปบ้านเจ้าสัวเชงตามนัด โดยที่ไม่รู้ว่าท่านต้องการพบเขาด้วยเรื่องอะไร ลองถามกรองกาญจน์ก็ไม่ได้คำตอบ ซ้ำเธอยังพูดให้เขารู้สึกเซ็งหนักไปกว่าเมื่อตอนกลางวันเสียอีก

ทั้งๆที่ร่างกายยังอ่อนเพลียไม่ค่อยพร้อมที่จะพบใคร แต่เพราะมีเรื่องร้อนใจเจ้าสัวเชงจึงเรียกทั้งไทรรัตน์และกรองกาญจน์มาพบ พอเจ้าสัวจะเริ่มพูดธุระ ปรากฏว่าเม่งฮวยโผล่เข้ามาอีกคน กรองกาญจน์ที่รู้แก่ใจว่าบิดาจะพูดเรื่องอะไรถึงกับชักสีหน้าทันที

เจ้าสัวกับเม่งฮวยยื่นคำขาดให้กรองกาญจน์แต่งงานกับไทรรัตน์ ถ้ายังไม่แต่งก็ไม่ต้องเรียกพวกตนว่าอาเตีย อาม้า...กรองกาญจน์ฟังแล้วอึดอัดเป็นบ้า โพล่งขึ้นมาว่า

"หนูยังไม่พร้อม ตอนนี้ไม่แต่งก็เหมือนแต่งอยู่แล้ว"

"ลื่อหมายความว่าไง"

"ทำไมพูดอย่างนั้น...อาไซรัก ลื่อสองคนเป็นผัวเมียกันแล้วเหรอ"

คำถามคาดคั้นของทั้งเจ้าสัวและเม่งฮวยทำเอาไทรรัตน์ หน้าเสีย แต่ก็รีบตอบ

"เปล่าครับ หมวยใหญ่กับผมไม่ทำอะไรผิดประเพณีหรอกครับ"

"อาไทรรัตน์...จะเป็นผัวเมียกันต้องทำตามประเพณีให้คนรับรู้ อั้วกับอาม้า และอาเตียอาม้าของลื่อมีชื่อเสียง คนซูฮกนับถือเยอะแยะ อย่าทำให้พวกอั้วต้องอับอาย ถ้าไม่คิดจะแต่งกับลูกสาวอั้ว อย่าได้กันก่อนแต่งเด็ดขาด"

เจ้าสัวเสียงดังดุดัน ไทรรัตน์ก้มศีรษะรับแทนคำตอบ ส่วนก้องเกียรติที่กำลังจะเข้ามาถึงกับหยุดกึกยืนฟังเงียบๆ

"รับคำเฉยๆไม่ล่ายนะอาไซรัก หรือว่าลื่อคิดจะเล่นๆกับอาหมวยใหญ่" เม่งฮวยสำทับ

"คนที่ลื่อจะเล่นๆด้วยน่ะมี แต่ไม่ใช่หมวยใหญ่" เจ้าสัวมองไทรรัตน์สายตาคมกริบ เขาหมายถึงซิลเวีย แต่ไทรรัตน์คิดไม่ถึง ทำหน้าฉงนก่อนยอกย้อน

"แต่ถ้าหมวยใหญ่ยอมล่ะครับ"

เจ้าสัวกับเม่งฮวยหันขวับมามองกรองกาญจน์เป็นตาเดียว คนถูกมองเลยร้อนฉ่า โวยวายทันทีว่า

"ยังค่ะ...ยัง ไทรรัตน์พูดบ้าอะไร ทำให้วุ่นวายไปหมดแล้ว กลับเถอะ"

"หมวยใหญ่...ท่าทางลื่อแปลกๆ ที่ว่าไม่แต่งเหมือนแต่ง ลื่อหมายความว่ายังไง"

"ไม่ได้มีความหมายอะไรเลยค่ะอาเตีย ไม่มีอะไรอย่างที่อาเตียกลัวด้วย หนูรับรอง"

กรองกาญจน์ตอบด้วยหน้าตานิ่งเฉยมาก แสดงความบริสุทธิ์ใจ เจ้าสัวจ้องตอบแล้วลุกขึ้นช้าๆ เอ่ยโดยไม่มองหน้าใคร

"ผู้ชายต้องให้เกียรติผู้หญิง ได้เขาเป็นเมียแล้วไม่ ยอมรับ ไม่ใช่ผู้ชาย"

ก้องเกียรติสะดุ้งวาบ เจ้าสัวหันไปเห็นลูกชายยืนอยู่ นอกห้องจึงร้องทัก แล้วหันกลับมาทางลูกสาว

"หมวยใหญ่ อาเตียจะคุยกับอาเฮียลื่อเรื่องผลประกอบการของบริษัท ลื่อมาฟังด้วย"

"หนูไม่อยากฟัง ปันผลแล้วใส่บัญชีหนูแล้วกันค่ะ" กรองกาญจน์พูดจบเดินออกจากห้องทันที ไทรรัตน์รีบยกมือไหว้เจ้าสัวกับเม่งฮวยแล้วเดินตามเธอออกไป

ooooooo

ครู่ต่อมา เจ้าสัวเดินนำหน้าก้องเกียรติไปใน ห้องส่วนตัว พอลูกชายปิดประตูห้องเสร็จหันมา เจ้าสัวก็เปรยขึ้นด้วยสีหน้าหนักใจ

"หมวยใหญ่อีประหลาด เป็นเมียเขาแล้วแต่ไม่ยอมแต่งงาน"

"อาเตียทราบได้ไงครับว่า หมวยใหญ่กับไทรรัตน์..." ก้องเกียรติอึกอักไม่กล้าพูดตรงๆ

"ผู้ชายกับผู้หญิงอยู่ใกล้กันเหมือนไม้ขีดไฟใกล้น้ำมัน เหมือนมดอยู่ใกล้ขนม เหมือนผีเสื้ออยู่ใกล้ดอกไม้ ลื่อคิดว่าจะมีผู้ชายคนไหนอดใจได้เหรอ"

ก้องเกียรติหน้าไม่ดี แต่เจ้าสัวไม่ทันสังเกต เดินไปนั่งเปิดแฟ้มบัญชีเล่มใหญ่

"อาจจะมี...ผู้ชายอย่างลื่อไงล่ะอาใหญ่ ร้อยคนมีคนเดียว"

"ถ้าหมวยใหญ่เกิดพลาดขึ้นมา แล้ว..."

"ท้องน่ะหรือ ลื่ออย่าลืมว่าสองคนนั่นเรียนหนังสือเมืองนอก เรื่องพวกนี้อีรู้ดี อีไม่ปล่อยท้องหรอก แต่ถ้าท้อง ไทรรัตน์ก็ต้องรับผิดชอบ ผู้ชายทำผู้หญิงท้องแล้วไม่รับผิดชอบก็เป็นหมาแล้ว"

คราวนี้ก้องเกียรติถึงกับนิ่งอึ้งไปเลย...ขณะเดียวกันนั้นที่สนามหน้าตึกเล็ก ไทรรัตน์กำลังเครียดจัดอยู่ต่อหน้ากรองกาญจน์ เพราะแน่ใจว่าเจ้าสัวรู้เรื่องของเราสองคนแล้ว แต่กรองกาญจน์กลับเฉยๆ แถมเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่ยี่หระ

"ไม่รู้ก็ไม่ใช่อาเตีย ท่านมีเมียกี่คนแล้วล่ะ"

"งั้นก็...ตามที่ท่านพูด แต่งงานกันซะเถอะ"

"ยังไม่แต่งหรอก"

"ระวังเถอะ ผมจะแต่งกับคนอื่นให้หมดเรื่องหมดราวไปเลย" ไทรรัตน์ยัวะ ผลุนผลันกลับไปทางตึกใหญ่ กรองกาญจน์ ไม่สนใจเดินเข้าตึกเล็กไปหน้าตาเฉย

ไทรรัตน์เดินกลับมาขึ้นรถที่จอดหน้าตึกใหญ่ พอจะออกรถปรากฏว่าซิลเวียโผล่พรวดมาเคาะกระจกข้างรถ เขาลดกระจกลงถามไถ่เธอว่าเป็นยังไงบ้าง ซิลเวียโอดครวญว่าอยากตาย พลางขอร้องให้เขาลงมาคุยกับเธอก่อน

"ตอนนี้ไม่ได้...โทร.หาผมตอน 3 ทุ่มแล้วกัน" เขาปิดกระจกแล้วออกรถทันที ไม่นึกว่าซิลเวียจะวิ่งตัดสนามไปดักหน้ารถอย่างไม่กลัวตาย

ไทรรัตน์ตกใจมาก เบรกรถตัวโก่งแล้วลงมากระชากเสียงถามเธอว่า

"ทำไมทำอย่างนี้ล่ะ"

"ฉันรอคุณมาทั้งวันแล้ว"

"ก็บอกแล้วว่าคืนนี้ค่อยคุยกันตอน 3 ทุ่ม"

"ไม่..."

"แล้วจะเอาไงซิลเวีย"

"ขอฉันไปกับคุณด้วย ฉันเบื่อ อยากไปให้พ้น นะ... ไซรัส Take me out please."

"ไม่ได้หรอก อาเตียรู้เข้าเราตายทั้งคู่แน่"

"เขาไม่สนใจหรอกว่าฉันจะอยู่หรือตาย ฉันแค่อยากไปพ้นที่นี่...For sometimes เท่านั้น...ฉันเบื่อ" ซิลเวียจ้องไทรรัตน์ด้วยสายตาวิงวอนสุดๆ

ooooooo

ก้องเกียรติขับรถกลับบ้านด้วยความไม่สบายใจ คำพูดของเจ้าสัวที่ก่นด่าผู้ชายได้ผู้หญิงเป็นเมียแล้วไม่รับผิดชอบยังกึกก้องอยู่ในหู...พอเข้ามาในบ้านไม่เห็นณฤดี เขาจึงเรียกสมปองมาถาม

"คุณผู้หญิงล่ะสมปอง"

"อยู่บนห้องค่ะ เห็นว่าจะนอนแล้ว คุณผู้ชายจะเอาอะไรรึเปล่าคะ"

"ขอยาแก้ปวดหัวเม็ดนึง ไม่ต้องบอกคุณผู้หญิงนะ ทานยาแล้วฉันจะทำงานต่อสักครู่"

สมปองรับคำแล้วไปจัดการเรื่องยา ส่วนก้องเกียรติเดินไปนั่งเหม่อหน้าทีวี นานเท่าไหร่เขาไม่รู้ แต่สะดุ้งสุดตัวก็ตอนได้ยินเสียงณฤดีเรียก

"คุณใหญ่...ได้ยินเสียงรถนานแล้ว เป็นอะไรคะ ปวดศีรษะหรือคะ" ณฤดีเห็นยากับแก้วน้ำที่วางอยู่ใกล้ๆ

"นิดหน่อยน่ะครับ"

"อาม้าโทร.มาบอกว่าอาเตียเรียกคุณใหญ่ไปกะทันหัน มีอะไรรึเปล่าคะ"

"ไม่มีอะไรหรอกครับ แต่คุณดี๋มีนักสืบประจำตัวแบบนี้ ผมต้องระวังตัวหน่อยแล้ว"

"ค่ะ คุณใหญ่ทำอะไรอย่าให้อาม้าทราบเท่านั้น" ณฤดีพูดยิ้มๆ

"คุณดี๋ล่ะครับ ถ้าทราบ..." ก้องเกียรติพยายามทำเสียงเล่นๆ แต่ลุกเดินกลบเกลื่อน

"เคยบอกแล้วไงคะ ถ้ามีอะไรๆแบบนั้นจริง คุณใหญ่ ไม่ต้องกลัวเรื่องอื้อฉาว เราไม่ต้องทะเลาะกันให้วุ่นวาย คุณใหญ่ สบายใจได้ค่ะ"

ก้องเกียรตินิ่งไป ณฤดีจึงเปลี่ยนเรื่อง

"ซัมเมอร์นี้น้าต๋อมจะไปเยี่ยมมิ มิก็เลยโทร.มาชวนเราไปด้วย คุณใหญ่จะชวนอาม้าไปด้วยก็ได้นะคะ"

"อาม้าคงไม่ไป ผมเองก็คงไปไม่ได้เพราะช่วงนี้งานยุ่ง คุณดี๋คงคิดถึงคุณแม่ ก็ไปเยี่ยมท่านสิครับ"

"คิดดูก่อนค่ะ คุณใหญ่ทำงานหนัก ดี๋ไม่อยากทิ้งไป ดี๋สิสบาย...ไม่ทำอะไรเลย"

ก้องเกียรติเดินมาใกล้ภรรยา กอดเธออย่างนุ่มนวลสุภาพ

"ผมสัญญากับคุณพ่อคุณแม่คุณว่าจะดูแลและไม่ทำให้ คุณดี๋เสียใจไปตลอดชีวิต จำได้มั้ยครับ"

"ตลอดชีวิตมันนานมากนะคะ คุณใหญ่ไม่ต้องสัญญานานขนาดนั้นก็ได้ กว่าจะถึงวันนั้นทุกอย่างเปลี่ยนแปลงกันได้ค่ะ ถ้าเมื่อไหร่ดี๋กลายเป็นสิ่งรกตาในบ้านที่คุณใหญ่ไม่อยากดูแลแล้วก็ขอให้บอก ให้ดี๋ได้จากไปอย่างที่อาจจะอยู่ในความทรงจำคุณใหญ่บ้าง ดีกว่าจะให้อยู่อย่างไร้ความหมาย"

น้ำเสียงเรียบๆ แต่แฝงไปด้วยความจริงจังของณฤดี ทำให้ก้องเกียรตินิ่งงันไปด้วยความทุกข์ที่เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

ooooooo

ค่อนข้าง​ดึก ไทร​รัตน์​พา​ซิ​ลเ​วี​ยก​ลับ​มา​ส่ง​หน้า​บ้าน​เจ้าสัว​หลังจาก​พา​เธอ​ออก​ไป​เที่ยว​บาร์​และ​เต้นรำ​กัน​อย่าง​สนุกสนาน ซิ​ลเ​วี​ย​ได้​ปลดปล่อย​อารมณ์​อัดอั้น​เบื่อ​หน่าย​ที่​สั่งสม​มา​เป็น​แรม​เดือน ส่วน​ไทร​รัตน์​เอง​ก็ได้​แก้​เซ็ง​เรื่อง​คู่หมั้น​ที่​แสน​จะ​เฉย​ชา

แม้​ว่า​รถ​จะ​จอด​สนิท​แล้วแต่​ซิ​ลเ​วี​ย​ยัง​อิดออด​ไม่​อยาก​ลง แล้ว​จู่ๆเธอ​ก็​โผ​เข้า​กอด​จูบ​ไทร​รัตน์​อย่าง​เร่าร้อน​รุนแรง ไทร​รัตน์​ไม่​ปฏิเสธ​แต่​ก็​ไม่​ตอบ​สนอง​อย่าง​เต็มที่ จน​ซิ​ลเ​วี​ย​เป็น​ฝ่าย​ผละ​ออก​มา

“ซิ​ลเ​วี​ย...​ขอ​ให้​คิด​ว่า​จูบ​เมื่อกี้​เป็น​ชีวิต​แบบ​อเมริกัน​สไตล์ คุณ​จูบ​ผม​เพราะ​เหงา ผม​จูบ​คุณ​เป็น​การ​ปลอบโยน เห็นใจ เข้าใจ​ว่า​คุณ Lonely ไม่​มี​อะไร​มาก​กว่า​นั้น”

“แต่​ฉัน​จูบ​คุณ คุณ​ก็​จูบ​ฉัน​ตอบ มัน​เป็น​จูบ​ที่จริง​จัง ยอม​รับ​เถอะ​ว่า​มัน​มี​อะไร​มาก​กว่า​นั้น ถึง​คุณ​ไม่​มี...แต่​ฉัน​มี”

“เรา​มี​ไม่ได้ คุณ​เป็น​ภรรยา​ของ​พ่อ​ของ​คู่หมั้น​ผม ผม​เห็นใจ​และ​เข้าใจ​คุณ​ทุก​อย่าง แต่​เมื่อ 15 ปี​ที่​แล้ว​คุณ​ได้​ตัดสินใจ​ไป​แล้ว ว่า​คุณ​จะ​ยอม​รับ...กับ​วัน​นี้...วัน​ที่​สามี​คุณ​อายุ​เกือบ 80 ปี คุณ​แลก​ความ​สวย​ความ​สาว​ของ​คุณ​กับ​ความ​ร่ำรวย”

คำ​พูด​ไทร​รัตน์​กระแทก​ใจ​ซิ​ลเ​วี​ยอ​ย่าง​แรง​จน​เธอ​อึ้ง​ไป​ครู่​หนึ่ง​ก่อน​จะ​ลง​จาก​รถ​ไป​ทั้ง​น้ำตา​คลอๆ

เหตุการณ์​ทั้งหมด​อยู่​ใน​สายตา​ของ​เยน​ห​ลิง​ที่​ยืน​มอง​มา​จาก​ชั้น​สอง เยน​ห​ลิง​ซึ่ง​ชิงชัง​ซิ​ลเ​วี​ย​ตั้งแต่​วัน​แรก​ที่​เหยียบ​ย่าง​เข้า​มา​ใน​บ้าน​หลัง​นี้ มี​หรือ​ที่​เห็น​ตำตา​อย่าง​นี้​แล้ว​เธอ​จะ​วาง​เฉย​อยู่​ได้

ซิ​ลเ​วี​ย​ชะงัก​กึก​เมื่อ​เห็น​เยน​ห​ลิง​ยืน​หน้า​ตึง​ตา​ขุ่น​อยู่​หน้า​ห้อง แต่​แล้ว​ซิ​ลเ​วี​ย​ก็​ปรับ​สีหน้า​ท่าที​เป็น​สบายใจ​จะ​เดิน​ผ่าน​ไป​ห้อง​ตัว​เอง

“หน้าด้าน!”

แม้​จะ​ไม่​เข้าใจ​ใน​คำ​ด่า​รุนแรง​นั้น แต่​ก็​ทำให้​ซิ​ลเ​วี​ย​หยุด​เดิน​หัน​มา​จ้อง​หน้า​เยน​ห​ลิง

“ทำ​อะไร​คิด​มั่ง อย่า​ลืม​สิ​ว่า​เป็น​ใคร ทำ​อะไร​อย่าให้​ นาย​ต้อง​อับอาย”

“อาย​เรื่อง​อะไร”

“นังอั้งม้อ​ไม่​มี​สมอง”

“เรียก​ฉัน​อั้งม้อ​เรื่อย​เลย​คุณนาย​สอง...แปล​ว่า​อะไร”

“คน​ป่า​เถื่อน สมอง​กลวง​มี​แต่​โพรง ข้าง​ใน​ว่าง​เปล่า สติปัญญา​สัก​นิด​ก็​ไม่​มี ปัญญาอ่อน​เสีย​เลย​ยัง​ดี​กว่า อย่าง​น้อย​พอ​มี​บ้าง ถึง​จะ​น้อย​นิด​แค่​ไหน​ก็​ยัง​ดี​กว่า​ไม่​มี​ซะ​เลย วันๆได้​แต่​กิน นอน แล้ว​สมสู่ ผิด​กับ​สัตว์​ที่​ตรง​ไหน”

“นี่​คุณนาย...ถ้า​จะ​ว่า​ซิ​ลเ​วี​ย​ต้อง​พูด​ช้าๆ ไม่​งั้น​ฉัน​ฟัง​ไม่​รู้​เรื่อง ทั้งหมด​ฉัน​กอง​ไว้​ตรง​นี้​แหละ” พูด​จบ​ซิ​ลเ​วี​ย​หัน​กลับ​ไป​ทันที เยน​ห​ลิง​โกรธ​จน​ตัว​สั่น คำราม​อย่าง​อาฆาตมาดร้าย

“อี​นัง​แหม่ม...กำเริบ​มา​ต่อปาก​กะ​ฉัน แก​ไม่​รู้จัก​ฉัน​ซะ​แล้ว กระเด็น​ไป​กี่​คน​แล้ว​แก​รู้​รึ​เปล่า”

แล้ว​เช้า​วัน​รุ่ง​ขึ้น​เยน​ห​ลิง​ก็​ตรง​ดิ่ง​ไป​ที่​ห้อง​ครัว ตะโกน​เรียก​พุ่ม​เอ็ดอึง​ราวกับ​องค์​ลง พุ่ม​กำลัง​นั่ง​หั่น​ผัก​เพลินๆ ถึง​กับ​สะดุ้ง​ตกใจ​รีบ​ลุก​ขึ้น​ยืน

“อุ้ย...คุณนาย​ที่​สอง มี​อะไร​เหรอ​คะ อุตส่าห์​ลง​มา​ถึง​นี่ เชิญ​ค่ะ เชิญ​นั่ง”

“แก​ก็​รู้​ว่า​ฉัน​ไม่​มี​วัน​นั่ง​ตรง​นี้”

“อ้าว แล้ว​คุณนาย​ที่​สอง​มี​อะไร​ล่ะ​คะ”

“นัง​พุ่ม...นัง​ลำยอง​หลาน​แก​น่ะ มัน​ติดต่อ​มา​หา​แก​มั่ง​รึ​เปล่า”

“ไม่​เลย​ค่ะ​คุณนาย นัง​นี่​มัน​ร้ายกาจ โกหก​ว่า​จะ​ไป​หา​แม่”

เยน​ห​ลิง​หน้า​กระตุก​นิดหน่อย เพราะ​ตอน​นั้น​เธอ​เป็น​คนใช้​ลำยอง​ไป​เอง แต่​พุ่ม​ไม่​รู้​เรื่อง​เลย​ด่า​ยาว

“อิฉัน​ก็​อุตส่าห์​จะ​ไป​เป็น​เพื่อน พอ​รุ่งเช้า​ดั๊น​พา​ลูก​หนี​ไป​ซะ​ได้ กี่​ปี​แล้ว​ละ​คะ​เนี่ย หาย​ไป​แล้ว​ก็​ไม่​รู้”

“พอ...พูด​มาก ถาม​นิดเดียว แก​พอ​จะ​หา​ทาง​ตาม​ตัว​มัน​ได้​มั้ย”

“ไม่ได้​ค่ะ”

“แก​ตอบ​แค่​นี้​เรอะ”

“อ้าว คุณนาย​ว่า​อิฉัน​พูด​มาก อิฉัน​ก็​ตอบ​แค่​นั้น​แหละ​ค่ะ”

“แล้ว​แก​ล่ะ จะ​ไป​หา​น้อง​สาว​แก​ได้​มั้ย”

“ไม่ได้หรอกค่ะ”

“ทำไม”

“เพราะ​อิฉัน​เกลียด​น้อง​เขย​อิฉัน มัน​เป็น​หมอ​ทำคุณ​ไส​ย”


“แล้ว​มัน​เป็น​ไง หมอ​ทำคุณ​ไส​ย”

“อุบาทว์​น่ะ​สิ​คะ พวก​เล่น​ของ​ทำคุณ​ไส​ย​มัน​พวก​อุบาทว์” พุ่ม​ลอยหน้า​ว่า​ไป​ตาม​ความรู้สึก​ของ​ตน โดย​ไม่​รู้​ว่า​เยน​ห​ลิง​แอบ​สะอึก เพราะ​เยน​ห​ลิง​เอง​ก็​ชอบ​ใช้​วิธี​อุบาทว์​นี้​จัดการ​กับ​ศัตรู​หัวใจ

เมื่อ​ไม่ได้​อย่าง​ใจ​คิด​แถม​ยัง​เหมือน​ถูก​ด่า​ซึ่งหน้า

เยน​ห​ลิง​อารมณ์​เสีย​ปัง​ปึ​งก​ลับ​ขึ้น​ไป​บน​ห้อง เรียก​เง็ก​ที่​กำลัง​จัด​เตียง​นอน​มา​ถาม​ว่า มี​โทรศัพท์​ถึง​ตน​บ้าง​ไหม

“ไม่​มี​ฮ่ะ”

เยน​ห​ลิง​ฟัง​แล้ว​ห่อเหี่ยว​หมด​แรง หน้า​หมอง​เศร้า ถาม​เสียง​แผ่ว

“เง็ก...​แก​คิด​ว่า​เพราะ​อะไร​คุณ​หนู​ยี่​ห​รง​กับ​ยี่​ฮุย​ตั้งแต่​ไป​เรียน​เมืองนอก​ไม่ค่อย​ติดต่อ​หา​ฉัน​เลย”

“เรียน​หนัก​มั้ง​ฮะ”

“เรียน​หนัก​จน​ไม่​มี​เวลา​พูด​กับ​แม่​เลย​รึ​ไง...เง็ก แก​ออก​ไป​ก่อน”

เห็น​นาย​น้ำตา​คลอ​เต็มตา เง็ก​พลอย​ไม่สบาย​ใจ​ไป​ด้วย แต่​จำ​ต้อง​ถอย​ออก​ไป​ตาม​คำสั่ง...แล้ว​เยน​ห​ลิง​ก็​ซบ​หน้า​กับ​โต๊ะ​ร้องไห้​สะอึกสะอื้น​น้อยใจ​คิดถึง​ลูก และ​อัดอั้น​ที่​ไม่ได้​จัดการ​กับ​ซิ​ลเ​วี​ยอย่าง​ที่​ตั้งใจ

ooooooo

หลังจาก​ทำ​งาน​ครบ 7 วัน เร​ยาก​ลับ​มา​บ้านด้วย​ ความ​เหนื่อย​ล้า ลำยอง​เห็น​แล้ว​สงสาร กุลีกุจอ​เอาใจ​ลูก​สาว​ทั้ง​เสิร์ฟ​น้ำส้ม​และ​เปิด​แอร์​ให้​เย็น​ฉ่ำ​ เร​ยา​เอนตัว​ลง​กับ​โซฟา​หลับตา​พูด​กับ​แม่​ได้​ไม่​กี่​คำ​ก็​บอก​ว่า​ฟ้า​จะ​นอน ถ้า​มี​โทรศัพท์​แม่​ไม่​ต้อง​เรียก...

พูด​ขาดคำ เสียง​มือ​ถือ​เร​ยา​ดัง​ขึ้น​ทันที ลำยอง​เปิด​กระเป๋า​สะพาย​ของ​ลูก​หยิบ​มือ​ถือ​ออก​มา

“แม่​บอก​ว่า​ฟ้า​หลับ​แล้วกัน ขี้เกียจ​พูด”

ลำยอง​กด​รับ​และ​ทำ​ตาม​ที่​ลูก​บอก แต่​พอ​เร​ยา​ได้ยิน​แม่​เอ่ย​ชื่อ​คุณ​ใหญ่ เธอ​ก็​ลุก​พรวด​คว้า​มือ​ถือ​ไป​จาก​มือ​แม่​ทันที

“ฟ้า​พูด​ค่ะ เพิ่ง​กลับ​มา​ถึง​ค่ะ คุณ​ใหญ่​โทร.​กี่​ครั้ง​แล้ว​คะ” เร​ยา​เสียง​ใส สีหน้า​ปราศจาก​ความ​เหน็ดเหนื่อย เดิน​กึ่ง​วิ่ง​ขึ้น​ไป​คุย​ต่อ​บน​ห้อง ทิ้ง​ลำยอง​ยืน​งง​อยู่​ตรง​นั้น

“ฟ้า​เพิ่ง​เปิด​เครื่อง​ค่ะ ดีใจ​ที่สุด​ที่​คุณ​ใหญ่​โทร.​หา​ฟ้า”

“ผม...จะ​ขอ​นัด​ฟ้า​ให้​มา​พบ แต่​ผม​จะ​ไม่​รบกวน​เวลา​ฟ้า​นาน​หรอก​ครับ”

“ค่ะๆ ฟ้า​ไป​พบ​คุณ​ใหญ่​ได้​ทุก​ที่ ทุก​เวลา แล้ว​ก็​ไม่​เป็น​การ​รบกวน ฟ้า​มี​เวลา​ให้​คุณ​ใหญ่​เสมอ​ค่ะ ร้าน​อาหาร​หรือ​สวนสาธารณะ​ไหน​ดี​คะ”

“ขอบคุณ​ฟ้า​มาก​ครับ แต่​ผม​ขอ​เป็น​ที่​ที่​คน​ไม่​เยอะ หรือ​ว่า​จะ​เป็น​ต่าง​จังหวัด...แต่​ก็...เอ้​อ จะ​ยุ่งยาก​เกินไป”

“ที่​ที่​คน​ไม่​เยอะ หรือ​ว่า​จะ​เป็น​ที่​บ้าน​ฟ้า ถ้า​คุณ​ใหญ่​ไม่​รังเกียจ”

“ไม่​ดี​กว่า​ครับ ผม​ไม่​อยาก​รบกวน​คุณ​แม่​ฟ้า หรือ​คน​ที่​บ้าน​ฟ้า ผม​อยาก​พูด​กับ​คุณ​แค่​สอง​คน​เท่านั้น เอาเป็นว่า​ที่ไหน เดี๋ยว​ผม​บอก​อีก​ที​ดี​กว่า ขอโทษ​นะ​ครับ​ที่​ทำให้​ยุ่งยาก”

“คุณ​ใหญ่​กลัว​คน​เห็น​เหรอ​คะ”

“ครับ...ผม​กลัว​คน​เห็น”

เร​ยา​ได้ยิน​แล้ว​น้ำตา​แทบ​ร่วง แต่​แข็ง​ใจ​เอ่ย​ออก​ไป

“ฟ้า​เข้าใจ​ค่ะ แต่​ถ้า​ไม่​อยาก​ให้​คน​เห็น​จริงๆ ก็​ต้อง​เป็น​ที่​บ้าน​ฟ้า แต่​ถ้า​คุณ​ใหญ่​ไม่สบาย​ใจ ฟ้า​จะ​ลอง​ขอยืม​บ้าน​เพื่อน​ที่​ไว้ใจ​ได้ จะ​ขอ​ให้​เขา​ออก​จาก​บ้าน​ไป​ก่อน​ตอน​ที่​ฟ้า​ยืม​บ้าน​เขา​เป็น​ที่​ตกลง​ปัญหา​ชีวิต”

ก้อง​เกียรติ​นิ่ง​ไป​อย่าง​รู้สึก​ผิด จังหวะ​นี้​เอง​วิมล​เคาะ​ประตู​หน้า​ห้อง​ก่อน​เดิน​เข้า​มา​กระซิบ​บอก​เจ้านาย​ว่า แขก​ที่​นัด​ไว้​มา​แล้ว...ก้อง​เกียรติ​จึง​รวบรัด​กับ​เร​ยา

“ผม​ขอโทษ​นะ​ครับ เผอิญ​มี​แขก​ที่​นัด​ไว้​มา​พบ ตกลง​เป็น​ที่​ว่า​นี้​ก็ได้​ครับ”

“ที่​ว่า​นี้...ที่​บ้าน​ฟ้า​นะ​คะ”

“ครับๆ ขอโทษ​นะ​ครับ เท่า​นี้​ก่อน”

เร​ยา​วาง​สาย​ด้วย​รอย​ยิ้ม​ที่​มาดหมาย จาก​นั้น​ก็​ลง​มา​ช่วย​แม่​ทำ​อาหาร​กลางวัน​และ​พูด​คุยหยอก​ล้อ​แม่​อย่าง​อารมณ์​ดี ลำยอง​รู้สึก​ประหลาด​ใจ​แต่​ก็​ไม่​พูด​หรือ​ถาม​อะไร​ให้​เสีย​บรรยากาศ

หลัง​อาหาร​มื้อ​ที่​แสน​อร่อย​และ​อบอวล​ไป​ด้วย​ความ​สุข เร​ยา​ยัง​ใจดี​พา​ลำยอง​ไป​ไหว้​พระ​ที่​วัด​ใกล้​บ้าน...ช่วง​เวลา​นี้​เอง คน​เป็น​แม่​รู้สึก​อิ่มเอม​ใจ​และ​เพลิดเพลิน​มาก แต่​หา​รู้​ไม่​ว่า​ลูก​สาว​เบื่อ​มาก​ที่​ต้อง​ทำ​อะไร​ฝืน​ใจ​ตัว​เอง

พอก​ลับ​ถึง​บ้าน เร​ยา​จอม​แผนการ​ก็​คิด​อ่าน​ต่อ​ไป​ว่า​จะ​พูด​อย่างไร​กับ​แม่​ดี​เพื่อ​ให้​แม่​ไป​จาก​บ้าน​หลัง​นี้​เป็น​การ​ชั่วคราว

“แม่...แม่​อยาก​ไป​ทำ​งาน​กับ​แหม่ม​มั้ย”

ลำยอง​ละ​มือ​จาก​งาน​บ้าน​หัน​ไป​มอง​หน้า​ลูก​สาว​อย่าง​พิศวง

“ทำไม​เหรอ​ลูก”

“ฟ้า​ถาม​แม่...แม่​ยัง​อยาก​ไป​อยู่​รึ​เปล่า”

“แหม่ม​คง​มี​คน​ใหม่​แล้ว มัน​นาน​แล้ว​นี่ ฟ้า​พูด​เรื่อง​นี้​กับ​แม่​ทำไม”

“ก็...ฟ้า​เห็น​แม่​เหงา​น่ะ วัน​นี้​ที่​ไป​วัด ฟ้า​รู้สึก​ว่า​แม่​มี​ความ​สุขมาก ฟ้า​ก็​เลย​คิด​ว่า​ถ้า​แม่​ได้​ไป​ทำ​งาน​ให้​แหม่ม​อีกอย่าง​หนึ่ง แม่​ก็​คง​มี​ความ​สุข​ที่สุด ลอง​โทร.​ไป​ถาม​แหม่ม​ดู​นะ​แม่​นะ”

ลำยอง​ยิ้ม​ตื้นตันใจ​มาก พยัก​หน้า​แล้ว​เดิน​ไป​ที่​เครื่อง​โทรศัพท์​บ้าน ยก​หู​ไป​หา​นาย​แหม่ม ปรากฏ​ว่า​ทาง​โน้น​ได้​คนใช้​ใหม่​แล้ว​จริงๆ เร​ยา​อึ้ง​​เล็กน้อย แต่​แล้ว​เธอ​ก็​รีบ​ร้อน​ออก​จาก​บ้าน​ไป​โดย​ไม่​บอก​แม่​ว่า​ไป​ไหน

ไม่​นาน​นัก​เร​ยา​ก็​มา​ปรากฏ​ตัว​ที่​บ้าน​นาย​แหม่ม ซึ่ง​การ​มา​ครั้ง​นี้​ของ​เร​ยา​ทำให้​นาย​แหม่ม​แปลก​ใจ​เป็น​อย่าง​มาก เร​ยา​ต้องการ​ให้​แม่​ลำยอง​กลับ​มา​ทำ​งาน​รับ​ใช้​นาย​แหม่ม​อีก โดย​อ้าง​ว่า​เป็น​ความ​สุข​ของ​แม่ และ​เท่า​ที่​เธอ​สังเกต​​คนใช้​ใหม่ที่​นาย​แหม่ม​ได้​มา​ก็​ยัง​ไม่ค่อย​เป็น​งาน

เหตุผล​ของ​เร​ยา​ทำให้​นาย​แหม่ม​ยินยอม​แต่​โดย​ดี เพราะ​ลึกๆใน​ใจ​เธอ​ก็​อยาก​ได้​ลำยอง​ที่​รู้จัก​รู้​ใจ​กัน​มา​นาน​มา​ช่วย​ทำ​งาน​บ้าน​ให้​อยู่​แล้ว ต่อ​มา​เมื่อ​เร​ยาก​ลับ​ไป​บอก​ข่าว​ดี​นี้ ลำยอง​ถึง​กับ​ยิ้ม​หน้าบาน โอบ​กอด​และ​ขอบใจ​ลูก​สาว​ที่​อุตส่าห์​ ไป​พูด​กับ​นาย​แหม่ม​เพื่อ​แม่

“นานๆ ฟ้า​จะ​เป็น​ลูก​สาว​ที่​ดี​ของ​แม่ ทุกที​ฟ้า​ไม่​ดี​นี่ ใช่​มั้ย​แม่” เร​ยา​บีบ​แก้ม​แม่​หยอกๆ

“แม่​ไม่​เคย​เห็น​ฟ้า​ไม่​ดี ลูก​แม่​ดี​เสมอ​สำหรับ​แม่”

“ดี​ยัง​ไง​เหรอ​แม่”

“ก็​ฟ้า​มี​งาน​ดีๆทำ เลี้ยง​แม่​มี​ความ​สุข ไม่​มี​เสีย​เรื่อง ​ผู้ชาย​พาย​เรือ”

คำ​พูด​ของ​แม่​ทำให้​เร​ยา​สะอึก​อึ้ง​ไป​ใน​บัดดล ขณะ​ที่​คน​เป็น​แม่​ยัง​แย้ม​ยิ้ม ลูบ​หลัง​ไหล่​ลูก​สาว​อย่าง​ปลาบปลื้ม

ooooooo

หลังจาก​ตัดสินใจ​ติดต่อ​นัดหมาย​เร​ยา​ไป​แล้ว​เมื่อ​วัน​ก่อน พอ​เที่ยง​วัน​นี้​มี​โอกาส​เจอ​โจ​กับ​เต้​ที่​งาน​เลี้ยง​สังสรรค์​ใน​กลุ่ม​เพื่อน ก้อง​เกียรติ​จึง​ลอง​ให้​โจ​ร่าง​ข้อ​ตกลง​ระหว่าง​ตัว​เอง​กับ​เร​ยา​ขึ้น​มา

“ฉัน​จะ​รับ​เป็น​พ่อ​ของ​เด็ก จะ​จดทะเบียน​รับ​เด็ก​เป็น​ลูก ฉัน​จะ​ไป​หา​เขา​เท่า​ที่​ฉัน​จัด​เวลา​ได้ เขา​ไม่​มี​สิทธิ์​มา​เรียก​ร้อง​อะไร​จาก​ฉัน​ทั้งสิ้น เมื่อ​ลูก​เกิด​มา​เขา​ต้อง​เป็น​คน​เลี้ยง​คน​เดียว ฉัน​จะ​ให้​ค่า​เลี้ยงดู​สำหรับ​เด็ก ไม่​เกี่ยว​กับ​แม่ ความ​รับผิดชอบ​ของ​ฉัน​ต่อ​เด็ก​จะ​สิ้นสุด​ลง​เมื่อ​เด็ก​อายุ 21 ปี ที่​โรงเรียนเขา​ต้อง​เป็น​ผู้​ปกครอง​คน​เดียว”

ก้อง​เกียรติ​อ่าน​ข้อ​ตกลง​นั้น​แล้ว​หน้าตา​ไม่ค่อย​สบายใจ​ขึ้น​เรื่อยๆ

“ฉัน​ขอ​ดู​หน่อย​สิ” เต้​ดึง​สมุด​จาก​มือ​ก้อง​เกียรติ​มา​อ่าน​อย่าง​รวดเร็ว “อืม...​ก็​โอ​เค ไอ้​โจ​แก​ก็​คิด​รอบคอบ​ดี​นี่​ห​ว่า แต่​ขาด​เรื่อง​สำคัญ​สอง​เรื่อง​คือ เรื่อง​เงิน​เขา​จะ​ไม่​มี​สิทธิ์​มา​เรียก​ร้อง​ค่า​อะไร​ทั้งสิ้น​ของ​ตัว​เขา ถ้า​จะ​มี​การ​ให้​เงิน ไม่​เกี่ยว​กับ​ภาระจำยอม​ใดๆ แต่​เป็น​ไป​โดย​ความ​เต็มใจ​ของ​แก​คน​เดียว แล้ว​เรื่อง​สำคัญ​ที่สุด ให้​ไอ้​ใหญ่​ไป​หา​เขา​ตาม​เวลา​ที่​มัน​จะ​ไป พูด​ง่ายๆเขา​จะ​มา​เรียก​มัน​ไป​หา​ตามใจชอบ​ไม่ได้”

“ไม่​ถูก​เหรอ” โจ​ทำ​หน้า​งงๆ

“ถูก...เก่ง​มาก​ไอ้​ลูก​ชาย แต่​ฉัน​ถาม​คำ​หนึ่ง ถ้า​เขา​เป็น ​ฝ่ายมา​ล่ะ เขา​มา​ได้​ตลอด​เวลา​ใช่​มั้ย เขียน​ไป​ด้วย​ว่า​เขา​จะ​มา​หา​ไอ้​ใหญ่​ไม่ได้ ถ้า​ไม่​มี​การ​นัดหมาย​สถาน​ที่​และ​เวลา​ล่วงหน้า จะ​เปลี่ยนแปลง​โดย​ไม่​แจ้ง​เวลา​ล่วงหน้า  อย่าง​เช่น  นัด  10  โมง  มา 9  โมง​อย่าง​เนี้ย...ไม่ได้ และ​สุดท้าย...สำคัญ​มาก  สรุป​ไป​ใน​ข้อ​สุดท้าย​ว่า ถ้า​ฝ่าย​หนึ่ง​ฝ่าย​ใด​ผิด​สัญญา​แม้แต่​ข้อ​เดียว สัญญา​นี้​เป็น​โมฆะ​ทันที”

ก้อง​เกียรติ​นิ่ง​ฟัง​ด้วย​ความ​ไม่สบาย​ใจ​ตลอด​เวลา แล้ว​ยกมือ​เหมือน​จะ​ห้าม แต่​เต้​ชิง​ดักคอ​เสีย​ก่อน​อย่าง​รู้ทัน

“ใหญ่...แก​ห้าม​ใจอ่อน ฉัน​ดู​ผู้หญิง​คน​นี้​ออก เดี๋ยว​พอ​เขา​เล่น​แง่ เล่นตัว​เรียก​เงิน แก​จะ​เดือดร้อน​แสน​สาหัส”

“ฉัน​ขอโทษ แต่​ฉัน​ทำ​ไม่ได้​ที่​จะ​ยื่น​เงื่อนไข​หมด​นี่​กับ​เขา”

“ทำไม” เต้​เริ่ม​เสียงแข็ง

“ฉัน...เห็นใจ​เขา เขา​เสียหาย​อยู่​แล้ว ฉัน​คุย​ดู​ก่อน แล้ว​จะ​ค่อยๆบอก​เขา”

“ถ้า​ไม่​มี​ลายลักษณ์​อักษร แก​คอย​เจอ​ความ​ยุ่งยาก​แล้วกัน​ไอ้​ใหญ่ แล้ว​นี่​นัด​เขา​ที่ไหน อย่า​บอก​นะ​ว่า​นัด​ที่​บ้าน​เขา”

แม้​ก้อง​เกียรติ​จะ​ไม่​ตอบ แต่​หน้าตา​ก็​ฟ้อง​ว่า​เป็น​อย่าง​นั้น ทั้ง​เต้​และ​โจ​เลย​พา​กัน​ถอน​หายใจ​ดัง​เฮือก​อย่าง​หนักใจ​แทน แล้ว​ก็​ช่วย​กัน​สำทับ​เพื่อน​แสน​ซื่อ​ว่า ถึง​วัน​นัด​อย่า​ให้​เขา​พา​ขึ้น​ห้อง​ได้​เป็นอันขาด!

ooooooo

เช้า​วัน​นัด​กับ​เร​ยา ก้อง​เกียรติ​จำ​ต้อง​โกหก​ณ​ฤดี​ว่า​วัน​นี้​ตน​ต้อง​ออก​ไป​ตรวจ​ตลาด ส่วนเร​ยา​หลัง​วาง​แผน​ไว้​ดิบดี​ก็​รีบ​ส่ง​แม่​ลำยอง​ขึ้น​รถ​แท็กซี่​ที่​เรียก​มา​จอด​รอ​ถึง​หน้า​บ้าน และ​ใจดี​บอก​แม่​ว่า​ไม่​ต้อง​รีบ​กลับ​ก็ได้ วัน​นี้​ตน​อยู่​บ้าน​ทั้ง​วัน

พอ​แท็กซี่​เคลื่อน​ออก​ไป​แล้ว เร​ยา​ก็​ยิ้ม​ร่า​วิ่ง​เข้า​บ้าน​มา​แต่งตัว​แต่งหน้า​เพื่อ​รอ​ต้อนรับ​ก้อง​เกียรติ เมื่อ​เขา​มา​ถึง​เร​ยา​ก็​ไม่​รอ​ช้า ทำ​ราวกับ​รัก​เขา​เต็มประดา โผ​เข้า​กอด​จูบ​เขา​อย่าง​โหย​หา ทั้งที่​ความ​จริง​แล้ว​เร​ยา​ต้องการ​จะ​ท้อง​ให้​ได้

ก้อง​เกียรติ​เหมือน​จะ​เคลิ้ม​ไป​กับ​รส​สัมผัส​นั้น แต่​จู่ๆ เขา​ก็​ดึง​ตัว​เอง​ออก​ห่าง บอก​กับ​เธอ​ว่า ขอ​น้ำ​ดื่ม​สัก​แก้ว​หนึ่ง เร​ยา​จึง​ต้อง​ลุก​ออก​ไป​ทาง​ครัว แต่​ครู่​เดียว​เธอ​ก็​กลับ​มา​พร้อม​น้ำ​เย็น​หนึ่ง​แก้ว

หลังจาก​เขา​ดื่ม​น้ำ​แล้ว เร​ยา​จะ​ไป​เอา​กาแฟ​มา​ให้​อีก แต่​เขา​รีบ​ยกมือ​ห้าม เร​ยา​จึง​เดิน​มา​นั่ง​ลง​ข้างๆ ถาม​ด้วย​เสียง​ออดอ้อน​ว่า เขา​รัก​เธอ​บ้าง​ไหม แม้​สัก​นิดหนึ่ง...

“ผม​เคย​บอก​แล้ว​ว่า สำหรับ​ผม...ความ​รัก​ไม่ได้​เกิด​ขึ้น​ได้​อย่าง​รวดเร็ว ผม​รัก​คน​ยาก”

“ก่อน​ที่​จะ​แต่งงาน​กัน คุณ​ใหญ่​กับ​ภรรยา​รัก​กัน​มา​นาน​ไหม​คะ”

“เรา​ไม่ได้​รัก​กัน​มา​ก่อน​ครับ เรา​แต่งงาน​กัน​ด้วย​วิธี​โบราณ​ที่​เรียก​ว่า​คลุมถุงชน ผู้ใหญ่​ทั้ง​สอง​ฝ่าย​เห็น​เรา​เหมาะสม​กัน ก็​จัดการ​สู่ขอ​ให้​เรา​แต่งงาน​กัน”

“ไม่​รัก​แต่​ทำไม​ยอม​คะ”

“เพื่อ​ความ​สบายใจ​ของ​พ่อ​แม่ ท่าน​อยาก​ให้​ผม​ที่​เป็น​ลูก​ชาย​คน​โต​แต่งงาน​มี​ครอบครัว เพราะ​ท่าน​แก่​แล้ว​ทั้ง​คู่”

“แล้ว​ตอน​นี้...คุณ​ใหญ่​รัก​ภรรยา​ไหม​คะ”

“รัก​ครับ ผม​ว่า​เป็น​เรื่อง​ธรรมดา อยู่​ด้วย​กัน ดี​ต่อ​กัน ไม่​มีเรื่อง​ที่​ขุ่นมัว​ต่อ​กัน ใน​ที่สุด​ก็​ต้อง​รัก​กัน​อยู่​แล้ว”

“แล้ว​ภรรยา​คุณ​ใหญ่​รัก​คุณ​ใหญ่​มาก​ไหม​คะ”

“ผม​ไม่​เคย​ถาม​และ​เขา​ก็​ไม่​เคย​บอก เรา​อยู่​กัน​อย่าง​ไม่​หวือ​หวา ชีวิต​เขา​เรียบๆ ผม​ก็​เรียบๆ พูด​น้อย​ทั้ง​คู่”

“ทำไม...ฟ้า​ถึง​พบ​คุณ​ใหญ่​ช้า​ไป ทำไม​ฟ้า​ไม่​พบ​ก่อน​หน้า​คุณ​ใหญ่​แต่งงาน”

“ผม​แต่งงาน​สิบ​กว่า​ปี​แล้ว​นะ​ครับ ฟ้า​เพิ่ง​อายุ​ยัง​ไม่​สิบ​ขวบ​มั้ง”

“ฟ้า​เชื่อ​ว่า​ฟ้า​จะ​รัก​คุณ​ใหญ่​ได้ คุณ​ใหญ่​เป็น​ผู้ชาย​ที่​ผู้หญิง​ทุก​คน​จะ​มี​ความ​สุข​ที่สุด ถ้า​คุณ​ใหญ่​รัก ทำไม​คุณ​ใหญ่​ไม่​รัก​ฟ้า ไม่​รัก​ฟ้า​ซัก​นิด​เลย​หรือ​คะ” เร​ยา​บีบน้ำตา​โอดครวญ​ชวน​สงสาร

ได้​ผล...ก้อง​เกียรติ​ใจอ่อน​เอื้อม​มือ​มา​โอบ​บ่า​เร​ยา​ที่​เริ่ม​สะอื้น เร​ยา​ลอบ​ยิ้ม​และ​พยายาม​จะ​รุก​ล้ำ​ทำ​มาก​กว่า​โอบ​กอด แต่​ก้อง​เกียรติ​ไม่​โอนอ่อน กลับ​จับ​ตัว​เธอ​ให้​นั่ง​ตรงๆ

“ผม​มี​เรื่อง​จะ​พูด​กับ​ฟ้า​หลาย​เรื่อง...ผม​จะ​ทำ​หนังสือ​รับรอง​ความ​เป็น​บิดา...เรียก​อย่าง​นี้​หรือ​เปล่า​ไม่​แน่ใจ แต่​รับรอง​ว่า​เด็ก​เป็น​ลูก​ผม ผม​จะ​มา​ดูแล​ฟ้า​บ้าง​ตาม​ที่​ผม​จะ​มา​ได้ ฟ้า​ต้องการ​อะไร​บอก​ผม ผม​จะ​จัดหา​ให้​ทุก​อย่าง ผม​คิด​ว่า​คง​เป็น​เรื่อง​ยา​บำรุง เรื่อง​อาหาร เรื่อง...”

“จะ​พา​ฟ้า​ไป​ฝากท้อง​ไหม​คะ” เร​ยา​ถาม​สวน​คำ​ทั้งที่​เขา​ยัง​พูด​ไม่​จบ

“ผม...เอ้​อ...ผม​ต้อง​ไป​ใช่​ไหม​ครับ”

“ค่ะ...แต่​ไม่​ต้อง​ก็ได้ ฟ้า​ไป​ฝาก​เอง​ได้ ฟ้า​เข้าใจ​ค่ะ ​คุณ​ใหญ่ ฟ้า​เข้าใจ​สถานภาพ​ของ​ตัว​เอง​ดี​ว่า​ฟ้า​เรียก​ร้อง​อะไร​ไม่ได้ ทุก​อย่าง​แล้วแต่​คุณ​ใหญ่​จะ​เมตตา ลูก​ออก​มา​แล้ว​จะ​เรียก​พ่อ ก็​อาจจะ​ไม่ได้​ด้วย​ซ้ำ”

พูด​จบ​เร​ยา​ก็​ลุก​ขึ้น​สะอื้น​แรงๆ แล้ว​วิ่ง​ขึ้น​บันได​ไป​ข้าง​บน​ทันที ก้อง​เกียรติ​ลุก​ตาม​โดย​อัตโนมัติ แต่​มา​หยุด​ชะงัก​อยู่​แค่​ประตู​ที่​เปิด​กว้าง​มอง​เห็น​เร​ยา​สะอึกสะอื้น​บน​เตียง​นอน เขา​กวาดตา​ไป​ทั่ว​ห้อง​เห็น​โต๊ะ เก้าอี้ ห้องน้ำ ทุก​อย่าง​คือ​ความ​เป็น​ที่​รโหฐาน​ที่​ตัว​เอง​ตั้งใจ​จะ​ไม่​ขึ้น​มา แถม​เพื่อน​ยัง​เตือน​ไว้​ล่วงหน้า

“คุณ​ใหญ่​กลับ​ไป​ก่อน​เถอะ​ค่ะ ฟ้า​อยาก​อยู่​คน​เดียว... ช่วย​ปิด​ประตู​ให้​ฟ้า​ด้วย”

เร​ยา​แผน​สูง ทำให้​เขา​อึกอัก​ลังเล แล้ว​เธอ​ก็​เดิน​เช็ดน้ำ​ตา​เข้า​ห้องน้ำ​ไป แต่​ทุก​อย่าง​ก็​ยัง​นิ่ง​สนิท คราว​นี้​เร​ยา​ ถึง​กับ​ร้องไห้​โฮ รู้สึก​สิ้น​หวัง​อย่าง​มาก...หลังจาก​ล้าง​หน้า​แล้ว​กลับ​ออก​มา เธอ​คิด​ว่า​จะ​ไม่​เห็น​เขา​อีก​แล้ว แต่​ผิด​คาด เขา​เข้า​มา​ยืน​อยู่​ใน​ห้อง​ด้วย​สีหน้า​ท่าที​อัดอั้นตันใจ

“คุณ​ใหญ่...” เร​ยา​โผ​เข้าไป​กอด​จูบ​เขา​และ​พร่ำ​รำพัน​ขอ​ความ​รักเป็นการใหญ่...

ใน​ที่สุด ก้อง​เกียรติ​ก็​หมด​ความ​เหนี่ยวรั้ง​ตัว​เอง ตอบ​สนอง ​เร​ยา​อย่าง​ลืมตัว

ooooooo

กลับ​ถึง​บ้าน​ใน​คืน​นั้น ก้อง​เกียรติ​รู้สึก​ผิด​มากๆ ต่อ​ณ​ฤดี พอ​เช้า​ขึ้นจึง​แก้ตัว​ด้วย​การ​ชวน​เธอ​ออก​ไป​เที่ยว​ด้วย​กันในคืน​นี้...

ณ​ฤดี​ค่อนข้าง​ประหลาด​ใจ​แต่​ก็​ไม่​ขัดใจ​สามี แต่​ใน​ระหว่าง​ที่​สอง​สามี​ภรรยา​เต้นรำ​มี​ความ​สุข​อยู่​ใน​ไนต์คลับ

เร​ยา​อยู่​ที่​บ้าน​กำลัง​จดจ่อ​อยู่​กับ​โทรศัพท์​มือ​ถือ เพราะ​วัน​นี้​ทั้ง​วัน​ก้อง​เกียรติ​ไม่​ติดต่อ​กลับ​มา​เลย

รอ​จน​รู้สึก​ว่าความ​หวัง​ริบหรี่​ลง​ทุกที เร​ยา​ตัดสินใจ​ส่ง​ข้อความ​ไป​ถึง​เขา​ว่า “คิดถึง​คุณ​ใหญ่​เหลือเกิน” แต่​จนแล้ว จนรอด​เขา​ก็​ยัง​เงียบเชียบ ทำให้​เธอ​กระ​วน​กระ​วาย​หนัก​ขึ้น และ​พาล​มอง​แม่​ตาขวาง แต่​ลำยอง​ไม่​รู้​เรื่อง​เพราะ​กำลัง​สนุก​กับ​รายการ​ตลก​ใน​จอ​ทีวี

เมื่อ​รอ​จน​ทน​ไม่​ไหว​เร​ยา​จึง​เป็น​ฝ่าย​โทร.​ไป​หา​เขา พอดี​ก้อง​เกียรติ​กับ​ณ​ฤดี​ออก​จาก​ฟลอร์​เต้นรำ​กลับ​มา​ที่​โต๊ะ ณ​ฤดี​เหลือบ​เห็น​โทรศัพท์​มือ​ถือ​ก้อง​เกียรติ​มี​แสง​ไฟ​กะพริบ​จึง​หยิบ​ขึ้น​มา​ดู​เบอร์

“เบอร์​ใคร​ไม่​รู้​ค่ะ R.J.”

ก้อง​เกียรติ​ใจ​เต้น​แรง รับ​โทรศัพท์​จาก​ณ​ฤดี​มา​กด​รับ แล้ว​บอกปัด​เร​ยา​ที่​พยายาม​ถาม​มา​ว่า​เขา​อยู่​ที่ไหน

“ที่​นี่​เสียง​ดัง​มาก ไม่ได้​ยิน​ครับ ผม​จะ​โทร.​กลับนะ​ครับ สวัสดี​ครับ”

ก้อง​เกียรติ​ตัด​สาย​ทันที ณ​ฤดี​ถาม​อย่าง​อาทร​ว่า​ด่วน​หรือ​เปล่า ถ้า​ด่วน​เรา​กลับ​กัน​เถอะ เขา​จะ​ได้​รีบ​โทร.​กลับ​ไป

“ไม่​ครับ ไม่​ด่วน ผม​อยาก​เต้นรำ​ต่อ” เขา​วาง​โทรศัพท์​ลง​ที่​เดิม​แล้ว​พา​ภรรยา​ออก​ไป​เต้นรำ...ปล่อย​ให้​เร​ยา​ผิดหวัง​เสียใจ​แทบ​คลุ้มคลั่ง วิ่ง​ร้องไห้​ขึ้น​ไป​ขัง​ตัว​เอง​ใน​ห้อง โดยที่​ลำยอง​ไม่​รู้​สาเหตุอีก​เช่น​เคย

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น