วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2554

เคหาสน์สีแดง ตอนที่ 7

ตอนที่ 7

เสาวรสกลับถึงบ้านในตอนกลางคืน พระศัลย์ฯ เอาจดหมายกับสร้อยเงินของภาคินัยมาถามว่าทำไมทิ้งของอย่างนี้ เธอบอกว่าเพราะไม่ต้องการ อะไรที่ตนอยากได้ก็ต้องได้ และอะไรที่ตนไม่อยากได้ ก็ต้องพ้นทางไป แล้วถามพ่อว่าเรื่องพิศเรียบร้อยแล้วใช่ไหม

พระศัลย์ฯไม่ตอบแต่เดินหน้าเครียดกลับห้อง เพราะเอาพิศมาซ่อนไว้ที่นั่น บอกพิศให้กลับไปเสีย ตนสงสารแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ พิศแค้นใจมากด่าแกมต่อว่าอย่างรุนแรงว่า สัญญาว่าจะจัดการให้แล้วทำไมตนต้องกระเด็นออกไปอย่างนี้ "นึกอยากเอาฉันเป็นเมียก็หักโหมข่มขืนฉัน ต่อพอ..."

พระศัลย์ฯขัดขึ้นทันทีว่าตนไม่ได้ข่มขืน เมื่อพิศเถียงก็ถูกไล่ให้ออกจากบ้านไปเดี๋ยวนี้เลย

"ได้ แต่อย่าลืมว่าลูกสาวท่านยังมีคดีติดตัวอยู่ อยากเป็นข่าวลงหนังสือพิมพ์ก็ได้" ว่าแล้วฉวยกระเป๋าลงไป เสาวรสยืนมองอยู่ถามว่าจะไปแล้วใช่ไหม พูดแล้วหลีกทางให้

แต่พอพิศจะไป เสาวรสมาดักที่ห้องรับแขก มีเพื่อนบ้านที่ชื่อชนะยืนอยู่ด้วย

เสาวรสบอกชนะว่าขอให้เป็นพยานเรื่องคนใช้จะลาออกด้วย แล้วขอค้นกระเป๋าพิศอ้างว่าเพื่อความแน่ใจว่าพิศไม่ได้ขโมยอะไรไปด้วย แต่เธอแอบเอาสร้อยทองเส้นเขื่องใส่ในกระเป๋า

ทำทีค้นครู่เดียวก็โวยวายว่าพิศขโมยสร้อยทอง เอาให้ชนะดูเพื่อเป็นพยาน พิศรู้ทันโกรธจัดจะเข้าไปตบถูก

พระศัลย์ฯปรามว่าอย่าแตะต้องลูกสาวตนเด็ดขาด

พิศหิ้วกระเป๋าออกจากบ้านไปด้วยความแค้น

ooooooo

นายสุขนอนเฝ้ารุจเผลอหลับไป รุจลุกไปห้องน้ำ เขาเซล้มเพราะนอนนานทรงกายไม่ดี พอนายสุขรู้สึกตัว วิ่งไปดู ตกใจมากร้องเรียกอารยาให้มาช่วย อารยาวิ่งจากห้องมาช่วยประคองรุจ ถามนายสุขว่าหลับไปหรือ แกรับเสียงอ่อยว่าเผลอหลับไป

“ถ้า​คุณ​รุจ​ล้ม​หัว​ชน​อ่าง​หรือ​กระแทก​พื้น​หัว​แตก​

จะ​ทำ​ยัง​ไง” อา​ร​ยา​ตำหนิ เธอ​พยายาม​ประคอง​รุ​จก​ลับ​ไป​ที่​เตียง ​ด้วย​ความ​ยาก​ลำบาก​เพราะ​ตัว​เขา​ใหญ่กว่า​มาก นาย​สุข​จะ​เข้ามา​ช่วย เธอ​บอก​ว่า​ไม่​เป็นไร​เพราะ​ไม่​ถนัด แล้ว​ค่อยๆ ประคอง​เขา​ไป​จนถึง​เตียง​จน​ได้

รุจ​ขอบใจ​มาก​ที่​ช่วย​ตน แต่​พอ​อา​ร​ยา​จะ​กลับ​เขา​ถาม​ว่า​จะ​ไป​ไหน  อา​ร​ยา​ดู​นาฬิกา​บอก​ว่า​ตี​สาม​แล้ว​ เขา​เลย​บอก​เสียง​อ่อยๆว่า​ไป​นอน​เถอะ แต่​พอ​เธอ​จะ​ไป​จริงๆ เขา​เกิด​หิว​น้ำขึ้น​มา​อีก ร้องขอ​น้ำ​ดื่ม​หน่อย พอ​อา​ร​ยา​เอา​น้ำ​มา​ให้ เขา​รับ​ไป​ดื่ม เสร็จ​แล้ว​ถาม​อย่าง​ไม่​มี​ปี่​ไม่​มีขลุ่ย​ว่า

“เมื่อ​ไหร่​ชา​ลี​จะ​เรียน​จบ”

อา​ร​ยา​งงๆ กับ​คำ​ถาม​นี้ จนกระทั่ง​วัน​ต่อ​มา​เธอ​ไป​เล่า​ให้​วัฒนา​กับ​ชา​ลี​ฟัง ชา​ลี​ถาม​อย่าง​ห​งุด​ห​งุด​ว่า​ตี​สาม​แล้ว​ทำไม​ถึง​ยัง​ต้อง​ไป​ดูแล​เขา นาย​สุข​ไป​ไหน ถูก​วัฒนา​ถาม​ดักคอ​ว่า​รุจ​ถาม​แค่​นี้​ทำไม​ต้อง​โมโห​ด้วย สุดท้าย​ชา​ลี​เดา​ว่า​รุจ​คง​อยาก​จะ​คุย​เล่น​กับ​อา​ร​ยามา​กก​ว่า

“เจ้าชาย​มัมมี่​นี่​นะ จะ​คุย​เล่น​กับ​น้อย” วัฒนาทำหน้า ไม่เชื่อ

อา​ร​ยา​ตัดบท​ถาม​ชา​ลี​ว่า​อยาก​ทาน​เม็ด​บัว​ไหม ชา​ลี​พาซื่อ​บอก​ว่า​อยาก เลย​พา​กัน​พาย​เรือ​ไป​ที่​ดง​บัว​เก็บ​เม็ด​บัว ทาน​จน​ชา​ลี​ลืม​เรื่อง​ขุ่น​ข้อง​หมองใจ​ไป​ชั่ว​ขณะ

ส่วน​เสา​ว​รส​แทรก​เข้า​มา​ดูแล​รุจ​เอง​แต่​เพราะ​ไม่​เคย​ดูแล​รับ​ใช้​ใคร ทำ​อะไร​ก็​เก้ๆกังๆไป​หมด ซ้ำ​ยัง​ทำ​น้ำ​ซุป​หก​รด​เลอะเทอะ​ขณะ​ป้อน​รุจ จะ​เช็ด​ตัว​ให้​ก็​ทำ​น้ำ​หก​ใส่​อีก จน​รุ​จม​อง​ไป​ทาง​ประตู​เหมือน​หา​ใคร เสา​ว​รส​เดา​ใจ​เขาได้​มอง​อย่าง​ไม่​ชอบใจ

เมื่อ​อา​ร​ยา​กับ​ชา​ลีก​ลับ​เดิน​คุ​ยกัน​มา​อย่าง​สดชื่น เสาว​รส​ก็​พยายาม​ชี้​ให้​เขา​เห็น​ความ​สัมพันธ์​ที่​สนิทสนม​กัน​ของ​ทั้ง​สอง​จน​รุจ​ต้อง​ชี้​แจง​ว่า​ บ้าน​ของ​ตน​กับ​บ้าน​ของ​ชา​ลี​อยู่​ใกล้​กัน ​พวก​ตน​เล่น​กัน​มา​แต่​เด็ก​แล้ว

เมื่อ​ทำให้​รุจ​โกรธ​ไม่ได้ เสา​ว​รส​พา​เขา​เข้า​ห้อง​แล้ว​ตัว​เอง​ก็​ไป​หา​ชา​ลี​กับ​อา​ร​ยา​ที่​กำลัง​เดิน​หอบ​ดอกบัว​กลับ​มา ​เธอ​เข้าไป​พูด​กระ​แนะ​กระ​แหน​ว่า​ท่าทาง​มี​ความ​สุข​กัน​จริง แล้ว​ประกาศ​ตัว​ว่า ต่อ​ไป​ตน​จะ​ดูแล​รุจ​เอง เคหาสน์​สี​แดง​นี้​ตน​ก็​จะ​มา​เป็น​ร่มเงา​ให้​มด​ปลวก​ได้​อาศัย เธอ​เจาะ​จง​พูด​กับ​อา​รยา​แล้ว​เดิน​ไป อา​ร​ยา​ฟังออก​ว่า​เสา​ว​รส​จงใจ​พูด​ให้​ตน​สำเหนียก​และ​เจียม​ตัว​ว่าต่าง​กับ​เธอ​ราว​ฟ้า​กับ​ดิน

ooooooo

ความ​ลุ่มหลง​เสน่ห์​เสา​ว​รส ทำให้​ภาคิ​นัย​นับ​วัน​ยิ่ง​หุนหัน​พลัน​แล่น​กับ​คน​งาน​และ​แม้แต่​กับ​น้องๆ สุดท้าย​เมื่อ​เขา​สั่ง​งาน​ลวกๆ แล้วก็​เก็บ​กระเป๋า​เดินทาง​เข้า​พระนคร​ มิ​ไย​ว่า​ภคินี​จะ​ทักท้วง​อย่างไร​ก็​ไร้​ผล เมื่อ​ภคินี​ย้ำ​ว่า​ผู้หญิง​คน​นี้​ไม่​ใช่​คน​ดี เขา​ก็​เสียง​เขียว​ใส่​ว่า​รู้​ได้​อย่างไร ภคินี​บอก​ว่า​ตน​ไม่ได้​ตาบอด

“ตา​ไม่​บอด​แต่​ใจแคบ น้อง​ใจแคบ​ไม่​ยอม​มอง​คน​ที่​พี่​รัก เพราะฉะนั้น​ต่อ​ไป​ไม่​ต้อง​มา​ยุ่ง​กับ​เรื่อง​ส่วนตัว​ของ​พี่​อีก” ภาคิ​นัย​ตะคอก​ใส่​น้อง​แล้ว​หิ้ว​กระเป๋า​ออกเดิน​ทาง​ทันที

ภาคิ​นัย​อารมณ์​ขุ่นมัว​จน​แม้​ระหว่าง​นั่ง​รถไฟ​ไป​หา​คน​รัก​ก็​ยัง​ครุ่นคิด​หน้า​เครียด

ooooooo

ก่อน​กลับ​ไป​โรงเรียน ชา​ลี​คิดถึง​อา​ร​ยา​ต้องการให้เธอคิดถึง​ตน​ด้วย ลง​เรือ​จ้ำ​พาย​ไป​ลา ​ไป​ถึง​ไม่​เจอ​เธอ​ก็​ร้องตะโกน​เรียก จน​แม่​ละ​ม่อม​กับ​แม่​พิ​นอ​อก​มา​ตำหนิ มี​แต่​แม่​พร้อม​ที่​เป็นใจ​ให้​อยู่​แล้ว​อนุญาต​ขึ้น​ไปหา​อา​ร​ยา​ที่​กำลัง​ดูแล​รุ​จอ​ยู่

แม่​พิน​โวยวาย​ว่า​ต้อง​ให้​อา​ร​ยา​อนุญาต​เท่านั้น ก็​พอดี​อา​ร​ยา​วิ่ง​ลง​มา ​เพราะ​รุ​จบ​อก​ว่า​เพื่อน​เธอ​มา​ตะโกน​เรียก​ให้​ลง​ไป​หา เธอ​บอก​ว่า​จะ​ลง​ไป​บอก​ให้​เงียบ​แล้ว​จะ​รีบ​ขึ้น​มา​ดูแล​เขา​ต่อ ​เธอ​ขอโทษ​แทน​ชา​ลี​อย่าง​รู้สึก​ผิด

“ชา​ลี วัน​หลัง​อย่า​ตะโกน​ลั่น​บ้าน​อย่าง​นี้​นะ ที่​บ้าน​ผู้ใหญ่​เยอะ​แยะ​ตกใจ​กัน​ไป​หมด” อา​ร​ยา​ตำหนิ

ชา​ลี​หน้าเสีย​และ​แล้ว​เขา​ก็​คุกเข่า​ลง​จับ​มือ​อา​ร​ยา​เงย​หน้า​มอง​เอ่ย​ขอโทษ​สัญญา​ว่า​ต่อ​ไป​จะ​มา​เงียบๆ แล้ว​นึก​ขึ้น​​ได้​บอก​ว่า “คุณ​น้อย ชา​ลี​ต้อง​ไป​โรงเรียน​แล้ว ไป​ส่ง​ชา​ลี​ที่ท่า​น้ำ​นะ”

อา​ร​ยา​ไม่ทัน​ตั้ง​หลัก ชา​ลี​ก็​จูงมือ​เธอ​วิ่ง​ไป​ทาง​ท่า​น้ำ​โดย​ไม่​รู้​ว่า​รุ​จม​อ​งอ​ยู่​ตลอด​เวลา ระหว่าง​ทาง​สาย​รองเท้า​ของ​อา​ร​ยา​หลุด​ชา​ลี​รีบ​ก้ม​ลง​ติด​ให้​ รุจ​ยืน​มอง​ครู่​หนึ่ง​ก็​จะ​กลับ​เข้า​ห้อง รู้สึก​ปวด​ศีรษะ​จึง​ถอด​แว่น​วางนวด​ตรง​หว่าง​คิ้ว ส่วน​อา​ร​ยา​ส่ง​ชา​ลี​ที่​ท่า​น้ำ​เร่ง​ให้​เขา​รีบ​ไป​ตน​จะ​รีบ​ขึ้น​บ้าน

เมื่อ​ชา​ลี​ไป​แล้ว​อา​ร​ยา​รีบ​ขึ้น​บ้าน​ผ่าน​หน้ามุข​เธอ​ผ่อน​ฝีเท้า​ลง ได้ยิน​เสียง​รุจ​ร้อง​ถาม​ว่า​ใคร​อยู่​ตรง​นั้น​ให้​เข้าไป​หา​หน่อย กลาย​เป็น​อา​ร​ยา​เข้าไป เขา​ถาม​ว่า​ชา​ลี​ไป​แล้ว​หรือ

เธอ​บอก​ว่า​ไป​แล้ว ถาม​ว่า​ทำไม​มา​นั่ง​ตรง​นี้ และ​ร้อง​เรียก​เมื่อ​ครู่​นี้​ต้องการ​อะไร​หรือ

“ฉัน​อยาก​อ่าน​หนังสือ​นี่​สัก​หน่อย  แต่​แย่​จริง​ไม่​รู้​ลืม​แว่นตา ​เสีย​ที่ไหน” รุจ​บ่น​ทั้งที่​เขา​เพิ่ง​ถอด​วาง​ไว้​ที่​ระเบียง​เมื่อ​อึดใจ​นี่เอง อา​ร​ยามอง​ไป​เห็น​แว่นตา​บอก​ว่า​อยู่​ตรง​นี้​เอง​แล้ว​จะ​ไป​เอา​ให้

เธอ​หมุน​ตัว​เร็ว​จน​เสียหลัก​จะ​ล้ม รุ​จรี​บ​ช่วย​ประคอง​ร่าง​ต่อ​ร่าง​แนบ​ชิด​จน​ลม​หายใจ​ถึง​กัน อา​ร​ยาใจ​เต้น​ระทึกตัว​แข็ง​ตะลึง​อยู่​ใน​อ้อม​แขน​เขา

ooooooo

รุ​จม​อง​อา​ร​ยา​หน้า​เครียด ถาม​ประชด​ว่า​ไป​ทำ​อะไร​มา​ถึง​ได้​หมด​แรง เธอ​ตอบ​ซื่อๆว่า ไม่ได้​หมด​แรง​แต่​สะดุด เขา​มอง​เธออ​ย่าง​ชิงชัง จับผิด​บอก​ให้​ไป​ได้​แล้ว​ตน​ไม่​ต้องการ​อะไร​แล้ว​พลาง​หยิบ​หนังสือ​ขึ้น​อ่าน​เหมือน​ไม่​มี​อา​ร​ยา​อยู่​ตรง​นั้น แต่​มือ​ยัง​กำ​ปากกา​แน่น

ขณะ​นั้น​เอง แม่​พร้อม แม่สื่อ​แม่​ชัก​ที่​ลุ้น​ให้​อา​ร​ยา​รัก​กับ​ชา​ลี เข้า​มา​บอก​พร้อม​ต้นไม้​เล็กๆ มีด​อก​สวย​ว่า “คุณ​ชา​ลี​ฝาก​มา​ค่ะ บอก​ว่า​ลืม​ให้​คุณ​น้อย คุณ​ชา​ลี​ฝาก​บอก​ให้​คุณ​น้อย​สด​ใส​เหมือน​ดอกไม้”

อา​ร​ยา​ขอบคุณ ไม่​เห็น​ว่า​รุจ​ขมวด​คิ้ว​อย่าง​ไม่​พอใจ เธอ​ได้ยิน​เสียง​ขยับ​ตัว​จาก​เก้าอี้ เลย​รีบ​ชวน​แม่​พร้อม​ออก​ไป รุ​จม​อง​ตาม​หน้า​เครียด โยน​หนังสือ​ไว้​บน​โต๊ะ​เดิน​ออก​ไป​มือ​ยัง​กำ​ปากกา​แน่น

รุจ​ตั้งใจ​เดิน​มา​เพื่อ​จะ​ดู​ว่า​อา​ร​ยา​ไป​หา​ชา​ลี​หรือ​เปล่า พอดี​ผ่าน​รูป​อัม​พา​เขา​หยุด​จ้อง​เขม็ง​แล้ว​ขว้าง​ปากกา​ใส่​รูป​อัม​พา​อย่าง​แรง อา​ร​ยา​แอบ​ดู​อยู่​เธอ​ตกใจ​หน้าเสีย​รีบ​เดิน​ผละ​ไป​เงียบกริบ

หลังจาก​นั้น​รุจ​ก็​ตรง​ไป​โทรศัพท์​ถึง​ท่าน​ขุนฯ พูด​เสียง​เครียด​ว่า

“ท่าน​ขุนฯครับ ผม​มี​เรื่อง​สำคัญ​จะ​คุย​ด้วย”

ooooooo

ไม่นานขุนประจญคดีก็มาถึง รุจบอกว่า มีเรื่องเกี่ยวกับพินัยกรรม ท่านขุนฯถามอย่างคาดหวัง ว่าเรื่องเกี่ยวกับการแต่งงานกับอารยาใช่ไหม

รุจพยักหน้าว่าใช่ แต่บอกว่ามันเป็นเรื่องที่จะไม่มีวันเกิด ขึ้นแน่นอนเพราะ “อีกคนคงไม่ยอม” เห็นท่านขุนฯทำหน้างง รุจถามตรงๆ ว่า “ท่านขุนทราบหรือเปล่าว่าอารยามีคู่รักอยู่แล้ว ชาลี ผมเห็นเด็กสองคนนี้สนิทสนมกันมาก”

ท่านขุนฯชี้แจงว่า ทั้งสองเป็นเพื่อนเล่นกันมาแต่เด็ก เวลาอารยาไม่สบายใจ นอกจากแม่ๆทั้งสามแล้ว ก็บ้านพนาเวส นี่แหละที่เธอจะไปหา เพราะคุยกันรู้เรื่อง รุ่นราวคราวเดียวกัน อีกทั้งชาลีเป็นคนสนุกสนาน ทำให้อารยาพลอยมีความสุขไปด้วย

“อ้อ...อารยาจึงไปหาความสุขกับคนที่ชอบพอกัน ในขณะที่อยู่บ้านแล้วไม่มีความสุขกับคนในบ้านงั้นรึ” รุจประชดในทันที

ไม่ว่าท่านขุนฯจะชี้แจงอย่างไร รุจก็ตะแบงโยงชาลีกับ อารยาให้เป็นคนรักกันให้ได้ สุดท้ายท่านเลยบอกว่า ไม่ต้องห่วง อีกหน่อยชาลีก็เรียนจบแล้ว และก็ต้องเป็นทหาร

“อารยาก็จะได้เป็นภรรยานายทหารเรืองั้นรึ” รุจถาม ประชด

ท่านขุนฯ อ่านอารมณ์ของรุจออก ยิ้มอย่างรู้ทัน แล้ว พูดสบายๆว่า

“เด็กสองคนนี้ หลายคนคิดว่าเหมาะสมกันมาก แต่ในสายตาผมคิดว่าคู่แต่งงานที่อายุไล่เลี่ยกันไม่ค่อยดีนัก ผู้ชายควรอายุมากกว่าผู้หญิงจึงจะปกครองกันยืด เฮ้อ...แต่ก็ นั่นแหละครับ คนที่อายุมากกว่าคนนั้นก็ไม่เคยมองคุณน้อยนี่ครับ”

รุจรู้ว่าถูกพูดเหน็บเลยชี้แจง “ผมเคยบอกท่านขุนแล้วว่า ผมรับแม่เขาไม่ได้และไม่มีวันยอมรับได้”

จนเมื่อท่านขุนฯจะกลับ ท่านพูดทิ้งไว้ให้คิดว่า “เคยได้ยินไหมว่าคนที่เราเกลียดแสนเกลียด แต่พอนึกรักกันเข้า ก็รักกันจนแทบจะเป็นบ้าตาย”

“ไม่​เคย​ได้ยิน​มา​ก่อน​เลย​ครับ” รุจ​ตอบ​เสียง​เย็น​เฉียบ หัวเราะ​หึๆใน​ลำ​คอ

เจอ​ไม้​นี้​ของ​รุจ ท่าน​ขุนฯก็ได้​แต่​มอง​อย่าง​หมด​หวัง...อ่อนใจ...

ooooooo

แม้​ว่า​ตัว​เอง​จะ​ต้อง​อดทน​อดกลั้น​สัก​เพียง​ไร​กับ​ท่าที​ที่​เย็น​ชา​ไม่​เป็น​มิตร​ของ​รุจ ​อา​ร​ยา​ทน​ได้ แต่​เธอ​ทน​ไม่ได้​เมื่อ​รุจ​แสดง​กิริยา​เหยียดหยาม​อาฆาต​แค้น​แม้​กระทั่ง​กับ​รูป​ถ่าย​ของ​แม่ เธอ​ไป​หา​เขา​ที่​ห้อง​ทำ​งาน​ถาม​ว่า​ปา​ปากกา​ใส่​รูป​แม่​ทำไม พูด​เสียง​เครือ​สะท้าน​ว่า

“นั่น​มัน​ก็​แค่​รูป ถ้า​คุณ​รุจ​โกรธ​เกลียด​แม่​ไม่​หาย​เสียที ทำ​น้อย​ก็ได้ ต่อว่า​น้อย ปา​ของ​ใส่​น้อย​ก็ได้ ไล่​น้อย​ออก​จาก​บ้าน​ก็ได้ น้อย​ก็​ไม่​อยาก​อยู่​แล้ว” เธอ​สะอื้น​เต็ม​แรง​หยุด​กึก​เหมือน​นึก​ได้​ว่า​หลุดปาก​ออก​ไป รุจ​เอง​ก็​พยายาม​สงบ​อารมณ์​บอก​เธอ​ว่า​พอ​เถอะ

แต่​อา​ร​ยา​หยุด​ไม่ได้​แล้ว วัน​นี้​เป็น​ไง​เป็นกัน ​เธอ​ถาม​ว่า​แม่​ทำ​อะไร​ให้​เขา​เกลียด นอก​เสีย​จาก​ว่า​เป็น​แม่เลี้ยง

“แค่​นั้น​ยัง​ไม่​พอ​อีก​หรือ” รุจ​ตวาด “เธอ​อยาก​จะ​ให้​มี​อะไร​มาก​กว่า​นั้น เธอ​คิด​ว่าการ​ที่​เธอ​สอง​แม่​ลูก​เป็น​ส่วน​เกิน​ใน​ครอบครัว​ที่​เขา​อยู่​กัน​อย่าง​มี​ความ​สุข​ตลอด​มา ไม่​เป็นไร เพราะ​ที่​เธอ​สอง​คน​แม่​ลูก​เข้า​มา​โดย​สิทธิ์​ของ​การ​เป็น​แม่เลี้ยง ความ​เป็น​ลูก​ไม่​มี​สิทธิ์​จะ​คิด​อะไร จะ​รู้สึก​อะไร นอกจาก​ยอม​รับ​โดย​ดี​งั้น​รึ”

ทั้ง​สอง​ถกเถียง​กัน​อย่าง​เผ็ดร้อน จนกระทั่ง​รุ​จก​ล่า​ว​ หา​ว่า​อัม​พา​นั้น​ฉลาด ​วาง​แผน​แยบยล​สำหรับ​ตัว​เอง​และ​ลูก​สาว แล้ว​ด่า​กราด​มา​ถึง​ตัว​เธอ​ว่า

“คน​ที่​มี​แม่​ฉลาด​เฉลียว​อย่าง​เธอ​จะ​เติบโต​ขึ้น​มา​โดย​ไม่​ถ่ายทอด​เล่ห์​กล...” พูด​แค่​นั้น​เขา​ก็​หยุด​กึก​ไม่​อยาก​ใช้​ถ้อยคำ​ที่​รุนแรง​กว่า​นั้น​ เขา​เส​เดิน​ไป​อีก​ทาง แต่​อา​ร​ยา​ไม่​ยอม​ตาม​ไป​อีก

อา​ร​ยา​ปกป้อง​แม่​ว่า​ไม่​ใช่​คน​มี​เล่ห์​กล​อย่าง​ที่​รุจ​ประ​ณาม ถ้า​แม่​ตน​เป็น​อย่าง​นั้น​จริง แม่ๆทั้ง​สาม​ก็​ต้อง​เห็น​ ท่าน​ขุน​ประ​จญ​คดี​ก็​ต้อง​เห็น เมื่อ​รุจ​ยัง​ยืนยัน​ยัดเยียด​ให้​แม่​เธอ​เป็น​คน​เช่น​นั้น​ให้​ได้ อา​ร​ยาบ​อก​ว่า​คำ​พูด​ของ​เขา​ไม่​เพียง​พูดดู​ถูก​แม่​ตน​เท่านั้น หาก​ยัง​ดูถูก​แม่ๆทั้ง​สาม ดูถูก​ท่าน​ขุนฯ​ด้วย

เมื่อ​ต่าง​ฝ่าย​ต่าง​ยืนกราน​ใน​ความ​เชื่อ​ของ​ตัว​เอง สุดท้าย​รุจ​ตัดบท​ว่า​เธอ​ยัง​ไม่​รู้​อะไร​เกี่ยว​กับ​แม่​เธอ​อีก​มาก แต่​พอ​เธอ​บอก​ให้​พูด​มา เขา​กลับ​ไล่​เธอ​ให้​กลับ​ไป​เสีย

“น้อย​ไม่​ทน​อีก​แล้ว” อา​ร​ยา​สะอื้น​เฮือกๆ “คุณ​รุจ​เกลียด​แม่​อัม​พา ก็​ไล่​น้อย​ไป​เถอะ​ค่ะ จะ​ได้​ไม่​เห็น​ลูก​ของ​คน​ที่​คุณ​ไม่​ชอบ ให้​น้อย​ไป น้อย​ไม่​อยาก​อยู่​แล้ว ไม่​อยู่​แล้ว...” อา​ร​ยา​สะอื้น​จน​ตัว​โยน​เดิน​เซ​ซัง​ออก​ไป รุ​จม​อง​ตาม​พริบตาเดียว​อา​ร​ยา​ก็​ทรุด​ฮวบ​ลง เขา​พุ่ง​เข้า​ประคอง​ขึ้น​มา ร้อง​เรียก​เสียง​ดัง แต่​เธอ​ไม่​รู้สึก​ตัว​แล้ว

รุจ​อุ้ม​อา​ร​ยา​ไป​วาง​ที่​เก้าอี้​ปฐมพยาบาล​อย่าง​หมอ​มืออาชีพ จน​อา​ร​ยา​รู้สึก​ตัว​เธอ​พยายาม​จะ​ลุก​เขา​กด​บ่า​ไว้​ไม่​ให้​ลุก ถาม​ว่า​เวียน​ศีรษะ​ไหม ดี​ขึ้น​หรือ​ยัง อา​ร​ยา​มอง​เขา​นิ่ง​ไม่​ตอบ จน​เขา​โมโห​ลุก​เดิน​กระแทกกระทั้น​ออก​ไป

ooooooo

รุ​จอ​อก​ไป​ตะโกน​เรียก​แม่ๆทั้ง​สาม​ให้​มา​ดู​อา​ร​ยา​ ที​ว่า​ทำไม​ถึง​มาก​วน​ประสาท​ตน​อย่าง​นี้ พวก​แม่ๆมอง​กัน​งงๆ แต่​เห็น​ท่าทาง​อารมณ์​เสีย​ของ​คุณ​หนู​ก็​พา​กัน​เข้าไป​ถามไถ่ แต่​แม่​ทั้ง​สาม​ก็​ไม่​อาจ​ทำให้​อา​ร​ยา​ปริปาก​พูด​อะไร​ออก​มา​ได้ เธอ​มอง​หน้า​แม่​ทั้ง​สาม​น้ำตา​ปริ่ม

สุดท้าย​แม่​ทั้ง​สาม​ก็​ถู​กรุ​จ​ดุ​ที่​ทำ​งาน​ไม่​สำเร็จ เมื่อ​ไม่​รู้​จะ​ทำ​อย่างไร​ดี​ รุจ​สั่ง​แม่​ทั้ง​สาม​ให้​เฝ้า​อา​ร​ยา​ไว้​ให้​ดี​เพราะ​ได้ยิน​เธอ​พูด​แปลกๆเหมือน​ไม่​อยาก​อยู่​ที่​นี่ แม่​ทั้ง​สาม​ลุก​พรวด​ทันที รุจ​ปราม​ว่า

“ถ้า​อา​ร​ยา​หนี​ไป ฉัน​ถือว่า​เป็น​ความ​ผิด​ของ​แม่​ม่​อม แม่​พิน แม่​พร้อม” เขา​จ้อง​หน้า​แม่​ที​ละ​คน ​จน​แม่​ทั้ง​สาม​แย่ง​กัน​ออก​จาก​ห้อง​แทบ​ไม่ทัน

ooooooo

เมื่อ​เข้าไป​ใน​ห้อง​อา​ร​ยา​พบ​แต่​ความ​ว่าง​เปล่า สาม​แม่​วิ่ง​กัน​ตุ้บตั้บ​มา​รายงาน​รุจ​ว่า​อา​ร​ยา​หาย​ไป​แล้ว ทั้ง​สาม​แม่​แย่ง​กัน​เร่ง​ให้​เขา​รีบ​ออก​ตาม​หา​คา​ดว่า​เพิ่ง​ออก​ไป​หยกๆนี่เอง

“ไม่​ใช่​เรื่อง​ของ​ฉัน เขา​หนี​ไป​เอง​เขา​ก็​ต้อง​กลับ​มา​เอง” รุจ​ยิ้มเยาะ​ใน​หน้า

สาม​แม่​หน้า​เห​วอ เอา​หัว​ชน​กัน​หารือ​ว่า​จะ​ทำ​อย่างไร​ดี แต่​หา​รู้​ไม่​ว่าพอ​ไม่​อยู่​ใน​สายตา​ของ​แม่ๆ รุจ​ก็​เริ่ม​กระวนกระวาย​ใจ เข้าไป​ห้อง​ทำ​งาน​ก็​นั่ง​ไม่​ติด สุดท้าย​ลุก​ไป​ดู​ที่​ห้อง​อา​ร​ยา เห็น​แต่​ความ​เป็น​ระเบียบ​เรียบร้อย​สะอาด​สวย​งาม​ของ​ห้อง แต่​ไม่​มี​ตัว​เจ้าของ​ห้อง

เขา​เปิด​ประตู​พรวด​ออก​มา​เปลี่ยน​เสื้อ​ผ้า​แล้ว​ขับ​รถ​ออก​ไป นาย​สุข​มา​เห็น​เข้า​วิ่ง​ไล่​กวด​ขอ​ตาม​ไป​ด้วย​ทั้งที่​นุ่ง​กางเกง​เล มี​ผ้าขาวม้า​พาด​บ่า พอ​นาย​สุข​ขึ้น​รถ รุจ​ก็​ขับ​รถ​พุ่ง​ไป​อย่าง​เร็ว

ที่แท้​อา​ร​ยา​นั่ง​หนาว​สั่น​อยู่​ที่​ท่า​น้ำ เธอ​หัน​มอง​ตาม​รถ​ของ​รุจ​ที่​ขับ​ออก​ไป​น้ำตา​ปริ่ม

เมื่อ​ขับ​ออก​ไป​ตาม​ถนน​สาย​ต่างๆใน​ปากน้ำ รุ​จบ​อก​นาย​สุข​ว่า​ตน​จะ​ขับ​ช้าๆให้​นาย​สุข​มอง​หา​อา​ร​ยา​ให้​เจอ นาย​สุข​ ฟัง​แล้ว​สะดุ้ง​ทำ​หน้า​เห​วอๆ แต่​ก็​ทำ​ตาม​คำสั่ง​อย่าง​รู้​ใจ​เจ้านาย​ดี

ตก​ดึก อา​ร​ยา​แอบ​เข้าไป​โทรศัพท์​ถึง​ชา​ลี ชา​ลี​สะดุ้ง​ตื่น​จาก​หลับ​สนิท ลุก​พรวด​ไป​รับ​โทรศัพท์ ได้ยิน​อา​ร​ยา​พูด​เสียง​แผ่ว​มา​ตาม​สาย

“ชา​ลี...​น้อย​พูด มา​รับ​ด้วย...”

ooooooo

เช้าตรู่ รุจ​ขับ​รถ​กลับ​เข้า​บ้าน​อย่าง​อ่อนเพลีย จอด​รถ​ให้​นาย​สุข​เอา​ไป​เก็บ​ ส่วน​เขา​เดิน​กวาดตา​มอง​ไป​รอบๆ เห็น​อา​ร​ยา​ยืน​อยู่​ที่​ท่าน้ำ​กำลัง​จะ​ลง​เรือ​พอดี รุจ​ชะงัก​กึก​เดิน​ไป​ที่​ท่า​น้ำ​ช้าๆ

จังหวะ​ที่​อา​ร​ยา​จะ​ก้าว​ลง​เรือ​นั้น​เธอ​ซวนเซ​จน​ชา​ลี​ที่​พาย​เรือ​มา​รับ​ต้อง​ประคอง​ลง​เรือ​แล้ว​พาย​ไป​ทันที รุจ​ยืน​มอง​ตาม​ไป​ด้วย​สายตา​ที่​ทั้ง​เจ็บ​ช้ำ​และ​เจ็บแค้น มอง​จน​เรือ​พาย​ลับ​สายตา​ไป

เมื่อ​เขา​เดิน​กลับ​มา​ที่​ตึก พวก​แม่ๆพา​กัน​เข้า​มา​ห้อมล้อม​ถาม​ว่า​เจอ​อา​ร​ยา​ไหม ​ไป​ตาม​ถึง​ไหน พอ​เขา​บอก​ว่า​ไม่​พบ แม่​ทั้ง​สาม​ก็​ร้อง​ออก​มา​พร้อม​กัน “โธ่​เอ๊ย...คุณ​น้อย...” แม่​พร้อม​พึมพำ​ว่า​ไป​ไหน​กัน​นี่ รุจ​หัวเราะ​ใน​ลำ​คอ​พูด​เย้ยๆว่า

“เขา​คง​ไป​ใน​ที่​ที่​เขา​อยาก​ไป” พูด​แล้ว​หัน​หลัง​เดิน​ตัว​ตรง​ขึ้น​บันได​ไป​เลย

อา​ร​ยา​ไป​นอน​จับไข้​อยู่​ที่​บ้าน​พนา​เวส วัฒนา​เฝ้า​ปฐม พยาบาล​ด้วย​ความ​ห่วงใย ชา​ลี​เป็น​ห่วง​ว้าวุ่น​ใจ​จน​ทำ​อะไร​ไม่​ถูก
ooooooo
ที่​หน้า​ตึก สาม​แม่​ยัง​คุย​กัน​อย่าง​ร้อน​ใจ​เป็น​ห่วง​อา​ร​ยา เห็น​รุจ​แต่งตัว​ถือ​เอกสาร​และ​กระเป๋า​ค้างคืน​ลง​มา​สั่ง​แม่​ทั้ง​สาม​ว่า

“ฉัน​เข้า​เวร จะ​ค้าง​โรงพยาบาล 2 คืน เมื่อ​ฉัน​กลับ​มา​หวัง​ว่า​แม่​ทั้ง​สาม​คง​พบ​อา​ร​ยา​แล้ว”

แม่ๆทั้ง​สาม​ตกใจ​ถาม​ว่า​ทิ้ง​พวก​ตน​ไป​อย่าง​นี้​ได้​ยัง​ไง​แล้ว​พวก​ตน​จะ​ไป​ตาม​หา​อา​ร​ยา​ได้ที่​ไหน

“ที่​ที่​เขา​อยู่​น่ะ​สิ” รุจ​ตอบ​ห้วนๆแล้ว​ขึ้น​รถ​ไป แม่​ละม่อม​ถาม​ว่า​ไม่​ห่วง​คุณ​น้อย​เลย​หรือ ​เขา​ย้อน​ถาม​ว่า “ทำไม​ต้อง​ห่วง ฉัน​ว่าความ​ห่วง​ของ​แม่​สาม​คน​รวม​กัน​พอ​แล้ว เขา​ไม่​ต้องการ​ความ​ห่วงใย​ของ​ใคร​อีก...นาย​สุข” รุจ​เตือน​นาย​สุข​ให้​ออก​รถ

รถ​ของ​รุจ​สวน​กับ​รถ​ของ​ท่าน​ขุนฯ​ที่​ขับ​เข้า​มา​พอดี สาม​แม่​รุม​กัน​เข้าไป​บอก​ให้​ท่าน​ขุนฯ​รีบ​ไป​หา​รุจ ท่าน​ขุนฯ​ร้อง​เรียก พอ​รถ​รุจ​จอด​ก็​เข้าไป​ขอร้อง​ว่า

“คุณ​หนู​กลับ​บ้าน​เถอะ​นะ​ครับ วัน​นี้​อย่า​ค้าง​โรงพยาบาล​เลย คน​แก่​สาม​คน​จะ​ตาย​ซะ​กระมัง” แต่​พอ​รุจย​้อน​ถาม​ว่า​แล้ว​จะ​ให้​คนไข้​ที่​โรงพยาบาล​ตาย​แทน​งั้น​หรือ ท่าน​ขุนฯ​ก็​หน้าจ๋อย ยืน​มอง​รถ​รุจ​ขับ​ออก​ไป ​พอก​ลับ​มา​หา​แม่​ทั้ง​สาม ก็​ถูก​รุม​ต่อว่า​เสียง​ขรม​ที่​ทำ​ไม่​สำเร็จ

ไป​ถึง​โรงพยาบาล รุจ​ต้อง​เจอ​กับ​การ​อาละวาด​ของ​ชาญ​ที่​ลุก​ขึ้น​มา​เอะอะ​โวยวาย​อย่าง​คลุ้มคลั่ง​ หา​ว่า​หมอ​จะ​ฆ่า​ตน จน​รุจ​ต้อง​ฉีดยา​ให้ ครู่​หนึ่ง​ชาญ​ก็​สงบ​ลง​เพราะ​ฤทธิ์​ยา

แม้​ปกติ​รุจ​จะ​มาด​ขรึม​ลุ่ม​ลึก แต่​เมื่อ​เผชิญ​ปัญหา​ที่​รุม​เร้า​เข้า​มา​ทำให้​กระทบกระเทือน​ใจ เขา​ก็​ปวด​หัว​และ​เงียบ​ขรึม​ยิ่ง​ขึ้น ได้​ฉลวย​ที่​แอบ​มี​ใจ​ให้​เขา​อยู่​ดูแล​อย่าง​ดี แต่​พอ​รุจ​รับ​รู้​ถึง​ความรู้สึก​ของ​ฉลวย​เขา​ก็​ระวัง​ตัว มี​ท่าที​ต่อ​ฉลวย​อย่าง​สุภาพ​และ​เป็น​การ​เป็น​งาน​ขึ้น

ooooooo

เสา​ว​รส​ระแวง​ว่า​รุจ​จะ​วอกแวก​กับ​อา​ร​ยา เพราะ​เมื่อ​คืน​โทร.​หา​แล้ว​ไม่​รับ​สาย วัน​นี้​เธอ​ไป​หา​เขา​ที่​โรงพยาบาล เห็น​ฉลวย​เอา​ชา​อุ่นๆไป​ให้​เขา​ใน​ห้อง ​ทำ​งาน เธอ​โผล่​พรวด​เข้าไป​มอง​อย่าง​ระแวง เธอ​ทำ​ที​ว่า​ลืม​ของ​แล้ว​ออก​จาก​ห้อง รอ​จน​ฉลวย​ออก​มา​ก็​ปราด​เข้าไป​บอก​อย่าง​ขึงขัง​ว่า

“ฉัน​ชื่อ​เสา​ว​รส​นะ​จ๊ะ เป็น​คู่หมั้น​ของ​หมอ​รุจ” พูด​แล้ว​กรีด​กราย​เข้าไป​ใน​ห้อง​รุจ

ฉลวย​หน้า​ถอดสี ยืน​ชา​ไป​ทั้ง​ตัว​อยู่​ตรง​นั้น

เสา​ว​รส​เข้าไป​ฉอเลาะ​ว่า​ท่าทาง​เขา​เหนื่อยๆ ชวน​ไป​ผ่อนคลาย​กัน​ที่​ผับ​ใหม่​เพิ่ง​เปิด​กัน รุจ​โอนอ่อน​ไป​กับ​เธอ แต่​บอก​ว่าตน​ต้อง​มา​เข้า​เวร​สี่​ทุ่ม

เมื่อ​กลับ​มา​ถึง​โรงพยาบาล รุ​จบ​อก​ฉลวย​ว่า​ออก​เวร​เช้า​ตน​จะ​ไม่​กลับ​บ้าน​ ทราบ​ว่าที่​โรงพยาบาล​มี​ห้อง​พัก ฉลวย​บอก​ว่า​จะ​ไป​จอง​ให้

“ดี ผม​จะ​อยู่​สอง​วัน​ถึง​จะ​กลับ”

ooooooo

อา​ร​ยา​ไข้​ขึ้น​สูง​จน​เพ้อ “อย่า...อย่า​ว่า​แม่​น้อย... อย่า​ว่า​แม่​น้อย...”

วัฒนา​กับ​ชา​ลี​มอง​หน้า​กัน วัฒนา​บ่น​พึมพำ​ว่า​ใคร​ว่า​แม่คุณ​น้อย ชา​ลี​โพล่ง​ออก​มา​ว่า​จะ​มี​ใคร​นอกจากหมอ​รุจ ถูก​วัฒนา​ปราม​ว่า​อย่า​ว่า​หมอ​รุจ​ถ้า​ยัง​ไม่​รู้ความ​จริง ชา​ลี​โพล่ง​ ออก​มา​อย่าง​กดดัน​ว่า

“จะ​มี​อะไร​จริง​ไป​กว่า​สภาพ​คุณ​น้อย​ที่​เป็น​ไข้​อยู่​บน​เตียง​นี้​อีก พี่หนู​นา...นี่​ล่ะ​ฝีมือ​ของ​เขา คุณ​รุจหมอ​ผู้​มี​เมตตา​กับ​ทุก​คน​ ยกเว้น​เด็ก​ใน​บ้าน​ที่​ไม่​มี​ความ​ผิด แต่​ต้อง​ทน​รอง​รับ​อารมณ์​ขึ้นๆลงๆของ​เขา”

อา​ร​ยา​ยัง​ไข้​สูง​นอน​ไม่ได้​สติ​อยู่​จนถึง​กลางคืน ชา​ลี​เฝ้า​อยู่​ไม่​ห่าง​ด้วย​ความ​เป็น​ห่วง พูด​คุยด้วย​ทั้งที่​อา​ร​ยา​ยัง​นอน​ไม่​รู้ตัว

สอง​วัน​ผ่าน​ไป รุ​จก​ลับ​มา​แล้ว พวก​แม่ๆพา​กัน​หนาวๆ ร้อนๆ เขา​มอง​แม่​ทั้ง​สาม​ตาคมกริบ​ ถาม​ว่า​เจอ​อา​ร​ยา​หรือ​ยัง ตาม​หา​หรือ​เปล่า สาม​แม่​ตอบ​พร้อม​กัน​ว่า​ตาม แต่​ทุก​คน​ก้มหน้า​ไม่​กล้า​สบตา

“ถ้า​ตาม​ต้อง​พบ” รุจ​เสียง​เข้ม ท่าน​ขุนฯ​ผสมโรง​ว่า​ใช่ ตาม​รึ​เปล่า เลย​ถูก​แม่​ทั้ง​สาม​มอง​ตาเขียว​ปั้ด

รุจ​สั่ง​นาย​สุข​ให้​เอา​เรือ​ออก สุดท้าย​ก็​ง้าง​ปาก​แม่​ทั้ง​สาม​ได้​ด้วย​วิธีการ​ของ​เขา จึง​ให้​นาย​สุขพาย​เรือ​ไป​ที่​บ้าน​พนา​เวส พอ​รุจ​ให้​นาย​สุข​พาย​เรือ​ไป​แล้ว ท่าน​ขุนฯ​หัน​มา​หัวเราะ​ร่า​บอก​สาม​แม่​ว่า

“คุณ​หนู​เธอ​รู้อยู่​แล้ว​ว่า​คุณ​น้อย​อยู่​บ้าน​พนา​เวส ฮ่ะๆๆ เป็น​ไง หน้าจ๋อย​กัน​ไป​ตามๆกัน หึๆ เล่น​กะ​ใคร​ไม่​เล่น”

ooooooo

ไป​ถึง​บ้าน​พนา​เวส รุ​จบ​อก​วัฒนา​ที่​ออก​มา​รับ หน้า​ว่า “ผม​มา​รับ​อา​ร​ยา” ชา​ลี​ที่​ตาม​มา​กันท่า บอก​ว่า​เธอ​ไม่ได้​อยู่​ที่​นี่ รุจ​จ้อง​หน้า​วัฒนา​อึดใจ​เดียว เธอ​ก็​เชิญ​ขึ้น​บ้าน บอก​ระหว่าง​ทาง​ว่า​อา​ร​ยา​เจ็บ​หนัก

ชา​ลี​พยายาม​กันท่า​ไม่​ให้​รุจ​ขึ้น​ไป​พบ​อา​ร​ยา กระทั่ง อ้าง​ว่า​หมอ​กำลัง​ตรวจ​อา​ร​ยา​อยู่ หมอ​อายุ​รก​ร​รม​ย่อม​เข้าใจ โรค​ดี​กว่า​หมอ​ประสาท​วิทยา รุ​จม​อง​ขวับ เอ่ย​ขอบคุณ แล้ว หัน​หลัง​เดิน​ไป​ทันที

หมอ​อายุ​รก​ร​รม​ที่มา​ตรวจ​อา​ร​ยา​รู้จัก​รุจ​ดี บอก​รุจ​ว่า อา​ร​ยา​เป็น​หวัด​ใหญ่​ยัง​มี​ไข้​สูง กำลัง​คิด​อยู่​ว่า​จะ​พา​ไป โรงพยาบาล​รึ​เปล่า เอกซเรย์​ด้วย​เพราะ​เธอ​ไอ​มาก

ระหว่าง​นั้น ชา​ลี​พยายาม​บอก​ว่า​วัน​นี้​อา​ร​ยา​ดี​กว่า​วัน​ที่ เขา​ไป​รับ​จาก​บ้าน​รุจิ​โรจน์​มาก​แล้ว กันท่า​ไม่​ให้​รุจ​มา​ยุ่ง​เกี่ยว แต่​แล้ว​ก็​ต้อง​ตะลึง​งัน เมื่อ​รุจ​เดิน​เข้าไป​อุ้ม​อา​ร​ยา​เดิน​ผ่าน ทุก​คน​ไป​โดย​ไม่​พูด​อะไร​สัก​คำ

รุจ​ก้มหัว​ให้​คุณนาย​พนา​เวส​ขณะ​อุ้ม​อา​ร​ยา​ผ่าน​ไป พอ​ลง​เรือ​ก็​ให้​นาย​สุข​พาย​กลับ​บ้าน​โดย​เร็ว

ที่​บ้าน​พนา​เวส ชา​ลี​กำลัง​โวยวาย​ทั้ง​เสียใจ​ทั้ง​โกรธ ที่​รุจ​มา​เอา​อา​ร​ยา​ไป โทษ​วัฒนา​ว่า​ไม่​น่า​บอก​รุจ วัฒนา​เถียง​ว่า รุจ​รู้อยู่​ แล้ว​จะ​ให้​ปด​ได้​อย่างไร ชา​ลี​ตีโพยตีพาย​เหมือน​เด็กเสีย​ของ​รัก​จน​คุณนาย​พนา​เวส​ต้อง​แอบ​ทำท่า​บอก​วัฒนา​อย่าเพิ่ง​พูด​อะไร​อีก​เลย

ooooooo

พอ​รุ​จก​ลับ​มา​ถึง​ท่า​น้ำ​บ้าน​รุจิ​โรจน์​อุ้ม​อา​ร​ยา ขึ้น​ท่า​น้ำ พวก​แม่ๆทั้ง​สาม​ก็​วิ่ง​แข่ง​กัน​มา​รับ​ด้วย​ความ ดีใจ แม่​ละม่อม​บอก​ว่า​ให้​พา​ไป​ที่​ห้อง​ของ​อา​ร​ยา​เลย จะ​เข้าไป​ช่วย​อุ้ม​รุ​จบ​อก​ว่า​ตน​ไหว​แล้ว​อุ้ม​ไป​เอง

หลังจากวัดไข้แล้วรุจพึมพำว่า “ไข้สูง นับว่าเป็นมาก” แล้วบอกพวกแม่ๆว่าจะไปโรงพยาบาลเอายา จะรอดูอาการ ของเธออีกสักวัน แต่วันนี้ให้แม่ๆเช็ดตัวเธอก่อนให้ไข้ลด

รุจไปโรงพยาบาลเจอฉลวย พอรู้ว่าเขาต้องการพบ หมอดวงใจเพราะคนที่บ้านไม่สบายมาก ฉลวยก็กระวีกระวาด ไปเอายาที่แผนกอายุรกรรมให้ เมื่อได้ยารุจกลับมาป้อนยา ป้อนน้ำให้อย่างห่วงใย เห็นอารยาดูดน้ำได้ก็ใจชื้นขึ้นมา

ooooooo

ที่หน้าบ้านรุจิโรจน์ เสาวรสมาแล้ว เธอถือวิสาสะ เข้าบ้านและจะขึ้นข้างบน ถูกสามแม่มายืนขวางจังก้า เต็มประตู แม่ละม่อมบอกว่าคุณหนูไม่อยู่ เสาวรสบอก ว่าเขาไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาล

“คุณหนูมีที่ไปเยอะแยะ” แม่พินบอก

“ฉันรู้”

“ถ้ารู้ก็สมควรรีบกลับ” แม่พร้อมไล่ส่ง เสาวรสลอยหน้า โอ้อวดว่าถ้ารุจรู้ว่าตนมาจะต้องมาพบ ไม่มีวันปฏิเสธตนเด็ดขาด ทั้งยังคุยโวว่าตนเป็นคนรักของรุจ เป็นคนที่วันหนึ่งจะมาเป็น เจ้าของที่นี่

ไม่ว่าเสาวรสจะคุยโว พูดข่มขู่อย่างไรสามแม่ก็ยืนกระต่าย ขาเดียวไม่ยอมให้เข้าบ้าน จนสุดท้ายเสาวรสต้องกลับไปอย่าง หัวเสีย ท่ามกลางสายตาของสามแม่ที่จิกตามอย่างชิงชัง

รุ่งเช้าชาลีมาเยี่ยมอารยาอีก มณีบอกว่ารุจไม่ให้ใคร มายุ่งเขาจะดูแลเธอคนเดียว ทั้งยังสั่งห้ามใครเยี่ยมด้วย ชาลี กำลังหงุดหงิด ก็พอดีแม่พร้อมมาเจอ เขาดีใจมากบอกว่า ขอเยี่ยมอารยา

แม่พร้อมจัดแจงพาขึ้นไปเคาะประตู รุจถามจากข้างในว่า ใคร พอรู้ว่าเป็นแม่พร้อมเขาถามว่าต้องการอะไร

“เออ...คุณชาลีขอเยี่ยมคุณน้อยค่ะคุณหนู”

ข้างในเงียบไปทันที ชาลียุให้แม่พร้อมเปิดประตู เข้าไปเลย แม่พร้อมไม่กล้า เขาเลยเข้าไปเคาะประตูเองบอก รุจว่าขอเยี่ยมอารยา

“อย่า​เพิ่ง​เลย” รุจ​ตอบ​ออก​มา ชา​ลี​ขอ​ทราบเหตุผล “เหตุผล​ง่ายๆ อา​ร​ยา​ยัง​ไม่ได้​สติ เยี่ยม​ไป​ก็​ไม่​มี​ประโยชน์” ชา​ลี​ขอ​อีก​ว่า​แค่​เข้าไป​ดู​เท่านั้น รุจ​ตัดบท​ว่า “นั่นแหละ ที่​ฉัน ว่า​ไม่​มี​ประโยชน์”

สุดท้ายชาลีต้องกลับไปอย่างผิดหวัง

ooooooo

ส่วนเสาวรสวันนี้เธอมาใหม่ คราวนี้พาพระศัลย์ฯ มาด้วย พวกแม่ๆเห็นก็เยาะเย้ยว่าวันนี้พาไม้กันหมา มาด้วย พอพระศัลย์ฯแนะนำตัวเองว่าเป็นคุณพระ เป็นพ่อของเสาวรส แม่ละม่อมก็ยกมือไหว้ขอโทษ เสาวรสสั่งให้หลีกทาง

พวกแม่ๆแม้จะไม่ลงรอยกันเองเรื่องจะเชียร์อารยา กับใคร แต่พอมาเจอตัวแทรกอย่างเสาวรส ทั้งหมดก็รวมหัว กันกีดกันเต็มที่ แม้เธอจะพาพระศัลย์ฯมาเบิกทางก็ไม่สำเร็จ ซ้ำยังถูกสามแม่ตำหนิติเตียน พระศัลย์ฯที่เป็นผู้ใหญ่แต่ทำตัว ไม่เหมาะสม พากันยืนขวางรุมกันด่าว่าเสียจนสองพ่อลูก ต้องล่าถอยไป

พอกลับถึงบ้าน เสาวรสบ่นพ่อว่าอุตส่าห์พาไปด้วย แต่ไร้ประโยชน์ส้ินดี พระศัลย์ฯถูกลูกว่าก็หน้าจ๋อยไปตามเคย

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น