วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2554

เคหาสน์สีแดง ตอนที่ 8

ตอนที่ 8

รุจ​ปิด​ประตู​ดูแล​รักษา​อา​ร​ยา​คน​เดียว​ห้าม​ใคร​รบกวน​ห้าม​ใคร​มา​เยี่ยม แม้​จะ​ผ่าน​เวลา​ไป​ข้าม​วัน​ข้าม​คืน แต่​อาการ​อา​ร​ยา​ก็​ยัง​ไม่​ดี​ขึ้น วัน​นี้​เธอ​ก็​เพ้อ​ถึง​แม่​อีก เธอ​คร่ำครวญ​เรียก​แม่ ร้องไห้​สะอึกสะอื้น​จน​ตัว​โยน จน​รุจ​รู้สึก​สะเทือนใจ โอบ​เธอ​ไว้​ใน​อ้อม​กอด อย่าง​ให้ความ​อบอุ่น​จน​เธอ​เงียบ​ไป

ที่บ้านพนาเวส ทั้งวัฒนาและคุณนายพนาเวสต่าง ตกใจเมื่อรู้ว่ารุจไม่ยอมให้ชาลีเข้าไปเยี่ยมอารยา ชาลีขอร้อง แม่กับพี่สาวให้ไปเยี่ยมแทนตน

“ชาลี อย่าเพิ่งเลยนะลูก คุณหมอเขาอาจเกรงใจแม่ ยอมให้เยี่ยม แต่มันไม่ค่อยเหมาะสม แม่จะเสียผู้ใหญ่”

“แต่ผมเป็นห่วงคุณน้อย เป็นมากนะคุณแม่”

“ชาลี คุณแม่กับพี่จะช่วยอะไรได้ น้อยอยู่ในมือหมอ นะชาลี อย่าลืม”

ชาลีเถียงไม่ออกพร่ำถามอย่างร้าวรานใจว่า “พี่วัฒนา ทำไมเขาไม่ให้เยี่ยมล่ะ คิดออกไหม ทำไมเขาไม่ให้ผมเยี่ยม...”

ooooooo

ภาคิ​นัย​เฝ้า​รอ​จดหมาย​จาก​เสา​ว​รส​วันแล้ววันเล่า​ก็​ไม่​มี​มา เขา​ทน​ไม่ได้​ทิ้ง​งาน​ที่​ไร่​เดินทาง​เข้า​พระนคร พร้อม​กล้วยไม้​กล่อง​ใหญ่ มิ​ใย​ว่า​ภคินี​จะ​ทักท้วง​อย่างไร ก็​ไร้​ผล ซ้ำ​ยัง​โกรธ​น้อง​ว่า​ไม่​เข้าใจ​ตน มอง​เสา​ว​รส​ใน แง่​ร้าย

ภาคิ​นัย​กอด​ประคอง​กล่อง​กล้วยไม้​มา​ตลอด​ทาง​อย่าง​มี​ความ​สุข​ที่​จะ​ได้​มอบ​ให้​คน​รัก

เมื่อเขามาถึงบ้านเสาวรส เธอต้อนรับเขาอย่างยั่วยวน อ่อนหวานตามเคย แต่พอภาคินัยอยากคุยกับคุณพ่อเธอ เพราะจะเรียนท่านว่าตนรักและจะขอนุญาตแต่งงานกับเธอแล้ว ย้ายไปอยู่ที่ไร่รวงผึ้งด้วยกัน เสาวรสก็หน้าตึงขึ้นมาบอกว่า อย่างไรเสียตนก็ไปไม่ได้ ภาคินัยถามอย่างผิดหวังว่าทำไม

“ภาคิ​นัย​คะ เข้าใจ​เถอะ​ค่ะ​ว่า​เสา​ว​รส​รัก​คุณ อยาก​แต่งงาน​กับ​คุณ แต่​มัน​เป็น​ไป​ไม่ได้ เพราะ​คุณ​พ่อ​ไม่​ยอมให้​ไป​อยู่​ไกล​จาก​ท่าน​ค่ะ”

ภาคินัยเสนอว่าให้ย้ายไปอยู่เสียด้วยกันที่นั่นเลย อากาศดีธรรมชาติสวย เธอตอบแทนพ่อตัวเองว่าคงไม่ได้เพราะ ท่านไม่ชอบอยู่บ้านนอก ทั้งยังอ้างว่าท่านอายุมากแล้วตน ไม่อยากแยกกันอยู่กับท่าน แล้วชวนให้เข้ามาอยู่พระนครด้วยกัน

“ผมไม่อาจทำได้ งานที่ไร่ไม่มีใครแทนผมได้เลย มีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น เราแต่งงานกัน เสาวรสอยู่ทางนี้บ้างไป อยู่โน่นบ้างได้ไหมครับ”

ไม่​ว่า​ภาคิ​นัย​จะ​เสนอ​อย่างไร วิธีการ​ไหน เสา​ว​รสยืนกราน​อย่าง​เดียว​ว่าไม่ได้​ด้วย​เหตุผล​ที่​ต่างๆกัน​ไป จน​สุดท้ายเธอ​ทำ​ที ​เห็น​พ่อ​เดิน​มา เรียก​ให้​มา​คุย​กันเอง ส่วนตัว​เอง​เลี่ยงออก​ไป

พระศัลยแพทย์พิสุทธิ์คุยกับภาคินัยอย่างนิ่มนวล เยือกเย็นและเปี่ยมไปด้วยความรักความเห็นใจว่า

“ผมเห็นใจคุณจริงๆเสาวรสเศร้ามาหลายวันที่ต้อง ตัดสินใจอย่างนี้ เขาพยายามขอร้องผมให้ไปอยู่ที่โน่นกับเขา แต่ขอโทษเถอะนะ ผมมันทิ้งชีวิตในพระนครไปไม่ได้จริงๆ อยู่มา 60 กว่าปี มันชินแล้วคุณ”

ภาคินัยเหมือนมีอะไรมาจุกคอจนพูดไม่ออก ในขณะ ที่พระศัลย์ฯยังคงพูดต่ออย่างนิ่มนวลว่า

“เสาวรสเป็นลูกที่ดี ผมบอกให้ไปอยู่กับคุณได้หลังจาก แต่งงาน แต่เขาทิ้งพ่อไม่ได้”

เมื่อพระศัลย์ฯออกไปพบเสาวรส เธอถามว่าพ่อพูด เหมือนที่ลูกบอกหรือเปล่า พระศัลย์ฯรับรองว่าพูดเหมือนทุกคำ บอกว่าภาคินัยอยากพบเธออีกสักครั้ง เสาวรสจึงออกไปพบเขา ที่ข้างนอก

ภาคินัยขอร้องเธอให้คิดใหม่ได้ไหม พยายามหาทาง จัดการเรื่องที่อยู่ของคุณพ่อเธอกับเรื่องของเรา เสาวรสคลอเคลีย เขาอย่างแสนรัก พาเขาไปนั่ง กุมมือทั้งสองของเขาไว้ พูด เหมือนกลั่นจากหัวใจ

“ก่อนที่คุณจะมา เสาวรสสับสน ตัดสินใจไม่ถูก กิน ไม่ได้ นอนไม่หลับนานมาก แต่ถึงวันนี้มีคำตอบเพียงคำเดียว... เสาวรสเสียใจ”

ภาคินัยออกจากบ้านเสาวรสมาอย่างไร้ชีวิตจิตใจ ไป นั่งดื่มอย่างหนักจนเมาฟุบกับโต๊ะและเมื่อเดินทางกลับ เชียงใหม่ในวันต่อมา เขานั่งเหม่อมองไปข้างนอกอย่างเลื่อนลอย นัยน์ตาแดงก่ำ หนวดเครารุงรัง ทรุดโทรมเพราะไม่ดูแลตัวเองเลย...

ภาคินี​เห็น​สภาพ​พี่​ชาย ก็​เดา​ได้​ทันที​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น เธอ​โผ​เข้า​กอด​พี่​ชาย​ไว้​ใน​อ้อม​แขน​แน่น...

ooooooo

เช้า​วัน​ต่อ​มา ไม่​ว่า​แม่​พิน​มา​เช็ด​ตัว​ให้ ​หรือแม่​ พร้อม​เอาอาหาร​มา​ให้ อา​ร​ยา​นิ่งเฉย​เหมือน​หุ่น ​กระทั่ง แม่​ละม่อม​มา​ขู่​ว่า​ถ้า​ไม่​พูดไม่ทาน​อย่าง​นี้​ตน​โกรธ​จริงๆ ด้วย เธอ​ก็​ยัง​เฉย จน​แม่​ละม่อม​ลุก​ไป​บอก​รุจ​ที่​ยืน​มอง​อยู่​ว่า “หมด​ปัญญา อะไรๆเธอ​ก็​ไม่​เอา” แล้ว​แม่​ละม่อม​ก็​เดินละเหี่ย​ใจ​ออก​ไป

ที่หน้าบ้าน แม่พร้อมเดินออกมาเจอเสาวรสก้าวฉับๆ จะขึ้นบันได แม่พร้อมพรวดเข้าไปขวางเสาวรสบอกว่าจะมา พบรุจ แม่พร้อมบอกว่าเขาไม่ว่าง เธอก็อ้างว่ามีธุระสำคัญ

“ได้ค่ะ อิฉันจะเรียนคุณหนูให้ แต่ตอนนี้คุณหนู ไม่สะดวกเจอใคร” แม่พร้อมย้ำเสียจนเธอนิ่งคล้ายกับยอมรับ ตามที่แม่พร้อมบอก

รุจเข้าไปในห้องอยู่กับอารยาตามลำพัง เขาถึงกับ เอ่ยขอร้องให้เธอรับประทานอาหารออกไปรับแสงแดดอ่อนๆ ตอนเช้า ออกกำลังกายบ้างเพื่อจะรู้สึกดีขึ้นเพราะเพิ่งหาย อาจจะเป็นซ้ำได้

แต่​ไม่​ว่า​เขา​จะ​พูด จะ​ขอร้อง​อย่างไร เธอ​ก็​ยัง​คง​นิ่งเฉย เหมือน​ไม่​รับ​รู้​อะไร

“อา​ร​ยา...ขอ​ให้​รับคำ​ขอร้อง​ของ​ฉัน​ด้วย ฉัน​ไม่​เคย​เอ่ย​คำ​ขอร้อง​ใคร​มา​กถึง​ขนาด​นี้” รุจ​ขอ​อีก

นั่นแหละ อา​ร​ยา​จึง​พยายาม​พูด​เสียง​สั่น​เครือ

“น้อย​จะ​ทำ​ทุก​อย่าง...แลกเปลี่ยน​กับ​สิ่ง​หนึ่ง” รุจ​ตั้งใจ​ฟัง​อย่าง​ดีใจ โล่ง​ใจ ​ถาม​อย่าง​เร็ว​ว่า​อะไร “ให้​ชา​ลี​มา​เยี่ยม”

เท่านั้น​เอง รุจ​ลุก​พรวด​หน้า​ขรึม​ทันที เมื่อ​หัน​มา​สบตา​อา​ร​ยา​อีก​ที เขา​พูด​อย่าง​เย็น​ชา

“เธอ​ต้องการ​ให้​เขา​มา​เยี่ยม...มาก...ใช่​ไหม” เขา​ย้ำ​คำ​อย่าง​ประชดประชัน เมื่อ​เธอ​ตอบ​รับ ​เขา​ก็​เดิน​ปึงปัง​จะ​ออก​ไป แต่​ยัง​ไม่ทัน​ถึง​ประตู​ห้อง ​เสา​ว​รส​ก็​เปิด​เข้า​มา​ก่อน มี​แม่​พร้อม​ยืน​ทำ​หน้า​ลำบาก​ใจ​อยู่​ข้าง​หลัง เธอ​ปราด​เข้าหา​รุจ​ฟ้อง​ว่า​แม่​พร้อม​ไม่​ยอม​ให้​ตน​ขึ้น​มา​พบ​เขา มี​เรื่อง​อะไร​หรือ

รุจ​จับ​แขน​เธอ​ดึง​ออก​ไป แต่​เธอ​ยัง​ขืน​ตัว​ไว้​ถาม​ว่า​อา​ร​ยา​เป็น​อะไร ทำไม​เขา​ต้อง​มา​เฝ้า​ด้วย​ รุจ​ไม่​ตอบ​บอก​แค่​ว่า​อา​ร​ยา​ไม่สบาย​แล้ว​ดึง​เธอ​ลง​ไป​ข้าง​ล่าง บอก​แม่​พร้อม​เสียง​ขุ่น​ว่า

“แม่​พร้อม​ไป​บอก​คุณ​ชา​ลี​ให้​มา​เยี่ยม​อา​ร​ยา​ด้วย” พูด​แล้ว​เดิน​ไป​เลย เสา​ว​รส​จ้อง​อา​ร​ยา​ตาคม​กริบ ​เดิน​เข้าไป​หา​อา​ร​ยา​ที่​เมิน​หน้า​ไป​ทาง​อื่น สาม​แม่​ที่​ขึ้น​มา​ออ​กัน​อยู่​รีบ​เข้าไป​ยืน​เป็น​กำแพง​ขวาง​เสา​ว​รส​อย่าง​ปกป้อง​อา​ร​ยา

เสา​ว​รส​พูด​ทิ่มแทง​ใจ​อา​ร​ยา​ว่า​คิดถึง​แม่​ไหม ​ถ้า​แม่​เธอ​อยู่คง​อบอุ่น​กว่า​นี้ อา​ร​ยา​มอง​อย่าง​ไม่​เข้าใจ​ว่า​เธอ​มี​จุด​มุ่งหมาย​อะไร เสา​ว​รส​พูด​ต่อ​ก่อน​เดิน​เชิด​ออก​ไป​ว่า

“แต่​ถ้า​อยู่ เธอ​อบอุ่น​ก็​จริง แต่​ต้อง​สู้​กับ​ความ​อับอาย”

อา​ร​ยาบ​อก​แม่​ทั้ง​สาม​ว่า​ตน​ไม่​เข้าใจ แต่​ตน​ไม่​ฟัง​เพราะ ว่า...เธอ​พูด​ทิ้ง​ไว้​แค่​นั้น ​จน​แม่​ละม่อม​ซัก​ถาม ​เธอ​จึง​พูด​อย่าง​เจ็บปวด​จน​แม่​ทั้ง​สาม​อึ้ง​สนิท​ว่า

“เขา​พูด​เหมือน​คุณ​รุ​จ...เขา​พูด​เหมือน​กัน”

เมื่อ​แม่​ทั้ง​สาม​ลง​ไป​ปรารภ​กัน​ใน​ครัว​ว่า​อา​ร​ยา​โกรธ อา​ร​ยา​น้อยใจ หรือ​อา​ร​ยา​หึง นาย​สุข​ก็​ทะลุ​กลาง​ปล้อง​ขึ้น​ว่า​อาจจะ​หึง​ก็ได้ เล่า​ยิ้ม​ในหน้า​ว่า

“ฉัน​เห็น...บน​เรือ​วัน​นั้น...” นาย​สุข​ยั่ว​ให้​แม่​ทั้ง​สาม​หูผึ่ง​แล้ว​ก็​ไม่​เล่า ถูก​รุม​เค้น​สุดท้าย​เลย​เล่า​ต่อ​ไป​ว่า “คุณ​รุจ​เธอ​กอด​คุณ​น้อย​ไว้​ตอน​ไป​รับ​กลับ​มา​จาก​บ้าน​พนา​เวส”

แม่​พร้อม​ที่​ถือ​ข้าง​ชา​ลี​อยู่​คุย​ทับ​ว่า “สู้​ตอน​พาย​เรือ​กับ​คุณ​ชา​ลี​ของ​ฉัน​ไม่ได้​ สอง​คน​คุย​กัน​ไป​กะ​หนุ​งกระหนิง​เก็บ​ฝักบัว​ไป​กิน​กัน​ไป น่า​รัก​เหลือเกิน” พูด​แล้ว​สะดุ้ง​กับ​เสียง​ฝา​หม้อ ​หล่น​จาก​ฝีมือ​แม่​พิน หัน​ไป​ค้อน​บ่น​อุบอิบ “เสียเส้น​จริงๆ”

ooooooo

ขณะ​ที่​รุ​จอ​ยู่​ใน​อารมณ์​หงุดหงิด​กับ​คำ​ขอ​ของ​อา​ร​ยา​นั้น เสา​ว​รส​ตาม​มา​ฉอเลาะ​บอก​ว่า​จะ​อยู่​ที่​นี่​อีก ​สัก​พัก ​ตน​บอก​คุณ​พ่อ​ไว้​แล้ว​ว่าที่​นี่​สบาย​จะ​มา​รับประ-ทาน​อาหาร​เช้า​กับ​รุจ​และ​อาจ​อยู่​ที่​นี่​ทั้ง​วัน

จนกระทั่ง​รุจ​เตรียมตัว​ไป​ทำ​งาน เธอ​ก็​เข้าไป​เกาะ​แขน​นัด​พบ​กัน​คืน​นี้​ ยื่น​หน้า​ไป​จูบ​แก้ม​เขา​ฟอด​ใหญ่ รุจ​เบี่ยง​ตัว​นิดๆใน​ขณะ​ที่​เสา​ว​รส​พยายาม​เกาะ​แขน ​เขา​กลับ​พยายาม​แกะ​เธอ​ออก มอง​ไป​ที่​ท่า​น้ำ​เห็น​ชา​ลี​มา​กับ​แม่​พร้อม​ เขา​ขึ้น​รถ ​ไป​ทันที

ชา​ลี​เดิน​ผ่าน​เสา​ว​รส​อย่าง​เมิน​เฉย​เพราะ​รู้​เรื่องราว​ของ​เธอ​จาก​แม่​พร้อม​มา​แล้ว เธอ​ถาม​ว่า​จะ​ไม่​ทัก​กัน​หน่อย​หรือ ชา​ลีบ​อก​ว่า​ตน​ไม่​รู้จัก เธอ​แนะนำ​ตัว​เอง​ทันที​ว่า​ชื่อ​เสา​ว​รส​กำลัง​จะ​แต่งงาน​กับ​เจ้าของ​เคหาสน์​รุจิ​โรจน์ ชา​ลี​เลย​จำ​ต้อง​ไหว้​แล้ว​จะ​เดิน​ไป เสา​ว​รส​ถาม​อีก​ว่า​จะ​มา​หา​ใคร ชา​ลี​ไม่​ตอบ​เดิน​ผ่าน​ไป​เลย เสา​ว​รส​มอง​ตาม​แค้นๆ

ชา​ลี​รีบ​ขึ้น​ไป​หา​อา​ร​ยา​ที่​ห้อง เขา​โผ​เข้าไป​หา​ทักทาย​มอง​ด้วย​สายตา​ที่รัก​เธอ​จน​หมด​ใจ

แม้​ตัว​รุจ​จะ​อยู่​โรงพยาบาล​ตรวจ​คนไข้ แต่​ใจลอย ​ไม่​มี​ สมาธิ​ วอกแวก​เห็น​แต่​หน้า​อา​ร​ยา​กับ​ชา​ลี

ooooooo

แม่​พร้อม​ที่​เป็นใจ​ให้​ชา​ลี​อยู่​แล้ว เลี่ยง​ออก​จาก​ห้อง​อย่าง​จงใจ​เปิด​โอกาส​ให้​หนุ่ม​สาว​อยู่​กัน​ตามลำพัง

จนกระทั่ง​เย็น​เมื่อ​รุ​จก​ลับ​มา เขา​ตรง​ดิ่ง​ไป​ที่​ห้อง​อา​ร​ยา ​เคาะ​แล้ว​เปิด​ประตู​เข้าไป​ทันที​ เห็น​ชา​ลี​กำลัง​ห่ม​ผ้า​ให้​อา​ร​ยา ​ดู​ใกล้​ชิด​กัน​มาก เขา​ไม่​พูด​อะไร ส่วน​ชา​ลี​ตกใจ​ยืน​นิ่ง​เงียบกริบ จนกระทั่ง​รุจ​ถอย​ออก​ไป จงใจ​เปิด​ประตู​กว้าง​เชิง​ตำหนิ​ชา​ลี​ กับ​อา​ร​ยาก​ลายๆ

ชา​ลี​ใจคอ​ไม่​ดี​บอก​อา​ร​ยา​ว่า​ถึง​เวลา​ที่​จะ​ต้อง​กลับ​แล้ว​กระมัง อา​ร​ยา​ถาม​ว่า​ทำไม​ไม่​พูด​กับ​รุจ​ ชา​ลี​ยอม​รับ​ตรงๆว่า​เมื่อกี้​ตน​กลัว​เขา ไม่​รู้​เหมือน​กัน​ว่า​กลัว​เรื่อง​อะไร แล้ว​ตัดบท​ว่า​พรุ่งนี้​ค่อย​มา​ใหม่​ กำชับ​ให้​เธอ​ทาน​ยา พักผ่อน นอน​ให้​หลับ มอง​อา​ร​ยา​ด้วย​แวว​ตา​ดื่มด่ำ

“จ้ะ ขอบคุณ​นะ​ชา​ลี” อา​ร​ยา​น้ำเสียง​ปกติ โบก​มือลา​ท่าทาง​ขี้​เล่น เหมือน​จะ​บอก​ให้​ชา​ลี​รู้สึก​ตัว​กับ​สายตา​ที่​มอง​มา

ชา​ลี​เดิน​ผ่าน​ห้อง​ที่​ทั้ง​รุจ​กับ​เสา​ว​รส​นั่ง​ดื่ม​น้ำ​ชา​กัน​อยู่ เขา​หยุด​นิดหนึ่ง​ยกมือ​ไหว้​แล้ว​เดิน รุจ​เปรยๆอย่าง​อยาก​รู้​ว่า “ขยัน​ดี​นะ​ไป​มา​กี่​เที่ยว​แล้ว​วัน​นี้” เลย​ได้​รู้​จาก​เสา​ว​รส​ที่​หา​ช่อง​จะ​ฟ้อง​อยู่​แล้ว​ว่า

“ไม่​เห็น​ไป​ไหน อยู่​ที่​นี่​ทั้ง​วัน หัวเราะ​กัน​เสียง​ลั่น แม่ๆของ​รุจ​เขา​เป็นใจ​ให้​หรือ ควร​จะ​ไป​อยู่​ด้วย​ก็​ไม่ ปล่อย​ให้​ผู้หญิง​ผู้ชาย​อยู่​ด้วย​กัน​สอง​คนใน​ห้อง​ใน​หับ ประตู​ก็​ปิด​ตลอด​เวลา น่า​เกลียด”

นี่เอง พอ​ตก​เย็น​แม่ๆทั้ง​สาม​ก็​ถู​กรุ​จ​ไล่เบี้ย​เรื่อง​นี้ แม่​ละม่อม​อ้าง​ว่า​ตน​คุม​สิงห์​ให้​ตัด​ต้นไม้​หลัง​บ้าน​ทั้ง​วัน แม่​พร้อม​บอก​ว่า​ตน​เอา​อาหาร​ไป​ให้ แม่​พิน​ยืนยัน​ว่า​ตน​อยู่ ถู​ก รุ​จ​ดักคอ​ว่า​แต่​ไม่​ใช่​ตลอด​เวลา ​ตำหนิ​ว่า

“ไม่​นึก​บ้าง​หรือ​ว่า​ไม่​งาม ประตู​ก็​ปิด​ตลอด​เวลา”

พอ​รุจ​ไป​แล้ว แม่​ละม่อม​ทำ​หน้า​สยอง​บอก​ว่า​คุณ​หนู​โกรธ​จน​ตน​กลัว แต่​แม่​พิน​พูด​อย่าง​เชื่อ​ยิ่ง​ขึ้น​ทุกที​ว่า​คุณ​หนู​ของ​ตน​มี​ใจ​ให้อา​ร​ยา

เสา​ว​รส​ยัง​อยู่​ยุแยง​ตะแคง​รั่ว​เป่าหู​รุจ​เรื่อง​ความ​สัมพันธ์​ระหว่าง​อา​ร​ยา​กับ​ชา​ลี​จน​รุจ​ฉุน​เข้าไป​พูด​ประชด​อา​ร​ยา​ว่า “ป่วย​ก็​ต้อง​พัก อย่า​มัว​แต่​เพ้อ​ฝัน​เรื่อยเปื่อย”

“ขอบคุณ​ค่ะ​ที่​เตือน” อา​ร​ยา​เอ่ย​เสียง​ป​ร่า​กับ​ภาพ​ที่​ เสา​ว​รส​ควงแขน​รุ​จอ​ย่าง​แนบแน่น พอ​ทั้ง​คู่​เดิน​ควง​กัน​ออก​ไป อา​ร​ยา​ก็​เชิด​หน้า​แวว​ตา​ดื้อ​รั้น​วาบ​ขึ้น​มา

ooooooo

แต่​ไม่​ว่า​จะ​เจ็บปวด เจ็บ​ช้ำ​ระกำ​ใจ​อย่างไร อา​ร​ยา​ก็​ยัง​ปฏิบัติ​ตาม​คำ​สอน​ของ​แม่​อัม​พา​อย่าง​เคร่งครัด วัน​นี้​ก็​เอา​น้ำ​ชา​ไป​ให้​รุจ​ที่​ห้อง​ทำ​งาน กลับ​ถูก​เขา​บอก​ว่า

“เธอ​เอา​น้ำ​ชา​กลับ​ไป​เพราะ​ฉัน​ยัง​ไม่​อยาก​ดื่ม ทีหลัง​จำ​ไว้​ด้วย​ว่า​ถ้า​ฉัน​ไม่ได้​สั่ง​ไม่​ต้อง​เอา​มา”

อา​ร​ยา​อึ้ง​สนิท​ยืน​มอง​เขา​อย่าง​น้อยใจ​มาก รุจ​ปิด​หนังสือ​แรงๆถาม​ว่า​ตน​พูด​อะไร​ที่​เธอ​ไม่​เข้าใจ​หรือ อา​ร​ยา​จึง​หัน​หลัง​เดิน​กลับ​ออก​ไป​อย่าง​เร็ว รุจ​วาง​ปากกา​ปึง ถอน​ใจ​ยาว...

อา​ร​ยา​ออก​มา​ยืน​ร้องไห้​อยู่​หน้า​ห้อง แม่​พิน​ถาม​ว่า​ร้องไห้​ทำไม เธอ​เล่า​ให้​ฟัง​ว่า เอา​น้ำ​ชา​เข้าไป​แล้ว​ถู​กรุ​จ​ไล่​ออก​มา เธอ​เลียน​เสียง​และ​จำ​คำ​พูด​ของ​รุจ​ได้​ทุก​คำ จน​แม่​พิน​ฟัง​แล้ว​อึ้ง พึมพำ​ว่า

“มัน​คือ​อะไร มัน​ต้อง​มี​อะไร​สัก​อย่าง” แวว​ตา​แม่​พิ​นพ​ยา​ยาม​ค้น​หา​สัญญาณ​จาก​เรื่อง​ที่​เกิด​ขึ้น

ooooooo

แม่ๆทั้ง​สาม​เห็น​ความ​เปลี่ยนแปลง​และ​อารมณ์​ที่​แปรปรวน​ของ​คุณ​หนู​ตน​แล้ว​ก็​พา​กัน​วิเคราะห์​ไป​ต่างๆนานา จน​แม่​พิน​สรุป​ว่า​เหตุ​ที่​คุณ​หนู​หงุดหงิด​กับ​คุณ​น้อย​เพราะ​ชา​ลี​มา​อยู่​ที่​นี่​ทั้ง​วัน

“งั้น​ก็​แปล​ว่า” ขุน​ประ​จญ​คดี​ทำ​เสียง​ตื่นเต้น พอ​แม่ๆ มอง​เป็น​ตาเดียว​กัน​ก็​บอก​ว่า “งั้น...พินัยกรรม​ก็​จวน​เป็น​จริง​แล้ว​ล่ะ​สิ​เนี่ย”

เมื่อ​มี​ความ​มั่นใจ​กัน​เช่น​นี้ แม่​พิ​นบ​อก​แม่​พร้อม​ว่า​หยุด​เพ้อเจ้อ​เรื่อง​ชา​ลี​ได้​แล้ว ด้วย​เหตุผล​ว่า

“คุณ​ชา​ลี​เด็ก​ออก​ปาน​นั้น หล่อน​จะ​ให้​มา​ดูแล​คุ้มครอง​คุณ​น้อย​ได้​ยัง​ไง​ยะ ต่อ​ไป​นี้​หยุด​พูด​เรื่อง​คุณ​ชา​ลี​ไป​เลย”

แม่​ละม่อม​ถาม​ว่า​อย่าง​นี้​แล้ว​เรา​จะ​ช่วย​กัน​ให้​ลงเอย​อย่างไร ขุน​ประ​จญ​คดี​ตอบ​ทันที​ว่า

“ไม่​ต้อง​ทำ​อะไร​เลย ถ้า​ทั้ง​สอง​คน​มี​หัวใจ​ต่อ​กัน ไม่​ต้อง​ทำ​อะไร ให้​ความ​รัก​ทำ​งาน​เอง”

“ฉัน​ล่ะ​กลัว​คุณ​ปาก​แดง​เธอ​น่ะ​สิ เธอ​จู่โจม​คุณ​หนู​ของ​เรา​เหลือเกิน เห็น​เธอ​ที​ไร​ฉัน​ล่ะ​อก​สั่น​ขวัญหาย​ทุกที” แม่​พร้อม​ที่​ยอม​ถอย​เรื่อง​ชา​ลี​แล้ว​กลับ​มา​หนักใจ​เรื่อง​เสา​ว​รส​ ขึ้น​มา​อีก

พูด​ไม่ทัน​ขาดคำ เสา​ว​รส​ก็​ขับ​รถ​มา​ถึง เธอ​จู่โจม​อย่าง​รวดเร็ว​รุนแรง​ตามเคย ถูก​แม่​พร้อม​กับ​แม่​ละม่อม​พา​กัน​มา​ขวาง​ไม่​ยอม​ให้​ขึ้น​ไป​หา​รุจ พูด​ดี​ก็​แล้ว​กระทั่ง​ให้​คิดถึง​ความ​เหมาะสม ดี​งาม แม้แต่​ศักดิ์ศรี เสา​ว​รส​ก็​โต้​กลับ​ทุก​ประเด็น ทั้ง​ยัง​ขู่​ว่า ​เมื่อ​ไร​ตน​ได้​มา​เป็น​เจ้าของ​บ้าน​ที่​นี่ จะ​ไล่​ออก​ให้​หมด

รุจ​มา​ได้ยิน​เข้า​พอดี​ร้อง​ถาม​ว่า​ใคร​จะ​มา​เป็น​เจ้าของ​บ้าน​หรือ เสา​ว​รส​ถลา​เข้าไป​หา​เขา​ทันที​ฟ้อง​ฉอดๆว่า​ตน​ถูก​สอง​แม่​นี่​ไล่​ออก​จาก​บ้าน รุจ​ไม่ทัน​พูด​อะไร มณี​ก็​เข้า​มา​ถาม​หา​อา​ร​ยาบ​อก​ว่า​ชา​ลี​มา​หา

เท่านั้น​เอง รุจ​หน้า​เครียด​ขึ้น​ทันที แม่​พร้อม​รู้​สถานการณ์​รุน​หลัง​มณี​ออก​ไป อา​ร​ยา​เดิน​ออก​มา​มอง​ไป​เห็น​รุจ​เดิน​โอบ​เอว​เสา​ว​รส​อยู่ เธอ​มอง​แวบ​เดียว​ก็​เดิน​ไป ส่วน​เสา​ว​รส​ที่​จับ​สังเกต​อยู่ มอง​หน้า​รุ​จอ​ย่าง​เดา​ใจ​ได้​ว่า​เขา​คิด​อย่างไร​กับ​อา​ร​ยา แม้​จะ​ไม่​แสดง​กิริยา​ใดๆ แต่​ใบหน้า​เธอ​เริ่ม​เครียด​แล้ว

เสา​ว​รส​ฉวย​โอกาส​ที่​ชา​ลี​มา​หา​อา​ร​ยา​และ​

อา​ร​ยา​ไป​ส่ง​ที่​ท่า​น้ำ​พูด​คุย​หัวเราะ​กัน​อย่าง​สนิทสนม ​ยุยง​เป่าหู​ให้​เขา​ไม่​พอใจ​อา​ร​ยา​และ​เร่ง​ทำ​คะแนน​ให้​ตัว​เอง​เต็มที่ อ้อน​เขา​ว่า​เย็น​นี้​ให้​รีบ​กลับ​มา​ดิน​เนอร์​กัน ตน​จะ​เตรียม​ของ​โปรด​ของ​เขา​ไว้​ให้

รุจ​ฟัง​ไป​อย่าง​นั้น​เอง แล้ว​จู่ๆเขา​ก็​ถาม​ขึ้น​ว่า​เธอ​กับ​ภาคิ​นัย​พบ​กัน​บ้าง​ไหม ทำเอา​เสา​ว​รส​สะอึก​ไป​นิดหนึ่ง พริบตาเดียว​ก็​ตอบ​ด้วย​น้ำเสียง​ปกติ​ว่า​พบ​บ้าง  ​แต่​ไม่ได้​พบ​มา​นาน​แล้ว ย้อน​ถาม​ว่า​ถาม​ทำไม​หรือ  รบเร้า​จะ​ให้​เขา​บอก​ให้​ได้ พอ​เขา​บอก​ว่า​แค่​อยาก​รู้ ก็​ถาม​อีก​ว่า​ทำไม​ถึง​อยาก​รู้​เพราะ​มัน​ไม่​ใช่​เรื่อง

ความ​หวาดระแวง​ทำให้​เธอ​ยื่น​คำขาด​กับ​รุจ​ว่า​ห้าม​ถาม​ถึง​ภาคิ​นัย​อีก ตน​รู้จัก​ภาคิ​นัย​แค่​ผิวเผิน และ​รุจ​ก็​เป็น​คน​แนะนำ​เอง​ด้วย ยิ่ง​พูด​เธอ​ก็​ยิ่ง​มี​อารมณ์ จน​รุจ​ถาม​ว่า​ทำไม​ต้อง​โกรธ​ด้วย

“เสา​ว​รส​ไม่ได้​โกรธ แต่​ไม่​เข้าใจ​ว่า​รุจ​จะ​ถาม​ถึง​ผู้ชาย​คน​นี้​ทำไม ต่อ​ไป​นี้​อย่า​ถาม​อย่าง​นี้​อีก​นะ​รุจ ถ้า​รุจ​ถาม เสา​ว​รส​ จะ​ถือว่าไม่​ให้​เกียรติ​ที่​สงสัย​ว่า​เสา​ว​รส​ติดต่อ​กับ​ผู้ชาย​อื่น ทั้งๆที่​มัน​ไม่​จริง”

เสา​ว​รส​เสียง​เข้ม​จริงจัง​เสีย​จน​รุจ​เงียบ​ไป

ooooooo

นับ​แต่​ภาคิ​นัย​กลับ​มา​ถึง​ไร่​รวงผึ้ง เขา​ยิ่ง​ทิ้ง​งาน​และ​ดื่ม​เมา​หัวราน้ำ​ทุก​วัน​จน​ภคินี​เป็น​ห่วง วัน​นี้​เดิน​ถาม​คน​งาน​จึง​รู้​ว่า​ไป​อยู่​ที่​บังกะโล​ลำธาร เธอ​ตาม​ไป​เจอ​กำลัง​ดื่ม​หนัก ขอร้อง​ก็​ไม่​ฟัง ยก​เรื่อง​เสา​ว​รส​มา​เตือนสติ​ว่า​เธอ​ไม่​ใช่​คน​ดี ก็​ยิ่ง​ทำให้​ภาคิ​นัย​ไม่​พอใจ​หา​ว่า​น้อง​มอง​คนใน​แง​่ร้าย ดูถูก​ตน​ว่า​ไม่​มี​สติปัญญา​ดู​คน​ไม่​ออก

ทั้ง​สอง​โต้เถียง​กัน​รุนแรง ภาคิ​นัย​พรวด​ออก​ไป​ขึ้น​รถ ภคินี​กลัว​พี่​ชาย​จะ​ได้​รับ​อันตราย​กระโดด​ไป​ขวาง​แล้ว​ก็​กระโดด​หลบ​แทบ​ไม่ทัน ร้อง​บอก​คน​งาน​ให้​ช่วย​กัน​หยุด​ก็​ไม่​มี​ใคร​ขวาง​กั้น​ได้

ภคินี​ตัดสินใจ​วิ่ง​ตาม​รถ​พี่​ชาย​ไป ถูก​มอเตอร์ไซค์​ที่​ขับ​สวน​มา​อย่าง​เร็ว​ชน​กระเด็น​หลัง​กระแทก​พื้น​อย่าง​แรง น้า​สังวาลย์​ ตาม​มา​พบ​พอดี​รีบ​พา​หลาน​สาว​ส่ง​โรงพยาบาล ส่วน​ภาคิ​นัย​เห็น​น้อง​ถูก​รถ​ชน​ปาง​ตาย จึง​ได้สติ​รีบ​ตาม​มา​ที่​โรงพยาบาล ขอโทษ​น้อง​น้ำตา​ซึม

ภคินี​อยู่​โรงพยาบาล 7 วัน แต่​ขยับ​ตัว​ไม่ได้ เมื่อ​หมอประพัฒน์​เข้า​มา​จึง​ชี้แจง​ให้​ฟัง​ว่า

“เหตุ​ที่​ขยับ​ไม่ได้​เพราะ​กระดูก​ส่วนหลัง​กระทบกระเทือน​รุนแรง กด​ทับ​เส้น​ประสาท​ส่วนหลัง ทำให้​ส่วน​ล่วง​ตั้งแต่​เอว​ลง​ไป​หมด​ความรู้สึก อาการ​อย่าง​นี้​เขา​เรียก​ว่า​อัมพาต​ครึ่ง​ตัว”

ภาคิ​นัย​เสียใจ​ที่​ตัว​เอง​ทำให้​น้อง​ต้อง​บาดเจ็บ​และ​โกรธ​หมอที่​รักษา​น้อง​ไม่ได้ พอ​รู้ตัว​ก็​ขอร้อง

“แก​ต้อง​รักษา​ให้​ได้พัฒน์ แก​ต้อง​ช่วย​น้อง ถ้า​ไม่​อย่าง​นั้น​ฉัน​จะ​รู้สึก​ผิด​ไป​ตลอด​ชีวิต ฉัน​ยอม​แลก​ทุก​อย่าง​ที่​ฉัน​มี ขอ​ให้​น้อง​หาย”

“ฉัน​จะ​พยายาม ต้อง​ปรึกษา​หมอ​ที่​พระนคร หมอ​ทาง​ประสาท​วิทยา​มี​แทบ​จะ​นับ​ตัว​ได้”

“ตอน​นี้​ฉัน​ต้อง​ทำ​ยัง​ไง” ภาคิ​นัย​ถาม​เสียง​แหบ​แห้ง

“อาการ​น้อง​ทุก​อย่าง​ดี​หมด​แล้ว แก​รั​บน้อง​กลับ​บ้าน​ได้”

ooooooo

แม้​จะ​มี​เรื่อง​ให้​ไม่สบาย​ใจ​อยู่​ตลอด​เวลา แต่​รุจ​ก็​ยัง​ทำ​งาน​ได้​อย่าง​ดี​เยี่ยม​จน​ทั้งคน​ไข้​และ​ญาติคนไข้​รัก​และ​ชื่นชม จน​เรียก​ว่า​เป็น​หมอ​เทวดา​มี​น้ำใจ​เหลือเกิน

แต่​แล้ว​ก็​มี​ปัญหา​ให้​ปวด​หัว​เมื่​อนาย​ชิด​พา​ชอบ​ลูก​ชาย​ที่​ถูก​ฟัน​แขน​หนี​ออก​จาก​โรงพยาบาล รุจ​คาด​ว่า​คง​ไม่​มี​ค่า​รักษา​พยาบาล บอก​ฉลวย​กับ​เจ้าหน้าที่​ให้​ไป​ตามกลับ​มา​ให้​ได้ เพราะ​ถ้าแผล​ติด​เชื้อ​จะ​อันตราย​ถึง​ชีวิต

เมื่อ​ตาม​กลับ​มา​ได้ เขา​ฉีดยา​ให้​ชอบ ​บอก​ชิด​ว่า

“คราว​นี้​อาการ​หนัก​มาก ขอ​ให้​อยู่​จน​หาย อย่า​พา​หนี ไป​อีก ถ้า​เงิน​ไม่​มี​บอก โรงพยาบาล​ไม่​ใจไม้ไส้ระกำ​อย่าง​ที่​คุณ​คิด​หรอก” พูด​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​เลย ชิด​มอง​ตาม​ด้วย​แวว​ตา​อ่อนโยน เพราะ​ยัง​ไม่​รู้​ว่า​รุจ​เป็น​ใคร

อา​ร​ยา​ได้​รับคำ​สั่ง​ให้​ทำ​อาหาร​ฝรั่ง​ใน​มื้อ​เย็น​นี้ เธอ​ทำ​ด้วย​อารมณ์​หม่นห​มอง​จน​แม่​พร้อม​ถาม​ว่าเป็น​อะไร เธอ​ตอบ​อย่าง​คน​ไม่​มี​ทาง​เลือก​ว่า

“ไม่​ค่ะ​ป้า​พร้อม น้อย​ไม่​เป็น​อะไร น้อย​เป็น​อะไร​ไม่ได้​อยู่​แล้ว”

แม่​พร้อม​ยัง​ค้าง​คา​ใจ บ่น​กับ​แม่​ละม่อม​กับ​แม่​พิน​ว่า​อา​ร​ยา​เป็น​อย่าง​นี้​มา​หลาย​วัน​แล้ว แม่​พิน​พูด​อย่าง​ผู้​รู้​ว่าวุ่นวาย​สับสน​อลหม่าน​หัวใจ เรื่อง​รัก​หนักอก​แน่ๆ

แม่​ละม่อม​ตา​โต​ถาม​ว่า​เรื่อง​รัก​หนักอก​น่ะ กับ​ใคร

ooooooo

ชา​ลีก​ลับ​จาก​โรงเรียน​มา​ถึง​บ้าน​พนา​เวส​ก็​เย็น​แล้ว ร่ำ​รํ่า​จะ​ไป​หา​อา​ร​ยา​ให้​ได้ พี่​ห้าม​ก็​ไม่​เชื่อ ​แม่​ห้าม​ก็​ไม่​ฟัง ​กระโดด​ลง​เรือ​พาย​ไป​บ้าน​รุจิ​โรจน์​ทั้งที่​ยัง​อยู่​ใน​ชุด​นักเรียน​นาย​เรือ

ปรากฏ​ว่า​อา​ร​ยามา​รอ​ที่​ท่า​นํ้า​จน​คิด​ว่า​ชา​ลี​ไม่​มา​แล้ว แต่​พอ​ลุก​จะ​เดิน​ไป​ก็ได้​ยิน​เสียง​ชา​ลี​ตะโกน​เรียก​แล้ว​กระโจน​ขึ้น​ท่า​นํ้า ทั้ง​สอง​หยอก​ล้อ​กัน​อย่าง​ร่าเริง แล้ว​ชา​ลี​ก็​ร้องเพลง​ออก​มา​อย่าง​ภาคภูมิ​ใจ...

“หะ​เบส​สมอ​พลัน​ออก​สันดอน​ไป ลัด​ไป​เกาะ​สี​ชัง​จนกระทั่ง​กระโจมไฟ เที่ยว​หา​ข้าศึก มิได้​นึก​จะ​กลับ​มา​ใน ถึง​ตาย​ตาย​ไป​ให้​แก่​ชาติ​ของ​เรา...”

อา​ร​ยา​ร้อง​ประสานเสียง​ไป​ด้วย​อย่าง​ร่าเริง

เสียง​เพลง​ดัง​ไป​ถึง​ห้อง​แปด​เหลี่ยม​ใน​เคหาสน์​สี​แดง เสา​ว​รส​เจาะ​จง​บอก​ให้​รุจ​ฟัง ทำ​เป็น​ถาม​เขา​ว่า​ชา​ลี​เรียน​จบ​เป็น​นาย​ทหาร​เรือ​แล้ว​เขา​จะ​แต่งงาน​กัน​เลย​ใช่​ไหม มิน่า​เล่า​ถึง​ได้​มา​เช้า​มา​เย็น

รุจ​ขอตัว​สัก​ครู่ บอก​ว่า​เดี๋ยว​พบ​กัน​ที่​ห้อง​อาหาร​เลย เสา​ว​รส​รู้ทัน​ไม่​ยอม​ให้​เขา​ไป อ้าง​ว่า​พ่อ​ให้​มา​ถาม​ว่า​เมื่อ​ไร​เรา​จะ​แต่งงาน​กัน รุจ​นิ่ง​ไป​ทันที เธอ​เร่งเร้า​ขอ​อย่า​นิ่ง​เงียบ​อย่าง​นี้​เลย

“ผม​ขอ​เวลา” รุจ​ตอบ​สั้นๆ เธอ​รบเร้า​ให้​ตอบ​มา​คำเดียว​ว่า​จะ​แต่ง​กับ​ตน​ไหม ​แล้ว​เขา​จะ​ขอ​เวลา​นาน​แค่​ไหน​ก็ได้

รุ​จบ​อก​ว่า​ตน​ตั้งใจ​จะ​แต่งงาน​กับ​เธอ​เหมือน​ตอน​ที่​พูด​กับ​เธอ​ตั้งแต่​กลับ​มา​เมือง​ไทย​ใหม่ๆ คิด​ว่า​เธอ​เข้าใจ​แล้ว

เสา​ว​รส​ร้อนรน​ขึ้น​มา​ทันที​ระแวง​ว่า​เขา​มี​ใคร ​หรือ​ใคร​ทำ ให้​เขา​เปลี่ยนใจ ขอร้อง​เขา​อย่า​ปล่อย​ให้​ตน​เคว้งคว้าง​อยู่​อย่าง​นี้

“คุณ​สับสน​เหมือน​ที่​ผม​สับสน​ตั้งแต่​กลับมา​เมือง​ไทย​ใหม่ๆ”

“แต่​ต่อ​จาก​นี้​ฉัน​ก็​แสดง​ให้​คุณ​รู้​แล้ว​ว่า​ฉัน​เลือก​คุณ”

“ทำไม​คุณ​ต้อง​เลือก​ล่ะ ใน​เมื่อ​ผม​ไม่ได้​เลือก​เลย ผม​มี​คุณ​คน​เดียว”

เสา​ว​รส​ใจไม่ดี​ระแวง​ว่า​รุจ​จะ​รู้​เรื่อง​ของ​ตน​กับ​ภาคิ​นัย ยํ้า​ว่า​ตน​จะ​แต่งงาน​กับ​เขา ​ขอ​เพียง​เขา​ขอ​คำเดียว​เท่านั้น

“คำ​ตอบ​ของ​ผม​คือ ผม​ยัง​ไม่​ตัดสินใจ​เหมือน​ที่​เสา​ว​รส​ไม่​ตัดสินใจตอน​ที่​เรา​มา​ถึง​เมือง​ไทย​ใหม่ๆ”

เสา​ว​รส​กรี๊ด​ลั่น​หัน​หลัง​กลับ​ไป​อย่าง​เร็ว ขึ้น​รถ​ขับ​พรวด​ไป​ราวกับ​พายุ จน​สาม​แม่​​ที่​อยู่​หน้า​ตึก​พา​กัน​ออก​มา​ดู​ถาม​กัน​ว่า​ใคร​เป็น​อะไร นึก​ห่วง​คุณ​หนู​ของ​ตน​ขึ้น​มา

นาย​สิงห์​แบก​กล้า​ไม้​ดอกไม้​ประดับ​มา​ ถูก​เสา​ว​รส​เฉี่ยว​จน​ล้ม​ต้นไม้​กระเด็น​กระจาย เธอ​ลง​มา​ด่า​นาย​สิงห์​ว่า​ซุ่มซ่าม​เดิน​ไม่​ดู​ทาง ยิ่ง​เมื่อ​รู้​ว่า​กล้า​ไม้​เหล่า​นี้​จะ​เอา​ไป​ให้​อา​ร​ยา​ปลูก​กับ​รุจ เธอ​ยิ่ง​สะใจ​เดิน​ฉับๆไป​เหยียบ​ขยี้​กล้า​ไม้​เหล่า​นั้น​จน​แหลก​ลาญ​แล้ว​ขึ้น​รถ​ขับ​พรืด​ออก​ไป

พอก​ลับ​ถึง​บ้าน​ก็​โผ​เข้า​กอด​พระ​ศัลยแพทย์​พิสุทธิ์​ ผู้​เป็น​พ่อ​ร้องไห้​โฮๆ

ooooooo

เช้า​วัน​รุ่ง​ขึ้น อา​ร​ยา​ทำ​อาหาร​เช้า​ให้​รุจ​แล้ว​ก็​เตรียม​จะ​ไป​ปลูก​ต้นไม้ เธอ​เสียใจ​เสียดาย​มาก​ที่​ต้น​กล้า​ถูก​เสา​ว​รส​ทำลาย​แหลกลาญ แม่​พร้อม​เพิ่ง​จะ​เล่า​ให้​แม่​ละม่อม​กับ​แม่​พิน​ฟัง​เรื่อง​ที่​เสา​ว​รส​ขับ​รถ​เฉี่ยว​นา​ย ส​ิงห์​และ​เหยียบ​ขยี้​ต้น​กล้า​ของ​อา​ร​ยา โดย​ไม่​รู้​ว่า​รุจ​มา​ยืน​ฟัง​อยู่​เงียบๆ

เมื่อ​ไป​ถึง​โรงพยาบาล​แล้ว รุจ​จึง​โทรศัพท์​ไป​คุย​กับ ​เสา​ว​รส เธอ​รับ​สาย​ ฟัง​รุจ​พูด​แล้ว​กระแทก​โทรศัพท์​ลงอย่าง​ฉุนเฉียว​จน​พระ​ศัลย์ฯ​ผู้​เป็น​พ่อ​ที่​เงี่ยหู​ฟัง​อยู่​สะดุ้ง​โหยง

ครู่​ใหญ่​เธอ​ก็​ไป​ที่​บ้าน​รุจิ​โรจน์ ถูก​สาม​แม่​มา​ยืน​ขวาง​เป็น​แผง เธอ​สั่ง​ให้​หลีก ​หรือ​ไม่​ก็​ไป​ตาม​อา​ร​ยามา​พบ​ตน ระหว่าง​นั้น​อา​ร​ยา​แอบ​มา​ได้ยิน​เธอ​ตกใจ​รีบ​หัน​หลัง​กลับ​ชน​เข้า​กับ​มณี​ที่​เดิน​มา​เต็ม​แรง มณี​ตกใจ​ร้อง​โอ๊ย เสา​ว​รส​หัน​ไป​เลย​เห็น​อา​ร​ยา เธอ​พรวด​เข้าไป​หา​ทันที บอก​ว่า​มี​เรื่อง​จะ​พูด​ด้วย อา​ร​ยาบ​อก​ว่า​ตน​ไม่​มี​อะไร​จะ​พูด​ด้วย เสา​ว​รส​สั่ง​ให้​ตาม​ตน​ไป นั่ง​ฟัง​อย่าง​เดียว​พอ

สาม​แม่​ขวาง​จะ​ไม่​ให้​อา​ร​ยา​ไป เธอ​จึง​บอก​แม่​ทั้ง​สาม​ว่า​คุย​อะไร​จะ​กลับ​มา​เล่า​ให้​ฟัง​ทุก​คำ แม่​ทั้ง​สาม​เลย​ยอม​ปล่อย​ให้​ไป เธอ​บอก​เสา​ว​รส​ว่า​จำเป็น​ต้อง​บอก​แม่ๆอย่าง​นั้น ไม่​อย่าง​นั้น​ก็​ไม่ได้​มา จาก​นั้น​บอก​เสา​ว​รส​ว่า​มี​อะไร​เชิญ​พูด​มา​เลย

เสา​ว​รส​บรรยาย​ความ​ตั้งแต่​อยู่​อังกฤษ​กับ​รุจ​ จน​มา​ถึง​เมือง​ไทย​รุ​จอ​ยาก​แต่งงาน แต่​ตน​ยัง​รัก​อิสระ รุจ​จึง​ไป​ทำ​งาน​ต่าง​จังหวัด​อย่าง​ผิดหวัง​มาก เสา​ว​รส​ปั้น​น้ำ​เป็น​ตัว​ว่า​รุจ​เฝ้า​อ้อนวอน​ขอ​แต่งงาน​ด้วย ไป​เฝ้า​ที่​บ้าน​ทุก​วัน พูด​จน​อา​ร​ยา​จิตใจ​หวั่นไหว เธอ​พูด​ให้​หวั่นไหว​ยิ่ง​ขึ้น​ว่า

“ยัง​ไง​ก็ตาม เรา​ก็​ยัง​ไม่ได้​แต่งงาน ถึง​ตอน​นี้​ฉัน​พูด​ได้​คำเดียว​ว่า​เสียใจ พอ​นึกเห็น​รุจ​ผิดหวัง​ซมซาน​อ้อนวอน​ฉัน ฉัน​ยิ่ง​เสียใจ ฉัน​รู้​ว่า​ลึกๆแล้ว​รุจ​รัก​ฉัน​มาก เพราะ​ฉัน​เป็น​รัก​ครั้ง​แรก​ของ​เขา เขา​อ้างว้าง ว้าเหว่​มาก​นะ เขา​บอก​ว่า​เหมือน​อยู่ตัว​คน​เดียว​ใน​โลก”
เสา​ว​รส​ยัง​บรรยาย​ถึง​ความ​รัก​ที่​อังกฤษ​อย่าง​หยดย้อย บรรยาย​ถึง​ความ​ว้าเหว่​ของ​รุจ​ที่​มี​ตน​ปลอบ​ใจ​อยู่​คน​เดียว พูด​กระหน่ำ​ความรู้สึก​ของ​อา​ร​ยา​แล้ว​ถาม​หยันๆว่า

“รุจ​มี​ปัญหา​ลึก​มาก​ข้าง​ใน อา​ร​ยา​เธอ​สู้​กับ​ปัญหา​นั้น​ไม่ได้​หรอก รุจ​ต้องการ​คน​ที่​ปลอบโยน​เขา​ได้ โอบอุ้ม​เขา​ได้​เวลา​ที่​เขา​ว้าเหว่ เธอ​ยัง​เด็ก​ทำ​ไม่ได้​หรอก”

อา​ร​ยา​ตะลึง​พยายาม​ปฏิเสธ​ว่า​ตน​ไม่​ใช่​อย่าง​นั้น เสา​ว​รส​ไม่​สนใจ รุก​ต่อ

“รุจ​กำลัง​ไขว้เขว​เพราะ​ความ​ใกล้​ชิด เพราะ​เขา​เป็น​ผู้ชาย​ที่​หวั่นไหว​ง่าย​มาก เพราะฉะนั้น​ถึง​ต้อง​เป็น​เธอ เธอ​ต้อง​หลีกเลี่ยง​เขา อย่า​ทำให้​เขา​หวั่นไหว พูด​แค่​นี้​คง​เข้าใจ”

อา​ร​ยา​พยายาม​ปฏิเสธ​อย่าง​หวั่นไหว​ว่า​รุจ​ไม่ได้​เป็น​อย่าง​นั้น

“รุจ​เขา​ไม่ได้​รัก​เธอ​หรอก รุจ​ไม่​มี​ความ​รัก​ให้​ใคร​แล้ว เพราะ​เขา​ให้​ฉัน​ทั้งหมด แต่​ตาม​ประสา​ผู้ชาย ถ้า​มี​ผู้หญิง​คอย​ให้ท่า” พูด​แล้ว​เห็น​อา​ร​ยา​ตกใจ​ถาม​ว่า​ใคร​หรือ เสา​ว​รส​ก็​เปลี่ยน​เป็น​พูด​ว่า “เอาเป็นว่า​เธอ​พยายาม​อย่า​ใกล้​ชิด​เขา อย่า​เอา​ตัว​มา​อยู่​ใน​สายตา​เขา ถ้า​จะ​ให้​ทุก​อย่าง​เรียบร้อย ไม่​ควร​บอก​เรื่อง​นี้​กับ​แม่​สาม​คน​นั่น เพราะ​แก​จะ​ทำให้​เรื่อง​ยุ่งยาก​ขึ้น​ไป​อีก รับปาก​สิ”

“ค่ะ” อา​ร​ยา​รับปาก​แล้ว​จะ​เดิน​ไป เสา​ว​รส​จับ​แขน​ไว้​บีบ​อย่าง​แรง จ้อง​ตา​นิ่ง​ขณะ​พูด

“สุดท้าย...เธอ​ต้อง​จำ​ไว้​ด้วย​ว่า รุจ​เขา​ไม่​รู้ตัว​เอง​หรอก​ว่า​เขา​อ่อนแอ​ยัง​ไง ถ้า​เขา​รู้​เขา​จะ​เสีย​ความ​มั่นใจ แล้ว​มัน​จะ​เป็น​ผล​เสีย​กับ​งาน​เขา เขา​ต้อง​รักษา​คนไข้ เขา​ต้อง​ผ่า​ตัด ถ้า​คนไข้​ตาย​เพราะ​เขา​ทำ​พลาด เขา​จะ​ไม่​เป็น​ผู้​เป็น​คน​เลย”

เสา​ว​รส​ทั้ง​ขู่ทั้ง​ปลอบ พูด​ดัก​ทาง​ไว้​หมด จ้อง​หน้า​อา​ร​ยา​ นิ่ง​ราวกับ​จะ​สะกด​จิต​ให้​ทำ​ตาม​ที่​ตน​พูด

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น