วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

ป่านางเสือ ตอนที่ 10

ตอนที่ 10

ในเวลาต่อมา ดาว ฤทธิชัยกับจักจั่นมาถึงร้านอาหารตามนัด พบว่าคุณหญิงรัตนา ท่านรองฯก้อง-เกียรติ กับอภิชาตินั่งรออยู่ก่อนแล้ว อภิชาติมองสาวสวยแปลกหน้าอย่างสงสัย ดาวแนะนำคุณหญิงรัตนาว่านี่คือจักจั่น คุณหญิงมองอย่างคาดไม่ถึง

"คุณจักจั่น...คุณสวยน่ารักมากเลยครับ" อภิชาติร้องทักอย่างตื่นเต้นดีใจ

จักจั่นพยักหน้ารับอย่างแกนๆคิดว่าอภิชาติชมตามมารยาท แล้วขออนุญาตคุณหญิงรัตนาเชิญอภิชาติไปคุยกันข้างนอก จักจั่นจึงได้รู้ความจริงว่าถูกดาวกับฤทธิชัยร่วมมือกันหลอกว่าเธอได้ร่างคน แก่ แต่ที่จริงแล้วร่างใหม่ของเธอเป็นสาวสวยอายุไล่เลี่ยกับเธอ จักจั่นถึงกับยิ้มออก อารมณ์ดีกินอาหารได้อย่างเอร็ดอร่อย...

ฤทธิชัยเรียนถามท่านรองฯก้องเกียรติว่ามาทำอะไรแถวนี้ ท่านรองฯมาเยี่ยมเพื่อนซึ่งเป็นทหารเรืออยู่ที่สัตหีบ เพื่อนของเขามีเรื่องน่าสงสัยบางอย่างเลยอยากจะปรึกษา ฤทธิชัย เหมือนรู้ทันว่าตัวเองจะมีงานเข้า ท่านรองฯยังไม่อยากคุย อะไรตอนนี้ อ้างว่าเดี๋ยวพวกผู้หญิงจะเบื่อเสียก่อน

"ไม่ต้องห่วงหรอกครับ สาวทั่วไปชอบคุยเรื่องแฟชั่น แต่สาวๆตรงหน้าท่านชอบฟังเรื่องบู๊ๆครับ โดยเฉพาะถ้าเกี่ยวข้องกับนายสินชัย" อภิชาติกระเซ้า

คุณหญิงรัตนาได้ยินว่ามีชื่อสินชัยเข้ามาเกี่ยวข้องจึงชวนไปคุยกันต่อที่ บ้านพักของท่าน ไม่นานนัก ทุกคนมานั่งรวมกันที่ห้องรับแขกในบ้านพักริมทะเลของคุณหญิงรัตนา ท่านรองฯก้องเกียรติเล่ารายละเอียดให้ฟังว่า เรดาร์ของเรือยามฝั่งตรวจพบความเคลื่อนไหว แต่พอไปถึงจุดหมายกลับพบแต่ความว่างเปล่า ฤทธิชัยตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะเป็นเรือขนาดเล็กความเร็วสูง ถึงหลบเรดาร์ได้

"ท่านรองฯกำลังคิดว่านายสินชัยกำลังจัดงานเปิดตัวขายสินค้าทางทะเล" อภิชาติพูดเสริม

"ผมคิดว่าใช่...ผมให้คนตรวจดูแล้ว บังเอิญพบว่ามีเรือจากบริษัททัวร์ของนายสินชัยจอดเทียบท่าอยู่แถวนั้น พอดี...อีกเรื่องหนึ่งที่สายรายงานก็คือ จุดเก็บของของบริษัทในเครือของนายสินชัยอยู่ในพื้นที่นี้เช่นกัน"

"ว้าว...หนึ่งบวกหนึ่งเป็นสองพอดี จุดรับสินค้าเรือเร็วขนส่งสินค้า...ลงตัวเป๊ะๆ"

ฤทธิชัยเห็นด้วยกับอภิชาติว่าช่างบังเอิญอะไรขนาดนั้น ดาวกับจักจั่นลอบสบตากัน ท่านรองฯก้องเกียรติเห็นว่าสมควรแก่เวลา ขอตัวกลับก่อน อวยพรให้หนุ่มๆสาวๆเที่ยวกันให้สนุก ดาว จักจั่น อภิชาติ และฤทธิชัยต่างยิ้มให้กัน เข้าใจความนัยคำพูดของท่านรองฯก้องเกียรติ

ooooooo

หลังจากท่านรองฯก้องเกียรติกลับไปสักพัก ท่านรองฯโทร.มาบอกฤทธิชัยว่าจะส่งข้อมูลเกี่ยวกับจุดเก็บของและเรือทัวร์ของ บริษัทในเครือสินชัยมาให้ทางมือถือ ดาวพูดขึ้นลอยๆว่า ท่าทางคืนนี้ผู้กองกับอภิชาติคงต้องยุ่งแน่ๆ ฤทธิชัยรู้ทันว่าสองสาวจะขอไปด้วย รีบปฏิเสธว่าไปไม่ได้เด็ดขาด

"แค่รออยู่ในรถเฉยๆก็ไม่ได้หรือคะ...ลองคิดดูนะคะผู้กอง หนุ่มสาวสองคู่นั่งคุยกันในที่เงียบๆน่าจะเป็นเหตุเป็นผลที่ดีกว่าชายสองคน ไปนั่งหนุงหนิงกัน" ดาวทำตาหวานอ้อน

"ไม่ได้หรอกครับ เดี๋ยวคุณอาหญิงเกิดถามหาพวกคุณขึ้นมา ผมแย่แน่ๆ"

ดาวกับจักจั่นจะจัดการเรื่องขออนุญาตคุณอาหญิงเอง จังหวะนั้น มีเสียงสัญญาณมือถือดังเตือนว่ามีข้อมูลส่งมาถึงเรียบร้อยแล้ว ฤทธิชัยรีบกดดู บอกว่าจุดรับของเป็นผับอยู่ที่หาดจอมเทียน

"นายกับฉันเข้าผับกันสองคน พวกมันสงสัยแน่ๆ" อภิชาติมองเพื่อนเหมือนรอคำตอบว่าจะเอาอย่างไร

"ผมว่าคุณดาวไปขออนุญาตคุณอาหญิงดีกว่าครับ...เราจะไปเที่ยวผับกัน"

สองสาวดีใจ วิ่งปร๋อไปหาคุณหญิงรัตนาทันที...ไม่ช้า ดาว ฤทธิชัย อภิชาติและจักจั่นมาถึงทางเข้าที่จอดรถของผับเป้าหมาย เห็นมีชายฉกรรจ์ยืนตรวจเข้มอยู่ อีกทั้งรอบๆบริเวณลานจอดรถก็มีชายฉกรรจ์ยืนเฝ้าระวังเป็นจุดๆ ฤทธิชัยเตือนสาวๆให้ระวังตัวและขอร้องให้อยู่ใกล้ๆพวกเขามากที่สุด ชายฉกรรจ์เดินมาหยุดหน้ารถ มองสำรวจเข้ามาข้างใน แล้วขอดูบัตรเชิญ อภิชาติทำทีค้นโน่นค้นนี่ แล้วหยิบแบงก์พันยื่นให้

"ช่วยหน่อยน้อง ลืมเอาบัตรมา"

ชายฉกรรจ์หันไปพยักพเยิดกับพวกตนเองอีกสองคนให้เข้ามาใกล้ๆ พอพวกนั้นก้มลงกวาดสายตาเข้ามาในรถ ดาวจ้องตาสะกดจิตพวกนั้น ก่อนจะพูดขึ้นว่า "ไปได้แล้ว" พวกนั้นพยักหน้าอนุญาตให้รถของอภิชาติผ่านได้ ฤทธิชัยสังเกตเห็นสายตาที่ดาวมองพวกนั้น และยิ่งสงสัยมากขึ้นเมื่อเห็นเธอจ้องตากับคนเฝ้าประตูผับด้วยสายตาแบบเดียว กับที่มองพวกที่ลานจอดรถ แล้วได้เข้าผับอย่างง่ายดาย ฤทธิชัยอดแซวไม่ได้

"ดูเหมือนพวกมันจะหลงเสน่ห์คุณดาวนะ แค่สบตาเท่านั้นเองผ่านตลอด"

"ถ้าไม่ใช้เสน่ห์ก็ต้องใช้ปืน ผู้กองจะให้ใช้อย่างไหนคะ"

"ใช้เสน่ห์ดีแล้วครับ นายมีปัญหาอะไรหรือผู้กอง อย่าบอกนะว่านายหึง"

ดาวเอียงคอมองหน้าฤทธิชัยด้วยสายตาแวววับ เขาได้แต่ ยิ้มตอบ อภิชาติชี้ไปยังมุมหนึ่งของผับ เห็นพวกชายฉกรรจ์ คุมเชิงหนาแน่นกว่าที่อื่น จึงตกลงกันว่าจะเข้าไปตรวจดู ฤทธิชัยวางแผนให้อภิชาติกับจักจั่นก่อเรื่องที่บาร์ดึงความสนใจ ส่วนเขากับดาวจะลอบเข้าไปดูข้างในเอง

จักจั่นกับอภิชาติป่วนเคาน์เตอร์บาร์จนพวกชายฉกรรจ์ ส่วนหนึ่งต้องเข้าไปจัดการ ทิ้งคนเฝ้าเขตหวงห้ามไว้แค่สองคน ดาวกับฤทธิชัยอาศัยจังหวะที่จักจั่นกับอภิชาติลุยกับพวกนั้น เล็ดลอดผ่านพวกเฝ้าระวังที่มัวแต่ดูมวยฟรีที่เคาน์เตอร์บาร์ พอผ่านเข้าไปข้างในเรียบร้อย ดาวส่งพลังจิตบอกจักจั่น

"พวกเราผ่านแล้ว"

จักจั่นรีบยกมือขึ้นขอสงบศึก อภิชาติทำตาม พวกนั้นกรูกันเข้ามาลากสองคนไปโยนไว้ข้างนอก ในผับกลับเข้าสู่สภาวะปกติ เสียงดนตรีดังกระหึ่ม ทุกคนดื่มกินกันต่อเหมือนไม่มี อะไรเกิดขึ้น จักจั่นกับอภิชาติรีบกลับไปรอที่รถ ด้านดาวกับฤทธิชัยเดินผ่านห้องเก็บโต๊ะเก้าอี้กับแผ่นไม้กลมแผ่นใหญ่ สำหรับวางบนโต๊ะอาหารจีน เดินสำรวจไปจนเจอประตูทางเข้าห้อง ฤทธิชัยหยิบเครื่องมือเล็กๆมาไขปลดล็อกประตูออก

เปิดเข้าไปพบลังกระดาษใส่ของวางเรียงซ้อนกันกว่ายี่สิบกล่อง ดาวยังไม่ทันจะเช็กดูว่าข้างในมียาเสพติดอยู่หรือเปล่า มีคนร้ายมาพบเสียก่อน ร้องเอะอะขึ้น พวกมันกรูออกมาล้อมทั้งคู่ไว้ ชายชาวต่างชาติตะโกนสั่งสมุน "ฆ่าพวกมันเสีย" ขาดคำ พวกนั้นระดมยิงใส่ไม่ยั้ง

ดาวเห็นท่าไม่ดีพุ่งชนฤทธิชัย ทำให้กระสุนพุ่งใส่อกเธออย่างจัง ร่างของทั้งสองคนกระเด็นเข้าไปหลังกองลังใส่ของ ดาวดีดตัวขึ้นมายิงตอบโต้อุตลุด ฤทธิชัยตั้งหลักได้ กระหน่ำยิงใส่พวกนั้นเช่นกัน สมุนทั้งหมดตายสนิท แต่ฝรั่งตาน้ำข้าวหนีรอดไปได้ คนข้างนอกไม่ได้ยินเสียงปืนเพราะดนตรีในผับดังกลบ

"เราพลาดแล้ว รีบออกไปจากที่นี่ก่อน" ฤทธิชัยว่าแล้วเดินนำดาวไปที่ทางเข้าเขตหวงห้าม

แล้วค่อยๆโผล่หน้าออกมาดู พวกคนร้ายระดมยิงใส่ไม่ยั้ง ฤทธิชัยดึงดาวหลบเข้ามาในห้องเก็บของแล้วโทร. บอกอภิชาติเอารถมารอรับเขาหน้าทางเข้าผับ เขาคว้าแผ่นไม้ กลมแผ่นใหญ่ตั้งขึ้นเป็นโล่กำบัง กลิ้งผ่านพวกคนร้ายไปพลางยิงตอบโต้ไปด้วย พวกคนร้ายถูกกระสุนคว่ำไปหลายสิบคนจนมาถึงประตูทางออก ทั้งสองคนวิ่งพรวดออกมาเจอรถของอภิชาติเปิดประตูรถอยู่ รีบพุ่งเข้ารถ อภิชาติขับออกไป อย่างรวดเร็ว พวกคนร้ายรวมทั้งฝรั่งที่สั่งจับตายทั้งคู่วิ่งตามออกมา แต่ไม่ทัน รถของอภิชาติไปไกลแล้ว

ooooooo

ครู่ต่อมา รถของอภิชาติจอดหลบมุมอยู่ ทั้งหมดลงจากรถ ฤทธิชัยถามดาวว่าเป็นอย่างไรบ้าง ตอนที่เธอชนเขา เขาคิดว่าเธอโดนยิง ดาวยิ้มก้มมองตัวเอง บอกว่าไม่ได้เป็นอะไร ฤทธิชัยนิ่งไปอึดใจ

"ผมคงเข้าใจผิดไปเอง"

จังหวะนั้น ดาวเห็นเสื้อฤทธิชัยเปรอะสีแดงเต็มไปหมด ร้องเอะอะว่าเขาถูกยิง ฤทธิชัยก้มดูตัวเองแปลกใจว่าทำไมถึงไม่รู้สึกอะไร อภิชาติปราดเข้ามาประคองเพื่อนด้วยความเป็นห่วง

"นายเฉยไว้ คุณดาวช่วยเปิดประตูรถด้านหลังให้ผมหน่อย"

ดาวรีบทำตาม แล้วพุ่งเข้าไปนั่งข้างในติดประตูรถอีกด้านหนึ่ง อภิชาติประคองเพื่อนเข้าไปในรถอย่างทุลักทุเล ดาวจับศีรษะฤทธิชัยวางบนตักของเธอ ฤทธิชัยอ้าปากจะพูดบางอย่าง แต่อภิชาติชิงพูดก่อนว่าให้นอนนิ่งๆ อย่าพูดมาก พอเขาปล่อยมือจากฤทธิชัย พบว่ามือตัวเองเต็มไปด้วยเลือดสีแดงฉาน พิจารณาชัดๆ ชักเอะใจอ้าปากจะทัก แต่เห็นเพื่อนขยิบตาให้ อภิชาติรู้ทันทีว่าไม่ใช่เลือด

"รีบไปเถอะค่ะคุณอภิชาติ" น้ำเสียงของดาวเต็มไปด้วยความกังวล

อภิชาติไม่พูดอะไรอีก โดดขึ้นที่นั่งคนขับ แล้วซิ่งออกไปทันที ฤทธิชัยบอกให้อภิชาติพาไปโรงพยาบาลที่เราแวะตอนมาถึงที่นี่ อภิชาติพยักหน้าแบบรู้กัน ฤทธิชัยทำทีว่าใกล้ตาย หลอกให้ดาวเผยความในใจที่มีต่อเขาออกมา กว่าดาวกับจักจั่นจะรู้ว่าถูกฤทธิชัยหลอก เมื่ออภิชาติเลี้ยว เข้าโรงแรมหรูแห่งหนึ่งแล้ว จักจั่นร้องทักว่าที่นี่ไม่ใช่ โรงพยาบาลสักหน่อย อภิชาติยอมรับหน้าตาเฉยว่า

"ไม่ใช่ครับ แต่ว่าที่นี่อาหารอร่อย ผมว่าเรากินอะไรก่อน หรือว่าไงผู้กอง"

ฤทธิชัยดีดตัวลุกขึ้นจากตักดาว "ดีเหมือนกัน ฉันจะได้เปลี่ยนเสื้อด้วย"

ดาวกับจักจั่นงงว่าเกิดอะไรขึ้น อภิชาติอธิบายว่านั่นไม่ใช่เลือดของฤทธิชัยแต่เป็นหมึก จักจั่นสีหน้าเอาเรื่อง ต่อว่าสองหนุ่มว่าเห็นความเป็นห่วงเป็นใยของพวกเธอเป็นเรื่องสนุก ดาวเคืองมากทุบฤทธิชัยไม่ยั้ง ผู้กองหนุ่มยอมรับผิดแต่ผู้เดียว ขอเลี้ยงอาหารหนึ่งมื้อเป็นการไถ่โทษ...

ขณะที่ดาวกับจักจั่น ฤทธิชัยและอภิชาติกำลังนั่งกินอาหารว่างกันอยู่ ฤทธิชัยบอกดาวว่า กล่องใส่ของที่เราสองคนเจอที่ผับและคิดว่าเป็นเฮโรอีน จริงๆแล้วเป็นกล่องใส่หมึก ตอนที่เราใช้กล่องพวกนั้นเป็นที่กำบังกระสุนคงโดนหมึกแตกออกมาเลอะตัวเขา ดาวคาดว่าน่าจะไม่ใช่หมึกธรรมดา เพราะมีการเฝ้าระวังอย่างแน่นหนา ฤทธิชัยก็สงสัยเหมือนกัน จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษมารับตัวอย่างหมึกไปตรวจสอบ พรุ่งนี้คงจะรู้ผล

"ดาวว่าถ้ามีหมึกก็ต้องมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการพิมพ์ชัวร์"

อภิชาติก็คิดแบบนั้นเช่นกัน และสิ่งที่น่าพิมพ์ที่สุด คงหนีไม่พ้นธนบัตรปลอม แต่ถึงอย่างไรก็ตามพวกเราคงต้องรอผลตรวจหมึกเพื่อความแน่ใจ จักจั่นเกรงจะอดขับเจ็ตสกี ถามฤทธิชัยว่า

"พรุ่งนี้เราจะไปเล่นเจ็ตสกีกันอยู่หรือเปล่าคะ"

"แน่นอนครับ ในเมื่อเรายังไม่มีเบาะแสที่ชัดเจน เราต้องหาทางอยู่ใกล้ๆต้นตอไว้ก่อน เราต้องไปเยี่ยมบริษัทเรือทัวร์ของนายสินชัยเสียหน่อย เผื่อจะมีเรือเร็วที่ท่านรองฯบอก โผล่มาให้เห็นบ้าง" ฤทธิชัยว่าแล้ว มองสบตากับสองสาว ก่อนที่ทั้งหมดจะยิ้มให้กัน

ooooooo

ฤทธิชัยได้รับรายงานผลตรวจตัวอย่างหมึกใน เช้าวันถัดมา พบว่าเป็นหมึกพิมพ์คุณภาพสูงแบบเดียวกับที่ใช้พิมพ์ธนบัตร จึงเดาได้ไม่ยากว่าสินชัยกำลังคิดจะพิมพ์แบงก์ปลอม ฤทธิชัย อภิชาติ ดาวและจักจั่นทุกคนสวมแว่นดำพรางหน้า ทำทีเป็นนักท่องเที่ยวมาเล่นเจ็ตสกี แต่สายตาคอยจับจ้องเรือทัวร์ของบริษัทสินชัยซึ่งจอดเทียบท่าอยู่

"ท่านรองฯได้ตรวจดูประวัตินักปลอมธนบัตร พบว่ามีสองสามคนที่ยังลอยนวลอยู่ นายยูเว่ หนึ่งในพวกนั้นปรากฏตัวที่สิงคโปร์เมื่ออาทิตย์ก่อน ทางเจ้าหน้าที่ฯตรวจที่สนามบินแล้วยังไม่พบหลักฐานว่าเดินทางเข้ามาในประเทศไทย" ฤทธิชัยส่องกล้องไปพลางอธิบายไปพลาง

"นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่มีเรือเร็วปรากฏอยู่ในน่านน้ำแถวนี้" อภิชาติตั้งข้อสังเกต

"และนี่คือสาเหตุที่เรามาเล่นเจ็ตสกีกันที่นี่" ฤทธิชัยพูดจบ หยิบมือถือขึ้นมากดไฟล์ข้อมูลของนายยูเว่ออกมาให้ทุกคนดู "นี่คือข้อมูลที่ท่านรองฯส่งมา...นายโลบา ยูเว่ นักปลอมธนบัตรระดับเซียนสัญชาติอเมริกันคาดว่าจะเป็นผู้นำแม่พิมพ์เข้ามา แต่ไม่มีรูปพรรณที่แน่นอน ปัจจุบันมีแต่รูปเก่าๆหลายสิบรูปเพราะนายยูเว่นอกจากจะปลอมเงินแล้ว ยังปลอมตัวเก่งอีกด้วย...ภารกิจหลักของเราคือ จับนายยูเว่พร้อมกับแม่พิมพ์ ให้ได้"

ฤทธิชัยยังบอกเพิ่มเติมอีกว่าท่านรองฯก้องเกียรติมีคำสั่งให้จับเป็นเท่านั้น จะได้บีบนายยูเว่ให้การซัดทอดสินชัย ทุกคนรับทราบคำสั่ง ต่างตรงไปขึ้นเจ็ตสกีของแต่ละคน ขับออกไป...

ครู่ต่อมา เจ็ตสกีของพวกฤทธิชัย มาขับวนเวียนใกล้ๆเรือทัวร์ของบริษัทสินชัยลำนั้น เห็นนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศกำลังทยอยขึ้นเรือไปเที่ยวเกาะ ฤทธิชัยเดาว่าเรือเร็วต้องมาส่ง มร.ยูเว่ที่เกาะแห่งนั้น แล้วกลับมาพร้อมกับลูกทัวร์โดยไม่มีใครสังเกตเห็นและลอบเข้ากรุงเทพฯในที่สุด อภิชาติแนะให้ตามเรือทัวร์

ฤทธิชัยบอกให้รอก่อน เขาเพิ่งส่องกล้องส่องทางไกลเห็นสินชัยมากับฝรั่งคนหนึ่ง วานอภิชาติช่วยดูทีว่าเป็นใคร เขาเจอกับสินชัยบ่อยๆเผื่อจำได้ อภิชาติส่องกล้องส่องทางไกลดูแล้วจำได้ทันทีว่าคือนายทอม เป็นคู่หูทางธุรกิจของสินชัย ซึ่งลักลอบนำเพชรเข้าเมืองไทยโดยใส่มากับศพที่ตายในต่างแดน

"เพชรของนายสินชัยที่นางเสือปล้นไปน่ะหรือ" จักจั่นแกล้งถาม ฤทธิชัยพยักหน้าแทนคำตอบ

จังหวะนั้น อภิชาติเห็นนายทอมลงเรืออีกลำหนึ่งพร้อมด้วยบอดี้การ์ดสองคนแยกไปต่างหาก คาดว่าน่าจะออกไปรับ มร.ยูเว่ ทั้งสี่คนตัดสินใจขี่เจ็ตสกีตาม อภิชาติเจอวัยรุ่น

สองคนขี่เจ็ตสกีสวนมาพอดี เขาโยนกล้องส่องทางไกลให้คนซ้อนท้ายเพราะถ้าเอาติดไปด้วยจะเป็นจุดสนใจ...

เรือของนายทอมค่อยๆแล่นมาจอดเทียบท่าโรงแรมหรูแห่งหนึ่งซึ่งมีร้านอาหารติดชายทะเล ด้านหน้ามีกลุ่มวัยรุ่นเล่นวอลเล่ย์บอลชายหาดกันสนุกสนาน พลางโบกมือให้เพื่อนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งนั่งอยู่บนเรือบานาน่าโบ๊ตที่ถูกเรืออีกลำลากไปมาในทะเล นายทอมกับบอดี้การ์ดเข้าไปนั่งในร้านอาหารท่าทางเหมือนรอใครอยู่

ฤทธิชัยกับพวกขับเจ็ตสกีมาจอดที่ริมหาด จับตาดูนายทอมอยู่ห่างๆ ดาวกับจักจั่นลอบสบตากันแล้วขอตัวไปเข้าห้องน้ำ มีเสียงกรี๊ดกร๊าดของสาวๆจากเรือบานาน่าโบ๊ตดังขึ้น สองหนุ่มหันไปมอง พลันสายตาเห็นจุดดำๆจุดหนึ่งกำลังวิ่งตรงมาที่ชายหาดด้วยความเร็วสูง พวกเขาเดาว่าน่าจะเป็นเรือที่มาส่ง มร.ยูเว่

อภิชาติหันกลับไปมองในร้านอาหาร เห็นจักจั่นกับดาวเดินตามพนักงานต้อนรับไปนั่งโต๊ะเยื้องๆกับโต๊ะของนายทอม จึงสะกิดให้ฤทธิชัยดู ผู้กองหนุ่มถึงกับหน้าเครียด บ่นอุบว่าสองสาวคิดจะทำอะไร

"ใจเย็นเพื่อน...อย่าเพิ่งตื่นเต้น ฉันว่าคุณดาวคงคิดประกบนายทอมใกล้ๆเผื่อว่านายยูเว่จะปรากฏตัว"

"ไม่ดีเลย...ใกล้เกินไป" ฤทธิชัยไม่สบายใจนัก หันกลับไปมองจุดเล็กๆในทะเลอีกครั้ง "ฉันว่าเราออกไปรอรับเรือเร็วกันดีกว่า ถ้าอย่างไรก็ลากนายยูเว่ไปด้วยเลย ขืนรอให้

เข้ามาถึงนี่ วุ่นแน่ๆ"

"เห็นด้วย...ที่นี่คนเยอะเกินไป"

สองหนุ่มติดเครื่องเจ็ตสกีแล้วเคลื่อนตัวไปยังเรือเร็วที่เป็นจุดดำๆ แต่กลับต้องชะลอความเร็วให้เรือลากเรือบานาน่าโบ๊ตแล่นผ่านไปก่อน อภิชาติชักเป็นห่วงว่าเรือพวกนี้จะทำความยุ่งยากให้พวกตน

เป็นจริงอย่างที่อภิชาติหวั่นใจ ขณะเจ็ตสกีของสองหนุ่มกำลังจะตีวงเข้าประกบข้างเรือเร็ว เรือลากเรือบานาน่าโบ๊ตดันแล่นมาขวางทาง แล้วพลิกเรือบานาน่าโบ๊ตคว่ำตรงนั้นพอดี พวกวัยรุ่นลอยคอกันสลอน สองหนุ่มต้องหักเจ็ตสกีหลบ เลยเสียหลักตกน้ำไปด้วยทั้งคู่ แว่นตาดำที่สวมอยู่หล่นหาย

ด้านเรือเร็วต้องชะลอความเร็วเมื่อแล่นผ่านกลุ่มวัยรุ่นกับพวกฤทธิชัย ทำให้ฤทธิชัยเห็นหน้าชายคนหนึ่งซึ่งมีเค้าหน้าเหมือน มร.ยูเว่ ฤทธิชัยกับอภิชาติรีบกลับขึ้นเจ็ตสกี ตามเรือเร็วไปที่ชายหาด

ooooooo

ในเวลาเดียวกัน นายทอมสั่งให้บอดี้การ์ดสองคนของตนออกไปรับ มร.ยูเว่ขึ้นจากเรือแล้วพามาที่โต๊ะของเขา จักจั่นเห็นผู้กองหนุ่มกับเพื่อนซี้พลาดท่า กระซิบถามดาวว่าจะทำอย่างไรดี

"เฉยไว้ก่อนโชคดีที่พวกมันยังไม่สงสัย รอให้พวกมันมานั่งที่โต๊ะกันก่อนเราค่อยจัดการ"

"ไม่รอผู้กองก่อนหรือ...กำลังเข้ามา"

"รอได้ก็รอ...รอไม่ได้เราลุย"

จังหวะนั้น บอดี้การ์ดทั้งสองคนประกบ มร.ยูเว่ซ้ายขวาเดินมาตามทาง นายทอมโบกมือทักทาย มร.ยูเว่ แต่แล้วกลับโบกค้างเพราะสายตาเหลือบเห็นฤทธิชัยกับอภิชาติบิดเจ็ตสกีมาถึงชายหาด เขาขยับลุกขึ้นจะวิ่งเข้าไปหาพวกบอดี้การ์ดเพื่อเตือนเรื่องฤทธิชัย แต่ดาวกับจักจั่นถึงตัวก่อนพร้อมกับ

ปืนจ่อเอวเขาไว้ ดาวสั่งนายทอมว่าห้ามกระโตกกระตาก เดินไปรับเพื่อนของเขาอย่าให้มีพิรุธ

นายทอมทำท่าฮึดฮัด จักจั่นรีบเข้ามาควงแขนเขาไว้ ขณะที่ดาวควงแขนเขาอีกข้างหนึ่ง ออกไปต้อนรับ มร.ยูเว่ ดาวกับจักจั่นรีบกล่าวคำทักทาย ดาวแนะนำตัวเองว่าชื่อแองจี้ ส่วนจักจั่นชื่อ โจลีน มร.ยูเว่มองสองสาวตาเยิ้ม บอดี้การ์ดทั้งสองของนายทอมมองพวกเธออย่างสงสัย ดาวเห็นท่าไม่ดี กระทุ้งปืนเข้าสีข้างนายทอม ฝรั่งชั่วรู้งานรีบสั่งให้พวกบอดี้การ์ดไปบอกคนขับรถเอารถมารอหน้าโรงแรม

"แต่คุณสินชัยสั่งให้ผมคอยเฝ้าทุกฝีก้าว"

"พวกนายคิดว่าสาวสวยสองคนนี่จะทำอะไรฉันกับคุณยูเว่อย่างนั้นหรือ"

มร.ยูเว่พยักพเยิดเห็นด้วยกับนายทอม แล้วพากันหัวเราะ ดาวกระแทกปืนใส่นายทอมอีก นายทอมเร่งบอดี้การ์ดรีบไปเอารถไวๆอย่าอยู่เป็นก้างขวางคอเขากับ มร.ยูเว่ บอดี้การ์ด

จำใจออกไป นายทอมหันมาเร่ง มร.ยูเว่ว่ารีบไปกันได้แล้ว สินชัยรอต้อนรับเขาอยู่ แต่ มร.ยูเว่ขอเข้าห้องก่อน นายทอมมองหน้าดาว

"เชิญตามสบายค่ะ...โจลีนพาคุณยูเว่ไปหน่อย ฉันกับคุณทอมจะไปรอที่ล็อบบี้"

ครู่ต่อมา ดาวจี้ตัวนายทอมไปนั่งที่โซฟาในห้องล็อบบี้ แล้วนั่งลงข้างๆทำทีเหมือนซบไหล่เขา เธอกระชับปืนในมือเมื่อเห็นบอดี้การ์ดของนายทอมเดินนำชายฉกรรจ์ชาวจีนกลุ่มหนึ่งเข้ามาหา พวกนั้นผลักบอดี้การ์ดทั้งสองของนายทอมให้ นั่งลง แล้วยืนจ่อปืนล้อมไว้ บอดี้การ์ดรายงานนายทอมว่า

"พวกมันเก็บพวกที่มารอเราหมดแล้ว"

เลาชีหัวหน้าพวกคนจีนสั่งให้นายทอมมอบ มร.ยูเว่ ให้พวกตนพร้อมกับแม่พิมพ์ธนบัตรปลอม นายทอมทำไก๋ไม่รู้เรื่อง เลาชีถามเขาว่า มร.ยูเว่กับแม่พิมพ์ธนบัตรปลอมอยู่ที่ไหน นายทอมไม่ตอบกลับหันมองหน้าดาว เลาชีมองตาม ถามว่านังนี่เป็นหัวหน้าคนใหม่ของนายทอมหรือ ทอมนิ่งไม่รู้จะตอบอย่างไร

"ไม่บอกก็ไม่สน...ไอ้ยูเว่อยู่ไหน" เลาชีส่องปืนมายังดาวกับทอม แต่เห็นทั้งคู่นั่งนิ่ง เลยยิงบอดี้การ์ดคนหนึ่งของนายทอมคว่ำแล้วหันมายิ้มเหี้ยมให้ดาว ดาวโกหกว่า มร.ยูเว่ยังมาไม่ถึง พวกเราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

"เป็นไปไม่ได้...ไหนเอ็งบอกว่ามาแล้วไง" เลาชีหันไปมองหน้าบอดี้การ์ดอีกคนของนายทอม

"มาแล้ว คงกกเพื่อนนังนี่อยู่ในห้องน้ำแล้วมั้ง"

นายทอมเจ็บใจมากที่บอดี้การ์ดกลายเป็นนกสองหัว ขยับจะเอาเรื่อง เลาชีขู่ว่าถ้าไม่บอกว่า มร.ยูเว่อยู่ที่ไหน เขาจะยิงผู้หญิงทิ้ง ดาวรีบบอกว่าอยู่ในห้องน้ำ

"รู้จักรักษาตัวรอดเป็นยอดดี...เอ็งพาพวกมันไปลากตัวไอ้ยูเว่ออกมา อย่าให้แม่พิมพ์เงินพังนะเว้ย"

บอดี้การ์ดจอมทรยศพาสมุนเลาชีอีกห้าคน บ่ายหน้าไปทางห้องน้ำชาย ส่วนสมุนอีกสองคนยืนคุมเชิงอยู่ข้างๆลูกพี่ เลาชีไม่วายกวนประสาท ยื่นหน้าเข้ามาหาดาวเกือบชิด

"ตกลงเธอเป็นใครกันแน่ เป็นหัวหน้าหรือนางบำเรอของนายทอม"

"เป็นมัจจุราชที่มาเอาชีวิตแก" ดาวว่าแล้วตวัดปืนที่จ่อเอวนายทอมไปจี้หัวเลาชีแทน

เกิดชุลมุนวุ่นวาย เสียงปืนดังสนั่นล็อบบี้ ดาวเล่นงานเลาชีกับสมุนทั้งสองได้อย่างง่ายดาย ขณะที่นายทอมอาศัยจังหวะชุลมุนหนีรอดไปได้ ดาวรีบส่งพลังจิตไปบอกจักจั่นว่า พวกคนร้ายกำลังไปทางเธอ จักจั่นซึ่งยืนอยู่หน้าห้องน้ำชาย อมยิ้ม พึมพำว่าเสียงปืนดังขนาดนี้ ไม่ต้องส่งพลังจิตมาบอกก็รู้แล้ว

บอดี้การ์ดกับพวกสมุนได้ยินเสียงปืน คิดว่าเลาชีคงจัดการนายทอมกับดาวเรียบร้อยไปแล้วเร่งฝีเท้าไปยังที่หมาย จักจั่นเห็นพวกคนร้ายเลี้ยวมุมตึกมา รีบหลบฉาก บอดี้การ์ดทิ้งสมุนไว้หน้าห้องน้ำชายสองคน พวกที่เหลือกรูเข้าไปข้างใน กลับพบแต่ความว่างเปล่า พวกนั้นเดินตรวจตามห้องส้วมที่ประตูปิดอยู่
ที่หน้าห้องน้ำ ดาวกับจักจั่นจัดการสมุนสองคนที่ยืนเฝ้าระวังสลบเหมือด ส่วนพวกที่อยู่ในห้องน้ำถูกฤทธิชัยกับ

อภิชาติซึ่งซ่อนตัวอยู่ในห้องส้วมยิงพวกนั้นบาดเจ็บไปตามๆกัน พอเห็นว่าปลอดภัยแล้ว ฤทธิชัยร้องบอก มร.ยูเว่ ว่าออกมาได้แล้ว มร.ยูเว่ค่อยๆเปิดประตูห้องส้วมห้องในสุดออกมาด้วยสีหน้าตื่นๆ

"ผมเป็นแค่ศิลปิน ไม่เกี่ยวกับใคร"

"ไม่ต้องห่วง ผมเตรียมที่แสดงคอนเสิร์ตในคุกให้คุณเรียบร้อยแล้ว" ฤทธิชัยว่าแล้วพาตัว มร.ยูเว่ออกจากห้องน้ำ แล้วขอแม่พิมพ์คืน มร.ยูเว่ปฏิเสธลั่นว่าไม่มีแม่พิมพ์ และเขาก็ไม่ใช่ มร.ยูเว่ เป็นแค่นักแสดงเท่านั้น คนที่จ้างเขาบอกแค่ว่าอยากล้อเพื่อนเล่น ดาวเพ่งสมาธิมอง มร.ยูเว่อยู่อึดใจ ถึงได้รู้ว่าเป็นเรื่องจริง

ooooooo

สินชัยได้ทีตำหนินายทอมที่ทำพลาดปล่อยให้ลูกน้องตัวเองกลายเป็นหนอนบ่อนไส้ จนเกือบทำให้งานใหญ่ล้ม ดีที่เขาไหวตัวทัน สลับ มร.ยูเว่ตัวจริงไปดูแลเอง เรื่องนี้นายทอมต้องรับผิดไปเต็มๆ

"เอาล่ะผมยอมรับว่าผมผิด ตอนนี้ โลบา ยูเว่อยู่ที่ไหน"

"อยู่ในที่ปลอดภัยและพร้อมที่จะลงมือติดตั้งแม่พิมพ์แล้ว เราจะเอาเงินพวกนี้ไปโปรยซื้อสัมปทานและที่ดินป่าไม้ทั้งหมดในประเทศไทย รวมทั้งจ่ายให้กับคู่ค้าชาวจีนและไอ้กันด้วย...อยากเห็นหน้าไอ้ผู้กองนัก ตอนที่มันรู้ว่า ไอ้ยูเว่ที่มันจับได้คือตัวปลอม" สินชัยกับนายทอมพากันหัวเราะสะใจ...

ในเวลาเดียวกัน เจ้าหน้าที่จากหน่วยปฏิบัติการพิเศษมารับตัว มร.ยูเว่ปลอมขึ้นรถตู้พาไปยังศูนย์ฯที่กรุงเทพฯ เพื่อให้ท่านรองฯก้องเกียรติสอบปากคำ จากนั้น ฤทธิชัยกับอภิชาติพาดาวกับจักจั่นกลับบ้านพักริมทะเล คุณหญิงรัตนารออยู่แล้ว ถามสาวๆว่าเล่นเจ็ตสกีสนุกไหม จักจั่นบอกว่าสนุกมาก ฤทธิชัยกับอภิชาติพาเธอสองคนขี่เจ็ตสกีไกลไปหน่อย เลยกลับมาช้า ฤทธิชัยขอโทษคุณอาหญิงที่ทำให้รอ

"ไม่เป็นอะไรหรอกจ้ะ สนุกกันก็ดีแล้วจ้ะ" คุณหญิงรัตนายิ้มอารมณ์ดีที่เห็นทุกคนสนุกสนาน...

ดาวกับจักจั่นเห็นว่าสมควรแก่เวลาจึงขอตัวกลับ ขอบคุณ คุณอาหญิงสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง คุณหญิงรัตนาเดินมากอดสองสาว ยิ้มอย่างมีความสุข ฤทธิชัยกับอภิชาติพลอยมีความสุขไปด้วย ทั้งสามคนยืนมองรถของดาวขับไปจนลับสายตา ฤทธิชัยหันมาชวนคุณหญิงรัตนากลับ แล้วอาสาจะขับรถตามรถของท่านไปส่งถึงบ้านที่กรุงเทพฯ คุณหญิงรัตนาขอบใจสองหนุ่มมากที่คอยดูแลเธอเป็นอย่างดี...

สินชัยไม่ปล่อยให้เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษเอาตัว มร.ยูเว่ตัวปลอมกลับกรุงเทพฯ เขาส่งมือสังหารขับรถตามประกบ ก่อนจะสาดกระสุนใส่รถของเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษพรุน รถระเบิดไฟลุกท่วมทั้งคัน ไม่มีใครรอดแม้แต่คนเดียว...

ระหว่างทางกลับบ้านดอนเสือ จักจั่นอดเป็นปลื้มกับการไปทะเลรอบสองไม่ได้ ได้ทั้งร่างใหม่สวยเปรี้ยวถูกใจ และยังได้บู๊กับพวกสินชัยเป็นของแถมทำให้การเดินทางครั้งนี้ของเธอคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม

"แล้วก็ถูกนายสินชัยหลอก อย่าลืมเรื่องนี้ด้วย"

"โธ่เอ๊ย...อุตส่าห์ทำเป็นลืมแล้วน้า"

จังหวะนั้น มีเสียงมือถือของดาวดังขึ้น ดาวยังไม่ทันจะรับ จักจั่นแย่งมือถือของดาวมาดูเบอร์โชว์ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เตือนดาวว่าเวลาขับรถห้ามพูดโทรศัพท์ แล้วกดสายรับเสียเอง

"ว่าไงคะผู้กองจะคิดถึงอะไรกันนักหนา...ค่ะๆ...เสียใจด้วยนะคะ...ค่ะ" จักจั่นวางสายสีหน้าเคร่งเครียด

ดาวมองหน้าจักจั่นแล้วรู้ทันทีว่าต้องมีเรื่องไม่ดี ถามว่าฤทธิชัยโทร.มาทำไม ได้ความว่า รถของหน่วยพิเศษที่พา มร.ยูเว่ตัวปลอมเข้ากรุงเทพฯ ถูกพวกสินชัยดักโจมตี รถระเบิดเป็นจุณ ทุกคนตายหมด

ดาวหน้าเครียดขึ้นมาทันทีถามว่า "ผู้กองว่าอย่างไร"

"ผู้กองบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง ผู้กองจะต้องหาตัวนายยูเว่และทำลายแผนการพิมพ์เงินปลอมของมันให้ได้...จบเรื่องแล้วจะมาบ้านดอนเสือ หาทางโค่นขบวนการของนายสินชัยให้สิ้นซาก"

ดาวไม่คิดว่าเรื่องนี้จะจบได้ง่ายๆ จักจั่นแนะให้นางเสือกลับกรุงเทพฯไปช่วยฤทธิชัยอีกครั้ง ดาวไม่เห็นด้วย เราควรปล่อยให้เขาจัดการเรื่องนี้เอง นางเสือมีป่าที่จะต้องดูแล ป่าคือถิ่นของพวกเรา คือสิ่งที่พวกเราจะต้องปกป้อง ส่วนเมืองกรุงเป็นของพวกเขา ก็ต้องให้พวกเขาจัดการกันเอง

"อ้าว...คราวก่อนเราเข้าเมืองมาปล้นเพชรของนายสินชัยไม่ใช่เป็นการช่วยผู้กองหรือ แล้วก็อย่าลืมว่าคราวนี้นางเสือ เดือดร้อนต้องเข้ากรุงเทพฯ ผู้กองกับคุณอภิชาติซึ่งเป็นคนเมืองก็ช่วยนางเสือเต็มที่เหมือนกันน่ะ...อีกอย่าง ถ้าเงินปลอมที่ว่านี้ส่งเข้าไปเพื่อทำลายป่า นางเสือจะอยู่เฉยได้อย่างไร"

ดาวหันมองหน้าจักจั่นอึดใจ ก่อนจะเบนรถจอดข้างทาง สีหน้าครุ่นคิด "เดี๋ยว...ชักเข้าท่าแล้วสิ"

"อะไร...พูดตั้งนานเพิ่งจะเข้าท่าเองหรือ" จักจั่นมองเหล่

"ไม่ใช่อย่างนั้น ลองคิดดูถ้าเงินปลอมถูกส่งไปเพื่อทำลายป่า คนรับเงินจะเป็นใคร"

"ก็ต้องพวกกระจอกเดนตายที่ไม่นึกถึงชาติ บุกเข้าตัดไม้ในป่าน่ะสิ...ใช่แล้ว เราจับตาดูพวกมัน พอเงินเดินทางมาถึงเราก็รวบซะ จับพวกมันมาเค้น สาวไปถึงแหล่งพิมพ์ให้ ได้...แล้วถ้าแหล่งพิมพ์เงินปลอมอยู่ในเมืองล่ะ...นางเสือจะเข้าเมืองอีกรึเปล่า" จักจั่นมองดาวอย่างรอคำตอบ แต่เธอกลับนิ่งเฉย

ooooooo

หลังจากส่งคุณหญิงรัตนาถึงบ้านเรียบร้อย ฤทธิชัยกับอภิชาติตรงไปหาท่านรองฯก้องเกียรติที่ห้องทำงานของท่าน เพื่อปรึกษาเรื่องที่เกิดขึ้น ท่านรองฯโทษว่าเป็นความผิดของเขาเองที่ตกหลุมพรางตื้นๆที่สินชัยวางไว้ จนทำให้ผู้กองฤทธิชัยเขว เลยอ่านเกมพลาด อภิชาติกลับมองในแง่ดีว่า

"อย่างน้อยเราก็รู้ว่าพวกมันคิดจะพิมพ์เงินปลอม เราน่าจะส่งคนออกตรวจตามโรงพิมพ์ทุกแห่ง"

"รวมถึงตรวจหาการนำเข้าเครื่องจักรทุกชนิดในรอบสามเดือนที่ผ่านมา" ฤทธิชัยพูดเสริม

ท่านรองฯเห็นด้วย สิ่งไหนที่เกี่ยวข้องกับการพิมพ์ต้องเพิ่มการตรวจตราให้ละเอียด และยังมีอีกอย่างที่ฤทธิชัยต้องจับตาดู คือเรื่องที่สินชัยให้ข่าวว่าถูกนางเสือเล่นงาน เขาคิดว่าเป็นเกมมากกว่า เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา สินชัยถูกนางเสือเล่นงานไม่หยุดหย่อนแต่ไม่เคยพูดถึง ครั้งนี้กลับแถลงข่าวเสียเอง

"แล้วอยู่ๆนางเสือก็โผล่มาเล่นงานเรา ผมไม่เชื่อว่านางเสือจะเรียกค่าไถ่เพชรตามที่นายสินชัยอ้าง"

"คุณชาติพูดเหมือนรู้จักนางเสือดี"

"ไม่รู้จักหรอกครับ แค่ประเมินเอาจากคำร่ำลือแล้วก็ผลงานของนางเสือที่ผ่านๆมาเท่านั้นเอง จริงๆแล้วผู้กองน่าจะรู้จักนางเสือดีกว่าผม" อภิชาติยิ้มสบตาฤทธิชัยที่เอาแต่ ยิ้มๆไม่พูดอะไร

"เอาล่ะ...ใครจะรู้จักนางเสือมากกว่าใครก็แล้วแต่ ผมว่าคุณสองคนควรตามเจาะลึกเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด การที่นางเสือออกมาอาละวาดเป็นเรื่องไม่ดีสำหรับเรา" ท่านรองฯสั่งเสียงเข้ม...

ค่ำวันเดียวกันที่บ้านป้าเนียน ขณะไผ่ยืนฟังป้าเนียนกับจันจิราวิพากษ์วิจารณ์รายงานข่าวที่สินชัยกล่าวหาว่านางเสือขู่เอาชีวิตเขาและร้องขอความคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีเสียงเหยี่ยวสายลมร้องเตือนดังขึ้น ไผ่ยกมือเป็นเชิงให้สองป้าหลานเงียบ บอกว่ามีคนมา ป้าเนียนแนะให้พวกเรารีบหลบไปก่อนดีกว่า

"ยังไม่เป็นอะไรหรอกครับ อีกนานกว่าพวกมันจะมาถึง"

"อยู่อีกไกลแล้วพี่ไผ่รู้ได้อย่างไรคะ" จันจิราอดสงสัยไม่ได้

ไผ่ขอติดไว้ก่อนวันหลังจะเล่าให้ฟัง เขารีบปิดทีวี หยิบปืนที่เหน็บเอวขึ้นมา แล้วขยับเข้าไปยืนด้านหลังจันจิรา จับมือทั้งสองข้างของเธอขึ้นมาถือปืนโดยที่มือของไผ่ประกบมือทั้งสองของจันจิราไว้ ดูแล้วเหมือนเขากำลังกอดเธอจากด้านหลัง หน้าของทั้งคู่ใกล้ชิดกันมาก

ชายหนุ่มสอนจันจิราให้รู้วิธีใช้ปืน แต่ดูเหมือนเธอใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเอาแต่มองหน้าเขาไม่ได้สนใจฟัง ไผ่พูดอะไรเธอก็พยักหน้าไปอย่างนั้น สอนเสร็จไผ่หันไปบอกป้าเนียน

"อยู่ข้างหลังน้องจัน...ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นห้ามออกไปข้างนอกเป็นอันขาด...พอผมไปแล้ว เข้าไปในห้องปิดประตูหลบตรงมุมเตียง น้องจันต้องเอาปืนส่องไปที่ประตู ใครเปิดเข้ามายิงก่อนถามทีหลัง"

จันจิราพยักหน้ารับคำ มองตามไผ่ที่ดีดตัวออกจากบ้าน แล้วหันมาคว้ามือป้าเนียนจ้ำพรวดๆเข้าห้อง...

ด้านไผ่พุ่งตัวเข้าไปในแนวป่าหลังบ้านป้าเนียน เงี่ยหูฟังเสียงฝีเท้าพวกคนร้ายที่เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ทุกขณะ เป้าหมายของพวกนั้นคือบ้านป้าเนียน ไผ่ดีดตัวหายเข้าไปในความมืด

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น