วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

ดอกส้มสีทอง ตอนที่ 4

ตอนที่ 4

เรยาพยักหน้ารับ แต่ในใจนั้นรู้สึกไม่ดีเลยที่หลอกแม่... เรยานั่งแท็กซี่ไปพบสินธรตามนัด นพที่แอบตามสินธรมาเพิ่งเห็นหน้าตาเรยาชัดๆ นพจำได้ว่าเด่นจันทร์เคยให้สืบประวัติผู้หญิงคนนี้ตอนมีเรื่องทะเลาะกันที่ร้านอาหาร พอครั้งนี้นพโทร.ไป รายงานเด่นจันทร์ แล้วถามว่าจะให้เขาตามต่อไปหรือเปล่า เด่นจันทร์สั่งเฉียบว่าไม่ต้อง!

ครั้นวันรุ่งขึ้นเด่นจันทร์ก็โทร.ไปขอความช่วยเหลือจากนายเดชผู้เป็นพ่อ นายเดชซึ่งอยู่ชลบุรีรับปากจะมาหาลูกให้เร็วที่สุด แต่เร็วยังไงก็ยังไม่ทันใจเด่นจันทร์ที่กำลังร้อนรุ่มอยู่ดี เธอโวยวายทันทีที่พ่อมาถึง

"มาช้าแบบนี้ทีหลังไม่ต้องมา เด่นหาทางของเด่นเองได้"

"ใจเย็นๆลูก นั่งๆๆ มีเรื่องอะไรหรือลูก"

"สินมีเมียน้อย..." น้ำเสียงเด่นจันทร์ต่ำเบาเหมือนจะร้องไห้

"อย่าร้องไห้ให้พ่อเห็น...แล้วจะให้พ่อทำยังไง"

"อยากให้มันตาย"

"ทำไมต้องฆ่าผัวเรา รักเขาไม่ใช่รึ"

"ไม่ใช่สิน...แต่เป็นอีนังผู้หญิงหน้าด้านคนนั้น เด่นอยากเห็นมันตาย พ่อรู้มั้ยมันเลวไม่มีที่เปรียบ มันมาเอาเรื่องกับเด่น เอาตัวมาเทียบกับเด่น มาซื้อของร้านเดียวกับเด่น ที่แท้เงินเราทั้งนั้น มัน...หน้าด้านยิ่งกว่าอะไร คนอะไร หน้าด้าน แย่งผัวชาวบ้าน"

"เราเองก็แย่งเขามาจากอีแหม่มอิตาเลียนคนนั้น"

เด่นจันทร์หันขวับมานัยน์ตาแทบลุกเป็นไฟ "พ่อ... พ่อด่าเด่นเหรอ"

"ไม่มีการด่ากัน พ่อพูดให้ลูกรับความจริง...รับว่ามันเป็นความจริง บอกพ่อมาว่าจะให้พ่อทำอะไร"

"ฆ่ามัน!"

"ต้องถึงขนาดนั้นเชียวเหรอ"

"ใช่ มันต้องไปพ้นทางชีวิตของเด่น"

"ยังจะเอาไว้ใช่มั้ยผัวคนนี้"
เด่นจันทร์นิ่งไปไม่กล้าสบตาพ่อ...แล้วเดชก็ได้คำตอบเมื่อมองออกไปด้านนอกเห็นหลานสาวกำลังยิ้มร่านำหน้าบุญช่วยที่ถือกระเป๋านักเรียนตามหลังมา

"ก็ต้องเป็นอย่างนั้น น้องดาวจะต้องมีทั้งพ่อทั้งแม่"

ดาววิ่งเข้ามากอดหอมคุณตาด้วยความดีใจ ขณะที่คุณตาก็ยิ้มหน้าบานกอดหลานรักด้วยความคิดถึง เด่นจันทร์มองภาพนั้นอย่างเป็นปลื้ม และได้ยินตาบอกหลานให้โทร.บอกพ่อว่าตามา เย็นนี้เราจะไปกินหูฉลามสกาล่ากัน...

ขณะนั้นเรยาหงอยเหงาอยู่ในห้องเช่าคนเดียว ที่สุดเธอก็ทนไม่ไหวโทร.ไปอ้อนสินธรให้มาหา แต่สินธรเพิ่งจะรับปากลูกสาวเมื่อสักครู่ เขาจึงปฏิเสธเรยาโดยอ้างว่ามีประชุมด่วน เรยาไม่เชื่อแต่ก็ไม่กล้ารบเร้าเขามากนักเพราะตัวเองได้สัญญากับเขาไว้แล้วว่าจะเชื่อฟังกัน

ก่อนหน้าที่สินธรจะกลับมาถึงบ้าน เดชแนะนำให้เด่นจันทร์พูดกับสินธรเรื่องที่เขานอกใจเธอ ยื่นคำขาดไปเลยว่าเขาต้องเลิกกับผู้หญิงคนนั้น ถ้าเขาไม่เลิกค่อยถึงมือพ่อ...เมื่อสินธร ตามเด่นจันทร์เข้ามาในห้องนอนเพื่อแต่งตัวเตรียมออกไปกินอาหารเย็นด้วยกัน เด่นจันทร์จึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมาทำให้สินธรตะลึง ใจหล่นวูบไปอยู่ตาตุ่ม

เด่นจันทร์ขึงขังมาก บอกสินธรว่าอาทิตย์หน้าเธอจะไปอังกฤษ ระหว่างนี้ให้เขาตัดขาดกับผู้หญิงคนนั้นให้เรียบร้อยในเวลาหนึ่งเดือน สยามแอร์ไลน์ต้องไม่มีแอร์โฮสเตสชื่อ เรยา ถ้าจะต้องมีค่าใช้จ่าย เขาต้องใช้งบส่วนตัวของเขาเอง ไม่เกี่ยวกับของเธอหรือของบริษัท

"อย่าลืมนะคะ สินมีเวลาหนึ่งเดือน...เริ่มจากอาทิตย์ หน้า หลังจากที่เด่นไปแล้ว เรื่องแค่นี้คนฉลาดอย่างสินคงจัดการเองได้ โดยไม่ต้องให้เด่นรบกวนพ่อ...จำไว้อีกอย่างด้วยว่า เด่นจะไม่มีวันหย่ากับคุณ เราจะอยู่กันอย่างมิตรหรือศัตรู สินเลือกเอาเองแล้วกัน"

สินธรหัวใจเกือบหยุดเต้นเมื่อภรรยาเอ่ยถึงเจ้าพ่อเมืองชล...เด่นจันทร์เดินไปที่ประตูห้อง แล้วหันมาเน้นย้ำอีกครั้งก่อนออกไป

"เราอยู่ด้วยกันมาหลายปี สินรู้จักเด่นดีใช่มั้ยว่าเด่นลูกพ่อ เด่นติดนิสัยไม่ดีมาจากพ่อ เราไม่ชอบอยู่ร่วมโลกกับศัตรู"

สินธรนั่งคอตกเครียดจัด รู้ตัวว่าทำผิด และเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นด้วยนอกจากทำตามความต้องการของเด่นจันทร์... สินธรตัดสินใจไม่ติดต่อและไม่รับสายจากเรยาอยู่หลายวัน จนเรยาทนไม่ไหวบุกเข้ามาที่บริษัท พอรู้จากหัวหน้างานว่าสามเดือนต่อจากนี้ตัวเองไม่มีตารางบินเลยสักวันเพราะเป็นคำสั่งจากข้างบน เรยาโกรธจนตัวสั่น ตรงดิ่งไปที่หน้าห้องทำงานสินธรเพื่อจะยื่นใบลาออก แต่ถูกเลขาฯสกัดไว้ และเธอก็ไม่รับฝากใบลาออกด้วย ให้เรยาไปยื่นที่แผนกบุคคล

เรยาโกรธแค้นแต่ทำอะไรไม่ได้ นอกจากหันกลับออกมาทั้งน้ำตา เธอตรงดิ่งกลับห้องเช่าราวนกปีกหัก แต่พอเปิดห้องเข้ามาก็พบว่าสินธรมาคอยอยู่ เรยาดีใจโผกอดเขาทั้งน้ำตา

"พ่อ...พ่อขา พ่อไปไหน ทำไมทิ้งฟ้า ฟ้าโทร.ก็ไม่รับสาย รู้มั้ยว่าเมียพ่อแกล้งฟ้ายังไง ไม่ให้ฟ้าบิน ฟ้าลาออกแล้วนะ อยู่ไปไม่ได้บินสามเดือน อย่างนี้บีบให้ออกใช่มั้ยพ่อ"

"ฟ้า...เราต้องเลิกกัน!" สินธรโพล่งออกมา...เรยาผงะแล้วกรี๊ดออกมาสุดเสียงจนสินธรต้องจับตัวเธอเขย่าเรียกสติ แล้วย้ำอีกครั้งว่า...เราต้องเลิกกัน

"เหตุผล..." เรยาถามเสียงแผ่ว

"ฟ้า...ก่อนอื่นผมเคยพูดกับฟ้าแล้วว่า เราจะหวังในสิ่งที่เราทำเนี่ย มันเป็นไปจนเราแก่ จนเราตายน่ะ หวังไม่ได้...ผมพูดกับฟ้าอยู่เสมอ เพราะว่า..."

"ได้...หวังได้" เรยาสวนขึ้นมา "ก็ฟ้ารักพ่อ และพ่อก็รักฟ้า ใช่มั้ย พ่อรักฟ้า แล้วทำไมล่ะ เราจะรักกันจนแก่จนตายไม่ได้ ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่เราจะเลิกกัน เพราะฉะนั้นฟ้าไม่เลิก ได้ยินมั้ย ฟ้าไม่เลิก!"

"ฟ้า..."

"ไม่...ยังไงๆก็ไม่เลิก พ่ออย่านึกว่าพ่อจะทำอย่างนี้กับผู้หญิงอย่างฟ้า คิดจะมาก็มา คิดจะไปก็ไป ฟ้าไม่ใช่โสเภณีรายเดือนของพ่อนะ"

"ผมไม่เคยคิดอย่างนั้นกับฟ้าเลยนะ ผมสาบานได้ ผมรักฟ้า คิดเสมอว่าฟ้าเป็นเมียของผม ผมพูดตลอดเวลาใช่มั้ยว่าฟ้าเป็นเมียคนหนึ่งของผม"

"ฟ้าก็ยอมแล้วไง ยอมเป็นเมียคนหนึ่งแล้วไง ใช่มั้ย... ยอมแล้วใช่มั้ย แล้วจะเอายังไงกับฟ้าอีก พ่อจะเอายังไงอีก"

"เสียงดังน่าฟ้า"

"ดังน่ะสิดี จะตะโกนให้ทั้งคอนโดฯรู้เลยว่าพ่อน่ะหลอกฟ้า หลอกให้ยอมเป็นเมียแล้วมาทิ้ง"

"ผมไม่ได้จะทิ้งฟ้า แต่ผมอยากขอความเห็นใจ"

"ไม่มีความเห็นใจให้ ไปหาที่อื่น ตรงนี้มีแต่ความถูกต้อง ฟ้าเป็นเมียคนหนึ่งของพ่อ ฟ้าทำหน้าที่ของฟ้า ไม่เคยทำอะไรชั่วช้าเลวทรามถึงขนาดที่พ่อจะถีบหัวฟ้า"

"ฟ้า...มันไม่ใช่ พูดอะไรถึงขนาดนั้น"

"ทำไมจะพูดอย่างนี้ไม่ได้ อย่าคิดว่าจะถีบหัวฟ้าได้ง่ายๆ"

เจอฤทธิ์เดชของเรยาเข้าแบบนี้สินธรถึงกับเครียดจัดกลับไป แล้วไม่ว่าเรยาจะตามไปอ้อนวอนยังไง สินธรก็ยืนยันคำเดิมว่าเราต้องเลิกกัน เพื่อความปลอดภัยของเราทั้งคู่...

เมื่อถูกเขาปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย ความรักของเรยากลายเป็นความแค้นทันที เรยากลับไปหานัท เล่าเรื่องราวให้เขาฟังทั้งน้ำตา นัทไม่รู้จะช่วยยังไง ได้แต่ปลอบและให้กำลังใจเรยาอย่างเพื่อนที่ปรารถนาดีคนหนึ่ง

แยกจากนัทแล้วเรยากลับมาหาลำยองที่บ้านนายแหม่ม เรยาจะให้แม่ติดต่อสามีใหม่ของยายที่เป็นหมอผีช่วยทำเสน่ห์ ให้เธอ เพราะตอนนี้เธอรักผู้ชายคนหนึ่ง แต่เขาไม่รักเธอ

"ฟ้า...ไม่เอานะลูก อย่าคิดอะไรอย่างนี้ มันไม่ใช่เรื่องดี มันเป็นเรื่องสกปรก ลูกแม่ต้องไม่ไปยุ่งไปเกี่ยวนะ"

"สกปรกเหรอแม่ ทำไมล่ะ ไม่ใช่ให้กินยาเสก แล้วทำให้ รักเราเหรอ"

"ไม่ใช่ มันสกปรกมาก มันอุบาทว์...ต่ำช้า ไม่... แม่ไม่ยอมให้ฟ้าทำเด็ดขาด"

"แม่เคยเหรอ...ถึงรู้"

"ไม่...ไม่เคย" ลำยองตัดบทไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก แต่พออยู่คนเดียวก็อดนึกถึงอดีตที่ตัวเองเคยเห็นพิธีอุบาทว์นี้ไม่ได้ ตอนนั้นลำยองยังสาว เธอเห็นพ่อเลี้ยงทำเสน่ห์ให้กับผู้หญิงคนหนึ่งที่ผัวไม่รักด้วยขั้นตอนที่แสนจะสกปรกโสมม น่าสะอิด สะเอียนเป็นที่สุด

ลำยองไม่ยอมให้ลูกสาวของตนทำเช่นนั้นอย่างเด็ดขาด พอเช้าวันใหม่หลังจากเรยาตื่นนอน ลำยองจึงเล่าให้เรยาฟัง แล้วย้ำเตือนลูกว่า อย่าได้ไปเกลือกกลั้วกับเรื่องสกปรกอย่างนี้เป็นอันขาด เรยารับปาก เพราะเท่าที่ฟังมามันน่าขยะแขยงจริงๆ

"ถ้าตอนที่ฟ้าอายุ 5 ขวบ แม่ไม่โดนบังคับให้ทำเรื่องสกปรกอย่างนี้ ฟ้าคงโตขึ้นมาในตึกเจ้าสัวริมคลองภาษีเจริญนั่นแล้วล่ะ"

"อ๋อ...ที่แม่มาอยู่กับนายแหม่มใช่มั้ย เรื่องเป็นไงเหรอแม่"

ลำยองย้อนคิดกลับไปในอดีตที่เคยอยู่บ้านเจ้าสัวเชง... วันนั้น เยนหลิง หรือคุณนายที่สองเรียกลำยองไปหาที่ห้องเพื่อจะใช้เธอไปหาพ่อเลี้ยงที่เมืองกาญจน์ ซึ่งเยนหลิงรู้ว่าแกเป็นหมอทำเวทมนตร์คุณไสย จึงต้องการให้แกทำพิธีไสยศาสตร์ให้ ซิลเวียเมียแหม่มของเจ้าสัวถึงแก่ชีวิต ถ้าทำสำเร็จจะให้เงินค่าจ้างทั้งพ่อเลี้ยงและลำยองอย่างจุใจ แต่ห้ามลำยองเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร ถ้าบอก เยนหลิงก็ทำให้ลำยองตายได้เหมือนกัน

ปรากฏว่าคืนนั้นลำยองกลับมานอนคิดอย่างกลัดกลุ้ม ที่สุดลำยองก็ตัดสินใจไม่รับงานของเยนหลิงด้วยการพาเรยาในวัยห้าขวบแอบหนีออกจากบ้านเจ้าสัวมา โดยบอกกับป้าพุ่มว่าจะกลับไปหาแม่ที่เมืองกาญจน์

แต่ลำยองไม่ได้กลับไปเมืองกาญจน์ เธอหอบลูกไปที่บ้านเจ้านายของบังดุลย์ แนะนำตัวว่าเธอเป็นเมียบังดุลย์ มีลูกกับเขาก่อนที่เขาจะถูกขโมยแทงตาย เจ้านายสงสารจึงฝากงานให้ที่บ้านเพื่อนซึ่งเป็นฝรั่ง เขากำลังอยากได้แม่บ้านอยู่พอดีนี่เอง ทำให้ลำยองกับเรยาได้อยู่กับฝรั่งสองผัวเมียตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน

ooooooo

หลังจากหลบมาอยู่กับแม่ได้วันสองวัน เรยาก็ย้อนกลับไปที่ห้องเช่าอีกครั้ง แล้วเจอสินธรนำเช็คสองล้านบาทมาให้เพื่อแลกกับการยุติความสัมพันธ์ เรยาไม่พอใจอย่างมากคว้าเช็คนั้นมาฉีกทิ้งก่อนจะผลุนผลันออกไปตั้งหลักว่าจะเอาคืนสินธรยังไงให้สาสม!

แล้วอีกวันถัดมาเรยาก็นัดพบสินธรที่ร้านอาหาร ยื่นข้อเสนอว่าเธอจะยอมเลิกกับเขาก็ต่อเมื่อเธอได้รถคันใหม่ของเขา สินธรฟังแล้วโมโหมาก เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเอารถที่เมียหลวงซื้อให้ใช้ไปยกให้เมียน้อย เรยาเองก็รู้จึงใช้วิธีนี้มาบีบบังคับกดดันเขา

ออกจากร้านอาหาร สินธรตามเรยาไปที่ห้องเช่า สองคนทุ่มเถียงกันรุนแรงถึงขั้นสินธรฟิวส์ขาดจะตบเรยาที่พูดดูถูกเขาเรื่องใช้นามสกุลเมีย

"คุณตบฉันเมื่อไหร่ คุณจะรู้ว่านรกมีจริง"

สินธรชะงัก สีหน้าและแววตาเรยาดุดันจนน่ากลัว

"ผมบอกกี่หนแล้วว่าอย่าพาดพิงถึงนามสกุลนี้"

"ก็ไม่ใช่เพราะนามสกุลนี้เหรอคุณถึงทิ้งฉันน่ะ ฉันจะต้องยกย่องนามสกุลบ้าๆนี้ทำไม ในเมื่อมันทำลายฉัน"

"การที่ผมจะเลิกกับคุณ มันไม่เกี่ยวอะไรกันเลยกับการที่ผมใช้นามสกุลชลธี"

"ทำไมจะไม่เกี่ยว ถ้าไม่ใช่เพราะนามสกุลชลธีสั่งมา คุณจะเลิกกับฉันมั้ย นี่มันสั่งมาและคุณก็ขัดไม่ได้ นามสกุลชลธีมันคือจุดสุดยอดในชีวิตคุณไม่ใช่เหรอ คุณยอมเสียฉันเพื่อรักษานามสกุลชลธีให้ต่อท้ายชื่อคุณไปจนคุณตาย...ใช่มั้ย"

"ผมไม่อยากเถียงกับคุณเรื่องนามสกุลอีก"

"ซึ่งฉันไม่แปลกใจเลย"

"จบ...ผมบอกว่าให้จบเรื่องนามสกุล"

"ขอโทษที่ทำให้คุณต้องเสีย...อะไรดี Dignity ความภูมิใจใช่มั้ย แต่ฉันสงสัยจริงๆว่าคุณมีรึเปล่า"

"หยุด!!" สินธรตวาดลั่น...เรยายอมเลิกพูดเรื่องนามสกุลชลธี แต่ไม่เลิกจี้เรื่องรถว่าจะเอายังไง เธอต้องการรถคันใหม่ของเขา จะให้เลิกไปเฉยๆ เธอไม่ยอมแน่

"เรื่องรถน่ะเลิกพูด เพราะเป็นไปไม่ได้"

"ก็ได้ งั้นเอาบ้าน 1 หลัง เงินสดจำนวนหนึ่ง แต่รวมกันแล้วต้องให้ครบ 20 ล้านเท่าราคารถ แต่ถ้าคุณให้รถคันนี้ บ้านไม่เอา เงินไม่เอา แต่ต้องเป็นคันนี้เท่านั้น"

สินธรสะอึก จ้องเรยาอย่างแค้นใจที่สุด

"คุณโกรธฉันรู้ แต่อย่าแปลกใจ เพราะคุณน่าจะคิดว่าฉันจะเรียกมากกว่านี้ด้วยซ้ำ"

"เรียกได้ แต่ผมไม่มีจ่ายมากขนาดนั้นหรอก"

"ก็บอกคนที่เขามีจ่ายสิ"

"คุณร้ายกาจมากนะเรยา"

"ถ้าคุณใช้ความคิดเสียหน่อย ยอมเสียในสิ่งที่ควรเสีย ฉันก็ไม่ต้องร้ายกาจขนาดนี้"

สินธรไม่รู้จะทำยังไงกับผู้หญิงคนนี้ เขาผลุนผลันกลับลงไปอย่างหัวเสีย แล้วรู้ตัวว่าลืมกุญแจรถเอาไว้ พอแหงนหน้ามองไปที่ระเบียงห้องเห็นเรยายืนยิ้มหวาน ชูกุญแจรถแกว่งไปมา สินธรร้องบอกให้เธอโยนมันลงมาเลย แต่เรยา กลับทำหูทวนลม จนสินธรต้องย้อนกลับขึ้นมา

"ส่งกุญแจรถมาเดี๋ยวนี้!"

ขาดคำของเขา เรยาโยนกุญแจรถลงไปเบื้องล่างทันที สินธรโกรธจัดปราดเข้ามาเขย่าตัวเรยา

"ทำไม...ทำไมต้องทำบ้าบอขนาดนี้"

"คนถูกทิ้งทำอะไรได้ทั้งนั้นแหละ คุณลองถูกภรรยาคุณทิ้งสิ แล้วจะรู้"

สินธรหมดความอดทน ตบเรยาเต็มแรงก่อนจะผลุนผลันออกจากห้อง เรยาก้าวตามมาติดๆ พลางตะโกนเรียกผู้คนห้องตรงข้ามให้ออกมาช่วยเป็นพยานด้วยว่าเธอถูกผู้ชายคนนี้ทำร้าย สินธรถึงกับอึ้ง เพราะเรยามีหลักฐานคือรอยเลือดที่มุมปาก

แล้วรุ่งขึ้นเรยาก็ทำให้สินธรเครียดจัด เธอส่งสำเนาบันทึกประจำวันที่แจ้งความว่าโดนเขาซ้อมมาให้ถึงบริษัท จากนั้นก็โทร.มาขู่ว่า ถ้าใน 7 วัน เธอไม่ได้ยี่สิบล้าน เธอจะส่งบันทึกประจำวันนี้ไปถึงหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ...

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น