วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

ป่านางเสือ ตอนที่ 16

ตอนที่ 16

ดาวขับรถจี๊ปตระเวนไปตามเส้นทางคดเคี้ยวในป่าดอนเสือ สักพัก เบนรถจอดข้างทาง กราดสายตาไปทั่วบริเวณ แล้วแหงนหน้ามองฟ้าที่ว่างเปล่า แปลกใจที่ทุกอย่างเงียบสงบ ดาวลงจากรถจี๊ป เดินสำรวจรอบๆ

"เงียบเกินไปอย่างที่ผู้กองว่าจริงๆ...พวกมันคิดจะทำอะไร"

ขาดคำของดาว เสียงปืนดังสนั่น ดาวล้มคว่ำหายไปหลังรถจี๊ป มือซุ่มยิงโผล่ออกจากที่ซ่อน กระหยิ่มยิ้มย่อง นางเสือปลอมลุกขึ้นมายืนข้างๆ สั่งการให้สมุนตามไปดู พวกสมุนพากันออกจากพุ่มไม้ข้างทางตรงไปยังรถจี๊ป แต่ไม่เจอใครสักคน มือซุ่มยิงมองหน้าสมุนงงๆ

"ก็ข้ายิงถูกมันฟุบไปข้างรถนี่หว่า"

สมุนหันไปโบกมือให้นางเสือปลอมที่ยืนอยู่ในราวป่าเป็นเชิงว่าไม่มีใครอยู่ตรงนี้ นางเสือปลอมโบกมือให้พวกสมุนสลายตัว โดยที่ไม่รู้ว่าดาวยืนอยู่ข้างหลัง

"นึกว่าหายไปไหนหมด...ที่แท้คอยลอบกัดนี่เอง"

นางเสือปลอมหันขวับพร้อมปืนในมือ แต่ดาวไวกว่ายิงเปรี้ยงกลางแสกหน้า นางเสือปลอมหงายหลังตึง พวกสมุนได้ยินเสียงปืนกรูเข้าหา ดาวสาดกระสุนใส่เป็นชุด พวกนั้นตายเรียบ...

ถึงเวลาหนึ่งทุ่มตามนัด อภิชาติเดินตามคบไฟที่ปักเรียงรายมาถึงสวนหลังบ้านป้าเนียน ทั้งดีใจและแปลกใจในคราวเดียวกันที่เห็นจักจั่นในร่างเดิมยืนรออยู่ อภิชาติไม่พูดพล่ามขอหมั้นจักจั่นทันที จักจั่นทำอะไรไม่ถูกได้แต่เดินไปเดินมาสีหน้าครุ่นคิด ถามอภิชาติว่าแน่ใจแล้วหรือ

"แน่ใจที่สุดเลยครับ...เพราะถ้าผมเปลี่ยนใจ ผมถูกคุณดาว คุณไผ่ ลุงเดช รวมทั้งไอ้ผู้กองอัดเละแน่"

"จริงด้วย...ถ้าอย่างนั้นก็โอเคค่ะ" จักจั่นว่าพลางยื่นนิ้วนางให้

"เอ่อ...คือว่าผมแค่ถาม..." อภิชาติพูดยังไม่ทันจบประโยค จักจั่นแหวใส่ทันที

"อะไร...แค่ถามก่อน ไม่ได้เตรียมแหวนมา แสดงว่าไม่จริงใจน่ะสิ"

"คือ...คือ...ผมไม่ทราบว่าจะมาเจอจักจั่นตัวจริงเสียงจริง พอเจอปุ๊บผมก็ตัดสินใจปั๊บ" อภิชาติเห็นจักจั่นหน้าหงิกหน้างอ นึกอะไรขึ้นมาได้ ถอดสร้อยคอที่กู่หลินให้เขาไว้เป็นที่ระลึก ทำตาละห้อยยื่นให้จักจั่น

"ถ้าไม่รังเกียจผมขอใช้สร้อยเส้นนี้หมั้นก่อนได้ไหมครับ"

จักจั่นฉีกยิ้มกว้าง จักจั่นล้อเล่นน่ะค่ะ ไม่ต้องมีแหวนหรืออะไรหรอกค่ะ จักจั่นรู้ว่าคุณอภิชาติจริงใจ"

อภิชาติถอนใจโล่งอก แต่ถึงอย่างไรเขาก็อยากให้จักจั่นเก็บสร้อยคอเส้นนี้ไว้ แล้วบรรจงสวมสร้อยให้ อภิชาติโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขน ขณะที่จักจั่นซบอกชายคนรักอย่างมีความสุข

ooooooo

ค่ำวันเดียวกัน เยซินเรียกสินชัยกับลินจงมาพบที่ออฟฟิศหรูของสินชัย แจ้งให้ทั้งคู่รู้ว่าภายในวันถึงสองวันข้างหน้าจะมีเฮโรอีนจำนวนมหาศาลเข้ามาพักในเขตป่าดอนเสือ ลูกค้าจะมารอรับพร้อมโอนเงินให้เราก่อนที่จะส่งสินค้าต่อไปยังประเทศคู่ค้าของตน เยซิน หยุดพูด กราดตามองสินชัยกับลินจง

"ดังนั้น...จะต้องไม่มีการผิดพลาดเกิดขึ้นเป็นอันขาด... เพราะเราสูญเสียไปมากแล้ว" เยซินชำเลืองมองสินชัยอย่างเหยียดๆ "คุณสินชัย...เรื่องสัมปทานอนุญาตสำรวจป่าไปถึงไหนแล้ว"

"ได้มาเรียบร้อยแล้ว" สินชัยพยายามข่มอารมณ์ไว้

"ดีมาก...ใช้สิทธิเคลื่อนคนเข้าไปในป่าดอนเสือให้เร็วที่สุด...งานเร่งด่วนที่สำคัญต่อไปคือ จัดการกับศัตรูที่ขวางทางทุกคน...ใครมีประโยชน์เก็บไว้ก่อนจนกว่างานจะเสร็จ...นอกเหนือจากนั้น...กำจัดให้หมด" เยซินว่าแล้วมองสินชัยอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นออกจากห้อง สินชัยรีบสาวเท้าตามจนทัน

"ท่านเยซิน...ผมอยากจะจัดการแผนเกี่ยวกับคณะกรรมการดูแลภาวะโลกร้อน"

เยซินหยุดเดินหันมาจ้องสินชัยอึดใจ "ผมจะให้โอกาสคุณจัดการเรื่องนี้อีกครั้ง หวังว่าคุณคงไม่พลาดอีก เราต้องการเงินก้อนใหญ่เพื่อมาดำเนินการแทนเงินที่คุณผลาญไป"

สินชัยมองตามเยซินเดินจากไปพร้อมมือปืนคุ้มกันสองคนอย่างไม่พอใจ...

หลังจากตระเวนดูลาดเลาในป่าจนค่ำมืด ดาวแวะหาฤทธิชัยที่ค่ายโจรชั่วคราว เห็นเขากำลังต่อสู้กับสมาชิกโจรสองคนอยู่ที่ลานกว้างกลางค่าย ดาวรีบเดินเข้าไปถามลุงเดชว่าเกิดอะไรขึ้น

"ผู้กองแกเบื่อ เลยขอออกกำลัง"

"สองรุมหนึ่งเลยหรือคะ"

"เด็กมันอยากลอง ผู้กองแกยอม ลุงก็เลยจัดให้" ลุงเดชพูดไปยิ้มไป

ฤทธิชัยอัดสมาชิกโจรคนหนึ่งกระเด็น ดาวส่งเสียงเชียร์ เขาลั่น ฤทธิชัยเผลอตัวหันมาส่งยิ้มให้ เลยเจอหมัดฮุกเข้าเต็มคาง เซถลาเป็นนกปีกหัก ดาวทำหน้าเบ้ เจ็บแทน ฤทธิชัยตั้งหลักได้ลุกขึ้นมาสู้ใหม่ เสียงกองเชียร์ของแต่ละฝ่ายดังแข่งกันอย่างสนุกสนาน...

ในเวลาต่อมา ดาวกลับถึงบ้านป้าเนียน เจอไผ่เดินตรวจตราอยู่หน้าบ้าน แต่ไม่เห็นจักจั่นอยู่ด้วยก็ถามหา ได้ความว่า ตั้งแต่อภิชาติกลับไป จักจั่นก็เอาแต่ยิ้มหน้าบานอยู่ในห้องนอน

"อืม...เดี๋ยวดาวไปดูสักหน่อย"

ดาวจ้ำพรวดๆขึ้นบ้าน พอเปิดประตูห้องนอนเข้าไป จักจั่นพุ่งชนเธอลงไปกองบนเตียงด้วยกัน นอนหัวเราะคิดคักสีหน้ามีความสุข ดาวถามว่าเกิดอะไรขึ้น จักจั่นก็เอาแต่หัวเราะแล้วลุกขึ้นกระโดดโลดเต้น เข้ามากระซิบกระซาบว่าอภิชาติขอเธอหมั้น ดาวยิ้ม ดีใจที่เห็นจักจั่นมีความสุข

ooooooo

หน้าค่ายอาสาฯ บ้านดอนเสือ ขณะดาวกับจักจั่นเดินออกมาส่งอภิชาติที่รถของเขาเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ ท่านรองฯก้องเกียรติโทร.เข้ามือถืออภิชาติ แจ้งเหตุร้ายว่า ประธานคณะกรรมการกลุ่มดูแลภาวะโลกร้อนถูกพวกสินชัยจับตัวไปเรียกค่าไถ่หนึ่งพันล้านบาท อภิชาติหน้าเครียดขึ้นมาทันที

"งานนี้มันกะทำลายชื่อเสียงของประเทศเลยทีเดียว"

"พวกไม่รู้คุณแผ่นดิน เอาแต่ประโยชน์ของตัวเอง คอยดูนะจักจั่นจะ..."

ดาวเห็นจักจั่นของขึ้นเลยต้องปรามให้ใจเย็นลง จักจั่นรู้สึกตัวหัวเราะแฮ่ๆ อภิชาติจะเดินทางล่วงหน้าไปเตรียมความพร้อมไว้ก่อน แล้วพวกเธอค่อยตามไปทีหลัง ดาวกับจักจั่นพยักหน้ารับรู้ จากนั้น สองสาวรีบบึ่งรถกลับบ้านป้าเนียนเก็บของใช้จำเป็นใส่เป้สัมภาระหิ้วออกมาใส่รถจี๊ป ดาวหยุดมองหน้าจักจั่น

"พี่ว่าต่อไปนี้ จักจั่นต้องระวังตัวให้มากขึ้น ถ้าเป็นไปได้ พี่อยากให้จักจั่นอยู่เฉยๆที่ค่ายอาสาฯมากกว่า"

จักจั่นจ้องดาวสีหน้าจริงจัง "พี่ดาว คุณอภิชาติบอกว่าที่ขอหมั้นจักจั่น เพราะจักจั่นมีอุดมการณ์บู๊สะใจดี จักจั่นไม่นั่งหน่อมแน้มอยู่บ้าน นั่งสมาธิหาสันติวิธีกับไอ้คนพวกนี้หรอก...ไม่มีทาง...พี่ดาวไม่ต้องห่วงน่า...เราคนดีพระต้องคุ้มครอง อีกอย่าง ใครก็หนีความตายไม่พ้น ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าหรอก"

"โห...พอหมั้นปุ๊บก็พบแสงสว่างปั๊บเลยนะ" ดาวยิ้มขำ ระหว่างนั้น รถของไผ่แล่นพรวดเข้ามาจอดเทียบ ฤทธิชัยคว้าเป้สัมภาระโดดลงจากรถ

"อภิชาติเตรียมทุกอย่างพร้อมรออยู่แล้ว"

"ผู้กองแน่ใจหรือคะว่าจะลุยงานนี้ด้วย" ดาวทักท้วงด้วยความเป็นห่วง

"เท่ากับเป็นการเปิดตัวเลยนะผู้กอง" จักจั่นพูดเสริม

"ลุย...แต่ไม่ได้เปิดตัว"

"อย่างนั้นเราก็พร้อมแล้วค่ะ" ดาวยิ้มให้ แล้วชวนจักจั่นกับฤทธิชัยออกเดินทาง ไผ่เตือนให้ทุกคนระวังตัวและไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้ มองตามรถของดาวแล่นออกไปสีหน้าเป็นกังวล จันจิราตามมาสมทบ

"พี่ไผ่คงอยากไปช่วยจัดการกับพวกมัน"

"พวกนั้นจัดการได้อยู่แล้ว พี่ต้องดูแลที่นี่ ทั้งจัน ป้าเนียน ชาวอาสาฯ ลุงเดช พ่อแสง แม่สมพร ทุกๆคน" ไผ่ว่าแล้วโอบเอวจันจิราไว้ จันจิรานึกเป็นห่วงป้าเนียนขึ้นมา ชวนไผ่ไปเยี่ยม

ooooooo

ในเวลาต่อมา ที่ตึกร้างแห่งหนึ่งซึ่งใช้เป็นศูนย์บัญชาการชั่วคราวของพวกฤทธิชัย ดาว จักจั่น ฤทธิชัยและอภิชาติต่างตรวจอาวุธประจำกายเตรียมพร้อมออกลุย อภิชาติแจ้งกับทุกคนว่าทางผู้ใหญ่ต้องการจ่ายเงินค่าไถ่ให้พวกคนร้าย แต่ท่านรองฯก้องเกียรติคิดว่าคนร้ายจะเชิดเงินแล้วฆ่าเหยื่อทิ้งมากกว่า

"แปลว่างานนี้ เราต้องทำกันเอง ไม่ให้มีผลกระทบถึงทางการไทย"

"ถูกต้อง เราต้องช่วยท่านประธานฯกลับมาให้ได้ก่อนบ่ายพรุ่งนี้...ตามที่พวกมันกำหนด"

จังหวะนั้น มีเสียงมือถือของฤทธิชัยดังขึ้น ผู้กองหนุ่มแปลกใจที่เป็นเบอร์ของท่านรองฯก้องเกียรติ

"ฉันบอกท่านรองฯแล้วว่า นายยังอยู่ ไม่ได้เดี้ยงตามข่าวลือ" อภิชาติรีบไขข้อข้องใจ

ท่านรองฯก้องเกียรติโทร.มาแจ้งว่า รถบรรทุกอาวุธของสหรัฐฯที่มาร่วมทำการซ้อมรบ หายสาบสูญไประหว่างเดินทางกลับค่าย นายทหารของสหรัฐฯที่รับผิดชอบสารภาพว่า ได้รับเงินก้อนใหญ่จากคนกลุ่มหนึ่ง และทุกคนที่มีเอี่ยวด้วยถูกคุมตัวส่งกลับสหรัฐฯไปเรียบร้อย

"นายสินชัยฉลาดมาก...มันคิดเอาอาวุธพวกนั้นมาถล่มทางการโดยไม่ต้องลงทุน" ดาวตั้งข้อสังเกต

"ท่านรองฯต้องการให้พวกเราติดตามอาวุธพวกนั้นกลับมาให้เร็วที่สุด หรือไม่ก็ทำลายให้หมด"

อภิชาติเร่งฤทธิชัยกับดาวรีบไปจัดการเรื่องอาวุธที่หายไป ส่วนเขากับจักจั่นจะอยู่ช่วยท่านประธานฯเอง แต่พอฤทธิชัยบอกตำแหน่งสุดท้ายที่รถบรรทุกอาวุธถูกพบเห็นว่าเป็นบ้านดอนเสือ จักจั่นแนะให้โทร.บอกไผ่จัดการเรื่องนี้ให้ ดาวกับฤทธิชัยจะได้ไม่ต้องไปเอง ดาวพยักหน้าเห็นด้วย

"ใช่เลย...พี่ไผ่จัดการได้แน่นอน ดาวมั่นใจค่ะว่าพี่ไผ่ ทำได้...พี่ไผ่ชำนาญป่า ไม่ต้องใช้เครื่องมือสมัยใหม่ก็สามารถหารถขนอาวุธได้อย่างแน่นอน"

"แล้วยังมีกำลังเสริมจากลุงเดชอีกด้วย" จักจั่นพูดเสริม

"ถ้าอย่างนั้นผมต้องรบกวนแล้วครับ"

ดาวคว้ามือถือขึ้นมาโทร.หาไผ่ทันที ฤทธิชัยคลายกังวลเรื่องอาวุธไปได้เปลาะหนึ่ง...

ระหว่างรอสายข่าวของอภิชาติสืบหาที่อยู่พวกลักพาตัว ฤทธิชัยเปิดทีวีดู เห็นกำจรกำลังรายงานข่าวพร้อมเสนอรูปภาพของท่านประธานคณะกรรมการกลุ่มดูแลภาวะโลกร้อนที่ถูกนางเสือลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่ ระหว่างแวะพักในประเทศไทยก่อนจะเดินทางไปประชุมต่อที่นครปักกิ่ง

"นางเสือปลอมของนายสินชัยอีกแล้ว" ฤทธิชัยบ่นพึมพำ คว้ารีโมตทีวีมากดปิด ดาวมองยิ้มๆ

อภิชาติกลับเข้ามาในห้องบัญชาการ มีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายมาบอก ข่าวดีคือเราพบตึกที่คาดว่าจะเป็นสถานที่กักขังท่านประธานฯแล้ว ส่วนข่าวร้ายก็คือพวกคนร้ายคุมเข้มตึกเป้าหมายตั้งแต่ชั้นล่างสุดยันชั้นบน โดยท่านประธานฯถูกควบคุมตัวไว้ที่ชั้นบนสุด แค่เราบุกผ่านชั้นล่างเข้าไป พวกนั้นคงสังหารท่านประธานฯทันที ฤทธิชัยสีหน้าเคร่งเครียดครุ่นคิด

ooooooo

ขณะเดียวกัน ที่ป่าดอนเสือ ขบวนรถของเจ้าหน้าที่พยายามจะสะกดรอยตามรถบรรทุกอาวุธที่หายไปมาถึงเส้นทางกลางป่า แต่ถูกระเบิดแสวงเครื่องที่ฝังไว้ใต้ถนนระเบิดใส่ รถเสียหายหลายคัน เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บนับสิบคน จึงต้องล่าถอยกลับไป ลุงเดช ไผ่กับแสงเห็นเหตุการณ์แต่ทำอะไรไม่ได้

ลุงเดชถอนใจเฮือก "เจ้าหน้าที่ถูกระเบิดอีกแล้ว...ไผ่...หาแหล่งทำระเบิดของพวกมันให้ได้ ลุงกับพ่อแสงจะเตรียมพร้อม เราจะเก็บกวาดพวกมันให้หมด และตามหาอาวุธที่หายไป"

"ผมกลัวว่าไผ่จะไม่เหลืออะไรให้เราเก็บกวาดนะสิลุงเดช เออ...ไผ่ออกมานี่แล้วหนูจันกับป้าเนียนล่ะ"

"ผมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปคอยดูแลอยู่แล้วครับพ่อ...ถ้าอย่างนั้นผมไปก่อนนะครับ"

ลุงเดชกับแสงเตือนไผ่ระวังตัวด้วย สองผู้อาวุโสแห่งค่ายโจรมองตามไผ่สีหน้าเป็นกังวล...

ดาว จักจั่น อภิชาติ และฤทธิชัยระดมสมองช่วยกันคิดแผนชิงตัวท่านประธานฯได้หลายแผน ทั้งโรยตัวจากเฮลิคอปเตอร์ ทั้งบุกจากชั้นล่างขึ้นไป แต่ไม่ว่าจะเป็นแผนไหน พวกคนร้ายก็จะรู้ตัวก่อน และมีเวลาพอจะจัดการกับท่านประธานฯ ดาวนิ่งคิดอยู่อึดใจ ก่อนจะบอกแผนการกับทุกคน

"ดาวจะชิงตัวท่านประธานฯจากพวกมัน แต่จะพาลงมาถึงชั้นล่างคงยาก"

ฤทธิชัยมองหน้าดาวเขม็ง "ถึงเวลานี้ ผมจะไม่ถามว่าคุณดาวจะทำอย่างไร แต่เราจะคอยติดต่อสื่อสารกันตลอดเวลา คุณดาวได้ตัวท่านประธานฯเมื่อไหร่...เราลุยเมื่อนั้น...พบกันที่รถอีก 5 นาทีครับ"

ดาวกับจักจั่นรับคำ อภิชาติกับฤทธิชัยออกจากห้องไปก่อน ทิ้งสองสาวไว้ลำพัง จักจั่นอดถามไม่ได้ว่าดาวจะบุกจากข้างบนตึกเข้าไปได้อย่างไรโดยไม่เปิดเผยตัว ดาวพอมีวิธีแต่ไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือเปล่า

"แค่นี้ผู้กองก็สงสัยจะแย่อยู่แล้ว"

"เอาน่าจักจั่น...สงสัยได้สงสัยไป...ไม่มีหลักฐานก็แล้วกัน"

จักจั่นพยักหน้าหงึกๆ คว้าเป้สัมภาระสะพายไหล่ เดินออกไป ครู่ต่อมา จักจั่นตามมาสมทบกับอภิชาติและฤทธิชัยซึ่งยืนรออยู่ที่รถ ฤทธิชัยไม่เห็นดาวมาด้วยก็ถามหา

"พี่ดาวบอกว่าเจอกันที่จุดเป้าหมาย" จักจั่นว่าแล้วก้าวขึ้นรถ ขณะที่ฤทธิชัยกับอภิชาติต่างมองหน้ากัน

ooooooo

ในเวลาต่อมา ฤทธิชัย อภิชาติกับจักจั่นในชุดปฏิบัติการ เอาสีดำป้ายหน้าอำพรางใบหน้าที่แท้จริงนำรถไปจอดฝั่งตรงข้ามกับตึกเป้าหมาย ฤทธิชัยเช็กสัญญาณวิทยุติดต่อแบบไร้สายเสียบหูของทุกคนว่าใช้ได้ดีหรือเปล่า จักจั่นกับอภิชาติโอเค แต่สัญญาณวิทยุจากดาวกลับเงียบ ฤทธิชัยหน้าเครียดขึ้นมาทันที

"ใจเย็นน่าเพื่อน เดี๋ยวคุณดาวก็มา..." อภิชาติตบไหล่ เพื่อนเบาๆ

ฤทธิชัย อภิชาติ และจักจั่นลงจากรถอย่างระมัดระวัง จักจั่นแหงนมองขึ้นไปบนตึกเป้าหมายซึ่งยังสร้างไม่เสร็จ เห็นสายลมบินวนพลางส่งเสียงร้องไปด้วย คนร้ายที่ยืนเฝ้าระวังอยู่บนดาดฟ้าตึกเป้าหมาย มองสายลมอย่างสงสัย ยิ่งสายลมบินเข้าใกล้ดาดฟ้ามากเท่าไหร่ ร่างของมันยิ่งขยายใหญ่ขึ้นๆ

พอได้ระยะร่างของดาวแยกตัวออกจากสายลมแล้วตีลังกาลงมายืนเป็นสง่า ขณะที่สายลมบินแยกไปอีกทาง ดาวหมุนตัวสามร้อยหกสิบองศาสะบัดมีดสั้นหลายสิบเล่มใส่พวกคนร้ายที่ยืนเฝ้าระวังไม่ทันตั้งตัวถูกฆ่าตายเรียบ หญิงสาวปราดไปที่บันไดค่อยๆจดปลายเท้าลงไป

พบว่าชั้นถัดมาเป็นห้องโล่ง มีแต่ลังใส่ของใบใหญ่ๆและอุปกรณ์ก่อสร้างวางระเกะระกะ ดาวค่อยๆโผล่หน้าออกไปดู เห็นคนร้ายสี่คนยืนคุมท่านประธานฯ ซึ่งถูกมัดติดกับเก้าอี้นั่งหันหลังให้

ดาวรอจังหวะก่อนจะพุ่งเข้าจัดการคนร้ายทั้งสี่คนได้ อย่างง่ายดายราวกับพลิกฝ่ามือ แต่แล้วคนร้ายชุดใหญ่กรูออกจากที่ซ่อนสาดกระสุนใส่ดาวเสียงดังสนั่น กระสุนไม่ระคายแม้แต่หนังกำพร้าของเธอ พวกคนร้ายถึงกับชะงัก ดาวตวัดปืนยิงใส่พวกนั้นล้มคว่ำตายหมด ดาวแจ้งฤทธิชัยผ่านทางวิทยุสื่อสารเล็กๆที่เหน็บหูว่า

"ได้ตัวท่านประธานฯแล้ว เปิดทางด้วย"

"เยส...พี่ดาวมาแล้ว" จักจั่นพูดจบ ดีดตัวออกไปสาดกระสุนใส่พวกคนร้ายยืนเฝ้าระวังอยู่หน้าตึก ก่อนจะพุ่งเข้าไปข้างใน ฤทธิชัยกับอภิชาติเห็นจักจั่นตะลุยเดี่ยวก็ตกใจ รีบไล่ตามไปติดๆ...

ดาวปราดเข้าไปหาท่านประธานฯ แต่พอเห็นหน้าชัดๆก็รู้ทันทีว่าถูกหลอก ชายตัวใหญ่ในคราบท่านประธานฯสะบัดมือหลุดจากเครื่องพันธนาการแล้วพุ่งปัดปืนในมือเธอกระเด็น ดาวร้องเตือนทุกคนลั่น

"ท่านประธานไม่อยู่ที่นี่...เราถูกหลอก"

ฤทธิชัย อภิชาติ จักจั่นต่างมองหน้ากัน พลันมีเสียงร้องของสายลมดังก้อง ดาวเห็นภาพท่านประธานถูกมัดมือมัดปากอยู่ในรถตู้ ที่ตัวติดระเบิดไว้มีไฟกะพริบเป็นสัญญาณเตือนว่าระเบิดกำลังทำงาน

"ท่านประธานถูกมัดอยู่ในรถตู้..." ดาวพูดได้แค่นั้น ก็ถูกชายร่างยักษ์พุ่งเข้าใส่

เธอดีดตัวหลบแล้วเตะสวน เขากระเด็นกระแทกพื้นโครมเบ้อเริ่ม มึนตึ้บ ดาวได้โอกาสหลับตาทำสมาธิเพื่อหาที่อยู่ของรถตู้คันนั้น จักจั่นก็ตั้งสมาธิช่วยดูอีกแรง เห็นภาพรถตู้ จอดอยู่ในลานจอดรถของตึกฝั่งตรงข้าม

"รถตู้จอดอยู่ฝั่งตรงข้าม" จักจั่นร้องบอกฤทธิชัยกับอภิชาติแล้วดีดตัวออกไป โดยมีสองหนุ่มตามติด

เสียงดาวจากวิทยุสื่อสารเตือนให้ระวังในรถตู้มีระเบิด สิ้นเสียงพูด ร่างของดาวถูกชายร่างยักษ์จับเหวี่ยงไถลไปกับพื้น เขาตามเข้าไปหมายจะซ้ำ ดาวตั้งหลักได้สะบัดมีดสั้นปักเหนือเข่าทั้งสองข้างของเขาอย่างแม่นยำถึงกับทรุดฮวบ แล้วตวัดเท้าเตะปลายคาง ชายร่างยักษ์หงายหลังตึงหลับสนิท ดาวยังไม่ทันหายเหนื่อย อาจารย์เฉินกับลินจงก็ปรากฏตัวขึ้น

"ฉันมารอนายอภิชาติ นึกไม่ถึงว่าจะได้แกแทน"

ลินจงยิ้มพอใจ

"ใครได้ใครเดี๋ยวก็รู้" ดาวยิ้มยั่ว ทั้งสามต่างจ้องหน้ากันเตรียมพร้อมจะเข้าห้ำหั่น...

ฝ่ายจักจั่นวิ่งไปถึงลานจอดรถก่อนใคร ตามติดมาด้วย

อภิชาติและฤทธิชัย ต่างแยกย้ายกันโอบล้อมรถตู้เป้าหมาย ภายในรถตู้มีร่างของท่านประธานถูกมัดมือมัดปากที่ตัวมีระเบิดแขวนอยู่ ฤทธิชัยยกมือขึ้นเป็นเชิงเตือนให้ทุกคนหยุด จักจั่นกลับพรวดเข้าไปในรถ แกะผ้ามัดปากท่านประธานออก

"ทุกคนรีบหนีไปเถอะครับ" ท่านประธานละล่ำละลัก

"เราไม่ไปไหนหรอกค่ะ...เรามาช่วย"

นาฬิกาดิจิตอลซึ่งติดอยู่กับระเบิดนับถอยหลังเหลือเวลาแค่ 2 นาที ฤทธิชัยหน้าเครียดคิดหาทางออก

ooooooo

ชั้นบนสุดของตึกเป้าหมาย ดาวปะทะฝีมือกับอาจารย์เฒ่าได้สองกระบวนท่าก็รู้ทันทีว่าลำพังเธอคนเดียวสู้เขาไม่ได้อยู่แล้ว นี่ยังมีลินจงมาเป็นตัวช่วย อีก เธอต้องหาทางหนี คิดได้อย่างนั้นแล้วดีดตัวขึ้นไปบนดาดฟ้า อาจารย์เฉินไล่ตามติดพวกคนร้ายขยับจะตาม แต่ลินจงห้ามไว้

"ทุกคนหยุด...เราจะจัดการมันเอง พวกท่านรออยู่ที่นี่"

ลินจงพุ่งตัวตามอาจารย์เฉิน ดาวถูกสองศิษย์กับอาจารย์ล้อมไว้ ตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน ลินจงยิ้มแสยะ ชูรีโมตบังคับระเบิดในมือให้ดาวดู

"ก่อนที่แกจะตาย รู้ไว้ด้วยว่า...รีโมตบังคับระเบิดอยู่ที่นี่...ไม่ช้าเพื่อนแกก็จะเป็นผงไปด้วย"

ดาวมองหน้าลินจงอย่างเคียดแค้น ก่อนจะตะโกนเรียกสายลม ลินจงกับอาจารย์เฉินมองอย่างงงๆ พลันสายลมก็ปรากฏตัวขึ้นบินโฉบเอารีโมตบังคับระเบิดไปจากมือลินจง แล้วโผเข้าหาดาวด้วยร่างที่ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ดาวยิ้มอย่างผู้ชนะให้ลินจงแล้วกระโดดเข้าใส่ร่างของสายลมกลายเป็นเงาเกาะติดบินหายไปต่อหน้าต่อตาอาจารย์เฉินกับลินจง อาจารย์เฉินมองตามคาดไม่ถึง พึมพำว่า "วิชาถอดวิญญาณ"

เสียงสายลมร้องขึ้นอีกครั้ง แล้วร่อนไปยังดาดฟ้าของตึกถัดไป ดาวตีลังกาแยกร่างออกจากร่างของสายลมลงมายืนบนดาดฟ้า ยกรีโมตบังคับระเบิดขึ้นมาดู...

ระเบิดที่แขวนอยู่บนตัวท่านประธาน เหลือเวลานับถอยหลังแค่ 30 วินาที อภิชาติเร่งให้ฤทธิชัยดึงสายไฟเส้นไหนออกก็ได้ ฤทธิชัยหน้าเครียดสั่งอภิชาติพาจักจั่นออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้

"ไม่มีใครต้องไปไหนหรอกค่ะ...ดูนั่น...พี่ดาว" จักจั่นชี้มือไปยังตึกถัดไป

ตัวเลขบอกเวลาที่ระเบิดหยุดอยู่ที่ 03 วินาที ทุกคนต่างถอนใจเฮือก...รีโมตบังคับระเบิดในมือดาวตอนนี้เปลี่ยนสัญญาณจากไฟสีแดงเป็นสีเขียว...

ไม่นานนัก หน่วยเก็บกู้ระเบิดเข้ามาเคลียร์พื้นที่ ท่านรองฯก้องเกียรติสั่งให้ตำรวจคุ้มกันท่านประธานไปส่งยังห้องพัก ซึ่งตอนนี้มีกำลังตำรวจคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ท่านรองฯก้องเกียรติขอบใจฤทธิชัย อภิชาติ และจักจั่นมากที่

ช่วยกอบกู้ชื่อเสียงของประเทศชาติไว้ได้ พอไม่เห็นดาวอยู่ที่นั่น ด้วย ท่านรองฯก็ถามหา

"อ๋อ...ป่านนี้คงกลับไปรอที่ตึกบัญชาการแล้วค่ะ"

ทุกคนต่างมองหน้ากัน จักจั่นได้แต่ยิ้มๆ ท่านรองฯ เตือนฤทธิชัยระวังตัวให้มากๆ พวกสินชัยยังไม่รู้ว่าเขายังหายใจอยู่ ฤทธิชัยพยักหน้ารับคำ...

ลินจงยังงงไม่หาย ถามอาจารย์เฉินว่าดาวทำแบบนั้นได้อย่างไร ได้ความว่านี่คือวิชาถอดวิญญาณ ผู้หญิงที่เราเห็นไม่ใช่ตัวจริง เป็นวิญญาณที่ถอดออกจากร่างมาเล่นงานพวกเรา ลินจงพยักหน้ารับรู้

"เหมือนกับที่เราส่งวิญญาณไปเข้าร่างผู้หญิงคนนั้นแล้วส่งไปเล่นงานพวกมันน่ะหรือคะ"

"ก็คล้ายๆแบบนั้น แต่มันไม่ต้องอาศัยร่างใคร...หรือว่ามันได้รับพรจากสวรรค์" อาจารย์เฉินพึมพำ...

เป็นจริงอย่างอาจารย์เฉินว่า วิญญาณของดาวที่ออกไปต่อสู้กับพวกสินชัยและอาจารย์เฉิน กลับเข้าร่างตัวเอง ซึ่งนั่งสมาธิอยู่บนเตียงในห้องพักที่ตึกบัญชาการชั่วคราวของฤทธิชัย...

ขณะเดียวกัน สายลมที่กำลังบินอยู่เหนือกรุงเทพฯ ก็หายวับไปปรากฏตัวอยู่เหนือป่าดอนเสือ ส่งเสียงร้องดังก้อง ไผ่เห็นภาพเต็นท์ของพวกคนร้ายที่ลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ผ่านทางสายตาของสายลม รีบดีดตัวไปตามยอดไม้ตรงไปยังเป้าหมาย ภายในเต็นท์หลังนั้น พวกคนร้ายกำลังประกอบระเบิดกันอยู่

"มันจริงๆ ตอนที่รถพวกมันแล่นผ่านมาแล้วระเบิดตูม"

พวกคนร้ายต่างหัวเราะชอบใจ ไผ่ดีดตัวลงมาหน้าเต็นท์ อย่างเงียบกริบ อัดยามเฝ้าระวังสองคนสลบเหมือด ผูกระเบิดติดตัวยามทั้งคู่ไว้ แล้วโยนเข้าไปในเต็นท์ที่เต็มไปด้วยดิน ระเบิดและสารติดไฟ พริบตาเดียว เต็นท์ทั้งหลังระเบิดตูมไฟลุกท่วม ไผ่ยืนดูผลงานตัวเองสักพัก แล้วดีดตัวหายไปในยอดไม้หนาทึบ...เสียงระเบิดดังสนั่นไปถึงจุดที่แสงกับสมาชิกโจรตั้งแคมป์อยู่ ทั้งหมดหันไปยังทิศทางที่ไฟลุกท่วม

"บอกแล้ว...ไผ่ไม่เหลืออะไรให้พวกเราได้เก็บกวาดหรอก" แสงว่าแล้วยิ้มพอใจ

ooooooo

เยซินไม่พอใจมากที่แผนลักพาตัวควํ่าไม่เป็นท่า สินชัยโทษว่าเป็นเพราะอาจารย์เฉินประเมินศัตรูผิดพลาด อาจารย์เฉินรู้ทันว่าสินชัยจะหาแพะ และนี่เป็นความผิดพลาดครั้งแรกของตน จึงยอมรับผิดแต่โดยดี

"เป็นความผิดของข้า...ข้าประมาทฝีมือพวกมัน"

"เอาคนมีฝีมือมาเพิ่มอีก...แล้วรีบจัดการพวกมันซะ" เยซินว่าแล้วมองกราดทุกคนอย่างเสียอารมณ์...

รถของฤทธิชัยเลี้ยวเข้ามาจอดใต้ตึกบัญชาการชั่วคราว อภิชาติชวนจักจั่นรออยู่ตรงนี้ก่อน ปล่อยให้ฤทธิชัยขึ้นไปหาดาวคนเดียว เขาไม่อยากไปกับคนหน้าเครียด แล้วหันมาหัวเราะคิกคักกับจักจั่น ฤทธิชัยเดินหน้าตึงเข้าไปข้างใน พอเจอดาวต่อว่าต่อขานเสียงเข้มว่าทีหน้าทีหลังอย่าฉายเดี่ยวแบบนี้อีก ยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อ ดาวตรงเข้ามาจุ๊บเขาเสียก่อน ฤทธิชัยหยุดพูด โอบเอวเธอไว้ นํ้าเสียงนุ่มนวลขึ้นทันที

"ผมเป็นห่วงคุณดาว"

"ดาวขอโทษค่ะ...เหตุการณ์พาไปจริงๆค่ะ" ดาวยิ้มหวาน หัวใจฤทธิชัยแทบละลาย

อภิชาติกับจักจั่นตามเข้ามาสมทบ ดาวกับฤทธิชัยรีบคลายวงแขนออกจากกัน จักจั่นเข้ามาหาดาวกระซิบกระซาบว่าเก่งมาก ทำแบบนั้นได้อย่างไร ดาวขอติดไว้ก่อน วันหลังจะเล่าให้ฟัง จังหวะนั้นท่านรองฯก้องเกียรติโทร.มาบอกอภิชาติว่า เพื่อความปลอดภัย ตอนนี้เขาส่งคุณหญิงรัตนาไปต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว จักจั่นบ่นเสียดายที่อดได้เจอคุณอาหญิง

"พี่ว่าดีแล้วจ๊ะ...พวกนายสินชัยมันเริ่มบ้าขึ้นทุกวัน"

"ผมว่าอย่าไปสนใจมันเลยครับ มันบ้ามาเราก็บ้าไป... ตอนนี้ผมว่าเราออกไปฉลองกันดีกว่า"

ฤทธิชัยไม่เห็นด้วย เพราะสินชัยอาจส่งคนตามมาแก้แค้นพวกเรา และที่สำคัญเขาจะยังเปิดเผยตัวไม่ได้ อภิชาติเสนอให้ไปงานเลี้ยงใส่หน้ากากจะได้ไม่มีใครจำได้ ฤทธิชัยนิ่งคิดอยู่อึดใจ ก่อนจะตอบตกลง จักจั่นส่งเสียงเฮลั่นด้วยความดีใจ...

หลังจากสนุกสุดเหวี่ยงกับปาร์ตี้ใส่หน้ากาก อภิชาติ ฤทธิชัย ดาว กับจักจั่นบ่ายหน้ากลับที่พัก ดึกมากแล้วรถบนถนนแทบไม่มีให้เห็น อภิชาติสะกิดฤทธิชัยให้ดูรถตู้ที่แล่นตามหลัง แล้วขับรถชะลอให้รถตู้แซงขึ้นหน้าไปก่อน รถตู้ค่อยๆแซงเลยไป ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกคนพากันโล่งอก

ทันใดนั้น รถตู้หักพวงมาลัยรถขวางถนนไว้ อภิชาติเบรกเอี๊ยด ทุกคนพากันคว้าปืนขึ้นมาเตรียมพร้อม ชายสองคนลงจากรถตู้เหมือนคอยคุ้มกัน จากนั้นหญิงสาวคนหนึ่งลงจากรถตรงมายังรถของอภิชาติ

"แกไปทำให้สาวที่ไหนอกหักหรือเปล่าวะ...นายชาติ" ฤทธิชัยกระเซ้า

"ว่าไงคุณอภิชาติ" จักจั่นเสียงเขียว

อภิชาติงานเข้าถึงกับหน้าเจื่อน หญิงสาวเดินมาหยุดยืนหน้ารถ พออภิชาติเห็นหน้าเธอชัดๆ จำได้ว่าเป็นกู่หลิน รีบลงจากรถเดินเข้าไปหา กู่หลินโผซบอกเขาทันที

"โห...สงสัยแฟนเก่าตามมาจริงๆด้วย" จักจั่นจ้องภาพตรงหน้าตาไม่กะพริบ

ooooooo

ที่ห้องโถงของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง กู่หลินเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้อภิชาติฟังว่า ระหว่างคณะของเธอเดินทางไปสนามบิน คนของจงซือคนหนึ่งคิดคดทรยศ พานายยูเว่หนีเพื่อเอาไปขายให้ใครก็ได้ที่ต้องการซื้อตัว ฤทธิชัยเดาออกว่าสินชัยต้องเป็นหนึ่งผู้ซื้อแน่ๆ กู่หลินเล่าเพิ่มเติมว่า

"คุณจงซือเป็นหัวหน้าทีมถูกยิงบาดเจ็บสาหัส เราถึงต้องการความช่วยเหลือจากคุณอภิชาติอีกครั้ง"

ดาวถึงบางอ้อทันที "ที่แท้...เรื่องเป็นแบบนี้เอง"

จังหวะนั้นมีชายคนหนึ่งออกจากห้องพักฟื้นของจงซือ ตรงมาหาอภิชาติ "คุณจงซือรู้สึกตัวแล้วครับ อยากพบคุณอภิชาติ"

อภิชาติพยักหน้า ลุกขึ้นเดินตามชายคนนั้นเข้าไปในห้องพักฟื้น กู่หลินขยับมานั่งใกล้ๆจักจั่น

"คุณจักจั่นอย่าโกรธคุณอภิชาตินะคะ...กู่หลินไม่ได้เป็นแฟนคุณอภิชาตินะคะ"

"โห...จักจั่นออกอาการขนาดนั้นเลยหรือเนี่ย...จักจั่นขอโทษคุณกู่หลินนะคะ"

"กู่หลินเข้าใจค่ะ...คุณอภิชาติเป็นสุภาพบุรุษ สาวๆชอบเยอะค่ะ"

จักจั่นทำหน้าไม่ถูก ดาวกับฤทธิชัยต่างยิ้มขำ ขณะที่กู่หลินงง ไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรผิด...

ฝ่ายอภิชาติเข้ามาในห้องพักฟื้น เห็นจงซือนอนซม อยู่บนเตียง มีสายระโยงระยางจากถุงนํ้าเกลือกับถุงเลือดมายังแขนทั้งสองข้างของเขา อภิชาติเดินเข้าไปใกล้ๆ จงซือลืมตาขึ้นมอง พูดด้วยเสียงอ่อนแรง

"คุณอภิชาติ...ช่วยเอาตัวไอ้ยูเว่กลับมาให้คุณกู่หลิน แล้วจัดการไอ้คนทรยศให้ผมด้วย"

อภิชาติรับปากจะจัดการให้ จงซือหมดแรงหลับตาลงอีกครั้ง...

หลังจากผจญภัยกันมาทั้งวัน ดาวกับจักจั่นก็กลับถึงห้องพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง จักจั่นไม่รอช้าซักถามดาวว่าทำอย่างไรถึงได้ไปโผล่บนดาดฟ้าของตึกเป้าหมายแล้วกลับมาโผล่ที่ห้องบัญชาการได้

"จำตอนที่จักจั่นอยู่ในร่างของยายบ๊องแล้วออกมาจัดการกับพวกมันตอนที่เราถูกพวกมันใช้ตาข่ายคลุมได้หรือเปล่า" ดาวเท้าความ จักจั่นตาโตขึ้นมาทันที

"อย่าบอกนะว่าพี่ดาวออกจากร่างไปจัดการกับพวกมัน"

ดาวยิ้มพยักหน้า จักจั่นมองเธอสีหน้าตื่นเต้น

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้น อภิชาติขับรถไปตามเส้นทางที่ปรากฏเป็นจุดเล็กๆ พร้อมสัญญาณไฟกะพริบบนหน้าจอเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก โดยมีฤทธิชัยนั่งควบคุมเครื่องอยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับ ขณะที่ดาวกับจักจั่นนั่งอยู่เบาะหลัง จักจั่นยื่นหน้ามาดูภาพในจอคอมพิวเตอร์ ด้วยสีหน้าชื่นชม

"คุณกู่หลินเก่งจริงๆที่ทำเครื่องติดตัวไอ้ยูเว่ไว้ก่อนโดยที่พวกมันคาดไม่ถึง"

"สัญญาณบอกตำแหน่งอยู่ที่โกดังแถวท่าเรือ" ฤทธิชัยจ้องมองจอคอมพิวเตอร์เขม็ง

"มันกะว่าขายได้เงินแล้วเผ่นหนีลงเรือสินค้าไปเลย" อภิชาติตั้งข้อสังเกต

ดาวแนะให้ตรวจกำหนดการเดินเรือดูไล่ไปตามลำดับทีละลำน่าจะได้เรื่องอะไรบ้าง ฤทธิชัยเห็นดีด้วย ครู่ต่อมา รถของอภิชาติแล่นมาจอดบริเวณท่าเรือ สัญญาณที่จอคอมพิวเตอร์กะพริบถี่ๆแสดงว่าถึงจุดหมายแล้ว แต่อยู่ๆสัญญาณไฟกะพริบก็ดับวูบ

"สัญญาณหายไปแล้ว พวกมันเจอวิทยุที่ติดตามตัวนายยูเว่จนได้" ฤทธิชัยสีหน้าเป็นกังวล

"คุณกู่หลินบอกว่ามันจะขายตัวนายยูเว่ให้กับคนซื้อที่ให้ราคาสูงสุด...งั้นเรารอจนกว่าคนซื้อจะมา"

ทุกคนพยักหน้าตกลงทำตามอภิชาติว่า แต่รออยู่นาน สองนานยังไม่มีวี่แววของกลุ่มผู้ซื้อ ฤทธิชัยถอนใจออกอาการเบื่อหน่าย ยกนาฬิกาขึ้นดูเป็นระยะๆ อภิชาติเริ่มเซ็ง

"สามชั่วโมงแล้ว...ยังไม่เห็นคนซื้อ หรือว่าเกี่ยงราคา กันอยู่...ไอ้พวกนี้มีเงินเป็นหมื่นๆล้าน แต่บาทเดียวไม่ยอมให้หลุด" อภิชาติพูดขาดคำ มีรถเก๋งคันใหญ่สองคันแล่นผ่านรถของอภิชาติซึ่งจอดซุ่มดูอยู่เลยเข้าไปจอดในโกดังเก็บสินค้าหลังสุดท้ายของท่าเทียบเรือ

"น่าจะใช่...พวกมัน" อภิชาติพูดจบสตาร์ตรถ แล่นตามไปช้าๆพยายามจอดรถใกล้จุดหมายที่สุด จากนั้นดาว ฤทธิชัย จักจั่น และอภิชาติ ค่อยๆคืบคลานไปถึงหน้าโกดังเป้าหมายอย่างเงียบกริบใช้ลังใส่สินค้าที่วางเกะกะแถวนั้นเป็นที่ซ่อนตัว ลอบมองเข้าไปด้านใน พบคนร้าย 4 คนพร้อมอาวุธครบมือยืนเฝ้าระวังอยู่

"พวกมันเฝ้าอย่างนี้ ฉันว่าบุกเข้าไปดื้อๆเลยดีกว่าหมดเรื่องหมดราว" อภิชาติเสนอ

"เดี๋ยวพวกมันตกใจยิงไอ้ยูเว่ทิ้ง...นายจะทำอย่างไร...เอาอย่างนี้...ฉันกับคุณดาวจะล่อให้พวกมันสนใจทางนี้ นายกับคุณจักจั่นบุกเข้าไปเอาตัวไอ้ยูเว่"

อภิชาติพยักหน้า "กู๊ดไอเดีย"

"จักจั่นพร้อมแล้วค่ะ"

"ถ้าอย่างนั้น...เอาเลย" ดาวไม่รอช้าดีดออกไป ฤทธิชัยรีบตามติด...

ในเวลาเดียวกันไผ่หลับตาทำสมาธิเห็นภาพขบวนรถขนอาวุธของสหรัฐฯที่หายไปผ่านสายตาของสายลม กำลังแล่นไปตามทางคดเคี้ยวในป่าทึบ แล้วหันมาบอกลุงเดชกับพ่อแสง

"พวกมันอยู่ทางเหนือของป่าดอนเสือ"

"แถวนั้นมีถ้ำให้มันหลบซ่อนได้หลายแห่ง...เราต้องรีบไปก่อนที่มันจะหลบเข้าไปในถ้ำพวกนั้น"

ลุงเดชว่าแล้วหันไปพยักพเยิดให้แสงกับสมาชิกโจร ทุกคนรีบขึ้นรถกระบะ ขณะที่ไผ่โดดขึ้นมอเตอร์ไซค์ของตัวเอง วิ่งนำขบวนรถของลุงเดชและสมาชิกโจรมุ่งหน้าไปยังทิศทางนั้นทันที

ooooooo

ไม่นานนัก ฤทธิชัยกับดาวโผล่มาอีกด้านหนึ่งของหน้าโกดังเป้าหมายใช้ลังเปล่าหน้าโกดังเป็นที่กำบังตัว ฤทธิชัยบอกแผนเบี่ยงเบนความสนใจพวกคนร้ายให้ดาวฟัง

"สาดกระสุนแล้ววิ่งไปที่ตรงโน้น" ฤทธิชัยชี้มือไปยังโกดังอีกหลังหนึ่งไกลออกไป

ดาวพยักหน้ารับรู้ ทั้งคู่ตวัดปืนสาดกระสุนใส่พวกนั้นล้มคว่ำไปสองคน แล้ววิ่งหนีไปยังทิศทางที่วางแผนกันไว้ คนร้ายที่เหลืออีกสองคนไล่ตามดาวกับฤทธิชัยไปติดๆ แผนเบี่ยงเบนความสนใจได้ผลดีเกินคาด พวกคนร้ายจากด้านในโกดังอีกสามคนออกไล่ล่าดาวกับฤทธิชัยด้วย เหลือคนเฝ้าโกดังไว้เพียงคนเดียว

"ถึงคิวเราแล้ว" อภิชาติหันมาพยักพเยิดกับจักจั่น

"โอเค..." จักจั่นพูดแค่นั้นแล้วดีดตัวออกจากที่ซ่อน ตรงเข้าจัดการคนร้ายที่เหลือ

ทั้งสองคนยังไม่ทันจะเข้าไปในโกดัง รถของคนร้ายคันหนึ่งแล่นสวนออกมา อภิชาติไวทายาดตวัดปืนยิงใส่คนขับ รถเสียหลักพุ่งเข้าหาลังไม้ที่กองระเกะระกะอยู่หน้าโกดัง รถหยุดสนิท เขาปราดเข้าไปที่รถ ขณะที่จักจั่นวิ่งถือปืนตามเข้ามาคอยคุ้มกันให้...

ฝ่ายดาวกับฤทธิชัยวิ่งหลบกระสุนตรงมุมตึกรอจังหวะที่พวกคนร้ายพรวดพราดเข้ามา จึงสาดกระสุนใส่ไม่ยั้ง พวกนั้นพุ่งหาที่กำบัง ยิงโต้กลับ ดาวโดดออกจากที่ซ่อนดวลปืนกับพวกคนร้ายไม่สนใจคมกระสุนที่สาดเข้าหา เธอฆ่าพวกนั้นตายเกลี้ยง ฤทธิชัยรีบวิ่งเข้าไปถามดาวด้วยความเป็นห่วงว่าเป็นอะไรหรือเปล่า

"ดาวไม่เป็นอะไรค่ะ...โชคดีที่พวกมันฝีมือห่วย...เรารีบไปดูคุณอภิชาติดีกว่าค่ะ"

ฤทธิชัยมองหญิงคนรักอย่างสงสัย แต่ไม่ได้ซักถามอะไร รีบวิ่งกลับไปที่โกดัง ดาวมองตาม แล้วก้มมองในอุ้งมือตัวเองเห็นหัวกระสุนของคนร้ายนับสิบๆนัดที่คว้าเอาไว้ได้ตอนดวลกัน เธอโยนมันทิ้งก่อนจะวิ่งตามฤทธิชัย...ด้านอภิชาติเปิดประตูรถออกดูไม่พบนายยูเว่อยู่ข้างใน กวาดสายตาไปรอบๆอย่างระแวดระวัง

"ไอ้ยูเว่ไม่อยู่...เราโดนหลอก"

ขาดคำพูดของอภิชาติ รถอีกคันหนึ่งพุ่งออกจากโกดัง จักจั่นโดดเข้าสาดกระสุนใส่เป็นชุด อภิชาติตวัดปืนยิงกระหน่ำใส่รถคันนั้นเช่นกัน ทันใดนั้น มีรถคันที่สามโผล่มาจากไหนไม่รู้พุ่งเข้าใส่จักจั่นทางด้านหลัง อภิชาติโดดรวบตัวเธอหลบได้อย่างหวุดหวิด
รถทั้งสองคันแล่นตะบึงไปตามทิศทางที่ดาวกับฤทธิชัยวิ่งสวนเข้ามา ทั้งคู่หยุดกึกตวัดปืนขึ้นเล็ง ฤทธิชัยต้องการตัวนายยูเว่เป็นๆ ดาวพยักหน้ารับรู้ สายตาจับจ้องไปยังรถทั้งสองคน

"ไอ้ยูเว่อยู่คันขวามือ" ดาวว่าแล้วยิงปืนใส่กระจกหน้าของรถคันซ้ายมือ ขณะที่ฤทธิชัยยิงยางรถคันขวามือกระจุย รถคันซ้ายมือหักพวกมาลัยหลบแล้วเหยียบคันเร่งเผ่น แน่บ แต่รถคันขวามือยางแบนเสียหลักชนลังเปล่าที่กองสุมกัน ก่อนจะสิ้นฤทธิ์อยู่ตรงนั้น

คนร้ายเปิดประตูรถก้าวออกมาพร้อมกับล็อกคอนายยูเว่ เอาปืนจ่อหัวไว้ ขู่ว่าถ้าเข้ามาใกล้จะยิงนายยูเว่ทิ้ง คนร้ายคนนั้นคือลูกน้องที่ทรยศของจงซือนั่นเอง อภิชาติกับจักจั่นตามมาสมทบ

"ใจเย็นเพื่อน ฉันสัญญากับคุณกู่หลินว่าจะเอาตัวไอ้ยูเว่ไปส่งให้" อภิชาติร้องบอก

"พวกแกขยับ ไอ้ยูเว่ดับ"

ดาวก้าวเข้าไปหาลูกน้องเก่าของจงซือหนึ่งก้าว จ้องตาเขาเขม็ง "ฉันว่าแกไม่อยากตายมากกว่า"

ชายคนนั้นตาเริ่มลอยๆราวกับถูกสะกดจิต "ใช่...ฉันไม่อยากตาย"

"ฉันว่าแกอยากปล่อยตัวนายยูเว่"

ชายคนนั้นพูดตามที่ดาวสะกดจิต "ใช่...ฉันอยากปล่อยตัวนายยูเว่"

ดาวสั่งให้เขาทิ้งปืนถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ ชายคนนั้นโยนปืนทิ้งอย่างว่าง่าย แล้วยืนนิ่งเป็นหุ่น ฤทธิชัยกับอภิชาติมองสบตากันสงสัย ฤทธิชัยเข้าไปล็อกตัวชายคนนั้นไว้ แล้วหันมาพูดแหย่ดาว

"อย่าบอกนะว่าคุณใช้เสน่ห์กล่อมมัน"

ดาวไม่ตอบอะไร ได้แต่ยิ้ม ขณะที่อภิชาติเดินเข้าไปคุมตัวนายยูเว่ไว้

ooooooo

หลังจากได้ตัวนายยูเว่แล้ว กู่หลิน จงซือและคณะก็เตรียมเดินทางกลับโดยมีอภิชาติ ฤทธิชัย ดาวกับจักจั่นมารอส่ง กู่หลินเข้ามาซบอกอภิชาติขอบคุณเขาอีกครั้งสำหรับความช่วยเหลือ อภิชาติทำตัวไม่ถูกได้แต่ ยิ้มๆ กู่หลินหันมาขอบคุณฤทธิชัย ดาว และจักจั่นเช่นกัน แล้วขึ้นไปนั่งรอในรถตู้ จงซือเข้ามาจับมือกับอภิชาติ

"ขอบคุณมากคุณอภิชาติ"

"คราวหน้าถ้าปล่อยให้นายยูเว่หลุดมาอีกล่ะก็...ผมต้องคิดเงินแล้วนะ" อภิชาติยิ้มอารมณ์ดี

ลูกน้องสองคนของจงซือดันตัวนายยูเว่ซึ่งถูกใส่กุญแจมือขึ้นรถ แล้วทั้งคู่ก็ขึ้นประกบ จงซือขึ้นรถเป็นคนสุดท้าย อภิชาติมองตามรถของจงซือ จักจั่นเข้ามายืนจ้องหน้าอภิชาติเขม็ง

"คือ...ผม...คือคุณ...กู่หลิน..." อภิชาติอึกๆอักๆไม่รู้จะอธิบายอย่างไร

"ลูกผู้ชายที่รักษาคำพูด...จักจั่นปลื้มมากๆ" จักจั่นยิ้มหน้าบาน ทุกคนพลอยยิ้มไปด้วย มีเสียงมือถือของอภิชาติดังขึ้น อภิชาติรีบรับสาย

"ครับ...ได้ครับ...ยินดีครับ" อภิชาติวางสายแล้วหันมาเห็นฤทธิชัย ดาวกับจักจั่นจ้องเขาเป็นตาเดียวกัน

"อย่าบอกนะว่ามีเรื่องอีก" จักจั่นเหล่

"ไม่มีนี่ครับ...แค่ทางมูลนิธิเด็กโทร.มาขอบคุณที่ผมบริจาคเงินเท่านั้นเอง" อภิชาติยิ้มหน้าเป็น ทุกคนพาโล่งใจ ในเมื่อไม่มีเหตุร้ายอะไรอีกแล้ว ดาว กับจักจั่นเลยขอตัวกลับบ้านดอนเสือ...

ขณะเดียวกัน ที่ป่าดอนเสือ ไผ่ ลุงเดช แสง และสมาชิกโจรแอบซุ่มอยู่บนโขดหิน มองลงไปเบื้องล่างเห็นคนร้ายสี่คนยืนเฝ้าระวังอยู่หน้าถ้ำขนาดใหญ่ มีรถบรรทุกอาวุธจอดอยู่สองคัน สักพัก มีรถกระบะอีกสองคันขนพวกคนร้ายนับสิบคนมาจอดเทียบ ก่อนจะเดินหายเข้าไปข้างใน

ไผ่มองสำรวจรอบๆแล้วลงความเห็นว่าถ้าเราผลีผลามบุกเข้าไป ต้องเสียเปรียบแน่ๆ พวกคนร้ายมีที่กำบังทางธรรมชาติอย่างดี ด้านหลังเป็นเนินสูง ส่วนด้านหน้ามีโขดหินให้ซุ่มตัว ลุงเดชก็คิดเช่นเดียวกันกับไผ่ แสงแนะให้รอพวกคนร้ายเคลื่อนกำลังออกจากถ้ำแล้วค่อยโจมตีจะดีกว่า

"หรือไม่ผมก็บุกเข้าไประเบิดรถขนอาวุธให้เรียบ พอพวกมันแตกตื่นออกมาจากถ้ำ..."

ไผ่พูดยังไม่ทันจบประโยค ลุงเดชพูดเติมให้ว่า "ก็เข้าทางพวกเราพอดี"

"จัดการส่งพวกมันลงนรกให้หมด" แสงพูดแล้วโบกมือให้สมาชิกโจรสองคนวิ่งเอาเป้มาให้ "ในเป้มีระเบิดตั้งเวลา... ระวังตัวด้วยนะไผ่" ถึงแสงจะรู้ดีว่าลูกชายมีฝีมือล้ำเลิศ แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น