วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

ดอกส้มสีทอง ตอนที่ 6

ตอนที่ 6

เช้านี้ไม่มีบิน แต่เรยาก็แต่งชุดทำงานออกมาดักรอก้องเกียรติ จนเพื่อนร่วมงานสองคนพากันงงงันว่าเรยาแต่งชุดฟอร์มทำไม พอสองสาวเข้ามาถาม เรยาก็ชักสีหน้าไม่พอใจ และไม่ให้ทั้งคู่มายุ่ง

เมื่อได้เจอก้องเกียรติตรงหน้าลิฟต์ เรยาบอกเขาว่าเธอกำลังจะไปสนามบิน พอดีเห็นเขาก็เลยมาลา ก้องเกียรติจึงอวยพรให้โชคดี เดินทางปลอดภัย

"ขอบคุณมากค่ะ คุณใหญ่เหมือนกันนะคะ วันนี้ประชุมขอให้ทุกคนฟังคุณใหญ่คนเดียว ไม่มีใครเถียงเลย"

ฟังคำอวยพรนั้นแล้ว ก้องเกียรติถึงกับหัวเราะเบาๆออกมา

"ทำไมคะ หัวเราะอะไรคะ"

"ไม่เคยได้ยินคำอวยพรแบบนี้ แต่ก็ขอบคุณมาก ลานะ"

"ไม่กลับมาอีกแล้วจริงๆเหรอคะ"

"ประชุมเสร็จผมจะไปดูตลาดอีกหลายเมือง ไม่กลับมาโอ๊คแลนด์แล้วครับ"

เรยายื่นมือให้อย่างมีจริต ก้องเกียรติจับมือเธอเขย่าๆเบาแล้วจากไปโดยไม่คิดอะไร

ooooooo

เพราะเที่ยวนี้ลูกสาวบินหลายวัน ลำยองจึงแอบไปช่วยงานที่บ้านนายแหม่ม แต่ด้วยท่าทีเหม่อๆเหมือนมีเรื่องทุกข์ใจของลำยองก็ทำให้นายแหม่มคาดเดาได้ไม่ยากว่าเรยาไม่อยากให้ลำยองมาทำงานที่นี่ พอนายแหม่มเอ่ยปาก ลำยองก็จะขอร้องทุกทีไปว่า แหม่มอย่าโกรธเรยาเลยนะ

"เธอพูดกับฉันอย่างนี้เป็นร้อยๆครั้ง ถ้าเธอโกรธเรยา

ซะบ้าง เรยาก็ไม่เป็นอย่างนี้"

ถูกนายแหม่มยอกย้อนเตือนสติเขาแบบนี้ ลำยองถึงกับนิ่งงันพูดไม่ออก...

ฝ่ายเรยาที่ยังต้องอยู่นิวซีแลนด์อีกสองวัน เมื่อไม่มีก้องเกียรติแล้วเรยาก็เริ่มเบื่อ คืนนี้เธอไปเจอหนุ่มฝรั่งคนหนึ่งซึ่งเขามีท่าทีสนใจเธออย่างมาก เรยากำลังเบื่อและเหงาจึงหว่านเสน่ห์ทันที แล้วทำท่าจะมาจบลงที่ห้องพักของเธอ ถ้าเรยาไม่นึกถึงก้องเกียรติขึ้นมาเสียก่อน

เรยาเปลี่ยนใจกะทันหัน ไล่หนุ่มฝรั่งกลับไป โดยบอกกับเขาว่าเธอทำไม่ได้จริงๆ เพราะเธอมีสามีแล้ว...และในวันต่อมา ไม่ว่าจะมีหนุ่มคนไหนเข้ามาจีบ เรยาก็เชิดใส่ หมดทุกคน เพราะเธอมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว

เขาก็คือก้องเกียรติ ซึ่งเรยามุ่งมั่นมากว่าเธอต้องได้เขาเป็นสามีในอนาคตอันใกล้นี้...

อุตส่าห์แอบไปบ้านนายแหม่มตอนเรยาไม่อยู่ แต่ ลำยองก็ยังเผลอเลอจนถูกเรยาจับได้ เรยาเห็นขนมปังและคาดคั้นจนแม่ยอมรับว่านายแหม่มให้มา ทำให้เรยาโกรธมากรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าออกจากบ้านไปโดยไม่ฟังเสียงทัดทานของแม่

เรยาไปต่อว่านายแหม่มถึงบ้าน นายแหม่มไม่อยากต่อความยาวจึงบอกเรยาว่า ต่อไปนี้เธอก็บอกลำยองด้วยว่าไม่ต้องมาที่นี่แล้ว

"แหม่มต้องเข้าใจนะคะว่าแม่ลำยองแก่แล้ว ฉันเป็นห่วงแม่ ถ้าเดินทางทุกวันแม่จะไม่สบาย"

"ฉันเข้าใจ"

"ฉันเองไปบินตลอดเวลา ถ้าแม่ไม่สบาย ฉันจะทำงานไม่สบายใจเลย"

"บอกแล้วไงว่าฉันเข้าใจ"

"เหตุที่ฉันต้องบินบ่อย เพราะว่าคนที่ทำงานกับผู้โดยสารชั้นหนึ่งมีไม่มาก เพราะเขาต้องคัดเลือกคนที่เหมาะสมจริงๆ"

"ซึ่งก็คือเธอ"

"ค่ะ ที่จริงฉันอยากอยู่กับแม่ แต่ได้เงินเยอะมากค่ะ เลย Say no ไม่ลง"

"ฉันดีใจด้วย"

"วันนี้แปลก แหม่มให้ฉันพูดภาษาไทย ไม่เคี่ยวเข็ญให้พูดภาษาอังกฤษเหมือนเคย"

"เดี๋ยวนี้เธอเก่งโดยไม่ต้องใช้ภาษาอังกฤษแล้ว"

เรยาสะอึกอึ้ง พยายามคิดถึงความหมายของวาจานายแหม่ม...ต่างคนต่างมองหน้าอ่านสายตากัน แล้วเรยาก็ลุกขึ้นเดินหันหลังกลับไปโดยไม่ลา

ooooooo

กลับมาอยู่บ้านได้ไม่กี่วัน เรยาสะดุดตากับภาพข่าวในนิตยสารเล่มหนึ่ง เพราะในภาพนั้นมีก้องเกียรติรวมอยู่ด้วย แล้วยังมีสินธร เด่นจันทร์ และณฤดี แต่เรยา ไม่สนใจใครอื่นนอกจากก้องเกียรติเพียงคนเดียว

เรยาตัดสินใจโทร.เข้าไปหาก้องเกียรติที่บ้านแต่สาวใช้เป็นคนรับและบอกว่าคุณผู้ชายไม่อยู่...จากการพูดคุยกันไม่กี่ประโยคทำให้เรยารู้ทันทีว่าก้องเกียรติมีภรรยาแล้วชื่อณฤดี แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นคนเดียวกับคุณดี๋เพื่อนของเด่นจันทร์

หลังจากนั้น เรยาใช้ความพยายามอีกนิดหน่อยก็ได้ทราบชื่อบริษัทเชงพาณิชย์ของก้องเกียรติ โดยเธออ้างว่ามีธุระติดต่อเรื่องเอ็กซ์พอร์ตไปนิวซีแลนด์...เมื่อได้ชื่อบริษัทมาแล้วจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะไปหาก้องเกียรติถึงที่ แต่เรยาก็ฉลาดพอที่จะไม่บุ่มบ่ามจนน่าเกลียด เธอเพียงแต่ฝากกล่องของขวัญเล็กๆพร้อมกระดาษโน้ตข้อความเข้าไปให้เขา

เมื่อก้องเกียรติได้รับของฝากนั้นจากเลขาฯหน้าห้อง ท่าทีเขาแปลกใจเล็กน้อยก่อนหยิบกระดาษมาอ่านข้อความที่เขียนด้วยลายมือ

"ฟ้าเห็นคุณใหญ่ด้วยค่ะ แต่คิดว่าไม่รบกวนเวลาคุณใหญ่ดีกว่า สำหรับคุณใหญ่เวลาเป็นของมีค่า ฟ้าเลยต้องฝากผ้าเช็ดหน้าที่คุณใหญ่ให้ฟ้าขอยืมไว้กับพนักงานต้อนรับนะคะ"

ก้องเกียรติวางกระดาษแล้วเปิดกล่องหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาดูอย่างจำได้ วันนั้น ในร้านกาแฟที่นิวซีแลนด์เขาให้ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้แก่เรยาไว้ซับน้ำตา...ขณะเดียวกันเรยาที่ยังจอดรถอยู่หน้าบริษัท เธอจดจ่อรอคอยว่าเมื่อไหร่ก้องเกียรติจะโทร.หาตามเบอร์มือถือในนามบัตรที่เธอแนบไปด้วย

แต่รอแล้วรอเล่าก็ไม่มีวี่แวว ที่สุดเรยาก็เป็นฝ่ายโทร. เข้าไปเอง แต่วิมลซึ่งเป็นเลขาฯหน้าห้องรับสายและบอกว่าท่านประธานกำลังจะเข้าประชุม แล้วไม่ว่าเรยาจะตื๊อขนาดไหนก็ไม่สำเร็จ เพราะวิมลทำหน้าที่เลขาฯได้ดีเยี่ยม ซักถามเสียจนเรยาพูดไม่ออกตอบไม่ถูก จำต้องวางสายไปอย่างหงุดหงิด

เรยาพาใบหน้าบึ้งตึงหงุดหงิดสุดขีดกลับมาบ้านแล้วระบายอารมณ์ใส่ลำยองที่ยังไม่ได้ทำอาหารเย็น เพราะมัวแต่รีดเสื้อผ้ากองโตของลูกสาว ด้วยความรักลูกลำยองจะรีบไปทำอาหารให้ แต่เรยากลับปึงปังไปขึ้นรถถอยหลังพรืดออกไปโดยไม่แคร์ความรู้สึกของแม่เลยสักนิด

ooooooo

ตกเย็นก้องเกียรติกลับจากทำงานถึงบ้านในเวลาปกติ ณฤดีเพิ่งวางสายจากเม่งฮวย เธอเดินมาบอกสามีว่าอาม้าโทร.มาชวนไปทานข้าวที่บ้านวันอาทิตย์นี้ ก้องเกียรติพยักหน้ารับรู้และยื่นกระเป๋าเอกสารกับถุงเล็กๆให้ภรรยา

ณฤดีรับมาแล้วเปิดถุงดูของข้างใน ปรากฏว่าเป็นผ้าเช็ดหน้า เธอหยิบมันออกมาดูอย่างแปลกใจ

"มีผู้หญิงคนหนึ่ง...เขาไม่สบาย ผมให้ผ้าเช็ดหน้าเขายืม"

"เป็นอะไรมากรึเปล่าคะ"

"ไม่มากครับ อ้อ เขามีจดหมายมาด้วย ผมต้องโทร.บอกเขาว่าได้รับแล้ว แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมให้วิมลโทร.ก็ได้ สมปองเอานามบัตรใส่กระเป๋าให้ด้วยแล้วกัน"

สมปองจะหยิบนามบัตร แต่ณฤดีส่งให้ทั้งถุง พอสมปองกลับออกไปแล้ว ณฤดียังให้ความสนใจผู้หญิงที่สามีบอกว่าไม่สบาย แต่ก้องเกียรติพูดถึงเหมือนไม่ได้คิดอะไร เขาบอกว่าเจอกันที่โอ๊คแลนด์

ดึกแล้วกำลังจะเข้านอน แต่ณฤดีเหมือนยังติดใจเรื่องผู้หญิงคนนั้นอยู่ แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะตอแยสามีอีก ทางด้านเรยานั้นกระวนกระวายหนักที่ก้องเกียรติไม่ติดต่อกลับมาเลย ทั้งๆที่เธอให้นามบัตรไปแล้ว กระทั่งห้าทุ่มได้ยินเสียงมือถือดัง เรยาดีใจคิดว่าเป็นก้องเกียรติ แต่พอดูเบอร์ก็ต้องผิดหวัง...จำใจกดรับสายของนัท แต่พูดด้วยไม่กี่คำก็วางสายอย่างหงุดหงิด

ooooooo

รุ่งขึ้นมีประชุมผู้ถือหุ้น ณฤดีจึงต้องเข้าบริษัทพร้อมก้องเกียรติ เรยาขับรถมาซุ่มดูก้องเกียรติที่หน้าบริษัท เห็นผู้หญิงลงจากรถเดินเข้าไปพร้อมก้องเกียรติ เรยาแน่ใจว่าต้องเป็นภรรยาของเขา แต่เสียดายที่ไม่ทันได้เห็นหน้าตา

เรยากลับบ้านด้วยจิตใจที่ห่อเหี่ยว จังหวะนี้นัทโทร.มาหาอีก เรยาปฏิเสธนัทว่าเธอยังไม่อยากไปไหน ยังไม่สบายใจ นัทจึงต้องวางสายไปด้วยความผิดหวัง อีกครู่เสียงมือถือเรยาดังขึ้นอีก เรยากดรับอย่างสุดเซ็ง แต่พอได้ยินเสียงก้องเกียรติ เรยาแทบร้องกรี๊ดด้วยความดีใจ

"คุณใหญ่...ฟ้าดีใจจังค่ะ"

"สบายดีนะครับ"

"สบายดีค่ะ"

"ผมส่งรูปของคุณเรยาไปให้ ได้รับหรือยังครับ"

"รูปเหรอคะ ยังค่ะ ไม่ต้องส่งก็ได้ค่ะ ฟ้าไปรับเอง"

"ส่งไปแล้วครับ แล้วจะบอกด้วยว่า ผมได้รับผ้าเช็ดหน้าคืนแล้ว"

"ให้ฟ้าเลี้ยงข้าวขอบคุณ...นะคะ"

"อ๋อ ไม่เป็นไรครับ"

"เถอะค่ะ คุณใหญ่กรุณาฟ้ามาก ฟ้าอยากตอบแทน"

"ไม่เป็นไรครับ คุณฟ้าไม่ต้องคิดมาก ผมไม่ได้ยุ่งยากอะไร ผมไม่รบกวนแล้ว เท่านี้นะครับ สวัสดีครับ"

ก้องเกียรติตัดสายไปแล้ว เรยาหน้าจ๋อย รู้สึกผิดหวังอย่างแรง

ooooooo

ผ่านไปเกือบสัปดาห์ที่เรยาต้องไปทำงานด้วยความรู้สึกเหงาๆ พอถึงเวลาพักเรยาจึงไปช็อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อผ่อนคลาย แต่แล้วที่นี่เองเรยาเห็นก้องเกียรติกับภรรยาโดยบังเอิญ คราวนี้เห็นหน้าเธอชัดเจน เรยาถึงกับอึ้งไปอย่างคาดไม่ถึง

ยิ่งได้รู้เห็นว่าภรรยาของก้องเกียรติคือณฤดีเพื่อนสนิทเด่นจันทร์ เรยาก็ยิ่งอยากเอาชนะ เธอทำทุกวิถีทางที่จะจับก้องเกียรติให้ได้ แม้จะต้องเสียเงินไม่ใช่น้อยในการติดสินบนเจ้าหน้าที่ในสายการบินที่ตัวเองทำงานอยู่เธอก็ยอม เพราะมันคุ้มค่าที่เธอจะได้พบก้องเกียรติอีกครั้งที่นิวซีแลนด์

เมื่อก้องเกียรติต้องไปติดต่อธุรกิจที่นิวซีแลนด์ เรยาทำเหมือนว่าพบเขาโดยบังเอิญ จากนั้นก็สร้างความคุ้นเคยด้วยการพาเขาไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ อ้างว่าตัวเองรู้จักดี เพราะบินบ่อย แรกๆก้องเกียรติก็พยายามรักษาระยะห่าง แต่ เรยายังรุกหนักถึงขนาดแกล้งไม่สบาย หลังจากพาเขาเที่ยวมาทั้งวัน

ก้องเกียรติไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของเรยา เขาประคองพาเธอไปส่งที่ห้องพัก และเกือบจะเผลอไผลไปกับท่าทีชวนสงสารของเรยา

"เอ่อ...ขอโทษครับ...คุณจะทานยาอะไร เดี๋ยวผมหยิบให้" ก้องเกียรติผละออกห่าง เรยาหน้าเสียไปนิดก่อนจะเสแสร้งต่อไป

"ไม่เป็นไรค่ะ ฟ้าไม่ทราบว่าทำไมรู้สึกไม่สบายขึ้นมากะทันหัน"

"คงเป็นเพราะอากาศ เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวเย็น...เป็นยังไงบ้างครับตอนนี้"

"หนาวค่ะ เหมือนเป็นไข้"

"นอนพักผ่อน แล้วจะค่อยยังชั่ว ตื่นขึ้นมาถ้าดีขึ้นค่อยอาบน้ำ ถ้าไม่ตื่นก็ไม่เป็นไร นอนถึงเช้าได้ พรุ่งนี้ผมจะมาดูอีกที" หนุ่มใหญ่ใจดีหยิบผ้าห่มห่มให้เธอแล้วหันหลังออกจากห้องไปทันที

ก้องเกียรติกลับออกไปโดยไม่รู้ว่าตัวเองทำให้เรยาผิดหวังมากแค่ไหน...แต่ความมุ่งมั่นเพื่อสิ่งที่ต้องการก็ไม่ได้ทำให้เรยาท้อหรือเปลี่ยนใจ กลางดึกคืนนี้เองเธอตัดสินใจโทร.เข้าไปที่ห้องพักก้องเกียรติด้วยน้ำเสียงเหมือนคนป่วยหนัก ทำให้ก้องเกียรติตกใจกระวีกระวาดมาดูแลเธอถึงเตียงนอน

เรยาจัดฉากได้เนียนมากจนก้องเกียรติไม่เอะใจ และด้วยมารยาร้อยเล่มเกวียนของหญิงเจนสนามรักอย่างเรยาก็ทำให้หนุ่มใหญ่หลงกลจนมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันในที่สุด...

เรยาสมใจมากที่แผนของตนสำเร็จ แต่แสร้งร้องไห้น้ำตาไหลรินเหมือนสาวน้อยไม่ประสีประสาเรื่องรัก ทำให้ก้องเกียรติ ที่รู้สึกผิดอยู่แล้วยิ่งทำอะไรไม่ถูก ได้แต่กล่าวคำขอโทษซ้ำไปซ้ำมา

"ไม่ค่ะ...ไม่ต้องขอโทษ" เรยาโผเข้ากอดเขาทั้งน้ำตา

"ผมขอโทษ ผมไม่ควร...ผมผิดเอง"

"ฟ้าด้วย...ฟ้าผิดด้วยค่ะ คุณใหญ่อย่าโทษตัวเอง เราผิดทั้งสองคน ฟ้าผิดด้วย...ฟ้าผิด...ฟ้าไม่เสียใจเลยที่ทำผิดครั้งนี้"

ก้องเกียรติพูดไม่ออก สีหน้าเขาเป็นทุกข์จนเรยาจับความรู้สึกได้ และเรยาก็ฉลาดพอที่จะไม่รุกเร่งหรือเรียกร้องอะไรจากเขาในเวลานี้

ตอนเช้าลงไปที่ห้องอาหารพร้อมกัน ทั้งคู่กินไม่ลงเอาแต่นั่งนิ่งมองจานอาหาร ฝ่ายชายสีหน้าเป็นกังวลอย่างมาก ขณะที่หญิงสาวก็ดูเครียดและเศร้าหมอง

"ผมมีภรรยาแล้ว..." ก้องเกียรติเอ่ยเสียงแผ่วแต่เรยาที่นั่งเผชิญหน้าได้ยินชัด เธอแสร้งชะงักเล็กน้อยแทนอาการตกใจ แล้วก้มหน้ากล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

"ฟ้าทราบแล้ว ถึงคุณใหญ่ไม่ได้บอกฟ้า แต่ฟ้าเดาได้เพราะคุณใหญ่เป็นสุภาพบุรุษ คุณใหญ่ไม่เคยทำอะไรที่ไม่ให้เกียรติฟ้า คุณใหญ่ไม่เคยมีท่าทีอะไรที่ไม่ดีกับฟ้า เรื่องที่เกิดขึ้น...อย่างที่ฟ้าบอก ฟ้าไม่เสียใจ เพราะถึงอย่างไรมันก็เกิดขึ้นแล้ว เราเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้"

"ผม...ผมไม่ทราบจะทำยังไงต่อไป ผมอยู่ในครอบครัวที่มีปัญหาอย่างนี้ตลอดมา ผมคิดอยู่เสมอว่าผมจะไม่ก่อปัญหาอย่างนี้อีก ผมสาบานกับตัวเองว่าผมจะไม่ทำร้ายภรรยา ผมจะไม่ทำร้ายครอบครัว"

"คุณใหญ่มีลูกมั้ยคะ"

"ไม่มีครับ...เรายังไม่มีลูกด้วยกัน"

เรยาแอบโล่งใจก่อนจะตีหน้าเศร้าเล่นละครฉากใหญ่

"ฟ้าเข้าใจค่ะ ถ้าฟ้าเป็นภรรยาคุณใหญ่ ฟ้าคงภูมิใจมากที่มีสามีแสนดีอย่างนี้"

"ขอบคุณครับ แต่..."

"เรื่องของเราหรือคะ"

"ผมไม่ทราบจะทำอย่างไร ผม..."

"คุณใหญ่คะ สบายใจเถอะนะคะ ไม่ต้องรับผิดชอบกับฟ้าก็ได้ มันเป็นแค่อุบัติเหตุทางกาย ถึงแม้ว่าฟ้าจะชอบคุณใหญ่มาก เพราะฟ้าไม่เคยพบผู้ชายคนไหนที่น่าประทับใจเท่าคุณใหญ่ ที่จริงฟ้าก็ไม่ค่อยได้คบผู้ชายกี่คนหรอกค่ะ ชีวิตฟ้าส่วนใหญ่อยู่กับแม่ ชีวิตเราคงเดินไปคนละทาง ถ้าบังเอิญพบฟ้าก็ขอให้ทักทายฟ้าบ้าง อย่างน้อยเราก็เคยมีช่วงเวลาที่ดีที่สุด...อาจจะไม่ใช่สำหรับคุณใหญ่ แต่สำหรับฟ้า ฟ้าไม่มี วันลืม เพราะฟ้าก็เหมือนคุณใหญ่ ฟ้าสาบานไว้ว่าชาตินี้จะมีสามีคนเดียว จะไม่ให้ใครมาเป็นคนที่สอง ที่สาม...ฟ้าลาล่ะค่ะ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง"

เรยายกมือไหว้เขาทั้งน้ำตานองหน้าก่อนลุกจากมาด้วยความหวังว่าเขาจะทัดทานหรือทำอะไรสักอย่าง แต่เปล่าเลย ก้องเกียรติเอาแต่นั่งอึ้งสีหน้าเครียดจัด จนเรยาใจคอไม่ดีหันกลับไปมองเขาอีกครั้ง แล้วบอกกับตัวเองเบาๆว่า

"ยังไม่ใช่วันนี้...ฉันรอได้"

ooooooo

ในที่สุดต่างคนต่างก็กลับประเทศไทยด้วยจิตใจที่หม่นหมอง โดยเฉพาะก้องเกียรตินั้นทั้งทุกข์และกังวลในความผิดพลาดที่ตัวเองกระทำลงไปกับผู้หญิงคนหนึ่งจนเก็บอาการไม่อยู่ เป็นเหตุให้ภรรยาที่บ้านเริ่มสังเกตได้ถึงความผิดปกตินี้

สีหน้าเครียดๆ และท่าทีเหม่อๆของก้องเกียรติทำให้ ณฤดีเข้าใจว่าเขาจะไม่สบาย จึงจัดยามาให้กินกันไว้ก่อน หลังจากกินยาแล้วก้องเกียรติพยายามปรับตัวเองให้เป็นปกติด้วยการชวนณฤดีคุยเรื่องที่เด่นจันทร์ชวนไปเที่ยวทะเล

"อ๋อ ไปไหมคะ ดี๋เห็นคุณใหญ่ยุ่งๆ พอดีเด่นเขาพาน้องดาวไปส่งที่อังกฤษ แต่เขาก็ถามมาเรื่อยๆ"

"นัดเลยสิครับ อาทิตย์นี้เลยดีมั้ย"

"อะไรกันคะ ทำเหมือนจะหนีอะไร"

"หนีตัวเองไงครับ" เผลอหลุดปากจนภรรยาแปลกใจ

"หมายความว่าไงคะ"

"ผมเครียด...งานมีปัญหานิดหน่อย ผมเลยไม่อยากอยู่คนเดียว"

"อ้าว...เอาดี๋ไปทิ้งไว้ที่ไหนคะ"

"คุณดี๋กับผมเหมือนคนคนเดียวกันนี่ครับ ผมกลัวว่าจะทำให้คุณดี๋กลุ้มใจไปด้วย"

"ใช่ค่ะ คุณใหญ่กลุ้ม ดี๋ก็กลุ้มด้วย สิ่งที่ดี๋ต้องการที่สุดคือ...ให้คุณใหญ่สบายใจ"

"ผมก็เหมือนกับคุณดี๋ สิ่งที่ผมต้องการที่สุดคือ ให้คุณดี๋สบายใจ"

"คิดดูก็แปลกนะคะ เราสองคนคงเป็นคู่สุดท้ายในประเทศไทย ที่แต่งงานด้วยวิธีคลุมถุงชน"

"ก็ไม่เชิง เพราะผมเห็นคุณดี๋ก่อนที่อาเตียจะไปเจรจาสู่ขอกับท่านทูตคุณพ่อคุณดี๋"

"หรือคะ ดี๋ก็เห็นคุณใหญ่ก่อนเหมือนกัน"

"เห็นในรูปใช่ไหมครับ"

"ใช่ค่ะ คุณใหญ่เป็นนักธุรกิจดีเด่น ตอนนั้นดี๋รู้แล้วว่าคุณพ่อคุยกับอาเตียอยู่ ตอนที่มองรูปคุณใหญ่ ใจยังนึกว่าเราจะต้องอยู่กับผู้ชายคนนี้ไปตลอดชีวิตหรือนี่"

"แล้วคำตอบคือ..."

"คำตอบก็คือใช่แล้ว...คนนี้แหละ คลุมถุงชน คนโบราณนี่เก่งนะคะ ใช้ภาษาได้ตรงจัง ดี๋ว่าสมัยนั้นต้องเป็นภาษาสแลงแน่ๆ ใช้คำหวือหวาแบบนี้ แต่ที่ดี๋สงสัยก็คือ ทำไมคุณใหญ่ยอมถูกคลุมถุงชนล่ะคะ"

"ก็บอกแล้วว่าเห็นคุณดี๋ก่อนไงครับ"

"ก่อนนั้น...ขอโทษนะคะ คุณใหญ่ไม่มีใครเลยหรือคะ ก่อนแต่งงานคุณใหญ่เคยรักผู้หญิงคนไหนบ้างไหมคะ"

ก้องเกียรติตอบไม่ได้ อึ้งงันไปด้วยความสะเทือนใจ จนเมื่อณฤดีหลับไปแล้ว แต่ก้องเกียรติก็ยังนอนลืมตาโพลง คิดย้อนไปถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งของตัวเองกับเรืองยศที่เกิดขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ แต่มันทำให้เรืองยศเป็นจริงเป็นจังมากถึงขนาดจะคัดค้านการแต่งงานของเขากับณฤดี พอไม่สำเร็จเรืองยศก็ทำใจไม่ได้ถึงกับคิดสั้นกระโดดน้ำฆ่าตัวตายจากเขาไปในที่สุด

เหตุการณ์วันนั้นยังสะเทือนใจก้องเกียรติไม่รู้ลืม โดยมีเพื่อนอีกสองคนคือเต้กับโจที่ร่วมรับรู้อยู่ด้วยความโศกเศร้าเสียใจ

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้น ณฤดีสังเกตเห็นสีหน้าก้องเกียรติยังไม่ค่อยดีนัก เธอจึงเอ่ยปากจะยกเลิกไปงานเลี้ยงรุ่นที่นัดกับเด่นจันทร์แล้วไปหาอาม้ากับเขาแทน

"คุณดี๋ไปงานเถอะครับ เลี้ยงรุ่นไม่ได้มีบ่อย ผมไปหาอาม้าคนเดียวได้ครับ"

"งั้น...คุณใหญ่เลิกงานแล้วไปเลยนะคะ เพราะเด่นจะมารับดี๋ค่ะ ไม่ต้องห่วง"

ก้องเกียรติรับคำแล้วหิ้วกระเป๋าเอกสารออกไปขึ้นรถ โดยมีสายตาณฤดีเฝ้ามองด้วยความเป็นห่วง...

ตกเย็นเลิกงานก้องเกียรติก็ไปที่บ้านพ่อแม่ แล้วไปเจอคำแก้วเดินเหม่อลอยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียวแถวบ่อลึกที่ห่างจากบ้านพอสมควร ซึ่งหลายคนในบ้านเรียกมันว่า "บ่อนรก"

ก้องเกียรติทำท่าจะเดินเข้าไปหาคำแก้ว แต่จู่ๆอาอึ้มก็โผล่ออกมาทักและสวมกอดเขาด้วยความดีใจ เสียงทักทายของทั้งคู่ทำให้คำแก้วค่อยๆเดินเข้ามาหา เธอเพ่งมองก้องเกียรติ ครู่หนึ่งก็เริ่มมีรอยยิ้มผุดขึ้นมาในหน้า ก้องเกียรติเห็นแล้วเศร้า รู้สึกสงสารชะตากรรมของคำแก้วที่อยู่ๆก็กลายเป็นคนเสียจริตอย่างกะทันหัน

เขาพูดคุยกับอาอึ้มได้สักพัก คำแก้วเกิดมีอาการประหลาดกรีดร้องเหมือนเกลียดกลัวก้องเกียรติสุดขีด จนอาอึ้มต้องรีบพาเธอกลับไปสงบสติอารมณ์ในบ้านพักแล้วกลับออกมารายงานก้องเกียรติที่ยังรออยู่ที่ศาลาด้วยท่าทีกระวนกระวายใจ

"หลับแล้วฮ่ะ อึ้มให้กินยานอนหลับ"

"คำแก้วเป็นอะไร อาอึ้มรู้บ้างมั้ย"

"ไม่รู้เลยฮ่ะอาคุงชายใหญ่ อึ้มคิดแล้วคิดอีกว่าอาไลทำให้อีเป็งบ้า ก็คิดไม่ออกฮ่ะ"

"ก่อนวันที่คำแก้วเป็นบ้า มีอะไรเกิดขึ้นอาอึ้ม"

"ก่อน...ม่ายมี แต่วันนั้น...วันนั้นอาคุงนายที่สามอีหายไป"

ก้องเกียรตินิ่งสนิทไปทันที ทราบดีว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วเกิดความสะเทือนใจรุนแรงขึ้นมา ซ่อนหน้าไปทางอื่นอย่างพยายามระงับอารมณ์ อาอึ้มเองก็หน้าเสียเหมือนกัน

"อาอึ้มคิดว่าคำแก้วเห็น..."

"ใช่ฮ่ะ เพาะว่าอาคุงนายที่สี่อีไปขอท่านเจ้าสัวอย่าให้ทำอะไรอาคุงนายที่สามเลย แต่ท่านเจ้าสัวอีไม่ยอม"

ก้องเกียรติสีหน้าเครียดจัด ผละจากอาอึ้มเข้าไปที่ห้องโถงตึกใหญ่เพื่อนำบัญชีรายรับรายจ่ายของบริษัทไปให้เจ้าสัว ขณะเจ้าสัวพิจารณาตัวเลขในบัญชีอยู่นั้น ก้องเกียรติ เอาแต่จ้องหน้าบิดาเหมือนไม่พอใจอะไรบางอย่าง

"ดีมากอาใหญ่ ลื่อทำงานเรียบร้อยดี มีอย่างเดียวเวลาสั่งของลื่อต้องดูเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนด้วย ถ้าเราสั่งของจากเมืองจีนตอนเงินหยวนแพง ขายของไปนิวซีแลนด์ เงินดอลลาร์ถูกก็ขาดทุนตาย ต้องศึกษานะ นักวิชาการเขาทำนายเรื่องเงินไว้ล่วงหน้านานมั้ย หรือแบงก์ชาติอีทำนายไว้รึเปล่า"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น