วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

ป่านางเสือ ตอนที่ 6

ตอนที่ 6

พอตะวันตรงหัว ลุงเดช ไผ่ ดาวกับจักจั่นลัดเลาะเข้าป่าทึบจนถึงค่ายแห่งหนึ่งของพวกลักลอบตัดไม้ หลังจากประเมินสถานการณ์แล้ว ดาวสรุปว่าเราควรใช้ วิธีการแบบกองโจร ก่อกวนพวกคนร้ายไม่ให้หลับให้นอน ตัดการส่งกำลังบำรุงจนกว่าพวกนั้นจะยอมสลายตัวไปเอง ลุงเดชเห็นด้วยกับความคิดนี้

"พวกเธอกลับไปเตรียมการ ลุงจะไปหาลุงแสงจัดการกำลังคนให้พร้อม"

เด็กๆรับคำ ลุงเดชเตือนทุกคนให้ระวังฤทธิชัยกับอภิชาติไว้ด้วย พวกเขาไม่ได้มีเป้าหมายแค่นายสินชัยกับพวกเท่านั้น แต่อยู่ที่นางเสือด้วย เด็กทั้งสามรับปากว่าจะระวังตัว แล้วพากันกลับไปที่รถจี๊ป...ก่อนจะออกจากป่า ดาว จักจั่น และไผ่ แวะค่ายอีกแห่งหนึ่งของพวกลักลอบตัดไม้ ดาวในคราบนางเสือเข้าไปเขย่าขวัญพวกนั้นจนกระเจิง ต่างทิ้งอาวุธวิ่งหนีกันอย่างไม่คิดชีวิต พวกนางเสือทำลายได้หนึ่งค่าย...

ไม่นานนัก รถจี๊ปของดาวแล่นมาจอดหน้าสถานีอนามัยบ้านดอนเสือ ดาวกับพวกยังไม่ทันจะลงจากรถมีรถกระบะสองคันเข้ามาจอดประกบข้าง นายโยหัวหน้าค่ายกักกันหญิงสาวซึ่งหนีรอดเงื้อมมือพวกนางเสือไปได้ กับสมุนหลายคนกรูกันลงมาจากรถล้อมกรอบดาวกับพวกไว้ ดาวบอกนายโยว่ากำลังอยากเจออยู่พอดี

"พวกแกจะทำอะไรข้าได้ หลักฐานไม่มี อย่างดีก็มีคนตบมือให้สองสามแปะอย่างเมื่อตอนเช้า"

นายโยลอยหน้าลอยตาตอบ ดาวเลยจัดให้ ดีดตัวขึ้นจากรถจี๊ปแวบไปที่นายโย ตบเขาฉาดใหญ่จนหน้าหัน แล้วแวบกลับมานั่งที่เดิมเรียบร้อย นายโยมองไม่ทัน เห็นแค่เงาแวบๆหาว่าเป็นฝีมือดาว

"แกจะกล่าวหาฉันไม่ได้ หลักฐานสักแปะหนึ่งก็ไม่มี" ดาวยิ้มยั่ว

ไผ่กับจักจั่นหัวร่อคิก นายโยหันมองพวกสมุนที่ยืนรายล้อมอยู่ พวกนั้นส่ายหน้าไม่รู้เรื่อง นายโยไม่รู้จะทำอย่างไร เลยขู่ดาวว่าถ้าไม่อยากเจ็บตัวอย่าแส่เรื่องชาวบ้าน พูดยังไม่ทันขาดคำ ดาวแวบหายไปตบนายโยอีกครั้ง เล่นเอาหน้าคะมำ แล้วกลับมานั่งที่เดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นายโยฉุนขาดชักปืนจะยิงมือดาวโทษฐานที่มาตบหน้าตน ทันใดนั้น มีเสียงปืนดังสนั่น ปืนในมือนายโยกระเด็น

พวกคนร้ายหันไปมองตามเสียงปืน เห็นฤทธิชัยกับอภิชาติยืนอยู่ด้านหลัง มือสองข้างของพวกเขาถือปืนข้างละกระบอกเล็งกราดมายังพวกคนร้าย ฤทธิชัยสั่งให้พวกนั้นทิ้งปืน จังหวะนั้น มีรถตำรวจสามคันแล่นมาจอด ป้าเนียนเดินโวยวายออกมาจากสถานีอนามัย ตรงมาที่รถตำรวจ

"จับพวกมันไปให้หมด พวกมันมาก่อกวนหลานฉัน"

ฤทธิชัยกับอภิชาติรีบเก็บปืน ดาวกับพวกรีบเดินมาหาสองหนุ่ม ตำรวจเดินตามมาติดๆ ขอเชิญตัวฤทธิชัยไปโรงพัก เนื่องจากตำรวจที่ควบคุมตัวฤทธิชัยมาเมื่อคืน ให้การว่าเขามีส่วนรู้เห็นกับพวกคนร้ายและไปกับพวกมัน ฤทธิชัยอ้างว่าที่ต้องทำอย่างนั้นก็เพื่อความปลอดภัยของเขากับสาวสองคนนี้ ฤทธิชัยชี้ดาวกับจักจั่น

"ใช่ค่ะ ฉันกับน้องสาวซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ถ้าไม่ได้ ผู้กอง พวกมันคงส่งพวกเราไปขายเรียบร้อยแล้ว"

"ยังไงก็แล้วแต่ ผมต้องการคำให้การของผู้กองครับ"

อภิชาติ ดาวกับจักจั่นขอตามฤทธิชัยไปโรงพักด้วย ทิ้งให้ไผ่อยู่เป็นเพื่อนป้าเนียนที่นั่น

ooooooo

หลังจากตำรวจสอบปากคำฤทธิชัยจนพอใจแล้วจึงปล่อยตัวกลับ ระหว่างที่ฤทธิชัย อภิชาติ ดาวกับจักจั่นมาถึงหน้าโรงพัก เจอพวกนายโยยืนยิ้มกวนๆรออยู่ เสี่ยเหลิมซึ่งมาประกันตัวพวกนั้นยืนวางท่าอยู่ใกล้ๆ ดาวกับจักจั่นหมั่นไส้เสี่ยเหลิมที่ทำตัวกร่างเลยหลอกด่าจนเสียหน้าต่อหน้า พวกสมุน เสี่ยเหลิมแค้นใจมาก...

ขณะสินชัยเดินมาส่งทอมหน้าห้องทำงานของเขา หลังจากปรึกษาเรื่องจัดงานแสดงเพชรกันเสร็จ เสี่ยเหลิมโทร.มาหาสินชัยพอดี สินชัยรับสายแล้วหน้าเครียด ก่อนตำหนิเสี่ยเหลิมอย่างแรงที่ปล่อยให้ใครก็ไม่รู้บุกเข้าไปช่วยผู้หญิงใน ค่ายออกมา เสี่ยเหลิมรายงานเสียงอ่อยว่าเป็นผู้กองฤทธิชัย

"แค่ไอ้ผู้กองฤทธิชัยคนเดียวนี่นะหรือ"

"ตอนแรกพวกเราต้อนมันจนมุม แต่ตอนหลังนางเสือมาช่วยเล่นงานพวกเราจนพังพินาศ...ผมว่านางเสือมันจ้องเล่น งานคุณสินชัยทุกวิถีทาง ผมว่าท่านควรจะระวังเรื่องงานขายเพชรของท่านด้วย"

สินชัยไม่คิดว่านางเสือจะกล้าบุกมาถึงกรุงเทพฯ เสี่ยเหลิมเตือนว่าเรื่องแบบนี้อย่าประมาทเป็นดี สินชัยวางสาย ชักจะเห็นด้วยกับเสี่ยเหลิม รีบกดโทรศัพท์หาผู้หลักผู้ใหญ่ที่หนุนหลังตนเองทันที...

ฤทธิชัยกับอภิชาติตรงกลับบังกะโลที่พัก แล้วนั่งปรึกษาหารือกันว่าใครน่าจะเป็นนางเสือ อภิชาติประมวลจากเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมาแล้วเห็นว่าดาวกับจักจั่นเป็นคนที่ ต้องถูกจับตามองมากที่สุด

"แต่ฉันเคยเจอนางเสือแล้ว บอกได้คำเดียวว่าไม่ธรรมดา เคลื่อนไหวรวดเร็ว แวบไปแวบมาเหมือนในหนังประเภทคาถาอาคม แถมมีเสือจริงๆอยู่ด้วย"

อภิชาติว่าถ้าเป็นอย่างที่ฤทธิชัยเล่า นางเสือก็ไม่ใช่คนอย่างคำร่ำลือ ฤทธิชัยส่ายหน้า ถ้าเขาไม่ได้คุยกับนางเสือ เขาคงคิดแบบนั้น อภิชาติเลยตัดดาวกับจักจั่นออกจากบัญชีรายชื่อของคนที่จะเป็นนางเสือ บอกให้เพื่อนลืมเรื่องนางเสือไปก่อน เล่นงานสินชัยคนเดียวดีกว่า แล้วขอตัวกลับไปพักผ่อนที่บังกะโลที่พักตัวเองซึ่งอยู่ถัดไปอีกสามหลัง...

ในเวลาเดียวกัน ป้าเนียนต้องแปลกใจเมื่อเห็นคุณหญิงรัตนามาหาที่สถานีอนามัย คุณหญิงมาเชิญป้าเนียนกับหลานๆไปกินข้าวเย็นที่บ้านพักของเธอ ป้าเนียนนึกถึงที่ลุงเดชห้ามไว้ รีบปฏิเสธว่าไปไม่ได้ ติดคนไข้ แต่หลานๆของเธอน่าจะว่าง เธอจะบอกหลานให้ คุณหญิงรัตนาทราบจากฤทธิชัยว่าดาวยังมีพี่ชายกับลุงอีกคนหนึ่ง เธอจึงอยากจะชวนทั้งคู่ด้วย ป้าเนียนรีบปฏิเสธแทนไผ่กับลุงเดชว่าสองคนนั่นก็ไม่ว่างเช่นกัน

"งั้นฉันไม่รบกวนป้าเนียนแล้วนะ แล้วพบกันใหม่" คุณหญิงรัตนาว่าแล้วผละจากไป

ที่บังกะโลที่พักของฤทธิชัย ขณะผู้กองหนุ่มกำลังรับโทรศัพท์จากคุณหญิงรัตนาเชิญกินข้าวเย็นวันนี้ที่ บ้านพักของท่าน เขาถูกสมุนของสินชัยสองคนลอบโจมตี ฤทธิชัยไม่อยากให้คุณหญิงรัตนารู้เรื่องนี้รีบขอตัววางสาย อ้างว่าติดธุระเดี๋ยวจะโทร.กลับ ฤทธิชัยฆ่าพวกนั้นได้หนึ่งคน ส่วนคนร้ายอีกคนอภิชาติช่วยจัดการ

"ฉันว่าเราไปเยี่ยมพวกมันที่บ่อนบ้างดีกว่า ปล่อยให้พวกมันมาเยี่ยมฝ่ายเดียวถือว่าเสียมารยาท"

"ดีเหมือนกัน แต่ต้องรีบกลับก่อนห้าโมงนะเพื่อน คุณอาหญิงชวนฉันกับนายไปกินข้าวเย็นที่บ้านพัก"

พออภิชาติรู้ว่าคุณหญิงรัตนาอยู่บ้านดอนเสือ เร่งฤทธิชัยรีบไปบ่อนทันทีเดี๋ยวไปตามนัดไม่ทัน

ooooooo

ที่ค่ายชั่วคราวของแสงกับสมาชิกโจร ลุงเดชเข้ามาแจ้งแผนการให้แสงกับพวกฟังว่า พวกเด็กๆทำหน้าที่ยึดรถบรรทุกเสบียงของพวกคนร้าย ส่วนพวกเราจะรอสัญญาณอยู่ที่นี่ ถ้าได้รับสัญญาณเมื่อไหร่ถึงจะส่งกำลังบุกเข้าไป แสงถามลุงเดชว่าแน่ใจหรือว่าสามคนนั่นจะจัดการได้

"ก็ต้องลองดู ศัตรูเริ่มแข็งแกร่งเสริมกำลังขึ้นทุกวัน เราต้องฝกให้สามคนนั่นแข็งแกร่งขึ้นเหมือนกัน"

แสงแล้วแต่ลุงเดชว่าอย่างไรเขาว่าตามอยู่แล้ว ลุงเดช ได้แต่หวังว่าตัวเขาคงตัดสินใจถูก...

ขณะเดียวกัน ฤทธิชัยกับอภิชาติเข้าไปป่วนบ่อนของสินชัยจนพังยับแทบไม่เหลือชิ้นดี นักเลงที่คุมบ่อนถูกยิงได้รับบาดเจ็บไปตามๆกัน ก่อนจะออกจากบ่อน ฤทธิชัยหันมาบอกนักเลงที่นอนร้องโอดโอยว่า

"ฝากบอกเสี่ยเหลิมให้ไปรับศพคนงานที่ส่งไปเยี่ยมข้าด้วย"

"แล้วบอกว่าตอนนี้ไม่ต้องส่งคนไปหาพวกข้าให้เกะกะถนนวุ่นวายเดือดร้อนชาว บ้าน แต่พวกข้าจะเป็นฝ่ายมาเยี่ยม เตรียมตัวต้อนรับให้ดี" อภิชาติว่าแล้วเก็บปืนพวกคนร้ายเดินตามฤทธิชัยออกจากบ่อน

พอสองหนุ่มคล้อยหลัง เสี่ยเหลิมกับนายโยค่อยๆโผล่ออกมาจากที่ซ่อนด้านหลัง มองสภาพยับเยินของบ่อนด้วยความเจ็บแค้นใจ...

ขณะฤทธิชัยกับอภิชาติขับรถผ่านตลาดเห็นคนร้ายกลุ่มหนึ่งกำลังยืนคุมพ่อค้า แม่ค้าขนของขึ้นรถกระบะสองคัน จำนวนสินค้าที่มากมายทำให้สองหนุ่มตัดสินใจขับรถตาม รถของพวกนั้นเลี้ยวเข้าถนนลูกรังมุ่งหน้าสู่ป่า ฤทธิชัยเลี้ยวรถตามไปสักพัก เบนรถเข้าจอดหลังพุ่มไม้ ชวนอภิชาติออกเดินเท้าตามรอยยางรถกระบะไปอย่างระมัดระวัง อภิชาติสังหรณ์ใจชอบกลว่าอาจจะได้เจอนางเสือ ฤทธิชัยก็รู้สึกแบบนั้นเช่นกัน...

อีกด้านหนึ่งของป่า ดาว จักจั่นกับไผ่ในชุดดำสวมหน้ากากกำลังมองดูรถบรรทุกเสบียงสองคันแล่นใกล้เข้า มา ไผ่แนะว่าเราควรจะไปดักรอพวกนั้นตรงโค้งข้างหน้าจะโจมตีได้ง่ายกว่า ทั้งสามคนดีดตัวไปตามต้นไม้อย่างรวดเร็ว ดักรอ อยู่บนต้นไม้เลยทางโค้งมาหน่อย ไม่นานนัก รถบรรทุกเสบียงค่อยๆแล่นพ้นโค้ง

คนขับรถเหยียบเบรกชี้ไปที่ยอดไม้เบื้องหน้า เห็นจักจั่นในคราบนางเสือยืนเด่นเป็นสง่า คนร้ายไม่รอช้าสาดกระสุนใส่ไม่ยั้ง จักจั่นดีดตัวหายเข้าไปในดงไม้ พวกคนร้ายลงจากรถแล้วใช้ประตูรถเป็นที่กำบัง ส่ายปากกระบอกปืน

ไปมา...เสียงปืนทำให้ฤทธิชัยกับอภิชาติหยุดกึก รีบวิ่งไปยังที่มาของเสียงปืน...

ดาวในชุดนางเสือเหมือนจักจั่นไม่มีผิดเพี้ยนปรากฏตัวขึ้นอีกด้านหนึ่ง ฝั่งตรงข้ามกับจักจั่น สองสาวผลัดกันปรากฏตัว ทำให้พวกคนร้ายหัวปั่น ในที่สุดนางเสือก็ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ คนร้ายที่ไม่ถูกยิงพากันทิ้งอาวุธวิ่งหนีป่าราบ จักจั่นกับไผ่ยิ้มให้กันอย่างผู้ชนะ ทันใดนั้น ดาวส่งพลังจิตมาบอกจักจั่นกับไผ่

"พี่ไผ่ จักจั่น รีบหลบไปก่อน ผู้กองกับคุณอภิชาติกำลังมา...ดาวจะล่อผู้กองกับคุณอภิชาติไปทางอื่น หลังจากนั้น เธอสองคนเอารถไปให้ลุงเดชที่จุดนัดพบ"

สองพี่น้องต่างมองหน้ากัน แล้วมองยังฝั่งตรงข้ามซึ่งห่างกันหลายเมตร เห็นดาวยืนยิ้มอยู่ สองพี่น้องต่างโบก มือให้แล้วดีดตัวหายเข้าไปในความหนาทึบของยอดไม้ เป็นจังหวะที่ฤทธิชัยกับอภิชาติมาถึงพอดี

"เรามาช้าไปแล้วเพื่อน"

อภิชาติพูดขาดคำ เสียงเสือคำรามก้อง สองหนุ่มหันมองตามเสียง เห็นเงาตะคุ่มๆของนางเสือพุ่งหายไปในพุ่มไม้ ผู้กองหนุ่มกับเพื่อนรีบตามไปติดๆ พักเดียวร่างนางเสือ ไปปรากฏอยู่บนยอดไม้ดีดตัวไปตามกิ่งไม้ใหญ่ สองหนุ่มพยายามวิ่งไล่แต่ไม่ทัน นางเสือหายไปอย่างไร้ร่องรอย อภิชาติเพิ่งนึกขึ้นได้

"แล้วรถเสบียงของพวกมันล่ะ"

"ป่านนี้หายไปแล้วเพื่อน นายคิดว่านางเสือแวบไปแวบมาให้นายเห็นเพราะอะไร"

อภิชาติถึงบางอ้อทันทีว่าโดนแผนล่อเสือออกจากถ้ำเล่นงาน...

ฝ่ายจักจั่นกับไผ่ขับรถบรรทุกเสบียงสองคันของคนร้ายไปส่งลุงเดชยังจุดนัด หมาย ลุงเดชไม่เห็นดาวก็ถามหา พอรู้จากจักจั่นว่าดาวล่อผู้กองกับอภิชาติไปอีกด้านหนึ่งให้เธอกับไผ่เอารถ มาที่นี่ เขาถึงกับออกปากชมฤทธิชัยว่าเก่งใช้ได้ ไหวทันพวกคนร้ายเหมือนกัน แล้วหันไปบอกสมาชิกโจรว่า

"มาเอาเสบียงไป คันหนึ่งไปแจกชาวบ้าน อีกคันหนึ่งเก็บสำหรับพวกเรา อภินันทนาการจากนายสินชัย"

สมาชิกโจรต่างเฮลั่นชอบใจ ภารกิจวันนี้สำเร็จด้วยดี ลุงเดช จักจั่น และไผ่ต่างมุ่งหน้ากลับบ้านป้าเนียน

ooooooo

ทันทีที่รู้จากป้าเนียนว่าคุณหญิงรัตนามาบ้านดอนเสือ และชวนดาวกับจักจั่นไปกินมื้อเย็นที่บ้านพักของท่าน สองสาวกระวีกระวาดขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเสร็จอย่างรวดเร็ว ดาวชวนลุงเดชกับไผ่ไปด้วย ทั้งคู่ ปฏิเสธว่าไม่ถนัดพบปะผู้คน ลุงเดชเตือนสองสาวว่าระหว่างเดินทางอย่าประมาทเด็ดขาด พวกสินชัยอยู่แถวนี้เยอะ

สองสาวรับปากแล้วพากันออกจากบ้าน ไม่นานนัก ดาวกับจักจั่นมาถึงบ้านพักของคุณหญิงรัตนา เนื่องจากคุณหญิงรัตนาติดคุยโทรศัพท์ทางไกลจากต่างประเทศ คุณหญิงพรพรรณ แม่ของเธอจึงออกมาต้อนรับสองสาวแทน และพยายามพูดตีกันเป็นทำนองว่าที่คุณหญิงรัตนาถูกชะตากับดาวและจักจั่นคง เป็นเพราะทั้งสองคนมีวัยไล่เลี่ยกับหนูพฤกษาลูกสาวของคุณหญิงรัตนาที่หาย สาบสูญไปในป่า

"ฉันคิดว่าคุณหญิงรัตนายังมีความหวังที่วันหนึ่งอาจจะ ได้พบหนูพฤกษา พบเจอใครที่มีอายุวัยเดียวกันกับลูกตัวเองก็ถูกชะตาไปหมด"

"พวกหนูก็ถูกชะตากับคุณหญิงรัตนาค่ะ แต่กับคนอื่นบางครั้งเจอปุ๊บไม่ชอบปั๊บก็มี แปลกดีนะคะ"

คุณหญิงพรพรรณโดนว่าประชดถึงกับอึ้ง ดาวต้องใช้สายตาปรามจักจั่น ทันทีที่คุณหญิงรัตนามาถึงห้องรับแขก ตรงเข้ามาหาเด็กสาวทั้งสองคนเอามือโอบไว้คนละข้าง จักจั่นรู้งานรีบถอยออกมา คุณหญิงรัตนาเลยถือโอกาสดึงดาวเข้ามา

กอดไว้ อึดใจก็คลายออก ดาวตื้นตันใจบอกไม่ถูก น้ำตาคลอเบ้า คุณหญิงรัตนาก็อยู่ในอาการเดียวกัน เสียงรถแล่นเข้ามาจอด ทำให้ทั้งคู่ตื่นจากภวังค์ ดาวกับจักจั่นมองหน้ากันสงสัย

"ฉันเชิญผู้กองกับคุณชาติมาด้วย เด็กๆจะได้คุยกัน เดี๋ยวมีแต่คนแก่จะเบื่อซะก่อน ไม่เป็นไรนะจ๊ะ"

"ค่ะ...ดาวกับจักจั่นรู้จักกับผู้กองกับคุณอภิชาติดีค่ะ"

คุณหญิงพรพรรณลอบจับตาดูดาวและจักจั่นตลอดเวลา จากนั้น ทุกคนมานั่งรวมกันที่โต๊ะอาหาร เรื่องที่คุยกันระหว่างมื้อไม่พ้นเรื่องของนางเสือ บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ระหว่างนั้นมีเสียงเรียกเข้ามือถือของอภิชาติ เขาขอตัวลุกออกไปรับสาย สักพักก็กลับมานั่งที่เดิม

"คุณอาหญิงจำเรื่องรูปของน้องพฤกษาตอนเด็กๆที่ให้ผมส่งไปให้เพื่อนทาง อเมริกาใช้เทคนิคทางวิทยาศาสตร์ดูว่าปัจจุบันหน้าตาเป็นอย่างไรจากรูปเดิมไป ได้ไหมครับ...ทางโน้นส่งเป็นแฟ้มดิจิตอลมาที่สำนักงานทนายความของผมแล้ว ครับ"

"ดีจังเลย" คุณหญิงรัตนายิ้มดีใจ ดาวกับจักจั่นมองงงๆแต่ก็ยิ้มด้วย

ฤทธิชัยกระซิบบอกสองสาวว่าวันหลังจะเล่าให้ฟัง อยู่ๆ คุณหญิงพรพรรณถามดาวกับจักจั่นว่าพ่อแม่ของพวกเธออยู่ ที่ไหน ดาวรู้ทันทีว่าท่านอยากให้คุณหญิงรัตนารู้ที่มาที่ไปของเธอ เพื่อที่คุณหญิงรัตนาจะได้ไม่หลงคิดว่าเธอเป็นหนูพฤกษาที่หายไป ซึ่งเป็นสาเหตุให้คุณหญิงรัตนาถูกชะตากับเธอ ดาวจึงแกล้งตอบว่า

"คุณพ่อแสงทำธุรกิจทั่วไป คุณแม่สมพรเคยเป็นครู ตอนนี้สอนแต่ลูกๆอยู่ที่บ้านไม่ไปสอนที่อื่นแล้วค่ะ"

คุณหญิงพรพรรณพยักหน้าพอใจ แม้ดาวอาจจะไม่ใช่ หนูพฤกษาอย่างที่คุณหญิงรัตนาคาดหวัง แต่เธอก็ยังรักและถูกชะตาเหมือนเดิม ออกปากเชิญชวนพ่อแม่ของดาวมาเที่ยวที่นี่บ้าง เผื่อเธอจะได้ขออนุญาตให้ดาวกับจักจั่นไปหาเธอที่กรุงเทพฯ ดาวยิ้มรับ ถ้ามีโอกาสเธอจะชวนพ่อกับแม่ทันที

จังหวะนั้น ท่านรองฯก้องเกียรติโทร.มาตามฤทธิชัยให้กลับกรุงเทพฯ คุณหญิงรัตนาแปลกใจว่าจะให้กลับไปทำไมในเมื่อเขาถูกพักงาน ฤทธิชัยไม่ทราบเหตุผลเหมือนกัน รู้แต่ว่าเป็นเรื่องด่วน อภิชาติพอจะเดาได้ว่าน่าจะเป็นเรื่องงานประมูลเพชรของสินชัย คุณหญิงรัตนาจำได้ว่าเธอก็ได้บัตรเชิญไปงานนี้เช่นกัน สินชัยส่งไปที่มูลนิธิฯ เพราะว่าเงินบริจาคส่วนหนึ่งจะมอบให้มูลนิธิฯ ทางนั้นก็เลยส่งบัตรเชิญมาให้เธอ

ฤทธิชัยคิดว่าสินชัยแค่จะก่อกวนคุณอาหญิงมากกว่า อภิชาติกลับเห็นเป็นเรื่องดี คุณอาหญิงจะได้พาดาวกับจักจั่นไปด้วยถือโอกาสเที่ยวกรุงเทพฯไปในตัว คุณหญิงรัตนาเห็นดีด้วย หันมาชวนสองสาว ดาวต้องขออนุญาตลุงเดชก่อน เธอตื่นเต้นมากแต่พยายามข่มเอาไว้ โอกาสที่นางเสือจะปล้นเพชรของสินชัยมาถึงแล้ว...

ดาวรีบแจ้งเรื่องนี้กับลุงเดชทันทีที่กลับถึงบ้านป้าเนียน ลุงเดชอยากรู้ว่าดาวมีแผนอย่างไร ดาวยังไม่รู้เหมือนกัน แล้วแต่ สถานการณ์อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ลุงเดชหันไปถามความเห็นจากไผ่กับจักจั่น สองพี่น้องมั่นใจว่าดาวจะจัดการเรื่องนี้ได้ เหมือนเช่นทุกครั้ง เพราะเธอมีพรจากสวรรค์คอยช่วย

"แล้วคุณหญิงรัตนาไม่รังเกียจที่จะดูแลดาวกับจักจั่น" ลุงเดชอดเป็นห่วงไม่ได้

ดาวกับจักจั่นพยักหน้าแทนคำตอบ จักจั่นบ่นว่าไม่ค่อยชอบแม่ของคุณหญิงรัตนาเท่าไหร่ เพราะท่านทำท่าราวกับว่าเธอสองคนจะไปหลอกคุณหญิงรัตนา ลุงเดชนิ่วหน้าสงสัย ดาวเลยอธิบายให้ฟังว่า

"ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ ท่านแค่บอกว่าที่คุณหญิงรัตนาถูกชะตากับดาวกับจักจั่นก็เพราะว่ามีวัย ไล่เลี่ยกับลูกสาวของคุณหญิงที่หายไป จักจั่นก็เลยหงุดหงิด"

ลุงเดชสีหน้าไม่ดี ยิ่งได้รู้ว่าคุณหญิงรัตนาเอารูปหนูพฤกษาให้อภิชาติส่งไปวิเคราะห์ทาง คอมพิวเตอร์ดูว่าตอนนี้หน้าตาจะเป็นอย่างไร ลุงเดชถึงกับถอนใจ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรได้แต่ถามว่าทั้งคู่จะไปกันเมื่อไหร่

"อาทิตย์หน้าค่ะ ระหว่างนี้ดาวจะจัดการกับค่ายตัดไม้ ของพวกมันให้หมด" ดาวยิ้ม สีหน้ามั่นใจ

ooooooo

ณ คอนโดฯหรูที่พักของฤทธิชัย พออภิชาติรู้ว่าที่ท่านรองฯก้องเกียรติเรียกตัวฤทธิชัยกลับมาอย่างเร่งด่วน เพราะมีคำสั่งลงมาให้ฤทธิชัยกลับเข้าทำงานได้ แต่หน้าที่แรกของเขาคือเป็นหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยในงานประมูลเพชรของ สินชัย อภิชาติฟันธงว่าเรื่องนี้ต้องเป็นแผนของสินชัย

"เหตุการณ์ที่ผ่านมา ธุรกิจทุกอย่างของมันพังเพราะนางเสือ มันเลยจะให้นายมาปราบนางเสือให้มัน"

"นายสินชัยประสาทหลอนไปแล้ว ฉันไม่คิดว่านางเสือจะออกมานอกป่าได้หรอก"

อภิชาติรู้ว่านางเสือต้องอยู่ในป่า แต่ไม่ได้มีกติกาว่าต้องเป็นป่าแบบไหน กรุงเทพฯเมืองฟ้าแห่งนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากป่าบ้านดอนเสือ คนฆ่ากันไม่มีเหตุผลแค่ขับรถปาดหน้าก็ตายได้แล้ว...

ในขณะเดียวกัน ที่ป่าดงดิบใกล้เขตบ้านดอนเสือ ดาว จักจั่น กับไผ่ในชุดดำสวมหน้ากาก เห็นรถบรรทุกเสบียงของพวกลักลอบตัดไม้หนึ่งคัน พร้อมด้วยคนคุ้มกันอีกห้าคน วิ่งมาตามเส้นทางลูกรัง ทั้งสามคนแปลกใจที่ครั้งนี้มีรถบรรทุกเสบียงแค่คันเดียว แต่ไม่ติดใจสงสัยอะไร จักจั่นกับไผ่ดีดตัวตามรถบรรทุก

ดาวไม่ได้ขยับตาม ปล่อยให้สองพี่น้องแสดงฝีมือ ทันใดนั้น สายฟ้าซึ่งเดินวนเวียนอยู่ใต้ต้นไม้ร้องคำรามขึ้น แล้วพุ่งตามสองคนนั้นไป ดาวเอะใจ หลับตาทำสมาธิ สัมผัสถึงอันตราย รีบตามไปอย่างรวดเร็ว

เป็นจริงอย่างที่ดาวคิด รถเสบียงคันนั้นมีแต่เหล่าร้ายนับสิบซ่อนตัวอยู่ พอจักจั่นกับไผ่ปรากฏตัว พวกนั้นก็กรูกันออกมาโดยมีนายโยนำหน้า ถัดมามีชายคนหนึ่งแต่งกายคล้ายพรานยืนกร่างอยู่ ชานคนนั้นแนะนำตัวเองว่าเป็นพรานเสือ ชื่อ "มองยะ" จักจั่นกับไผ่มองสบตากัน ก่อนจะค่อยๆเลื่อนมือไปที่เอว พลันดาวส่งพลังจิตมาบอกทั้งคู่ว่าหลบไปก่อน คุมเชิงอยู่ห่างๆเธอจะจัดการพรานเสือเอง ไผ่กับจักจั่นค่อยๆถอยออกมา

มีเสียงคำรามของเสือดังขึ้นพร้อมๆกับการปรากฏตัวของดาวในคราบนางเสือ พรานมองยะเข้าปะทะฝีมือด้วย แต่ สู้ไม่ได้ เพียงอึดใจเดียวโดนดาวเล่นงานจนต้องวิ่งหนีเข้าป่า มีสายฟ้าพุ่งตามไปติดๆ สังหารพรานมองยะแก้แค้นให้พวกเสือที่ต้องตายด้วยน้ำมือของเขา นายโยกับสมุนหน้าซีด แต่ยังไม่ยอมแพ้

นายโยชูปืนยิงพลุในมือ ขู่ว่าถ้านางเสือไม่ยอมแพ้ เขาจะยิงพลุส่งสัญญาณบอกพรรคพวกให้ระเบิดเขื่อนดอนเสือทันที แต่ถ้านางเสือตุกติกคิดจะทำอะไรเขา เกิดเขายิงสัญญาณพลุผิดทาง เขื่อนก็จะระเบิด แต่ถ้าไม่มีสัญญาณพลุ เขื่อนก็ระเบิดเช่นกัน ดาวสีหน้าครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรดี

ขณะจักจั่นกับไผ่ซึ่งยืนคุมเชิงอยู่บนยอดไม้เริ่มสงสัยว่าทำไมดาวยังไม่ ลงมือ ดาวส่งพลังจิตไปบอกไผ่กับจักจั่นว่านายโยจะระเบิดเขื่อนดอนเสือ ให้ไผ่ตามไปจัดการคนร้ายที่เขื่อน เธอให้เวลาเขาห้านาที ส่วนจักจั่นอยู่ที่นี่รอสัณญาณจากเธอ เป้าหมายคือชายที่ถือปืนยิงพลุ ทั้งสองรับทราบ ไผ่ดีดตัวออกไปทันที

ดาวทำทีโยนปืนทิ้งขอยอมแพ้ พวกคนร้ายกรูเข้ามาล้อมเธอไว้ เสียงเหยี่ยวสายลมร้องดังขึ้น ดาวรู้ทันทีว่าไผ่จัดการพวกที่สันเขื่อนเรียบร้อย ส่งพลังจิตเรียกจักจั่น ทันใดนั้น เสียงปืนดังก้องไปทั้งป่า ร่างนายโยทรุดฮวบตายสนิท เหล่าสมุนหน้าตาตื่น ต่างทิ้งปืนหันหลังวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต ในที่สุด พวกลักลอบตัดไม้ขาดเสบียงอาหาร และเสียขวัญ พากันทิ้งค่ายไปหมด...ได้เวลาที่นางเสือจะบุกกรุงเทพฯแล้ว

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น