วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

ป่านางเสือ ตอนที่ 2

ตอนที่ 2

ร้อยเวรประจำสถานีตำรวจบ้านนาเพลินเพิ่งจะออกเวรกะเช้า ก้าวลงบันไดสถานีตำรวจได้แค่สองสามก้าวถึงกับหยุดกึก เห็นรถตู้สองคันจอดอยู่ โดยมีคนร้ายนับสิบคนถูกมัดไว้บนหลังคารถ แถมรถตู้คันหนึ่งมีป้ายติดหราว่า "ยาบ้า" ร้อยเวรรีบวิ่งกลับขึ้นไปบนสถานีตำรวจทันที...

ในเวลาเดียวกัน สินชัยโกรธจัดเมื่อได้ฟังเสี่ยม้งโทร.มา รายงานว่าที่เขาต้องเสียเงินสองล้านบาทกับยาบ้ามูลค่านับสิบๆล้านบาท เป็นเพราะพวกลิ่วล้ออ้างว่าโดนนางเสือสมิงเล่นงาน สินชัยหาว่าไร้สาระ คนที่เล่าเรื่องนี้ให้เสี่ยม้งฟังคงเมายาบ้าจนสมองเสื่อม แล้วรีบตัดบท

"เอาล่ะๆจัดการสั่งสินค้ามาใหม่อย่างรีบด่วน เพราะลูกค้าผมรออยู่ เปลี่ยนสถานีใหม่ เพิ่มคน...อย่าให้พลาดอีก" สินชัยวางสายสีหน้าเคร่งเครียด....

สายวันเดียวกัน อภิชาติไปรับฤทธิชัยที่สนามบินสุวรรณภูมิ ฤทธิชัยเพิ่งกลับจากไปฝึกงานที่เอฟบีไอประเทศสหรัฐอเมริกา อภิชาติแซวเพื่อนว่าหายไปตั้งสามเดือนแบบนี้ สินชัยคงคิดถึงแย่

"ฉันก็คิดถึงนายสินชัยเหมือนกัน มีเรื่องที่เราบุกเข้าไปในผับ ยึดเงินกับกระเป๋าของมันหรือเปล่า"

"ไม่มี...จริงอย่างที่นายบอก มันไม่กล้าแจ้งตำรวจ"

"ดีที่มันไม่แจ้ง เพราะฉันบริจาคเงินไปหมดแล้ว...เออ... มีข่าวอะไรใหม่บ้างไหมเพื่อน?"

อภิชาติคุยทันทีว่ามี แถมเป็นข่าวแปลกๆอีกด้วย ถ้าอยากรู้ต้องเลี้ยงกาแฟเขาหนึ่งแก้วก่อน ครู่ต่อมาอภิชาติพาฤทธิชัยมานั่งดื่มกาแฟที่ร้านเจ้าประจำ ฤทธิชัยไม่รอช้าทวงถามว่ามีข่าวใหม่ข่าวแปลกอะไรจะเล่า

"ข่าวใหม่ก็คือเจ้าหน้าที่ตำรวจเจอคนงานของนายสินชัยถูกมัดอยู่หน้ารถตู้สองคัน พร้อมป้ายยาบ้าติดอยู่ ตำรวจพบยาบ้ากว่าแสนเม็ด"

"โธ่เรื่องจิ๊บๆแค่นี้ไม่กระเทือนนายสินชัยหรอก แค่อ้างว่าคนงานพวกนั้นถูกไล่ออกไปแล้วแค่นี้ก็จบ"

"ใช่ แต่ที่แปลกก็คือ พวกนั้นต่างให้การตรงกันว่ามีเสือสมิง มีนางเสือสมิงอยู่ในป่าเล่นงานพวกมัน"

"ก็พวกมันเมายาจนพูดไร้สาระไปเรื่อย...นายชาติ นายจ่ายค่ากาแฟเองเพราะข่าวของนายห่วยมาก"

ฤทธิชัยว่าแล้วยกแก้วกาแฟขึ้นจิบอย่างอารมณ์ดี

อภิชาติถึงกับร้องอ้าว ทำหน้าเซ็งสุดๆ

ลุงเดชเพิ่งกลับถึงค่ายหลังจากหายหน้าไปสามเดือน พอรู้เรื่องดาว จักจั่นและไผ่ออกไปจัดการพวกค้ายาเสพติด ลุงเดชเรียกเด็กทั้งสามคนมาเฉ่งว่าทำอะไรโดยพลการและไม่ได้รับอนุญาตแบบนี้ ต้องถูกลงโทษ ดาวค้านว่าไม่ได้ทำโดยพลการ ลุงเดชอนุญาตพวกเธอแล้ว ลุงเดชทำหน้างง ดาวรีบชี้แจง

"ลุงเคยบอกว่าถ้าเจ้าสายฟ้าตัวใหญ่พอออกป่าได้เมื่อไหร่ พวกเราลุยได้เมื่อนั้น"

ลุงเดชยิ่งงงหนัก "แค่สามเดือนเนี่ยนะ เจ้าสายฟ้าออกป่าได้แล้ว"

"ใช่ครับ....ตัวเบ้อเร่อเลยครับ" ไผ่ยืนยัน

ลุงเดชกราดตามองพวกเด็กๆอย่างจับผิด เพราะปกติแล้วเสือจะโตเต็มที่อย่างน้อยต้องอายุปีครึ่ง จักจั่นท้วงว่าสายฟ้าไม่ใช่เสือธรรมดา แต่เป็นเสือเจ้าป่าส่งมาให้พี่ดาว แสงเข้าข้างพวกเด็กๆเพราะเคยได้ยินลุงเดชพูดอย่างที่ดาวว่าจริงๆ ลุงเดชเลยต้องขอโทษเด็กทั้งสามคน เด็กๆก็ขอโทษเขาเช่นกันที่ทำให้เป็นห่วง

"เอาล่ะๆ...ลุงพาแขกมาเยี่ยมพวกเธอสามคนด้วย"

ลุงเดชว่าแล้วหันไปทางลานกว้างกลางค่าย ดาว จักจั่น และไผ่มองตาม เห็นอาจารย์สามคนที่เคยฝึกวิชาให้พวกตนยืนอยู่ ดีใจมากรีบเข้าไปหา พอเด็กๆรู้ว่าพวกอาจารย์มาอยู่ แค่คืนเดียวพากันบ่นเสียดาย...

หลังจากแยกกับอภิชาติ ฤทธิชัยไปรายงานตัวต่อท่านรองฯก้องเกียรติที่กองปราบฯทันที ท่านรองฯเล่าให้ฟังว่าตั้งแต่ ฤทธิชัยไปต่างประเทศ สินชัยขยายเครือข่ายธุรกิจผิดกฎหมายทุกรูปแบบโดยไม่มีใครทำอะไรได้ เพราะธุรกิจทั้งหมดของสินชัยอยู่ในต่างจังหวัดไกลหูไกลตาไกลมือ ฤทธิชัยขออนุญาตออกไปลุยเอง

"ผมก็คิดเช่นนั้น แต่ต้องรอจังหวะ ถ้าคุณไปตอนนี้ พวกมันต้องรู้ตัวแน่ๆ"

ฤทธิชัยรอไม่ไหว ท่านรองฯนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ถามว่ารู้เรื่องนางเสือหรือยัง ฤทธิชัยพอรู้มาบ้าง คิดว่าเป็นแค่เรื่องเหลวไหล ท่านรองฯอยากให้ใช้เรื่องเหลวไหลนี้เป็นโอกาส โดยให้ฤทธิชัยทำทีว่าถูกเขาส่งตัวไปสืบเรื่องนางเสือแต่ความจริงไปสาวเรื่อง สินชัย แม้ว่าองค์กรของสินชัยจะอยู่ในกรุงเทพฯ แต่ถ้าแขนขาในต่างจังหวัดของเขาถูกทำลาย เขาก็พลอยพบจุดจบไปด้วย ฤทธิชัยเห็นด้วยกับแผนนี้และจะเริ่มปฏิบัติทันที

ooooooo

ได้เวลาที่อาจารย์ทั้งสามของดาว จักจั่น และไผ่ จะเดินทางกลับ อาจารย์ท่านหนึ่งมอบเหยี่ยววิเศษให้ ไผ่เป็นของขวัญ บอกว่ามันเป็นเหยี่ยวนำทาง ไผ่ สามารถเห็นสิ่งต่างๆผ่านสายตาของมันได้ เพียงแค่ นึกถึงเหยี่ยวตัวนี้ก็จะปรากฏตัวทันที ไผ่รับไว้ด้วยความตื่นเต้นดีใจ

"แต่จำไว้ ต้องใช้ยามจำเป็นหรือเพื่อฝึกวิชา ไม่ใช่ทำเป็นเล่นเพื่อลองของ"

อาจารย์ว่าแล้วโบกมือ เหยี่ยวตัวนั้นค่อยๆสลายตัวไป เด็กสามคนช่วยกันตั้งชื่อให้มันว่า "สายลม..."

ฤทธิชัยกับอภิชาติร่วมมือกันสืบหาข้อมูลจนรู้แล้วว่าทำไมตำรวจเอาผิดกับสิน ชัยไม่ได้ เพราะเขาจะใช้คนนอกเป็นคนกลางในการรับส่งยาและของเถื่อน ถ้าถูกจับได้สินชัยจะเสียแค่เงินกับของ ความผิดก็จะตกอยู่กับคนนอก ถ้าใครมีรถตู้หรือรถกระบะก็สามารถเข้าร่วมขบวนการนี้ได้ เพียงแต่ต้องมีคนในแนะนำ

ผู้กองหนุ่มจึงวางแผนจะให้นายแสงเป็นคนแนะนำให้เขาเป็นคนกลางส่งของ โดยจะหลอกนายแสงว่าเขาเป็นเพื่อนร่วมคุกกับโสพี่ชายของนายแสง...หลังจากติด หนวดปลอม สวมแว่นสายตาแล้ว ฤทธิชัยไปเยี่ยมนายแสงที่ห้องขังบนสถานีตำรวจบ้านนาเพลิน โกหกว่าโสฝากเงินมาให้ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน นายแสงหลงกลชักชวนฤทธิชัยเข้าร่วมขบวนการขนยาเสพติด และบอกสถานที่นัดดูตัวให้

บ่ายวันนั้น ฤทธิชัยขับรถตู้มารอยังจุดนัดพบ ครู่ใหญ่ มีรถตู้อีกคันหนึ่งเข้ามาจอดเทียบ ใหญ่กับกวงลงจากรถเดินมาหาฤทธิชัย ถามว่าเคยติดคุกกับพี่ชายของนายแสงใช่ไหม ฤทธิชัยพยักหน้า ใหญ่ซักไซ้ไล่เลียงที่มาที่ไปของฤทธิชัยจนพอใจ แล้วถามว่ารถตู้นี่ใช่ของเขาหรือเปล่า ฤทธิชัยกระซิบว่าขโมยมา

"ใช้ไม่ได้...เป็นจุดสนใจของตำรวจ" ใหญ่โวยลั่น ฤทธิชัยออกอาการเซ็งขึ้นมาทันที

"เฮ้ย...ไม่ต้องห่วง พี่ใหญ่มีรถให้เอ็งขับ แต่ส่วนแบ่งน้อยหน่อย...จนกว่าเอ็งจะมีรถเอง" กวงปลอบ

ฤทธิชัยยิ้มหน้าบาน ที่แผนการของเขาสำเร็จไปอีกขั้นหนึ่ง...

ขณะดาวกำลังวิ่งเล่นกับสายฟ้าอยู่ในราวป่า มีเสียงร้องของเหยี่ยวดังมาจากบนฟ้า หญิงสาวแหงนหน้าขึ้นมอง เห็นสายลมบินวนอยู่เหนือหัว สักพักไผ่กับจักจั่นตามมาสมทบ

"ไม่น่าเชื่อ....พี่นึกถึงสายลมให้ออกตามหาดาว พอตั้งจิตพี่เห็นดาวจากมุมสูง จากตาของสายลมเหมือนเห็นด้วยตาของพี่เอง" ไผ่เล่าอย่างภูมิใจ

"สุดยอด ทีนี้เราจะหาพวกมันได้ง่ายขึ้น...ในไม่ช้าจะไม่มีคนเลวเพ่นพ่านอยู่ในป่าอีกต่อไป"

ดาวว่าแล้วมองสองพี่น้องสีหน้ามุ่งมั่น พลันมีเสียงคำรามของเสือและเสียงร้องของเหยี่ยวดังขึ้นพร้อมกัน ดาวท้าจักจั่นกับไผ่วิ่งแข่งกันกลับที่พัก ใครถึงก่อนชนะ ทั้งสามคนผลัดกันนำผลัดกันตามจนมาถึงเชิงเขา เห็นสายฟ้าคำรามเรียกแล้วหายเข้าไปในหุบเขา เด็กๆดีดตัวตาม แต่หาสายฟ้าไม่เจอ จักจั่นเลยชวนกลับ จู่ๆก็มีจุดสีเหลืองปรากฏขึ้นนับไม่ถ้วน จุดพวกนั้นค่อยๆรวมตัวกันเป็นร่างของพระธุดงค์รูปหนึ่ง

ทั้งสามคนมองหน้ากันอย่างแปลกใจ ก่อนจะเข้าไปนั่งตรงหน้าท่านแล้วก้มลงกราบ ดาวถามด้วยความเป็นห่วงว่าหลงทางหรือ พระธุดงค์กลับบอกว่าทั้งสามคนต่างหากที่หลงทาง ดาวงง เรียนท่านว่าป่าแห่งนี้เป็นบ้านของพวกเรา แล้วพวกเราจะหลงทางได้อย่างไร แต่ถ้าท่านหลงทางมาพวกเธอยินดีจะพาออกไป

"โยมทั้งสามแท้จริงก็มีจิตใจดี อาตมาไม่อยากเห็นโยมทั้งสามต้องทำบาปทำลายล้างชีวิตคน"

"พวกเราไม่เคยคิดอยากจะทำลายชีวิตใคร นอกจากจะทำลายเพื่อรักษาปกป้องชีวิตอีกหลายๆชีวิต...หนูรู้ว่าไม่ถูกแต่ก็ ยินดีที่จะรับกรรมนั้นค่ะ" ดาวชี้แจง

"กรรมใดใครก่อไว้ก็ต้องชดใช้ พวกโยมมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างความดี สวรรค์ต้องมีตา...ขอให้โชคดี"

เด็กทั้งสามคนรับพรแล้วก้มลงกราบ แต่พอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีพระรูปนั้นหายไปแล้ว เหลือเพียงจุดสีเหลืองๆ กระจายทั่วบริเวณ ทั้งหุบเขาสว่างไสว พวกเด็กๆไม่รอช้า รีบกลับไปเล่าเหตุการณ์นี้ให้ลุงเดช แสง และสมพรฟัง แสงสรุปว่าพระรูปนั้นต้องเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองป่าแน่ๆ เพราะไม่เคยมีพระรูปไหนเข้ามาถึงที่นี่ ลุงเดชรีบตัดบท ไล่พวกเด็กๆไปพักผ่อน พอดาว จักจั่นกับไผ่คล้อยหลัง ลุงเดชหันมาทางแสง

"ข้าไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้เท่าไหร่ แต่หวังว่าจะเป็นอย่างที่เอ็งคิด ข้าไม่อยากให้เด็กสามคนนี่ต้องเป็นอะไร"

"ฉันรู้...แต่ไม่ว่าจะอย่างไร อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด สุดแท้ แต่สวรรค์"

ลุงเดชทอดสายตาไปยังเบื้องหน้า สีหน้าเป็นกังวลใจ...

ค่ำนั้น ดาวออกมานั่งบนระเบียงหน้าบ้านพัก มองดวงดาวบนฟ้าแล้วถอนใจเฮือก จักจั่นเข้ามาถามว่าไม่สบายใจเรื่องอะไร ดาวแค่อยากรู้ว่าพ่อแม่ตัวเองหน้าตาเป็นอย่างไร เคยถามลุงเดชแล้ว แต่เขาบอกเพียงว่าเจอเธอหลงอยู่ในป่าก็เลยเอามาอยู่ด้วย จักจั่นแนะให้ลองไปถามแม่สมพรดู ดาวไม่กล้าถาม

จักจั่นเลยอาสาจะไปถามให้ ดาวรีบปฏิเสธว่าไม่ต้อง มีเสียงสายฟ้าคำรามแว่วเข้ามา จักจั่นชวนดาวไปหาสายฟ้า ดาวพยักหน้ารับคำ สองสาวเดินมาตามทางเกือบจะพ้นค่ายอยู่แล้ว จู่ๆดาวหยุดเดินเงี่ยหูฟังอะไรบางอย่าง ก่อนจะชี้มือไปยังทิศทางที่มาของเสียง ทั้งสองคนค่อยๆเดินลัดเลาะตามเสียงนั้นไป

เจอลุงเดชกำลังเดินเข้าไปในป่าหลังค่ายโจร สองสาวเดินตามสักพัก เห็นลุงเดชหยุดยืนตรงหน้าหลุมศพ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่ง แล้วยกมือไหว้ ดาวแปลกใจว่าทำไมมีหลุมศพ

ตรงนี้ ที่ฝังศพของค่ายนี้อยู่อีกด้านหนึ่งต่างหาก จักจั่นตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะเป็นหลุมศพคนพิเศษของลุงเดช อาจเป็นแฟนของเขาก็ได้

ดาวเห็นเป็นการเสียมารยาทที่มาแอบดูผู้มีพระคุณจึงชวนจักจั่นกลับ แล้วกำชับว่าห้ามพูดเรื่องนี้เด็ดขาด ดาวเลยไม่ได้ยินสิ่งที่ลุงเดชพูดกับหลุมฝังศพอิทธิพ่อของเธอ

"หนูษาของท่านโตเป็นสาวแล้ว แกรักป่าเหมือนกับท่านดูแลรักษาป่า แต่ผมไม่ทราบว่าเมื่อไหร่ หนูษาควรกลับไปหาแม่ของแกครับ...ผมหวังว่าเมื่อถึงเวลานั้น ท่านคงดลใจให้ผมตัดสินใจได้ถูกต้องนะครับ เพราะผมคิดไม่ออกจริงๆ" ลมพัดมาเบาๆ ขณะลุงเดชยกมือไหว้ด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย...

จักจั่นกับดาวตามหาสายฟ้ามาถึงลานกว้างกลางป่า มีเสียงร้องของสายลมดังขึ้น ไผ่ม้วนตัวออกจากเงามืดมายืนตรงหน้า จักจั่นนึกอะไรขึ้นมาได้ แนะให้ดาวลองตั้งสมาธินึกถึงพ่อแม่ของเธอ เผื่อสายลมจะช่วยให้เห็นพวกท่าน ดาวไม่เชื่อว่าสายลมจะช่วยให้เห็นภาพในอดีตได้ จักจั่นคะยั้นคะยอให้ลองดูก่อน

ดาวทรุดตัวลงนั่งหลับตาทำสมาธิ แทนที่เธอจะเห็นภาพของพ่อกับแม่ กลับไปปลุกวิญญาณพวกลักลอบตัดไม้ที่ตายโหงขึ้นมา ดาว จักจั่นกับไผ่ระดมยิงใส่พวกมันไม่ยั้ง แต่กระสุนทำอะไรไม่ได้ จังหวะนั้น มีเสียงคำรามของสายฟ้าดังฝ่าความเงียบ ดาวรู้ทันทีว่าต้องทำอะไร ก้าวเข้าหาพวกมันพร้อมกับผลักแขนทั้งสองข้างไปข้างหน้า ปรากฏเป็นลำแสงพุ่งเผาผลาญวิญญาณพวกนั้น

ooooooo

ขณะเดียวกัน ที่บ้านคุณหญิงพรพรรณที่กรุงเทพฯ คุณหญิงรัตนาหยิบรูปถ่ายของหนูพฤกษา อิทธิและตัวเธอขึ้นมาดูด้วยสีหน้าเศร้าๆระหว่างนั่งรอคุณหญิงพรพรรณแม่ของเธอ คุณหญิงพรพรรณเข้ามาเห็นพอดี ขอร้องให้ลูกสาวยอมรับความจริงเสียทีว่าหนูพฤกษาตายไปแล้ว จะได้ไม่ต้องจมอยู่ในความทุกข์แบบนี้

"ลูกมีความสุขสบายดีค่ะคุณแม่ ยิ่งคิดว่าลูกษายังมีชีวิต ลูกยิ่งมีความสุข"

"ดีจ้ะ แม่ว่าเราไปกันดีกว่า เดี๋ยวจะสาย" คุณหญิงพรพรรณรีบตัดบท

คุณหญิงรัตนาเดินตามแม่ไปขึ้นรถ ไม่นานนัก สองแม่ลูกมาถึงโรงแรมหรูซึ่งเป“นสถานที่จัดงานการกุศลของกลุ่มอนุรักษ์ป่าและธรรมชาติ เพื่อป้องกันภาวะโลกร้อน เจ้าหน้าที่กลุ่มอนุรักษ์ฯพาคุณหญิงทั้งสองท่านมานั่งร่วมโต๊ะกับท่านรองฯก้องเกียรติซึ่งเป“นเพื่อนรักของอิทธิ ไฮไลต์ของงานนี้อยู่ที่การมอบโล่เป“นเกียรติให้กับอิทธิสามีของคุณหญิงรัตนาเพื่อระลึกถึงคุณงามความดีที่เขาสละชีวิตเพื่อปกป้องรักษาป่าไม้

ขณะคุณหญิงรัตนากำลังจะรับโล่เกียรติยศแทนสามี สินชัยเสนอหน้าเข้ามาในงานและอวดศักดาด้วยการบริจาคเงินให้กลุ่มอนุรักษ์ฯ ถึงสองล้านบาท สร้างความกระอักกระอ่วนใจและไม่พอใจให้คุณหญิงรัตนาอย่างมาก เธอรู้ดีว่าสินชัยเกี่ยวข้องกับการตายของสามีเธอและยังอยู่เบื้องหลังขบวนการตัดไม้ทำลายป่า...

หน้าผับหรูกลางกรุง อภิชาติบ่นอุบที่อยู่ๆฤทธิชัยก็มาขัดขวางความสุขด้วยการฉกตัวเขาไปจากพวกสาวๆ ฤทธิชัยจะเลี้ยงอาหารหรูๆให้หนึ่งมื้อและแถมนวดหน้าทำสปาให้อีกหนึ่งคอร์สเป“นการชดใช้ อภิชาติตอบรับข้อเสนอ แล้วถามว่ามีเรื่องอะไรจะให้ช่วย ฤทธิชัยเล่าว่าพวกคนร้ายหลงเชื่อยอมให้เขาขับรถรับของให้แต่เขาคิดว่าพวกนั้นต้องค้นตัวเขาชัวร์ เรื่องติดวิทยุดักฟังกับโทรศัพท์มือถือตัดทิ้งไปได้เลย

"ไม่เห็นยาก นายก็ให้ลูกน้องนายขับรถตามไปก็สิ้นเรื่อง"

"นายพูดถูก แต่นายก็รู้หูตาของนายสินชัยมันกว้าง ฉันไม่อยากเสี่ยง...ดังนั้น นายคือคนที่จะคอยขับรถตามฉันไป...น่านะเพื่อน...นายก็เป“นคนดีขจัดคนชั่วอยู่แล้วนี่"

"ฉันขจัดคนชั่วในห้องพิจารณาคดีเว้ย ไม่ต้องบุกป่าฝ่าดงเหมือนนาย" อภิชาติทำหน้าเบื่อ

ฤทธิชัยเห็นเพื่อนอิดออด เสนอว่าถ้ายอมช่วยงาน เขาจะเพิ่มไวน์ชั้นดีรสเลิศให้อีกหนึ่งลัง อภิชาติขอเพิ่มเป“นสองลัง ฤทธิชัยตกลงทันที ทั้งคู่จับมือกัน จากนั้น อภิชาติขอตัวกลับไปสนุกกับพวกสาวๆต่อ...

ท่านรองฯก้องเกียรติไม่พอใจสินชัยโผล่ไปที่งานคืนนี้เช่นกัน พอกลับถึงบ้านเขารีบโทร.หาคุณหญิงรัตนา สัญญาว่าจะทำอย่างสุดความสามารถเพื่อเอาตัวสินชัยมาลงโทษให้ได้ ตอนนี้ เขาส่งนายตำรวจฝีมือดีตามประกบสินชัยอย่างใกล้ชิด คุณหญิงถามว่าแน่ใจหรือว่าตำรวจนายนี้ไว้ใจได้

"แน่ใจครับ เพราะคนคนนี้เป“นลูกชายไอ้ศักดิ์เพื่อนผม เพื่อนอิทธิ คุณรัตน่าจะจำนายหนึ่งได้ พอดีไอ้ศักดิ์มันติดธุระอยู่ที่อังกฤษ ไม่อย่างนั้นคืนนี้มันไปงานด้วยแล้ว"

คุณหญิงรัตนาจำได้แล้วว่าเคยเจอนายหนึ่งตอนวันคล้ายวันเกิดครบหนึ่งขวบของหนูพฤกษา เธอหวังว่าคงมีโอกาสได้พบนายหนึ่งสักครั้ง ท่านรองฯก้องเกียรติรับปากว่าจะพาฤทธิชัยหรือนายหนึ่งมาพบ

ooooooo

ถึงวันนัด ฤทธิชัยติดหนวดปลอมสวมแว่นสายตามารอที่ปั๊มน้ำมัน สักพัก รถตู้ของใหญ่แล่นเข้ามาจอด ทันทีที่ฤทธิชัยขึ้นรถ ใหญ่ยึดมือถือกับป—นเถื่อนของเขาไว้ นอกจากใหญ่กับกวงแล้ว ยังมีคนร้ายอีกนับสิบนั่งอยู่ในรถตู้ ฤทธิชัยทำตัวสบายๆ เอนตัวพิงเบาะแล้วแกล้งนอนหลับ ขณะที่ใหญ่มองเขาอย่างจับพิรุธ

รถของอภิชาติค่อยๆ เคลื่อนตามรถตู้ของใหญ่ โดยทิ้งระยะห่างพอสมควร ผ่านไปพักใหญ่ รถตู้ยังไม่มีทีท่าว่าจะถึงจุดหมาย ระหว่างนั้น ท่านรองฯก้องเกียรติติดต่อฤทธิชัย

ไม่ได้ เลยโทร.เข้ามือถืออภิชาติแทน

"ผมเกรงว่าเราจะมีปัญหา ไอ้แสงคนที่แนะนำผู้กองฤทธิชัยให้กับพวกมันถูกประกันตัวออกไปแล้ว...ไม่ช้าก็เร็ว มันต้องรู้ว่าผู้กองฤทธิชัยปลอมตัวเข้าไป"

"ท่านรองฯมีแผนอะไรรองรับหรือครับ"

"การปฏิบัติการครั้งนี้เป“นความลับเพื่อหลบเลี่ยงสายของนายสินชัย ถ้าผมสั่งการอะไรออกไป ยิ่งจะทำให้ผู้กองเป“นอันตราย...เห็นทีจะต้องฝากคุณแล้วล่ะ...ผมเชื่อมือคุณ คุณอภิชาติ"

อภิชาติบ่นอุบว่างานเข้าจนได้ สงสัยไวน์สองลังถ้าจะไม่คุ้มเสี่ยงเสียแล้ว...

ในเวลาไล่เลี่ยกันที่ค่ายโจร ลุงเดชตัดสินใจได้แล้วว่า ถึงเวลาที่เขาจะพาดาวกลับไปที่บ้านดอนเสือเพื่อสานต่อสิ่งที่อิทธิทำไว้ แสงทักท้วงว่าคิดดีแล้วหรือ ลุงเดชไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดี แต่เขาตั้งใจจะพาจักจั่นกับไผ่ไปด้วย แสงเห็นชอบด้วย เพราะเขาเองก็ไม่อยากให้ลูกทั้งสองคนอยู่ในป่า ฝากลุงเดชช่วยดูแลลูกๆของเขาด้วย

"เอ็งไม่ต้องห่วงไอ้แสง เด็กสามคนนี่เกิดมามีชะตาเกี่ยวข้องเกื้อกูลกันอยู่แล้ว" ลุงเดชว่าแล้วแหงนหน้ามองฟ้า มั่นใจว่าตนเองตัดสินใจไม่ผิด

ooooooo

ในเวลาต่อมา รถตู้ของใหญ่เลี้ยวออกจากถนนลาดยางเข้าไปในเขตป่าไม้ อภิชาติขับรถตามมาเห็นท้ายรถตู้ไวๆ นึกแปลกใจว่าพวกนั้นเข้าไปทำอะไรในป่า ขณะที่ฤทธิชัยคอยจับตามองรอบๆอย่างระแวดระวังอยู่นั้น มีเสียงมือถือของใหญ่ดังขึ้น เขาพยายามเงี่ยหูฟังว่าใหญ่พูดอะไรกับใคร

"เอ็งนี่ใช้ไม่ได้ นี่ถ้าช้าอีกนิดพวกข้าเข้าไปลึกๆไม่มีสัญญาณละก็จบ...เออ ข้าจัดการเอง" ใหญ่วางสาย

รถตู้แล่นต่ออีกครู่หนึ่งก็จอด ใหญ่สะกิดฤทธิชัยให้ลงจากรถ แล้วตัวเองเดินไปหาสมุนซึ่งยืนกระจายกำลังกันอยู่รอบๆบริเวณ ซุบซิบบางอย่างกัน ก่อนที่หนึ่งในพวกนั้นจะเดินย้อนกลับไปทางที่รถแล่นเข้ามา สมุนอีกคนหนึ่งเดินไปยังทิศทางตรงข้าม ฤทธิชัยลอบมองอยู่ เดาออกว่าใหญ่ส่งคนไปดูต้นทางกับไปเฝ้าทางเข้าไว้ เขาหวังว่าอภิชาติจะหลบพวกนั้นเข้ามาได้...

ฝ่ายอภิชาติขับรถตามรถตู้เข้าป่าได้สักพัก เบนรถจอดหลังพุ่มไม้หนาทึบ พึมพำกับตัวเองว่า

"ไอ้พวกนี้ถ้ามันไม่โง่ มันต้องส่งคนออกมาดูต้นทางแน่ ขืนเข้าไปก็เสร็จมัน...เฮ่อ...ต้องเดินอีกแล้ว...ไอ้ชัยนะไอ้ชัย ชอบหาเรื่องให้เหนื่อยอยู่เรื่อย" อภิชาติบ่นจบ ออกจากรถไปเป”ดกระโปรงหลังรถหยิบป—นมาเหน็บเอว ลากกิ่งไม้มาบังๆรถไว้ แล้วเดินตามรอยยางรถตู้...

อีกด้านหนึ่งของป่า ดาวเห็นไผ่ฝ–กทำสมาธิเรียกสายลมมาเกาะแขนได้อย่างง่ายดาย อยากลองทำบ้างขอให้ไผ่สอนให้ เขาคุยโม้ว่าฝ–กยากมาก ต้องตั้งสมาธิสารพัดดาวอาจจะทำไม่สำเร็จก็ได้ ดาวไม่ว่าอะไร หยิบท่อนไม้ชูขึ้น หลับตาทำสมาธิ พลันสายลมหายวับจากแขนไผ่ มาปรากฏตัวเกาะไม้ในมือดาว ไผ่เสียฟอร์มเพราะโม้ไว้เยอะ จักจั่นเห็นดาวทำได้ขอลองบ้างแต่ไม่สำเร็จ ลุงเดชโผล่เข้ามาบอกทุกคนว่า

"สายมารายงานว่าเจอพวกมัน...เราไปทักทายพวกมันกันดีกว่า"

เด็กทั้งสามคนมองหน้ากันยิ้มๆ เดินตามลุงเดชบ่ายหน้าไปยังทิศทางที่ฤทธิชัยอยู่...

ระหว่างที่ฤทธิชัยกำลังยืนสังเกตการณ์รอบๆจุดนัดพบ ใหญ่เอาขวดน้ำมายื่นให้ บอกให้เขาดื่มดับความตื่นเต้น งานเสร็จแล้วค่อยไปดื่มเหล้ากัน ฤทธิชัยรับน้ำมาดื่มหนึ่งอึก เป“นจังหวะเดียวกับสมุนที่ไปดูต้นทางวิ่งกลับมา ใหญ่รู้ทันทีว่าของมาแล้ว สั่งให้ฤทธิชัยรอที่รถ แล้วเดินไปรวมกลุ่มกับสมุน

อึดใจ รถกระบะขนของกับรถตู้อีกคันหนึ่งวิ่งเข้ามาจอด พวกในรถตู้กรูกันออกมายืนเฝ้าระวังรอบรถกระบะ กวงโดดขึ้นท้ายรถกระบะเป”ดผ้าคลุมออก เห็นลังใส่ของวางเรียงเต็มไปหมด พอเป”ดลังออกดู พบห่อยาเสพติดอัดแน่น ฤทธิชัยตาวาวด้วยความสนใจ ใหญ่ตรวจคุณภาพยาจนพอใจ แล้วส่งเงินให้พวกขนยา

พวกนั้นนับเงินแล้วพากันขึ้นรถตู้ของตัวเองกลับไป ดาวกับจักจั่นและไผ่ในชุดทีมนางเสือซุ่มดูเหตุการณ์โดยตลอด พอรถตู้คันนั้นแล่นผ่าน ดาวสั่งให้ไผ่ตาม ส่วนลุงเดชกับสมาชิกโจรอีกห้าคน อำพรางใบหน้าด้วยการใช้ถ่านทาจนทั่ว กระจายกำลังกันอยู่โดยรอบ รอให้ดาวกับจักจั่นลงมือก่อน พวกเขาถึงจะเข้าโจมตี

ใหญ่นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนสั่งให้ฤทธิชัยมาขับรถกระบะ พอผู้กองหนุ่มขึ้นนั่งประจำที่คนขับเรียบร้อย ใหญ่โบกมือเรียกให้พวกสมุนเข้ามาที่รถกระบะ แล้วชักป—นจ่อหัวผู้กองหนุ่ม สั่งให้ลงจากรถ ดาวกับจักจั่นมองภาพนั้นด้วยความสงสัย

เช่นเดียวกับลุงเดช ฤทธิชัยชักเอะใจถามใหญ่ว่ามีเรื่องอะไร

"เอ็งไม่ต้องลวดลาย ไอ้แสงมันโทร.มาบอกข้าแล้วว่าเอ็งไม่ใช่เพื่อนไอ้โสพี่ชายมัน เอ็งเป“นตำรวจ"

ฤทธิชัยกวาดสายตาไปรอบๆหาทางหนี ดาวแปลกใจที่ตัวเองได้ยินเสียงพวกนั้นคุยกันชัดเจนราวกับยืนอยู่ตรงนั้นด้วย หันบอกจักจั่นว่าเธอได้ยินคนร้ายพูดว่าคนที่ถูกป—นจี้หัว เป“นตำรวจ

"หา...พูดเป“นเล่น พี่ได้ยินได้อย่างไร ไกลขนาดนี้"

ดาวไม่ตอบ แต่ยกมือขึ้นเป“นเชิงให้จักจั่นเงียบ แล้วจ้องไปทางตำรวจนายนั้นเขม็ง เห็นเขาค่อยๆลงจากรถ ฤทธิชัยชักตาลาย พยายามสะบัดหัวไล่ความมึนงง ใหญ่ยิ้มสะใจ

"ข้าใส่ยาไว้ในขวดน้ำของเอ็ง เอ็งจะได้ศึกษาว่า

คุณภาพดีแค่ไหน"

ฤทธิชัยเห็นใหญ่ไม่ทันระวังตัว กระแทกประตูรถใส่จนเซเสียหลัก ป—นหลุดจากมือ ผู้กองหนุ่มชกกวงที่ปราดเข้าหาจนหน้าหงาย แล้วหันไปชกสมุนอีกคนกระเด็น ฤทธิชัยเริ่มตาพร่ายืนโงนเงน เลยโดนใหญ่ฟาดท้ายทอยด้วยด้ามป—น ถึงกับหน้าคว่ำ แว่นสายตาที่ใส่อยู่กระเด็น ใหญ่หันไปสั่งพวกสมุน

"เอ็งขับรถไป เอ็งสองคนลากมันเข้าไปในพงไม้แล้วหมกซะ"

พวกสมุนรีบทำตามคำสั่ง ดาวเห็นตำรวจหนุ่มถูกลากเข้าป่า รีบบอกให้จักจั่นตามรถขนยา เธอจะไปช่วยตำรวจเอง ลุงเดชเห็นจักจั่นพุ่งตามรถกระบะ สั่งให้สมาชิกโจรตามเธอไป ตัวเขาจะไปช่วยดาว...

ขณะสมุนสองคนของใหญ่กำลังจะยิงฤทธิชัย สายฟ้า ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับส่งเสียงคำรามดึงความสนใจจากพวกสมุน ดาวพุ่งออกมาจากอีกด้านหนึ่งเตะป—นพวกนั้นกระเด็น แล้วเข้าต่อสู้กับพวกสมุนทั้งสองอุตลุด ฤทธิชัยเริ่มรู้สึกตัว แต่ยังเบลอๆเลยเห็นแต่เงาคนกำลังต่อสู้กัน ดาวจัดการสมุนคนหนึ่งสลบเหมือด

จังหวะหนึ่ง ดาวเพลี่ยงพล้ำกำลังจะถูกสมุนอีกคนยิง ฤทธิชัยรวบรวมกำลังเท่าที่มีพุ่งชนเขาเสียหลักกระสุนเฉียดดาวไปนิดเดียว สมุนตั้งหลักได้อัดฤทธิชัยหน้าหงาย แล้วคว้าป—นที่ตกอยู่เล็งไปยังดาว แต่เธอไวกว่าใช้ท่าจระเข้ฟาดหางเข้าปลายคางพอดี เขาถึงกับทรุดฮวบแน่นิ่ง ทันใดนั้น ใหญ่โผล่มาด้านหลังนางเสือ

"หยุด...ขยับนิดเดียวเอ็งร่างพรุนแน่ ทีนี้แหละจะได้รู้ว่าเป“นคนหรือเสือสมิง"

ก่อนที่ดาวจะเสียทีให้ใหญ่ ลุงเดชโผล่เข้ามาช่วยไว้ทัน สั่งให้ใหญ่กับสมุนทิ้งป—น ใครขัดขืนลุงเดชยิงไม่เลี้ยง พวกใหญ่ถูกลุงเดชต้อนไปที่รถตู้ ดาวปราดเข้าไปหาฤทธิชัยที่นอนแผ่หลาอยู่บนพื้น เอามือแตะชีพจรดู ฤทธิชัยคว้าข้อมือเธอไว้ พูดเสียงเหมือนคนเมายาว่าอย่าหนี แล้วพยายามสะบัดหัวไล่ความมึน

ดาวเห็นหนวดปลอมของเขาหลุดออกมาข้างหนึ่งห้อยร่องแร่งอยู่เหนือริมฝ•ปากแล้วอดขำไม่ได้ ฤทธิชัยเห็นรอยยิ้มแสนสวยของหญิงสาว ก็ยิ้มตอบ ระหว่างนั้น มีเสียงดังขึ้นจากทางด้านหลัง

"หยุดอย่าขยับ...นี่ทนาย...เอ๊ย...ตำรวจ"

ฤทธิชัยยังมีแรงต่อว่าเพื่อนรักว่าทำไมถึงมาช้านัก ดาวเดาว่าชายที่อยู่ด้านหลังคงเป“นตำรวจเช่นกัน จึงตวัดมือปัดเศษใบไม้ใส่หน้า อภิชาติเอามือปัดอุตลุด พอเศษใบไม้หมดร่างของนางเสือก็หายไปแล้ว อภิชาติปรี่เข้าไปถามเพื่อนว่า

เป“นอย่างไรบ้าง เห็นนางเสือหรือเปล่า ฤทธิ์ยายังไม่สร่างฤทธิชัยพูดเสียงอ้อแอ้ว่า

"เห็น ฉันกำลังจะได้ตัวอยู่แล้ว นายดันโผล่มาขัดจังหวะ"

อภิชาติชักเคือง ถ้าพูดแบบนี้หาทางกลับบ้านเองก็แล้วกัน แล้วกระชากหนวดที่ห้อยอยู่ออก ขยับจะเดินหนี ฤทธิชัยรีบบอกว่าล้อเล่น อภิชาติช่วยพยุงป•กเขาขึ้นมา มุ่งหน้าไปที่รถ อึดใจ ดาวโผล่ออกมาจากพุ่มไม้มองตามแล้วอดขำไม่ได้...ด้านไผ่และจักจั่นต่างตามไปจัดการพวกเหล่าร้ายได้อย่างราบคาบเช่นกัน...

ไม่นานนัก อภิชาติพยุงฤทธิชัยมาถึงรถของเขา ได้ยินเสียงป—นดังอย่างต่อเนื่อง เดาออกว่านางเสือคงส่งพวกคนชั่วลงนรกไปหมดแล้ว แล้วถามเพื่อนว่าเห็นหน้านางเสือชัดไหม เพราะเขาเห็นเธอแค่ด้านหลัง

"ชัด...เห็นแต่ตา...ตาสวย...ปากก็สวย"

อภิชาติหาว่าเพื่อนเมายาจนเพ้อ แล้วดันเขาเข้ารถ ดาวลอบตามมา ได้ยินที่ตำรวจหนุ่มพูด เอามือแตะปากตัวเอง ยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว...

ในเวลาต่อมา ทีมนางเสือกลับมารวมตัวกันที่ค่ายโจร ลุงเดชสงสัยว่าดาวรู้ได้อย่างไรว่าชายคนนั้นเป“นตำรวจ จักจั่นตอบคำถามแทนว่าพี่ดาวได้ยินพวกนั้นคุยกัน เธอยังสงสัยอยู่เลยว่า อยู่ตั้งไกลทำไมได้ยิน ดาวแปลกใจไม่น้อยไปกว่าจักจั่น เธอเพียงนึกอยากรู้ว่าพวกนั้นพูดอะไรกัน ก็ได้ยินเสียงพวกนั้นชัดเจน

"ถือว่าเป“นสิ่งที่ดีเอาไว้ก่อนก็แล้วกัน วันนี้ทุกคนทำได้ ดีมาก...แม้จะมีเรื่องตำรวจเข้ามาทำให้ยุ่งไปเล็กน้อย พวกเราต้องระวังตัวให้ดี ช่วยตำรวจได้แต่อย่าพลาดให้ถูกจับ ถึงอย่างไรพวกเราก็ถือว่าทำผิดกฎหมาย"

"แต่เราช่วยตำรวจแท้ๆไม่น่าจับเรา...เฮ่อ โลกนี้หามีความยุติธรรมไม่" จักจั่นถอนใจ แล้วมองพี่ดาวที่ดูเงียบๆไป ถามด้วยความเป“นห่วงว่าเป“นอะไรหรือเปล่า

"เอ่อ...ก็แค่สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ทำไมถึงได้ยินพวกมันก็เท่านั้น"

"ช่างเถอะน่าพี่ดาว จักจั่นว่าเป“นเรื่องดี อาจจะเป“นเพราะพรที่พระรูปนั้นให้ไว้ก็ได้ จักจั่นเองก็เพิ่งรู้สึกว่าทำอะไรที่คาดไม่ถึงได้หลายอย่าง"

ดาวนึกถึงหน้าตำรวจนายนั้นแล้วอดยิ้มไม่ได้ เธอมัวแต่ใจลอยเลยไม่ทันเห็นว่าลุงเดชจ้องมองอยู่...

ที่ห้องพักในคอนโดฯหรูของฤทธิชัย อภิชาติเห็นเพื่อนฟ้นแล้ว เตือนว่าอย่าลืมโทร.ไปหาท่านรองฯก้องเกียรติด้วย แล้วถามว่าจำเรื่องนางเสือได้บ้างหรือเปล่า ฤทธิชัยจำได้ว่าเธอเป“นคนไม่ใช่เสือสมิง มาช่วยเขาจากคนร้าย ไม่ได้มาเล่นงานเขา แต่ถึงอย่างไรเขาก็ต้องจับเธออยู่ดี บ้านเมืองมีขื่อมีแป จะมาตั้งศาลเตี้ยไม่ได้ แต่เรื่องจับนางเสือไม่ใช่เรื่องด่วน จัดการสินชัยเสร็จก่อนแล้วค่อยตามไปจับก็ยังได้

"ฮั่นแน่...อย่าใจอ่อนแล้วกันเพื่อน...จำไม่ได้หรือ...ตาสวย ปากก็สวย" อภิชาติกระเซ้า

ฤทธิชัยนึกถึงใบหน้าใต้หน้ากากเสือ ด้วยสีหน้าครุ่นคิด

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น