วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

ป่านางเสือ ตอนที่ 5

ตอนที่ 5

ค่ำวันเดียวกัน อภิชาติมาเที่ยวผับหรูย่านซอยทองหล่อกับสาวสวยสองคน ขณะกำลังนั่งสนทนาภาษาดอกไม้กันอยู่ อภิชาติเหลือบเห็นสินชัยกับพวกนั่งอยู่โต๊ะในสุดของร้าน หนึ่งในสมุนข้างกายสินชัยมีนายไชยรวมอยู่ด้วย สักพัก นายทอมชาวต่างชาติกับเพื่อนอีกสองคนตามมาสมทบ สินชัยลุกขึ้นจับมือกับนายทอมเพียงคนเดียว อภิชาติมองออกว่าพวกที่เหลือต้องไม่ใช่คนสำคัญ

ด้วยความอยากรู้ว่าสินชัยคุยอะไรกับนายทอม อภิชาติ วางแผนให้น้องจุ๋มสาวเสิร์ฟแสนสวยผู้คุ้นเคยแกล้งทำเครื่องดื่มหกใส่นายทอม พอเขาเข้าห้องน้ำเพื่อล้างตัว อภิชาติแกล้งเมาเดินชน แล้วลอบเอาวิทยุดักฟังตัวจิ๋วติดปกเสื้อนอกของนายทอมอย่างแนบเนียน บอดี้การ์ดของนายทอมรีบมากันอภิชาติออกไป

จากนั้น อภิชาติหามุมปลอดคน หยิบเครื่องรับวิทยุออกมา เป็นจังหวะที่นายทอมกลับมานั่งโต๊ะพอดี อภิชาติเอาเครื่องรับส่งขึ้นมาแนบหู ได้ยินเสียงสินชัยกับนายทอมชัดเจน...

ขณะเดียวกัน ภายในป่าใกล้ค่ายกักกันหญิงสาว ดาว จักจั่น และฤทธิชัยค่อยๆคืบคลานเข้าไปใกล้ๆ เห็นมียามเฝ้าระวังแน่นหนา จังหวะนั้นมีหญิงสาวคนหนึ่งวิ่งออกมาจากกระท่อมหลังหนึ่ง พวกยืนยามยกปืนกราดยิงดักหน้าเธอไว้ เห็นดินฟุ้งกระจาย หญิงสาวหยุดกึกหันกลับมา สมุนวิ่งเข้าไปตบสั่งสอนที่บังอาจคิดหนีแล้วลากกลับกระท่อม ดาวสอดส่ายสายตาสำรวจไปทั่วบริเวณค่ายก่อนเอ่ยขึ้นว่า

"กระท่อมสามหลังนั่นคือเป้าหมายของเรา"

หลังจากดูทางหนีทีไล่เรียบร้อย ฤทธิชัยบอกให้ดาวกับจักจั่นรออยู่ที่นี่ เขาจะเข้าไปจัดการพวกยืนยามเอง พอฤทธิชัยเดินคล้อยหลัง ดาวกับจักจั่นแยกกันไปคนละทาง ฤทธิชัยค่อยๆย่องเข้าใกล้พวกยืนยาม แต่ดันพลาดเหยียบกิ่งไม้แห้งหักเปาะ พวกนั้นหันมองตามเสียงเห็นฤทธิชัยยืนอยู่ ฤทธิชัยจัดการอัดพวกนั้นได้หนึ่งคน อีกคนที่เหลือตวัดปืนจ่อเขาไว้ ดาวกับจักจั่นโผล่มาจากด้านหลังคนร้ายจัดการอยู่หมัด

สองสาวยึดปืนสั้นกับกระสุนของพวกยืนยามไว้ จักจั่นแยกไปทางที่จอดรถของพวกคนร้าย ดาวกับฤทธิชัยตรงไปยังกระท่อมสามหลัง จักจั่นยิงยามเฝ้าที่จอดรถตายคาที่ แล้วยิงยางรถคันอื่นๆที่ไม่ต้องการ กันไม่ให้ถูกตาม ก่อนจะขึ้นไปสตาร์ตรถลุยป่าแล้วขับออกมา เสียงปืนปลุกพวกคนร้ายให้กรูกันออกมา

ดาวกับฤทธิชัยช่วยพวกผู้หญิงนับสิบๆคนหนีออกมาจากกระท่อมได้สำเร็จ เป็นจังหวะเดียวกับจักจั่นเอารถมาจอดเทียบ แต่พอเห็นจำนวนผู้หญิงที่ช่วยออกมาจักจั่นรู้ทันทีว่ารถไม่พอนั่ง ฤทธิชัยบอกให้ดาวพาทุกคนเข้าไปหลบในป่า จักจั่นไม่รอช้าวิ่งนำทางพวกผู้หญิงหลบคมกระสุนเข้าป่า พวกคนร้ายยิงกระหน่ำไม่ยั้ง ดาวกับฤทธิชัยต้านไม่ไหวต้องถอยไปหลบหลังกระท่อม ฤทธิชัยบอกดาวหนีไปก่อน เขาจะยิงสกัดให้

"ถ้าฉันไปคุณเสร็จพวกมันแน่ คนเดียวสกัดพวกมันไม่อยู่หรอก คุณไม่มีทางพ้นพวกมันได้"

"แต่คุณพ้น"

ดาวเห็นสายตาที่ฤทธิชัยมองมาด้วยความเป็นห่วง ถึงกับซึ้งใจ ยืนยันว่าถ้าเขาไม่ไปเธอก็ไม่ไปเช่นกัน พวกคนร้ายรุกเข้ามาใกล้ทุกที ฤทธิชัยกับดาวกระสุนใกล้หมดได้เวลาต้องหนีกันแล้ว แต่ยังไม่ทันจะขยับ มีเสียงปืนรัวสนั่นมาจากพงป่าอีกด้านหนึ่งยิงใส่พวกคนร้ายล้มคว่ำ พวกนั้นเริ่มระส่ำหลบกระสุนกันวุ่นวาย

"สองคนนั้นจะคุยกันหรือจะออกมา" ลุงเดชตะโกนลั่นแข่งกับเสียงปืน

ดาวดีใจมากที่ลุงเดชตามมาช่วย ฤทธิชัยอดสงสัยไม่ได้ ว่าเขาตามมาถูกได้อย่างไร แต่เก็บความสงสัยไว้ก่อนแล้วรีบเผ่นออกจากที่นั่นทันที นายโยลูกพี่ของพวกคนร้ายตะโกนสั่งการให้รวบรวมกำลังจัดคนออกตามล่าพวกผู้หญิงกลับมาให้ได้

ไม่นานนัก ฤทธิชัยกับดาวตามมาทันกลุ่มของจักจั่น โดยมีลุงเดชรั้งท้าย จักจั่นเห็นลุงเดชถึงกับตกใจเกรงจะโดนเล่นงาน แต่ลุงเดชไม่ว่าอะไรบอกทุกคนหนีต่อ พวกคนร้ายตามมาใกล้แล้ว

ooooooo

อภิชาติเห็นพวกสินชัยตกลงธุรกิจกันเสร็จ เตรียมจะกลับ เขารีบหยิบมือถือขึ้นมาโทร.

"ฝูงหมาป่าออกไปแล้ว เป้าหมายของคุณคือชายสูงผิวสี ใส่เสื้อนอกสีดำ ผมต้องการรู้ทุกอย่าง" อภิชาติสั่งคนของเขาให้ตามนายไชย...

พวกดาว ฤทธิชัย และกลุ่มผู้หญิงต้องค้างแรมกันในป่า หลังจากหนีหัวซุกหัวซุนพวกผู้หญิงหลับด้วยความอ่อนเพลีย ลุงเดชก่อกองไฟเสร็จแล้ว ออกไปยืนเฝ้าระวังอยู่รอบนอก ดาวเดินไปหาลุงเดชกระซิบถามว่า รู้ได้อย่างไรว่าเธอกับจักจั่นอยู่ที่นี่ พอรู้ว่าลุงเดชเรียกสายลมได้เช่นกัน ถึงกับตาโตด้วยความตื่นเต้น

ดาวเกรงจะโดนลุงเดชตำหนิเรื่องวุ่นๆที่เกิดขึ้น จึงเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง โทษว่าที่เรื่องบานปลายขนาดนี้เพราะฤทธิชัยเข้ามาจุ้นจ้านทำให้เธอแสดงฝีมือเต็มที่ไม่ได้ จังหวะนั้น ฤทธิชัยเข้ามายืนข้างๆลุงเดช

"ดีใจที่ลุงเดชมาช่วยเราได้ทันเวลา"

"ผมชอบสำรวจป่าระวังพวกลักลอบตัดไม้ บังเอิญอยู่ ใกล้ได้ยินเสียงปืนก็เลยเดาสุ่มมา"

"เสียงปืนสนั่นป่าอย่างนี้ไม่ต้องเดาสุ่มก็มาถูก ลุงเดชไม่พลาดอยู่แล้ว"

ดาวช่วยพูดกลบเกลื่อนเพื่อกันไม่ให้ฤทธิชัยสงสัยว่าลุงเดชตามมาถูกได้อย่างไร ลุงเดชรีบตัดบท บอกสองหนุ่มสาวไปนอนได้แล้ว ตนจะอยู่ยามผลัดแรกเอง ฤทธิชัยจะรับช่วงยืนยามต่อจากเขาจนถึงเช้า...

ขณะฤทธิชัยกำลังนอนหลับ มีเสียงเสือคำรามแว่วเข้ามา เขาลืมตาขึ้นมองไปรอบๆเห็นดาวเดินหายเข้าไปในป่ารก ฤทธิชัยขยับตัวจะตาม แต่ลุงเดชกับจักจั่นเข้ามาขวาง ถามว่าจะไปไหน ฤทธิชัยเห็นดาวออกไปทางโน้น คิดว่าจะออกไปตาม จักจั่นรีบบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง พี่ดาวไปเก็บดอกไม้ เดี๋ยวก็กลับ

ฤทธิชัยยิ้มเขิน "อ๋อ...โอเค งั้นผมรับหน้าที่ต่อจากลุงเดชดีกว่า" แล้วรีบออกไปยืนเฝ้ายาม

จักจั่นกระซิบกับลุงเดช "พี่ดาวออกไปหาสายฟ้า"

ลุงเดชพยักหน้ารับรู้ "ระวังตัวหน่อย ผู้กองคนนี้ฝีมือฉลาดทันคน...เอาล่ะแยกย้ายกันไปอย่าให้มีพิรุธ"

จักจั่นกลับไปนอนที่เดิมของตน อดหันไปมองในราวป่าที่ดาวออกไปไม่ได้...

ดาวแวะทักทายสายฟ้าได้แค่อึดใจ รีบดีดตัวกลับมายังจุดค้างแรม เห็นฤทธิชัยยืนยามแทนลุงเดช เดินเข้ามาคุยด้วย ฤทธิชัยได้ยินเสียงเสือคำราม กำลังคิดเผื่อว่าถ้านางเสือผ่านมาแถวนี้น่าจะแวะมาช่วยพวกเรา

"แต่ดาวนึกว่านางเสือเป็นโจรผิดกฎหมายไม่ใช่หรือคะ ถ้ามาก็โดนผู้กองจับน่ะสิคะ"

"ครับ...อย่าบอกใครนะครับ ถ้านางเสือมาจริงละก็ ผมจะแกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้"

ทันใดนั้น มีเสียงเสือคำรามดังก้องป่า ดาวพูดทีเล่นทีจริงว่านางเสืออาจจะมาช่วยพวกเราก็ได้ ฤทธิชัยขอให้มาจริงเถอะ เพราะพวกคนร้ายมากันโน่นแล้ว ดาวหันไปมองตามทิศทางที่ชายหนุ่มชี้เห็นลำแสงจากไฟฉายมากมายจากระยะไกล ฤทธิชัยบอกให้ดาวไปปลุกทุกคนได้แล้ว

ครู่ต่อมา ดาว จักจั่นกับพวกผู้หญิงมายืนรวมกลุ่มพร้อมเดินทาง ลุงเดชสั่งให้ดาวกับจักจั่นพาพวกผู้หญิงล่วงหน้าไปก่อน เขากับผู้กองจะถ่วงเวลาพวกนั้นไว้เอง จักจั่นก้าวฉับๆนำกลุ่มผู้หญิงโดยมีดาวเดินปิดท้าย ลุงเดชกับฤทธิชัยแยกย้ายกันซ่อนตัว สายตาจ้องไปยังลำแสงไฟฉายที่ใกล้เข้ามา...

จักจั่นกับดาวพาพวกสาวๆหนีห่างจากจุดพักแรมมาไกลพอสมควร เจอพุ่มไม้หนาทึบเหมาะสำหรับซ่อนตัว สั่งสาวๆไปซ่อนหลังพุ่มไม้พวกนั้นก่อน ถ้าไม่เห็นจักจั่นหรือดาวไม่ต้องออกมา พวกสาวๆรีบแย่งกันเข้าไปในพุ่มไม้เสียงเจี๊ยวจ๊าว จักจั่นสั่งให้ทุกคนเงียบ สาวๆหุบปากทันที สองสาวรอทุกคนหลบไปหมดแล้ว จึงดีดตัวกลับไปทางเดิม ตรงไปยังจุดรวมพลของพวกคนร้าย

ooooooo

ทันทีที่ท้องฟ้าสว่าง นายโยหัวหน้าค่ายกักกันหญิงสาวตะโกนสั่งสมุนลุย พลันมีเสียงคำรามของเสือดังขึ้น พวกสมุนชะงักเหลียวมองหน้ากันเลิ่กลั่ก สมุนคนหนึ่งกลัวโดนนางเสือเล่นงาน วิ่งหนีเอาตัวรอด นายโยไม่พอใจชักปืนยิงทิ้ง "ใครคิดจะหนีดูไว้เป็นตัวอย่าง ...พวกเอ็งไปลากตัวผู้หญิงพวกนั้นมา ผู้ชายฆ่าให้หมด"

พวกสมุนหนีไม่ออกจำใจลุยป่าต่อ แต่สายตามองกราดไปมาเกรงจะถูกนางเสือโจมตี ดาวกับจักจั่นซุ่มดูพวกนั้นอยู่บนยอดไม้ หยิบตลับใส่ครีมสีดำขึ้นมาป้ายหน้าตัวเองจนทั่ว รอให้คนร้ายกลุ่มสุดท้ายเดินผ่าน เข้าจัดการฆ่าพวกนั้นทีละคนด้วยมือเปล่า แล้วยึดปืนมาใช้ แม้จะเก็บพวกนั้นได้หลายคน แต่คนร้ายส่วนใหญ่ยังดาหน้าเข้าใกล้แนวต้านของฤทธิชัยกับลุงเดช...

พอพวกคนร้ายบุกมาถึงแนวต้าน ฤทธิชัยกับลุงเดชสาดกระสุนใส่ไม่ยั้ง ทั้งสองฝ่ายเปิดฉากยิงต่อสู้กันดุเดือด พวกคนร้ายมีมากกว่ายิงกระหน่ำใส่จนลุงเดชกับฤทธิชัยต้องหลบหลังต้นไม้ ลุงเดชเห็นท่าไม่ดีชวนผู้กองล่าถอย ฤทธิชัยยิงสกัดพวกนั้นไว้ให้ลุงเดชหนีไปก่อน ลุงเดชวิ่งลัดเลาะไปตามเส้นทางที่พวกสาวๆหนี

จังหวะนั้น ฤทธิชัยเห็นเงาแวบออกมาจากแนวป่าด้านหลังพวกคนร้าย ก่อนจะสาดกระสุนใส่พวกนั้นจนแตกกระเจิง ฤทธิชัยรู้ทันทีว่านางเสือมาช่วย มองตามร่างนั้นไป เห็นไปโผล่ด้านหลังนายโยแล้วเอาปืนจ่อหัวเขาไว้ แต่สมุนของนายโยคนหนึ่งลอบมาด้านหลังเอาปืนจ่อนางเสือเช่นกัน ดาวในคราบนางเสือไวกว่าหันขวับยิงสมุนคว่ำ เห็นสายตาของผู้กองหนุ่มจ้องมาเธอถึงกับชะงัก พอเธอหันกลับไปอีกที นายโยหายไปแล้ว

ฤทธิชัยมัวแต่มองนางเสือไม่ทันเห็นคนร้ายกำลังเล็งปืนมาที่ตน ลุงเดชพุ่งชนร่างฤทธิชัยล้มลง เป็นจังหวะเดียวกับห่ากระสุนพุ่งใส่จุดที่เขายืนเมื่อกี้กระจุย ฤทธิชัยรอดตายอย่างหวุดหวิด

"คุณคิดจะฆ่าตัวตายหรือไง" ลุงเดชว่าแล้วพุ่งหายเข้า ไปในราวป่า

ผู้กองตั้งสติได้รีบวิ่งตามลุงเดชไปติดๆ คนร้ายยังคงดาหน้าเข้ามา ดาวกับจักจั่นยิงต่อสู้จนกระสุนใกล้หมด ทันใดนั้น มีเสียงร้องของเหยี่ยวดังขึ้น สองสาวรู้ทันทีว่าสายลมกับไผ่มาช่วย ร่างของไผ่ในชุดดำปรากฏตัวขึ้นพร้อมด้วยสมาชิกโจรอีกนับสิบๆคน สาดกระสุนใส่พวกคนร้ายไม่ยั้ง เสียงปืนยิงต่อสู้กันดังสนั่นลั่นป่า พวกคนร้ายสู้ไม่ได้ ถูกไผ่กับสมาชิกโจรตีแตกกระเจิงไปคนละทิศละทาง...

ฝ่ายลุงเดชวิ่งนำฤทธิชัยมาถึงพุ่มไม้ที่พวกสาวๆซ่อนตัวอยู่ ได้ยินเสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหว พร้อมกับเสียงคำรามของเสือ ลุงเดชรู้ว่ามีคนมาช่วยพวกเราแล้ว...

ดาวกับจักจั่นดีดตัวลงจากต้นไม้มาหาไผ่ ทักทายพูดคุยกันได้ไม่นาน ดาวนึกขึ้นได้ว่าต้องรีบกลับไปยังที่ซ่อนตัวของพวกสาวๆ ชวนจักจั่นดีดตัวออกไปทันที...

ฤทธิชัยไม่เห็นดาวกับจักจั่นอยู่กับพวกสาวๆ สงสัยว่าหายไปไหน จังหวะนั้น ดาวกับจักจั่นวิ่งพรวดเข้ามา อารามรีบร้อนลืมไปว่ายังไม่ได้ลบครีมสีดำที่ทาหน้า ลุงเดชทักว่าทำไมหน้าเลอะเทอะ สองสาวถึงรู้ตัวรีบบอกว่าพวกเธอไปแอบซุ่มดูคนร้ายก็เลยเอาโคลนป้ายหน้าพราง ตัวแบบที่เคยดูในภาพยนตร์ ลุงเดชรีบตัดบท

"ไปๆๆ...ไปกันได้แล้ว...รีบพาผู้หญิงพวกนี้กลับบ้านกันดีกว่า"

จักจั่นกับดาวรีบเดินนำพวกสาวๆบ่ายหน้าออกจากป่า

ฤทธิชัยมองตามงงๆ ขณะที่ลุงเดชอดขำหลานสาวทั้งสองคนไม่ได้

ooooooo

หลังจากส่งสาวๆพวกนั้นกลับบ้านอย่างปลอดภัย ลุงเดชก็ขับรถมาส่งฤทธิชัยที่รถของเขา แล้วเชิญไปกินข้าวเย็นที่บ้านป้าเนียนด้วยกัน ดาวกับจักจั่นมองหน้ากันอย่างคาดไม่ถึง ฤทธิชัยขอบคุณแล้วเดินไปที่รถ ทันทีที่เปิดประตู มีเสียงมือถือดังขึ้น เขาเอื้อมมือไปเปิดช่องเก็บของหน้ารถ มีมือถืออยู่ในนั้นสามเครื่อง

เขาหยิบเครื่องที่ดังออกมา อภิชาติโทร.มาถามว่าเมื่อไหร่จะกลับกรุงเทพฯ มีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย ฤทธิชัยขับรถกลับวันนี้ไม่ไหว ขอผัดเป็นพรุ่งนี้แทน อภิชาติด่าสวนทันทีว่าดัดจริต

"ถ้านายโดนไล่ยิงเหมือนฉันละก็ นายก็ขับไม่ไหวเหมือนกัน แล้วอีกอย่าง ลุงเดชเชิญฉันไปกินข้าวมื้อเย็นกับหลานๆที่บ้านป้าเนียนไงเพื่อน"

อภิชาติถึงกับหูผึ่ง รีบบอกว่าขับรถไปหาฤทธิชัยที่บ้านดอนเสือเดี๋ยวนี้ จะไปกินข้าวเย็นด้วย...

ขณะเดียวกัน ที่ค่ายชั่วคราวของพวกแสงในป่าลึกใกล้เขตบ้านดอนเสือ ไผ่เล่าให้ลุงเดชกับจักจั่นและดาวฟังว่า พอเขากับพ่อตั้งค่ายเสร็จ สายลมมาบินวนร้องเรียก เขาตั้งสมาธิก็เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง พวกเราถึงไปช่วยทุกคนได้ทันเวลา แสงถามลุงเดชว่าจะอยู่บ้านดอนเสือนานแค่ไหน ลุงเดชจะอยู่จนกว่าทุกอย่างจะจบ

"ตอนนี้เราพบค่ายลักลอบตัดไม้ของพวกมันแล้วสี่ค่าย เราจะต้องทำลายพวกมันให้หมด"

ลุงเดชพูดจบ ทุกคนส่งเสียงเฮขึ้นพร้อมกัน ต่างมองหน้ากันด้วยสีหน้ามุ่งมั่น...

ป้าเนียนเห็นลุงเดชกับหลานๆกลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพถึงกับถอนใจโล่งอก เป็นห่วงว่าหลานสาวทั้งสองคนจะโดนพวกมันจับตัวไปด้วย ดาวสงสัยว่าพวกนี้เป็นใครถึงไม่กลัวกฎหมายบ้านเมือง ป้าเนียนเหลียวซ้ายแลขวาไม่เห็นลุงเดชอยู่แถวนั้น กระซิบบอกว่าเป็นพวกสินชัย จักจั่นกระซิบถามว่าทำไมต้องเบาเสียงด้วย

"ก็ลุงเดชน่ะสิ ไม่อยากให้ป้าเล่าอะไรให้พวกหนูฟังหรอก เขาไม่อยากให้พวกหนูกลัวเดี๋ยวจะไม่อยากอยู่ที่นี่" ป้าเนียนยังคงพูดเสียงเบาๆเหมือนเดิม แล้วขอตัวไปทำงาน

ดาวกับจักจั่นมองหน้ากัน สงสัยว่าทำไมลุงเดชถึงไม่อยากให้พวกเธอรู้เรื่องผู้ชายคนนี้...

บ่ายวันเดียวกัน ที่บังกะโลบ้านดอนเสือที่พักของฤทธิชัย ฤทธิชัยคาดไม่ถึงว่าอภิชาติจะมาที่บ้านดอนเสือจริงๆ คิดว่าพูดเล่น อภิชาติอ้างว่าที่ต้องรีบมาเพราะมีเรื่องสำคัญจะบอก แล้วถามว่าจำนายไชยหัวหน้าบ่อนได้หรือเปล่า ฤทธิชัยพยักหน้ารับคำ อภิชาติให้คนของเขาเช็กประวัติดูแล้ว ปรากฏว่าไม่มีข้อมูลอะไรเลย

"เมื่อคืนนี้ ฉันเจอมันกับนายสินชัยจะจะ เข้ามาที่ผับ พาฝรั่งคนหนึ่งเข้ามาวางแผนทำธุรกิจชั่ว ฉันก็เลยให้คนของฉันรอประกบเพื่อหาข้อมูลของมัน ตอนแรกฉันนึกว่ามันเป็นแค่นักเลงกระจอกคุมบ่อนให้นายสินชัยแต่มันมากกว่า นั้น มันเป็นมือขวาฝ่ายปฏิบัติการของนายสินชัย รับออเดอร์เก็บทุกคนจากนายสินชัยโดยตรง"

"นั่นก็หมายความว่า มันรู้เรื่องการตายของคุณอาอิทธิ"

อภิชาติรู้ดีว่าถ้าเราจะจับตัวนายไชยมาบีบเพื่อให้การซัดทอดสินชัยคงไม่ได้ ผล แต่ถ้าเราบีบลูกน้องคนสนิทของนายไชยซึ่งอาจจะรู้ทุกอย่างเท่ากับลูกพี่ อาจจะได้เรื่องก็ได้ ติดที่ว่าเขายังไม่รู้ว่าลูกน้องคนสนิทนายไชยเป็นใครชื่ออะไรหรือว่าอยู่ ที่ไหน แต่กำลังให้คนของเขาสืบอยู่ อภิชาติยังมีอีกเรื่องหนึ่งจะบอกฤทธิชัย

"ฉันดักฟังนายสินชัยรู้เรื่องแผนชั่วของมันได้ทั้งหมด... มันให้คนของพวกมันติดต่อคนไทยที่ตายในต่างแดนที่ต้องการเอาศพกลับบ้าน โดยเฉพาะพวกแรงงานที่ยากจน แล้วเสนอตัวว่าเป็นองค์กรช่วยเหลือจัดส่งศพกลับบ้านพร้อมออกค่าใช้จ่ายให้ โดยมีเพชรของพวกมันซ่อนมาด้วย...ตอนนี้มันกำลังจะเอาออกมาขายในท้องตลาดผ่าน การจัดงานแฟชั่น ทำเป็นประมูลเพื่อการกุศลซักนิดหนึ่ง ที่เหลือเข้ากระเป๋าโดยไม่มีใครสงสัย"

"แน่นอน คนมีเงินทำอะไรไม่มีใครสงสัยอยู่แล้ว"

อภิชาติเห็นด้วยและที่สำคัญกว่านั้น เราหยุดพวกมันไม่ได้ ฤทธิชัยจะหยุดพวกคนชั่วๆพวกนั้นเอง แต่ยังตอบไม่ได้ว่าจะหยุดด้วยวิธีไหน...

ค่ำนั้น ฤทธิชัยกับอภิชาติมากินข้าวที่บ้านป้าเนียนตามคำเชิญของลุงเดช จักจั่นคาดไม่ถึงว่าจะเจออภิชาติ แซวว่าไปแอบอยู่ที่ไหนมา ทำไมปล่อยให้พวกเราวิ่งหลบกระสุนกันแทบแย่ อภิชาติรู้เรื่องจากฤทธิชัยหมดแล้ว เสียดายที่เขาไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วย เห็นฤทธิชัยบอกว่าโชคดีที่นางเสือมาช่วยไว้ทัน

ดาวแสร้งถามฤทธิชัยว่าเห็นนางเสือด้วยหรือ ทำไมพวกเราไม่เห็น ฤทธิชัยเห็นระยะไกลๆแค่แวบเดียว ลุงเดชแกล้งพูดว่าเรื่องนี้เป็นแค่ข่าวลือ ป้าเนียนยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง มีชาวบ้าน หลายคนเห็น เพราะนางเสือเอาเงินมาให้พวกชาวบ้าน จักจั่นถามว่าสองหนุ่มจะอยู่ที่นี่อีกกี่วัน เผื่อจะจัดทัวร์พาเที่ยวป่า

ฤทธิชัยกับอภิชาติต้องรีบกลับกรุงเทพฯ เพราะจะไปงานแฟชั่นโชว์แสดงเพชร เราสองคนสืบทราบมาว่าการจัดแสดงเพชรครั้งนี้เป็นแผนการขายเพชรที่สินชัยกับ พวกนำเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย แต่เราสองคนไม่มีหลักฐานที่จะเอาผิดพวกนั้นได้ ลุงเดชได้ยินชื่อสินชัยตาลุกวาวขึ้นมาทันที

"พวกนี้เกิดมาหนักแผ่นดินจริงๆนางเสือน่าจะไปปล้นซะให้เข็ด" ป้าเนียนเข่นเขี้ยว

จักจั่นอยากรู้ว่างานจะมีเมื่อไหร่ ได้ความว่าจะมีอีกหนึ่งสองอาทิตย์ข้างหน้า อภิชาติเห็นจักจั่นสนใจ ออกปากชวนไปงานนี้ด้วยกัน ถือโอกาสไปเยี่ยมเยือนคุณหญิงรัตนาไปด้วย ดาวต้องถามลุงเดชว่าอนุญาตหรือเปล่า อภิชาติพยายามคะยั้นคะยอ แต่ลุงเดชขอคิดดูก่อน...

หลังจากสองหนุ่มเมืองกรุงกลับไปแล้ว ดาว จักจั่น ไผ่และลุงเดชทำทีออกมาเดินยืดเส้นยืดสายที่ชายป่าหลังบ้านป้าเนียน แต่จริงๆแล้วพวกเขาออกปรึกษากันเรื่องจะไปปล้นเพชร ดาวคิดว่าทางเดียวที่จะหยุดสินชัยและความชั่วของเขาได้คือตัดท่อน้ำเลี้ยง ของเขาทุกอย่าง และงานแสดงเพชรก็เป็นหนึ่งในท่อน้ำเลี้ยง

"แต่พี่ว่ามันอันตรายนะ กรุงเทพฯไม่ใช่ป่าบ้านเราไม่มีสายฟ้า ไม่มีสายลมคอยช่วย" ไผ่ทักท้วง

"งั้นเราก็ต้องช่วยตัวเอง พวกเราก็มีฝีมือ" ดาวสีหน้ามั่นใจ

ลุงเดชเห็นด้วยเรื่องตัดท่อน้ำเลี้ยง แต่เราก็ต้องระวังไม่เปิดเผยตัวมากเกินไป ไม่เช่นนั้นนางเสือจะกลายเป็นเป้าให้ทั้งสินชัยและกฎหมายตามล่า ดาวไม่กลัวในเมื่อคนชั่วอย่างสินชัยกล้าทำร้ายคนบริสุทธิ์โดยไม่กลัวกฎหมาย นางเสือก็กล้าออกมาเด็ดหัวคนชั่วโดยไม่กลัวกฎหมายเช่นกัน ลุงเดชให้เป็นสิทธิที่นางเสือจะตัดสินใจ

"ถือว่าจบไปเรื่องหนึ่ง เรื่องที่สองเราจะจัดการค่ายลักลอบตัดไม้สี่ค่ายของพวกมันอย่างไร"

"พรุ่งนี้เราจะไปดูทางหนีทีไล่ แล้ววางแผนจัดการกับพวกมัน" ลุงเดชว่าแล้วชวนเด็กๆกลับเข้าบ้าน

ooooooo

เสียงเอะอะหน้าบ้านป้าเนียน ปลุกให้ทุกคนในบ้านออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น เห็นพวกพ่อแม่ของเด็กสาวที่ลุงเดช จักจั่นและดาวช่วยให้รอดพ้นเงื้อมมือพวกค้ากามต่างมาขอบใจกันเต็มหน้าบ้าน พอลุงเดชเหลือบมองไปยังฝั่งตรงข้ามบ้านป้าเนียน มีพวกคนร้ายที่โดนดาวกับจักจั่นต่อยหน้าก่อนบุกเข้าค่ายกักกันหญิงสาวมายืน ชี้ตัวดาวกับจักจั่นให้ลูกพี่ดู เขารีบบอกให้ดาวกับจักจั่นกลับเข้าบ้าน

จังหวะนั้น ฤทธิชัยกับอภิชาติมาถึงหน้าบ้านป้าเนียนพอดี คนร้ายเห็นฤทธิชัยจำได้ทันทีว่าเป็นหนึ่งในพวกที่เข้าไปป่วนค่ายของพวกตน ฤทธิชัยเห็นพวกคนร้ายมาจับตาดูลุงเดชกับหลานๆปรี่จะเข้าไปเอาเรื่อง แต่พวกนั้นรีบขึ้นรถขับออกไปเสียก่อน

ครู่ต่อมา ฤทธิชัยกับอภิชาติเข้าไปนั่งคุยกับลุงเดชที่ห้องรับแขกบ้านป้าเนียน ปรึกษาเรื่องที่เห็นคนร้ายมาด้อมๆมองๆหน้าบ้าน ป้าเนียนสงสัยว่าทำไมฤทธิชัยไม่จับพวกนั้นเข้าคุกจะได้สิ้นเรื่อง ฤทธิชัยจับใครตอนนี้ไม่ได้เพราะถูกพักงาน แต่ถึงไม่ถูกพักงานก็ทำอะไรพวกนี้ไม่ได้ แค่มาด้อมๆมองๆไม่ผิดกฎหมาย

"ผมต้องขอโทษด้วยที่ทำให้เรื่องบานปลายเดือดร้อนมาถึงลุงเดชแล้วก็หลานๆแต่ผมกับอภิชาติจะอยู่ที่นี่สักพักจนกว่าเหตุการณ์จะดีขึ้น"

"พักหนึ่งไม่จบหรอกครับ ดูท่าแล้วคุณสองคนต้องได้อยู่อีกนาน" ลุงเดชมองสองหนุ่มยิ้มๆ

"ดีจริงๆในหมู่บ้านก็มีลุงเดช หลานๆแล้วก็ผู้กองกับคุณอภิชาติ ในป่าก็มีนางเสือ คราวนี้แหละพวกมันต้องเจอดี" ป้าเนียนยิ้มพอใจ

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น