วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

ป่านางเสือ ตอนที่ 13

ตอนที่ 13

ในเวลาไล่เลี่ยกัน ที่ห้องล็อบบี้ของโรงแรมหรูแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ขณะอภิชาติกำลังเก็บเอกสารและหลักฐานสำคัญที่ได้รับจาก มร.เดวิด ลูกความชาวต่างชาติที่เพิ่งตกลงจะว่าความให้ เขาเหลือบเห็นสินชัยกับนายยูเว่กำลังเดินไปขึ้นรถตู้ที่จอดรออยู่หน้าโรงแรม จึงตัดสินใจสะกดรอยตาม...

ผ่านไปพักใหญ่ ไผ่กลับค่ายอาสาฯด้วยมือเปล่า จักจั่นเสียดายที่นังตัวร้ายหนีรอดไปได้ แล้วรายงานพี่ชายว่าเจ้าหน้าที่ที่เธอพากลับมาที่นี่ ตอนนี้ตายไปแล้ว 6 นาย อีก 10 นายบาดเจ็บสาหัส

"แผนของพวกมันไปได้สวยทีเดียว ตอนนี้ชาวบ้านต่างขยาดนางเสือกันหมดแล้ว" ไผ่ถอนใจ หนักใจ

"ทำอย่างไรได้...เอ้อ...จันถามหาแน่ะ พี่ไผ่รีบเข้าไปข้างในเถอะ"

ไผ่พยักหน้ารับรู้ รีบเข้าไปในตัวอาคาร จังหวะนั้น เสียงมือถือของจักจั่นดังขึ้น อภิชาติโทร.ติดต่อฤทธิชัยไม่ได้ เลยโทร.หาเธอแทน พอรู้จากจักจั่นว่าฤทธิชัยกับดาวตามรอยพวกขนเงินเข้าไปในป่าลึก กะจะให้พวกนั้นพาไปถึงแหล่งพิมพ์เงินปลอมเผื่อเจอตัวนายยูเว่ อภิชาติถึงกับร้องลั่นด้วยความตกใจ

"แย่แล้ว...เป็นกับดัก พวกมันวางกับดักเพื่อจะสังหารผู้กอง"

"คุณอภิชาติแน่ใจหรือคะ"

"แน่ใจสิครับ เพราะผมกำลังตามรอยไอ้บาโล ยูเว่ อยู่" อภิชาติหน้าเครียดไม่แพ้จักจั่น ได้แต่หวังว่าจักจั่นคงหาทางไปเตือนสองคนนั่นได้ทัน ไม่นานนัก อภิชาติเห็นรถตู้ของสินชัยเลี้ยวเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งซึ่งมีกำแพงสูงล้อมรอบ เขารีบจอดรถข้างทาง กวาดสายตามองรอบๆคิดหาทางเข้าไปข้างใน เจอพนักงานของการไฟฟ้ากำลังตรวจสายไฟอยู่บนบันไดสูง เขายิ้มออกทันที...

อภิชาติแอบใช้บันไดของเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าค่อยๆปีนกำแพงบ้านเป้าหมายเข้าไปอย่างระมัดระวัง เห็นสมุนคนหนึ่งยืนเฝ้าระวังอยู่ประตูทางเข้าตัวบ้าน อภิชาติเข้าไปด้านหลังใช้สันมือฟาดท้ายทอยสลบเหมือด แล้วตวัดปืนขึ้นมาเตรียมพร้อม ย่องเข้าไปในตัวบ้านอย่างเงียบกริบ

อีกด้านหนึ่งในห้องคอมพิวเตอร์ หลังจากนายยูเว่ตรวจรายละเอียดเงินดอลลาร์ปลอมที่ทางโรงพิมพ์ส่งมาให้ดูทางดิจิตอลไฟล์จนพอใจ บอกให้สินชัยส่งเงินปลอมออกตลาดได้เลย สินชัยขอให้นายยูเว่ช่วยตรวจเงินที่เหลือด้วย แล้วหันไปสั่งเจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์เรียกเงินไทยกับเงินสกุลอื่นๆขึ้นมาดู

นายยูเว่ตรวจแล้วยิ้มพอใจฝีมือการแกะแม่พิมพ์ของตัวเอง จังหวะนั้น มีเสียงเคาะประตูห้องดังขั้น พอสมุนเดินไปเปิดรับ อภิชาติจัดการอัดสมุนคว่ำ ปราดเข้ามาในห้อง กราดปืนไปรอบๆ

"ฮัลโหล...มิสเตอร์ ยูเว่"

นายยูเว่หันมาโวยวายใส่สินชัยทันที "ไหนท่านบอกว่าจะไม่มีใครหาผมเจอไง"

"ที่แท้นายคือยูเว่จริงๆ ขอบคุณที่คอนเฟิร์ม" อภิชาติยิ้ม จ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์เขม็ง "ฉลาดมาก ส่งงานจากโรงพิมพ์ มาตรวจที่นี่จะได้ไม่มีใครหาโรงพิมพ์เจอ"

แทนที่สินชัยจะตกใจ กลับยิ้มพอใจที่เห็นอภิชาติมา เพราะเขามีแผนรับมือไว้แล้ว พลันสมุนหลายคนพรวดเข้ามาในห้องล้อมอภิชาติไว้ เล็งปืนใส่ สินชัยไม่ได้มีแผนล่อแค่อภิชาติคนเดียวเท่านั้น ฤทธิชัยก็ถูกเขาล่อให้ไปพบจุดจบเช่นกัน ป่านนี้คงอาจจะกำลังรออภิชาติอยู่ในนรกเรียบร้อยแล้ว

ooooooo

ฤทธิชัยกับดาวตามรอยเท้าเข้าไปในป่าลึก ดาวเริ่มผิดสังเกต รอยเท้าเหล่านี้ชัดเจนเกินไปราวกับจงใจทำ ทันใดนั้น เสียงสายลมร้องเตือนแว่วเข้ามา ดาวกราดสายตามองไปรอบๆอย่างรวดเร็วสีหน้าเคร่งเครียด

"ดาวจะไปดูทางโน้นหน่อยนะคะ"

ดาวค่อยๆเดินออกไปพอเห็นฤทธิชัยมัวแต่ก้มๆมองๆรอยเท้า เธอรีบดีดตัวหายไปอย่างว่องไว ฤทธิชัยนิ่วหน้าแปลกใจเมื่อเห็นรอยเท้าหายเข้าไปในพุ่มไม้หนา รีบตวัดปืนขึ้นมาถือไว้ในมือ พุ่งตัวข้ามพุ่มไม้ พอเท้าแตะพื้นต้องตกใจที่เห็นชาวบ้าน ห้าคนถูกมัดติดกับเสาเรียงหน้ากระดาน มีผ้าปิดปากแน่นหนา หนึ่งในนั้นเป็นเด็กชายถูกมัดไว้ตรงกลาง เสียงลินจงตะโกนก้อง

"ถ้าผู้กองขยับปืน...ก็เท่ากับว่าชาวบ้านตายหนึ่งคน"

ฤทธิชัยชูมือสองข้างขึ้นเป็นเชิงยอมแพ้ ชายในชุดดำสมุนนางเสือปลอมนับสิบๆคนกรูกันออกมาล้อมเขาไว้ ลินจงในชุดนางเสือเดินเข้ามายืนประจันหน้ากับผู้กองหนุ่ม เธอรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เจอเขาอีก

"เราเคยพบกันหรือครับ...ผมเคยพบกับนางเสือ แต่... ไม่ใช่คุณ" ฤทธิชัยยิ้มกวน

"ที่แท้คุณก็เคยพบกับนางเสือจริงๆ น่าเสียดายที่คุณบอกใครไม่ได้...ทุกอย่างจบลงที่นี่"

จังหวะนั้น มีสมุนคนหนึ่งเข้ามากระซิบกับลินจง แล้วถอยออกไป ลินจงหันมองฤทธิชัยยิ้มๆ

"คุณคงคิดไม่ถึงว่าคุณอภิชาติเพื่อนคุณก็เดินเข้าไปติดกับที่พวกเราวางไว้เช่นกัน...เพื่อนคุณกับคุณอยู่ห่างกันคนละโยชน์...แต่ก็สามารถตายพร้อมกันและพบกันอีกครั้งได้ในนรก"

ฤทธิชัยกวาดตามองไปรอบๆสีหน้าเคร่งเครียด "แต่ผม คิดว่าถ้าคุณขยับตัว คุณตายก่อนผม"

ลินจงหาว่าเขาลักไก่ เพราะไม่มีใครในรัศมีรอบๆจะรอดพ้นสายตาของพวกเธอไปได้ อยู่ๆฤทธิชัยได้ยินเสียงนางเสือ

"นายทึ่ม ลักไก่ได้เก่งนี่ อย่าเพิ่งหมอบไพ่ยอมแพ้เสียก่อนล่ะ"

ชายหนุ่มถึงกับยิ้มออก จ้องหน้าลินจงเขม็ง "ถ้าคุณไม่เชื่อก็ลองขยับตัวดู ผมรับรองว่าคุณเจอลูกปืนแน่ๆ คุณกับลูกน้องควรรีบถอยไปก่อนดีกว่า ก่อนที่จะถูกนางเสือจริงเล่นงาน"

ลินจงสีหน้าไม่สู้ดีนัก พยักพเยิดให้สมุนจัดการกับฤทธิชัย สมุนยังไม่ทันจะยกปืนด้วยซ้ำ กลับมีเสียงปืนดังขึ้นกึกก้อง สมุนกระเด็นหงายหลังจมกองเลือด พวกที่เหลือยืนแข็งทื่อไม่กล้าขยับ เสียงสายฟ้าคำรามดังก้องขึ้น พวกนั้นมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ลินจงสั่งให้พวกสมุนยิงชาวบ้านทันทีถ้ามีเสียงปืนดังขึ้นอีก

ขาดคำของลินจง เสียงสายฟ้าคำรามดังขึ้นอีกครั้ง เป็นจังหวะเดียวกับมีดสั้นพุ่งใส่หน้าลินจง เธอไวทายาดสะบัดหน้าหลบ มีดพุ่งเลยไปปักเสาไม้เหนือหัวเด็กชายพอดี ลินจงหันหน้ากลับมาอีกที หน้ากากของเธอหลุดไปเรียบร้อย มีดเฉี่ยวข้างแก้มเลือดซิบๆ ฤทธิชัยมองอย่างตื่นตะลึง

"ที่แท้คุณนี่เอง...บอดี้การ์ดของนายสินชัย"

ดาวในคราบนางเสือส่งพลังจิตไปหาฤทธิชัยอีกครั้ง "นายทึ่ม จะยืนมองสาวจนถูกยิงหรือไง"

ฤทธิชัยได้สติตวัดมือไปด้านหลังหยิบปืนอีกกระบอกที่เหน็บเอวขึ้นมา ลินจงสั่งให้สมุนยิงพวกชาวบ้านทิ้ง ชาวบ้านถูกยิงดิ้นพราด แต่ก่อนที่เด็กน้อยจะโดนกระสุนปืน ฤทธิชัยดีดตัวบังไว้ทัน คว้ามีดที่ปักอยู่เหนือหัวเด็ก ตัดเชือกที่มัดไว้ คว้าเด็กน้อยพุ่งหลบหลังพุ่มไม้หนาทึบ พวกสมุนกราดกระสุนตาม ดาวซุ่มอยู่บนยอดไม้ดีดตัวลงมา สาดกระสุนใส่พวกคนร้ายตายไปหลายคน มีสายฟ้าช่วยเธอจัดการพวกนั้นอีกแรง

ลินจงเห็นท่าไม่ดี พุ่งตัวหนีไปอย่างรวดเร็ว สมุนที่เหลือเห็นนายหนี รีบเผ่นตามไม่คิดชีวิต เสียงสายลมร้องดังขึ้น ดาวเงยหน้าสัมผัสป่า รู้ทันทีว่าต้องเกิดเรื่องร้ายกับฤทธิชัย รีบดีดตัวตามทิศทางที่เขาพาเด็กหนี ครู่ต่อมา ดาวตามฤทธิชัยมาถึงลานเล็กๆแห่งหนึ่ง สองหนุ่มสาวยืนประจันหน้ากัน

"เราพบกันอีกแล้ว...เด็กปลอดภัย...ขอบคุณ"

"ผู้กองแน่ใจหรือว่า ฉันเป็นนางเสือตัวจริง"

"ไม่มีใครเรียกผมตาทึ่ม นอกจากคุณ..." ฤทธิชัยพูดได้แค่นั้น ก็ทรุดฮวบลงกับพื้น ดาวปรี่เข้าไปประคอง พบว่าเขาถูกยิงหลายนัด มีเลือดเต็มหลัง เขาหมดสติในอ้อมแขนของเธอ...

ooooooo

ขณะที่สมุนของสินชัยกำลังลากอภิชาติออกจากห้องคอมพิวเตอร์จะเอาไปยิงทิ้ง กลุ่มชายฉกรรจ์ ชาวจีนบุกเข้ามาในบ้านหลังนั้นพอดี เสียงปืนยิงต่อสู้กันดังสนั่น อภิชาติอาศัยไหวพริบหนีเอาตัวรอดออกมาได้ สินชัยและนายยูเว่ที่อาศัยช่วงชุลมุนขึ้นรถตู้หนีไปได้เช่นกัน

อภิชาติรีบโทร.หาท่านรองฯก้องเกียรติทันที รายงานว่าเขากำลังจะไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์เดินทางไปบ้านดอนเสือ ตามไปช่วยฤทธิชัยซึ่งถูกสินชัยวางแผนลอบฆ่า

"ผมจะสั่งหน่วยพิเศษเตรียมรถและทุกอย่างให้พร้อม รอคุณอยู่ที่โน่น" ท่านรองฯบอกเสียงเครียด

"ครับ...แล้วผมจะรีบรายงานให้ทราบครับท่าน" อภิชาติวางสาย รีบบึ่งไปที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์

ooooooo

ดาวเห็นฤทธิชัยอาการไม่สู้ดี รีบหลับตาทำสมาธิ วานสายลมช่วยไปตามไผ่กับจักจั่นมาที่นี่เร็วที่สุด สายลมหายวับแล้วไปปรากฏตัวเหนือค่ายอาสาฯ ส่งเสียงร้องลั่น ลุงเดชสัมผัสถึงเหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับฤทธิชัยได้เช่นเดียวกับไผ่และจักจั่น รีบสั่งให้สองพี่น้องไปช่วยดาว

"เอาตัวผู้กองไปที่ค่ายโจรจะดีกว่า ขืนเอามาที่นี่หรือไปโรงพยาบาล พวกมันต้องตามมาเก็บผู้กองแน่ๆ...ลุงจะพาหนูจันจิราไปที่ค่าย เตรียมทุกอย่างให้พร้อม"

ทั้งคู่รับคำพากันโดดขึ้นรถจี๊ป ไผ่ขับทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว...

ด้านฤทธิชัยรู้สึกตัวอีกทีเห็นดาวนั่งเฝ้าอยู่ใกล้ๆ แปลกใจเพราะคิดว่าเธอถูกพวกคนร้ายจับตัวไป ดาวโกหกว่านางเสือมาช่วยเธอไว้แล้วพามาซ่อนตัวที่นี่ พอเสียงปืนสงบ เธอรีบตามไปแต่ไม่เจอใครเลยตัดสินใจกลับมาที่นี่อีกครั้ง ก็พบเขานอนสลบไสลไม่ได้สติ ทำไม่รู้ไม่ชี้ถามว่าเกิดอะไรขึ้น

"ที่แท้เราหลงกลพวกมัน ทุกอย่างเป็นกับดักทั้งสิ้น"

ดาวขอโทษที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดเรื่องวุ่นๆ ฤทธิชัย ไม่โทษเธอ กลับเห็นเป็นเรื่องสนุก นานมากแล้วที่เขาไม่ได้เจอผู้ร้ายฉลาดๆ ดาวประคองให้เขาลุกขึ้น พากันไปจากตรงนั้นก่อนที่พวกคนร้ายจะย้อนกลับมา...

ลินจงรวบรวมกำลังคนออกตามล่าฤทธิชัยจนทัน แต่ ดาวสัมผัสภัยที่จะมาถึงได้เสียก่อน รีบประคองผู้กองหนุ่มไปซ่อนหลังพุ่มไม้หนารอดคมกระสุนปืนไปได้อย่างหวุดหวิด ดาวยิงโต้กลับไปถูกคนร้ายตายไปหลายคน พวกนั้นกระจายกำลังเข้าล้อมทั้งคู่ไว้ทุกด้าน หนึ่งในพวกคนร้ายคว้าพลุขึ้นมาจุดกำลังจะจ่อหญ้าแห้งสายฟ้ากระโจนเข้าหาเสียก่อน คนร้ายตกใจพลุตกใส่ตัวเองไฟลุกท่วม พวกสมุนต่างตะลึงทำอะไรไม่ถูก

"พวกเราที่เหลือรออะไรอยู่ เผาพวกมัน" ลินจงตะโกนลั่น

สมุนได้สติจุดพลุอีกแท่งหมายจะขว้างใส่ ดาวกราดยิงสกัดไว้ได้อีก พวกนั้นยังดาหน้าเข้าหา ฤทธิชัยพอมีแรงลุกขึ้นมาช่วยดาวยิงต่อสู้ พวกคนร้ายจุดไฟจนติด ไฟเริ่มลุกท่วมป่า ดาวเห็นท่าไม่ดีพาฤทธิชัยถอย ระหว่างนั้น จักจั่นกับไผ่ตามมาทัน ช่วยกันยิงสกัดพวกนั้นไว้

"พี่ดาวไปก่อนเลย ไม่ต้องรอ...ลุงเดชกับจันจิราอยู่ที่ค่ายพ่อแสงแล้ว"

ดาวพยักหน้ารับรู้ ประคองฤทธิชัยออกไป ลินจงเห็นฤทธิชัยจะหนี สั่งให้สมุนลุย ดาวใช้พลังพิเศษพาผู้กองหนุ่มหนีออกไปอย่างรวดเร็วจนมาถึงรถจี๊ปของไผ่

"ผมคิดไม่ถึงว่าคุณจะแข็งแรงขนาดนี้ ผมตัวปลิวเท้าไม่แตะพื้นดินเลย"

"คงตื่นเต้นน่ะค่ะ...ไม่เคยเห็นคนยกตุ่มหนีไฟหรือคะ" ดาวยิ้ม โดดประจำที่นั่งคนขับ เร่งเคลื่อนออกไป

ooooooo

ด้านจักจั่นกับไผ่ยิงต่อสู้กับพวกนางเสือปลอมอย่างดุเดือด ไผ่เห็นไฟลุกลามมากขึ้น รีบหลับตาทำสมาธิ อึดใจ สายลมปรากฏตัวขึ้น บินวนเหนือบริเวณไฟไหม้ เกิดอัศจรรย์ลมพัดแรงพัดไฟลูกใหญ่พุ่งเข้าใส่ คนร้ายพากันแตกตื่นหนีตาย ท้องฟ้าเริ่มปั่นป่วน ฟ้าแลบแปลบๆฝนเทกระหน่ำลงมาตรงบริเวณไฟไหม้

แต่ในขณะเดียวกัน ลมยังคงหอบลูกไฟพัดใส่พวกมัน ลินจงถึงกับหน้าซีด รีบเผ่นหนีลูกไฟที่พุ่งใส่ เฉี่ยวไปอย่างน่าหวาดเสียว แต่สุดท้ายเธอก็หนีไปได้ สักพักไผ่ดับไฟได้หมด พอควันจาง พบว่าพวกคนร้ายตายเป็นผีเฝ้าป่าเกลื่อน จักจั่นกับไผ่มองศพพวกนั้นด้วยสีหน้านิ่งเฉย ก่อนจะตามไปสมทบกับดาวที่ค่ายโจร...

ไม่นานนัก ดาวพาฤทธิชัยมาถึงค่ายโจรชั่วคราวกลางป่า ลุงเดชกับจันจิรารออยู่แล้ว ลุงเดชสั่งให้สมาชิกโจรพาร่างอ่อนแรงของฤทธิชัยไปไว้ที่กระท่อมหลังหนึ่ง มีจันจิราตามไปดูแลทำแผลให้...

ในเวลาต่อมา อภิชาติพร้อมกับขบวนรถของเจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษที่ท่านรองฯก้องเกียรติเตรียมไว้ให้มาถึงหน้าค่ายอาสาฯ ทั้งไผ่และจักจั่นไม่อยู่ อยู่แต่ป้าเนียนกับชาวค่ายอาสาฯที่คอยดูแลเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ อภิชาติต้องการคนนำทางเพื่อตามหาฤทธิชัย บังเอิญลุงหงวนแวะมาที่นั่นพอดี อาสาจะนำทางให้

"ตาหงวน แกแน่ใจหรือ แกไปแล้วใครจะดูแลเมียแก" ป้าเนียนทักท้วง

ลุงหงวนไม่มีห่วงอะไรอีกแล้วเมียของเขาตายแล้ว ศพก็เอากลับไปเผาที่บ้านเกิดเรียบร้อย เขาเคยเป็นชาวค่ายอาสาฯมาก่อน ชำนาญทางในป่ายินดีนำทางให้อภิชาติกับพวกเจ้าหน้าที่

ooooooo

ดาวตัดสินใจจะปิดเรื่องที่ฤทธิชัยยังไม่ตายไม่ให้ใครล่วงรู้ เพื่อกันไม่ให้พวกสินชัยออกตามล่าเขาอีกยกเว้นอภิชาติเพียงคนเดียว เพราะเธอเชื่อว่าเขาสามารถเล่นละครตบตาพวกคนร้ายได้ เพื่อความ ไม่ประมาทลุงเดชจะจัดคนคอยเฝ้าระวังที่ค่ายโจรแห่งนี้อย่างเข้มงวด ไผ่เสนอขึ้นว่า

"ผมว่าในขณะที่รอให้ผู้กองอาการดีขึ้น เราควรจะออกลุยปิดบ่อน สกัดงานของพวกมันเพื่อให้พวกมันสับสน ยุ่งกับพวกเราจนไม่มีเวลามาตามล่าหรือค้นหาผู้กอง"

ดาว จักจั่นกับลุงเดชเห็นดีด้วย จังหวะนั้น สมาชิกโจรเข้ามารายงานลุงเดชว่า อภิชาติกับเจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษกำลังเดินทางผ่านแนวป่าเข้ามา ลุงเดชอยากให้จักจั่นกับดาวออกไปพบอภิชาติก่อนที่จะเข้ามาใกล้ที่ตั้งค่าย ดาวกับจักจั่นรับคำรีบดีดตัวออกไปทันที

"ไผ่...กลับค่ายอาสาฯกับลุง ลุงจะไปเยี่ยมพวกสมาชิกโจรเสียหน่อย หลังจากนั้น ไผ่ก็อยู่ที่ค่ายคอยระวังพวกมัน" ลุงเดชว่าแล้วเดินนำไผ่ไปยังรถจี๊ปที่จอดอยู่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด...

ooooooo

เมื่อลุงเดชกับไผ่มาถึงค่ายอาสาฯ สมาชิกโจรในคราบชาวบ้านต่างเข้ามาทักทาย ลุงเดชสั่งการให้สมาชิกโจรวางกำลังโดยรอบค่ายเฝ้าระวังพวกคนร้ายจะย้อนกลับมาทำร้ายพวกเจ้าหน้าที่ นายไชยกับสมุนแอบซุ่มดูความเคลื่อนไหวอยู่หน้าค่าย เห็นเหตุการณ์โดยตลอด

"พวกเอ็งมีใครรู้บ้างว่าไอ้แก่นั่นเป็นใคร"

"ไม่รู้...แต่เคยเห็นมันมากับเด็กๆ เล่นงานพวกเราเสียหมอบ"

นายไชยอยู่ห่างลุงเดชพอสมควรจึงเห็นหน้าไม่ถนัด จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเป็นใคร...

ooooooo

ขณะที่ขบวนรถของอภิชาติแล่นมาตามทางคดเคี้ยวในป่า ดาวกับจักจั่นมาดักรออยู่ อภิชาติรีบลงจากรถไปพูดคุยกับสองสาวครู่หนึ่ง จึงเดินกลับมาที่รถ บอกให้ ลุงหงวนกับพวกเจ้าหน้าที่กลับไปก่อนเขา ดาว และจักจั่นจะออกตามหาผู้กองฤทธิชัยกันเอง ก่อนกลับเจ้าหน้าที่ทิ้งรถจี๊ปให้อภิชาติไว้ใช้หนึ่งคัน

ไม่นานนัก ดาวกับจักจั่นพาอภิชาติมาพบฤทธิชัยซึ่งยังคงนอนสลบไสลไม่ได้สติ อภิชาติเห็นอาการบาดเจ็บสาหัสของเพื่อนรักแล้วทนดูไม่ได้ รีบผละออกมา จักจั่นตามมาเกาะแขนเป็นเชิงปลอบใจ

"พี่ดาวบอกว่าเพราะผู้กองเอาตัวบังเพื่อช่วยเด็ก แต่พวกมันสาหัสกว่าผู้กองหลายเท่า"

"แต่ผมว่าผู้กองไม่เป็นอะไรหรอก...มันแค่สำออยอยากอยู่ใกล้คุณดาวเท่านั้นเอง"

อภิชาติพยายามพูดติดตลกเพื่อกลบเกลื่อนความไม่สบายใจ จักจั่นมองอภิชาติอย่างเข้าใจความรู้สึก

ooooooo

สินชัยฟังกำจรรายงานข่าวคำแถลงการณ์ของอภิชาติเกี่ยวกับการหายสาบสูญของผู้กองฤทธิชัยทางทีวีอย่างไม่ค่อยพอใจนัก ตราบใดที่ไม่เห็นศพ เขาไม่มีวันเชื่อว่าฤทธิชัยตาย สั่งให้ลินจงส่งคนออกไปตามล่าฤทธิชัยให้เจอแล้วฆ่าทิ้งเสีย ส่วนเรื่องเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็ให้จัดการต่อไป พวกเรากำลังได้เปรียบ
"แต่เราสูญเสียกำลังไปมาก..." ลินจงทักท้วง

"หาเพิ่ม...ผมไม่สนใจว่าจะต้องเสียเท่าไหร่ เรามีทุนสนับสนุนจากนอกประเทศ รีบไปจัดการด่วนที่สุด"

ลินจงรับคำสั่งแล้วรีบไปปฏิบัติ สินชัยคว้ามือถือกดหากำจรทันที เขาต้องการสอบถามข่าวว่าข่าวฤทธิชัยจริงเท็จแค่ไหน กำจรรับรองว่าจริงเกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ แต่คนอย่างเขาไม่เชื่ออะไรง่ายๆ เขาต้องไปตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยตัวเองที่บ้านดอนเสือ สินชัยอยากสนับสนุนเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางครั้งนี้ของกำจร แต่เขาไม่ต้องการ ขอตัวแล้ววางสายดื้อๆ สินชัยถือหูค้างอย่างอารมณ์เสีย...

ooooooo

เพื่อให้แผนที่วางไว้สมบูรณ์ อภิชาติจำต้องกลับกรุงเทพฯ จะได้ไม่เป็นที่สงสัยของใครต่อใคร และอีกอย่างหนึ่ง เขาต้องตามรอยนายยูเว่ หาทางทำลายแหล่ง ผลิตเงินปลอมของสินชัยให้ได้ ดาวกับจักจั่นจะอยู่ คุ้มครองฤทธิชัยทางนี้เอง อภิชาติไม่ต้องเป็นห่วง

ระหว่างนั้น คุณหญิงรัตนาได้ยินรายงานข่าวที่อภิชาติออกแถลงการณ์เรื่องที่ฤทธิชัยหายสาบสูญกลางป่ารีบโทร.มาถามความคืบหน้าจากอภิชาติ

"ผมเชื่อว่านายชัยคงไม่เป็นอะไร หมอนี่มันหนังเหนียวครับ...ถ้าได้เรื่องแล้วผมจะรีบรายงานคุณอาหญิงทันทีเลยครับ" อภิชาติวางสายพลางถอนหายใจเฮือก ไม่อยากโกหกคุณอาหญิงแต่ต้องทำ แล้วขอตัวกลับ โดดขึ้นรถจี๊ปขับออกไป สองสาวมองตามจนลับสายตา...

ขณะเดียวกัน นายไชยโทร.รายงานสินชัยเรื่องที่หลานสาวสองคนของป้าเนียนกับเด็กหนุ่มอีกคนหนึ่งเข้าไปช่วยพวกเจ้าหน้าที่ออกจากจุดปะทะกับพวกนางเสือปลอม เขาส่งคนไปดูที่นั่น พบว่าพวกนางเสือของสินชัยตายนับสิบๆคน พวกสมุนของนายไชยฝังกลบศพกันแทบไม่ทัน

"ไอ้ไชย เอ็งลองไปสืบสาวดูสิว่า ไอ้เด็กพวกนั้นมันเป็นใครมาจากไหนกันแน่ เอาคนไปถล่มค่ายอาสาฯ ทดสอบดูให้เห็นชัดๆว่ามีใครอยู่เบื้องหลังไอ้เด็กพวกนี้หรือเปล่า...อย่าให้ พลาด...ตอนนี้เรากำลังคุมเกมได้ทั้งหมด...เจ้าหน้าที่ตามล่านางเสือ ไอ้ผู้กองสาบสูญ...เอ็งจะปล่อยให้เด็กเมื่อวานซืนมาขวางทางข้าไม่ได้"

"ผมจะจัดการให้เรียบร้อยครับเสี่ย ผมพอจะรู้ว่าจะสาวเรื่องได้จากไหน"

นายไชยยิ้มเหี้ยม วางสายแล้วหันไปสั่งเหล่าสมุนเตรียมคนให้พร้อม...

ooooooo

ที่ค่ายอาสาฯ ป้าเนียนขาดยารักษาคนไข้ จึงวานไผ่ช่วยขับรถไปเอายาที่โรงพยาบาลบ้านดอนเสือมาให้ เพื่อความปลอดภัยไผ่จะไปเอายาให้หลังจากพาป้าเนียนไปส่งบ้านแล้วเท่านั้น ป้าเนียนทำอย่างนั้นไม่ได้เพราะคนไข้รอรับยาอยู่ ไผ่กวาดสายตาไปรอบๆค่ายไม่เห็นพวกคนร้ายแถวนั้น

"ไปเดี๋ยวเดียว คงไม่เป็นไรหรอก ป้ายังไม่เห็นพวกมันเลย" ป้าเนียนคะยั้นคะยอ

ไผ่ถอนใจ ไม่ค่อยสบายใจนักที่ต้องทิ้งป้าเนียนไว้ แต่ทนเสียงรบเร้าไม่ไหว รีบคว้าใบสั่งยาจากป้าเนียนโดดขึ้นรถจี๊ปขับออกไปอย่างรีบร้อน ป้าเนียนกราดสายตามองรอบค่ายอีกครั้ง ก่อนจะกลับเข้าไปข้างใน อึดใจเดียวได้ยินเสียงนายไชย ตะโกนไล่คนไข้ทุกคนออกไปให้หมด คนไหนชักช้าจะโดนผลักอย่างไม่ปรานีปราศรัย ป้าเนียนไม่พอใจ ตรงเข้ามาจะตบหน้านายไชย แต่เขาคว้ามือเธอไว้ แล้วเหวี่ยงไปที่เก้าอี้

"บอกฉันมาป้าเนียน ไอ้เด็กสามคนนั่นเป็นใคร"

"หลานของญาติฉัน...ทำไม แกยุ่งอะไรด้วย" ป้าเนียนว่าแล้วลุกหนี

นายไชยคว้าแขนไว้ ป้าเนียนสะบัดมือออกแล้วตบเปรี้ยง คราวนี้เข้าเต็มๆจนหน้าหัน นายไชยโกรธผลักป้าเนียนไปชนตู้เก็บของ กล่องกระดาษที่วางอยู่บนหลังตู้หล่นโครม ข้าวของที่อยู่ในกล่องรวมทั้งรูปถ่ายรูปหนึ่งในกรอบกระจกตกพื้นกระจัด กระจาย ป้าเนียนตกใจจะเข้าไปเก็บรูปถ่าย

แต่นายไชยรู้ทัน ดึงตัวเธอไว้ แล้วพยักพเยิดให้สมุนหยิบรูปใบนั้นส่งให้ ป้าเนียนฮึดฮัดจะเข้าแย่งถูกสมุนล็อกตัวไว้ นายไชยเอารูปถ่ายมาดูเห็นเป็นภาพหมู่ของท่านอิทธิกับกลุ่มชาวค่ายอาสาฯเมื่อสิบห้าปีที่แล้ว ในรูปมีลุงเดชยืนอยู่ข้างๆท่านอิทธิ

นายไชยจ้องตาไม่กะพริบ พึมพำกับตัวเอง "ที่แท้ไอ้แก่ นี่รู้จักไอ้อิทธิ" เขาจำลุงเดชไม่ได้ ยัดรูปในมือให้ป้าเนียนดู "ไอ้แก่ที่อยู่กับไอ้อิทธิเป็นใคร"

"ก็...แค่ชาวบ้านอาสาฯเหมือนคนอื่น" ป้าเนียนโกหกหน้าตาย

"ปากแข็งนักหรือ" นายไชยขยับจะเข้าไปเอาเรื่องป้าเนียน แต่มีเสียงดังขึ้นด้านหลังขัดจังหวะเสียก่อน

"ปากแข็งดีกว่าพูดไม่ได้ไปตลอดชีวิต"

นายไชยกับพวกหันขวับไปมองตามเสียง เห็นไผ่ยืนหน้าเหี้ยมอยู่ที่ประตูห้อง ในมืออุ้มกล่องใส่ยาขนาดกลางกล่องหนึ่งที่เพิ่งเบิกมา สมุนปรี่เข้าหา ไผ่โยนกล่องยาให้ สมุนดันเผลอรับไว้ ไผ่ได้ทีชกเปรี้ยงเข้าเต็มหน้า กล่องยาลอยขึ้นแต่ตัวสมุนกระเด็นไปชนข้าวของแตกกระจาย ไผ่รับกล่องยาถือไว้เหมือนเดิม

สมุนอีกคนหนึ่งขยับจะลุย แต่นายไชยยกมือห้ามไว้ สั่งสมุนกลับ ไผ่วางกล่องยาลงบนโต๊ะ ปราดเข้ามาดูป้าเนียน พอเห็นไม่เป็นอะไร รีบขอตัวออกไปดูพวกนายไชย ป้าเนียนปราดเข้าไปเก็บรูปใส่กล่องไว้อย่างเดิมด้วยสีหน้าไม่สบายใจอย่างมาก

ที่ค่ายโจรกลางป่า ฤทธิชัยค่อยๆลืมตาขึ้นมองไปรอบๆตัว เห็นดาวนั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียง ขยับตัวจะลุกขึ้น หญิงสาวเอามือแตะอกเขาไว้ไม่ให้ลุก ฤทธิชัยนอนลงอย่างเดิม คว้ามือดาวมากุมไว้ ดีใจที่เห็นเธอปลอดภัย ดาวก็ดีใจที่เขาปลอดภัยเช่นกัน ทั้งสองคนมองสบตากันอย่างลึกซึ้ง ฤทธิชัยนึกอะไรขึ้นมาได้

"นางเสือ...เป็นตัวปลอม...ผมต้องแจ้งให้...ทางการทราบ" ฤทธิชัยพูดอย่างอ่อนแรงเต็มที

ดาวทักท้วงว่าถ้าเขาไม่มีหลักฐานมายืนยันแล้วใครจะเชื่อ อีกอย่างหนึ่ง เขารู้ได้อย่างไรว่าเป็นนางเสือปลอมในเมื่อนางเสือจริงเขาก็ไม่รู้จัก ฤทธิชัยอ้าปากจะพูดบางอย่างแต่หมดสติไปก่อน

"และผู้กองก็ไม่มีทางได้รู้จักตัวจริงหรอกค่ะ" ดาวพึมพำสีหน้าเศร้า จังหวะนั้น จันจิราเดินเข้ามาในห้องพอดี ดาวหันไปบอกด้วยสีหน้าเป็นกังวลว่าฤทธิชัยสลบไปอีกแล้ว จันจิรายิ้ม

"อ๋อ...ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ จันให้ยานอนหลับไว้จะได้พักผ่อนมากๆ...รวมๆแล้วผู้กองพ้นอันตรายแล้วค่ะ แต่ ร่างกายยังอ่อนแออยู่เท่านั้นเอง"

ดาวถอนใจโล่งอก "...นี่ถ้าไม่ได้น้องจัน คงแย่เลย น้องจันเก่งมากจ้ะ"

"พี่ดาวไม่ต้องห่วงผู้กองนะคะ จันจะดูแลอย่างสุดความสามารถ"

"ขอบใจจ้ะ" ดาวยิ้มให้จันจิราแล้วหันมองฤทธิชัยที่ นอนหลับสนิทด้วยสายตาเป็นประกายวาววับ...

คืนวันเดียวกัน ดาวตัดสินใจจะออกลุยกับพวกนางเสือปลอมในแบบเปิดเผย ไม่ต้องอยู่ในคราบนางเสืออีกต่อไป จักจั่นถามเพื่อความแน่ใจว่าเราจะลุยกันเองเลยหรือ ดาวพยักหน้าแทนคำตอบ

"ในเมื่อฤทธิชัยยังไม่สามารถจะนำเจ้าหน้าที่ออกล่าพวกมันตามแผนที่เราวางไว้...เราก็จะล่าพวกมันเอง ปล่อยไว้ ไม่ได้"

"เย้...ใช่เลย ไม่อย่างนั้นพวกมันจะย่ามใจ" จักจั่นคันไม้คันมืออยากลุยกับพวกคนร้ายเต็มที ระหว่างนั้น มีเสียงสายฟ้าคำรามก้องไปทั้งป่าตามมาด้วยเสียงร้องของสายลม สองสาวเหลียวมองหน้ากัน

"พวกมันย่ามใจจริงๆ มันเริ่มเคลื่อนไหวกันอีกแล้วพี่ดาว"

ดาวพยักหน้าดีดตัวไปตามเสียงร้องคำรามของสายฟ้า จักจั่นพุ่งตามไปติดๆ...

ในเวลาเดียวกัน สมุนของสินชัยออกฉุดคร่าหญิงสาวมาเต็มรถตู้ เตรียมส่งขายกรุงเทพฯอีกครั้ง โดยล่าเหยื่อรายสุดท้ายมาไกลถึงกระท่อมกลางป่าของสองผัวเมียคู่หนึ่ง บังคับให้ขายลูกสาวให้ พ่อของเด็กสาวไม่ยอม พวกสมุนลงมือซ้อม โยนเศษเงินทิ้งไว้ให้ พร้อมกับขู่ว่าถ้าเรื่องมากนักจะอดได้เงิน สองผัวเมียกลัวลนลาน มีเสียงคำรามก้องของสายฟ้าดังฝ่าความเงียบยามคํ่าคืน พวกสมุนถึงกับชะงัก

"นาง...เสือ"

"เฮ้ย...ปอดไปได้...ของพวกเราเอง" ลูกพี่ตวาดลั่น มีเสียงเสือคำรามดังขึ้นอีก สมุนเหลียวมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ละล่ำละลักบอกลูกพี่ว่านางเสือของเราไม่มีเสือคำราม ลูกพี่ชักใจไม่ดี แต่ยังฝืนพูดเสียงแข็ง

"พวกมันอาจจะใช้เสียงเอฟเฟกต์ก็ได้"

ลูกพี่พูดยังไม่ทันขาดคำ ร่างของเขาก็ลอยขึ้นเหนือพื้น มือสองข้างจับที่คอตัวเองดิ้นรนไปมาราวกับถูกใครบีบคอ พวกสมุนหน้าตื่น ตาเหลือกกราดปืนในมือไปรอบๆบริเวณ ขณะที่บนยอดไม้ใกล้ๆ ดาวยื่นแขนสองข้างไปข้างหน้าใช้พลังพิเศษบีบคอลูกพี่ไว้ แล้วเหวี่ยงร่างของเขากระแทกต้นไม้ที่ห่างไปหลายเมตรสลบเหมือด

พวกสมุนกลัวมากยิงกราดมั่วไปหมด เสียงสายฟ้าขู่คำรามขึ้นอีกครั้ง คราวนี้พวกสมุนต่างเผ่นหนีกันไปคนละทิศละทาง ดาวกับจักจั่นพุ่งตัวลงจากยอดไม้มายืนตรงหน้า สองผัวเมียยกมือไหว้ขอบใจสองสาว

"ลุงช่วยจัดการเอาพวกผู้หญิงที่อยู่ในรถตู้ไปที่สถานีตำรวจด้วยนะ" ดาวว่าแล้วทิ้งเงินปึกใหญ่ให้สองผัวเมียเอาไปแบ่งให้ทุกคนเท่าๆกัน

ooooooo

รุ่งเช้า ดาวกับจักจั่นในชุดรัดกุมไม่ใช่ชุดนางเสือแอบซุ่มอยู่บนยอดไม้ เห็นรถตู้ขนเงินปลอมของสินชัยสามคันวิ่งมาตามเส้นทางคดเคี้ยวกลางป่าลึก จักจั่นถามดาวว่าจะเอาอย่างไรดี

"ในฐานะชาวค่ายอาสาฯ เราจะสกัดจับมัน ในไม่ช้ามันต้องส่งนางเสือปลอมออกมาจัดการกับเรา"

"เยส" จักจั่นชูกำปั้นอย่างสะใจ

"พี่จะไปดักหน้ามัน...จักจั่นไปบอกลุงเดชให้นำคนไปสมทบเร็วที่สุด...เราจะใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่ง ซุ่มโจมตีพวกมัน"

จักจั่นพยักหน้ารับคำ ดีดตัวหายเข้าไปในยอดไม้หนาทึบ บ่ายหน้าไปยังค่ายโจรชั่วคราว ดาวยิ้ม ดีดตัวไปดักหน้าเส้นทางที่รถตู้ขนเงินจะวิ่งผ่าน ไม่นานนัก หญิงสาวก็มายืนขวางทางรถตู้ ขนเงิน คนขับรถตู้คันหน้ากระแทกเบรกดังเอี๊ยด อีกสองคันที่ตามมาเบรกกันตัวโก่ง พวกสมุนในรถตู้กรูกันออกมาล้อมเธอไว้

"อยากตายหรืออย่างไร" สมุนคนหนึ่งตะโกนลั่น

ดาวยิ้มเหี้ยม "ขนของในรถลงมาให้หมด แล้วไปเสีย"

พวกนั้นต่างมองหน้ากัน ก่อนจะหัวเราะก๊ากราวกับสิ่งที่เธอพูดเป็นเรื่องตลก แล้วพากันเล็งปืนใส่ หญิงสาวชี้มือไปยังแนวป่าริมทางทั้งสองด้าน พวกนั้นมองตามมือ ถึงกับตะลึงเห็นสมาชิกโจรซึ่งมีผ้าดำคาดหน้าปิดบังใบหน้าที่แท้จริงนับสิบๆคน ยืนเรียงหน้ากระดานส่องปืนมาทางที่พวกนั้นยืนอยู่

และสิ่งที่ทำให้พวกนั้นหน้าซีดยิ่งกว่าไก่ต้มก็คือจักจั่นถือปืนยิงจรวดอาร์พีจีเล็งมายังรถตู้ขนเงิน คนร้ายกลัวลนลานรีบยกลังใส่เงินปลอมออกจากรถตู้ แล้วเผ่นแน่บกลับไปแทบไม่ทัน สมาชิกโจรต่างส่งเสียงเฮลั่นด้วยความสะใจ ลุงเดชเพิ่งสังเกตเห็นดาวไม่ได้สวมชุดนางเสือรีบเดินเข้ามาหา

"หนูดาวคิดถูกแล้วหรือที่เปิดตัวออกไปแบบนี้"

"ดาวว่าเรื่องมันใกล้จะถึงบทสุดท้ายแล้วค่ะ มีวิธีนี้ วิธีเดียวที่จะปิดฉากทุกอย่างลง ดาวเบื่อเล่นซ่อนหากับพวกมันแล้ว" ดาวสีหน้าจริงจัง

"จักจั่นเห็นด้วย"

ลุงเดชไม่ค่อยเห็นด้วยแต่ก็พยักหน้ารับ แล้วหันไปสั่งการให้เหล่าสมาชิกโจรขนเงินปลอมพวกนี้ไปเผาให้หมด "เอาล่ะ...ลุงกลับก่อน...วันนี้จะแวะไปบ้านป้าเนียนสักหน่อย เห็นส่งคนมาบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย"

"งั้นเจอกันที่บ้านป้าเนียนตอนเย็นค่ะ" ดาวมองตามลุงเดชเดินนำสมาชิกโจรกลับเข้าไปพงไม้ข้างทางแล้วหันมาบอกจักจั่น "พี่จะแวะไปดูผู้กองก่อน เผื่อถามจันด้วยว่าขาดเหลืออะไรหรือเปล่า"

"จักจั่นว่าจะแวะไปหาพ่อแสงกับแม่สมพรสักหน่อย ไม่ได้เจอนานแล้ว เผลอๆถ้าร่างจักจั่นหายดีแล้วจะได้กลับร่างเดิมเสียที...บางครั้งดูกระจกยังมึนตึบเห็นแต่ยายบ๊อง"

"อ้าว...นึกว่าชอบร่างยายบ๊องเสียอีก...สวยออก" ดาวกระเซ้า

"พี่ดาวสนล่ะก็...จักจั่นจะเก็บไว้ให้เอาไหม" จักจั่นมองเหล่ ดาวยิ้มเดินเข้ามาโอบไหล่จักจั่น

"ไม่ว่าร่างไหน จักจั่นก็คือน้องสาวสุดที่รักของพี่อยู่ดี"

"จักจั่นรู้น่า...แล้วจักจั่นก็ทำใจแล้วด้วย เผื่อว่าร่างของจักจั่น..."

"ทุกอย่างขึ้นอยู่กับฟ้าดิน...พี่มั่นใจว่าทุกอย่างจะต้องจบลงด้วยดี"

"จักจั่นก็ว่าอย่างนั้น"

"งั้นเราเจอกันที่บ้านป้าเนียนตอนค่ำ หลังจากนั้นเราค่อยชวนพี่ไผ่ออกมาอาละวาดปิดบ่อนพวกมันสักสองสามบ่อน ให้นายสินชัยคลั่งไปเลย" ดาวยิ้มให้จักจั่นซึ่งยิ้มตอบกลับมาเช่นกัน

ooooooo

พอไม่ได้เรื่องอะไรจากป้าเนียน นายไชยเบนความสนใจไปที่ลุงหงวนแทน คาดว่าแกน่าจะรู้เรื่องหลานสามคนของป้าเนียน เขากับสมุนจึงตรงไปที่บ้านของลุงหงวน วางอำนาจไม่เกรงกลัวกฎหมายส่งสมุนเข้าไปค้นในบ้าน สักพัก พวกสมุนกลับออกมารายงานลูกพี่ใหญ่

"ไอ้แก่หงวนไม่อยู่พี่...สงสัยอยู่ที่ค่ายอาสาฯ"

"โชคมันยังดี...พวกเอ็งไปตามหามัน เจอเมื่อไหร่ ลากตัวมันมาหาข้า" นายไชยสั่งเสียงเฉียบ...

ขณะเดียวกัน ที่ห้องทำงานหรูหราของสินชัยในกรุงเทพฯ สินชัยโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงเมื่อได้รับรายงานว่าเงินปลอมซึ่งต้องเอาไปจ่ายค่าจ้างให้พวกคนงานลักลอบตัดไม้ถูกปล้น หันไปพาลใส่ลินจงซึ่งนั่งอยู่ที่โซฟาตรงข้ามโต๊ะทำงานของเขา

"คุณหายไปอยู่ไหนมา...เงินของเราถูกปล้น...ไอ้พวกตัดไม้ไม่ได้เงิน มันไม่ยอมทำงาน...เสียหายยับเยินหมด" สินชัยโวยวายลั่น

"ฉันบอกคุณแล้วว่ากำลังของเราเสียหายหนักต้องใช้ เวลารวบรวมคน...แต่ตอนนี้พร้อมแล้ว"

"ดี...รีบออกไปจัดการซะ เป็นเด็กผู้หญิงสองคนกับผู้ชายหนึ่งคน"

"ฉันเคยเผชิญหน้ามาแล้วทั้งสามคน...แต่มีเรื่องผิดปกติอยู่เรื่องหนึ่ง...เด็กผู้หญิงคนหนึ่งหายไป แต่มีคนใหม่กลับมาแทน"

"หมายความว่าอย่างไร"

"มีครั้งหนึ่งพวกเราวางกับดักจัดการกับพวกอาสาฯ ได้ปะทะกับเด็กสาวสองคนนั่น ฉันมั่นใจว่าคนหนึ่งถูกปืนอาร์พีจียิงใส่อย่างจัง นึกว่าเก็บไปได้หนึ่ง แต่กลับมีคนใหม่โผล่มา"

"โธ่เอ๊ย...ก็แค่หาคนใหม่มาแทนคนตาย ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน"

"ที่ฉันว่าแปลกก็คือ เด็กสาวคนใหม่มีวิชาท่าทางเหมือนเด็กคนเก่าไม่ผิดเพี้ยน"

"บ้า...บ้ากันหมดแล้ว จะเป็นไปได้อย่างไร" สินชัยเดินไปมาอย่างเสียอารมณ์ "เริ่มต้นก็เรื่องนางเสือบ้าบอ...ตอนนี้มีตัวตายตัวแทน...ผมมีธุระ คุณไปจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย" สินชัยพูดจบก้าวพรวดๆออกไป บอดี้การ์ดสองคนของเขารีบตาม ทิ้งให้ลินจงครุ่นคิดสงสัยเรื่องของจักจั่นเพียงคนเดียว...

ครู่ต่อมา สินชัยลงมายืนรอหน้าตึกออฟฟิศ บอดี้การ์ดของเขาโบกมือ สักพัก รถของสินชัยแล่นมาจอดตรงหน้า ขณะบอดี้การ์ดกำลังเปิดประตูรถให้สินชัย อภิชาติไม่รู้โผล่มาจากไหนอัดบอดี้การ์ดสองคนนั้นล้มคว่ำแล้วเอาปืนจ่อเอว

สินชัยบังคับให้ขึ้นรถ ทันทีที่อภิชาติปิดประตูรถสั่งให้คนขับรถของสินชัยกดล็อก บอดี้การ์ดตั้งหลักได้พยายามจะเปิดประตูรถแต่ไม่สำเร็จ อภิชาติตะคอกคนขับรถลั่น

"ขับไปเรื่อยๆจอดแกดับ ขับช้าแกดับ หาถนนออกนอกเมือง...เร็วเข้า"

คนขับรถของสินชัยกลัวหัวหดรีบทำตามสั่ง บอดี้การ์ดวิ่งตามรถแต่ไม่ทันรีบหยิบมือถือขึ้นมาโทร....

ระหว่างที่รถของสินชัยแล่นอย่างรวดเร็วไปตามเส้นทางออกนอกเมือง อภิชาติให้เวลาสินชัยตัดสินใจหนึ่งนาทีเลือกระหว่างชีวิตตัวเองกับบอกที่ซ่อนตัวนายยูเว่ สินชัยยิ้มเยาะ

"คุณทำอะไรผมไม่ได้หรอกคุณอภิ..." สินชัยพูดยังไม่ทันจบประโยค มีเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด เขาถึงกับร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด เอามือกุมหัวเข่าเลือดไหลเป็นทาง คนขับรถตาเหลือกด้วยความหวาดกลัว

"ออด!...ตอบผิด...คุณได้ตอบอีกหนึ่งครั้ง...เป็นคำตอบสุดท้าย" อภิชาติจ้องสินชัยสีหน้าเอาเรื่อง

"ผมจะฟ้องคุณ" สินชัยคำรามลั่นทั้งเจ็บใจทั้งเจ็บเข่า มีเสียงง้างนกปืนดังคลิก สินชัยหยุดกึก

"คุณเหลืออีก 30 วินาที" อภิชาติว่าแล้วจ่อปืนที่เข่าอีกข้างหนึ่งของเจ้าพ่อใหญ่

สินชัยพยักหน้ายอมจำนน ล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อนอก อ้างว่าต้องใช้โทรศัพท์ แต่ยังไม่ทันจะกดเบอร์ มีรถตำรวจเปิดไซเรนแล่นเข้ามาประกบข้างรถของสินชัยสองคัน สินชัยยิ้มแสยะ

"เสียใจด้วยนะคุณอภิชาติ"

อภิชาติหน้าเครียดขึ้นมาทันที เสียงตำรวจประกาศทางเครื่องขยายเสียงสั่งให้จอดรถเดี๋ยวนี้ คนขับรถกลัวตาย หันมาถามอภิชาติว่าจะเอาอย่างไร อภิชาติสั่งให้จอดรถ พอรถของสินชัยจอดสนิท รถตำรวจทั้งสองคันจอดเทียบ ตำรวจลงจากรถล้อมรถของสินชัยไว้ อภิชาติจำใจเก็บปืน ยิ้มกวนให้สินชัย

"เรื่องยังไม่จบ...ติดตามตอนต่อไป"

ทันทีที่อภิชาติก้าวลงจากรถ ตำรวจกรูเข้าล้อม สั่งให้ ยกมือขึ้น อภิชาติทำตามอย่างว่าง่าย ผู้หมวดหัวหน้าชุดจับกุมจำอภิชาติได้ร้องทักทาย ก่อนจะแจ้งสาเหตุที่ต้องล้อมจับว่า ทนายความของสินชัยแจ้งว่าลูกความของเขาถูกลักพาตัว อภิชาติตีหน้าตาย

"คงมีการเข้าใจผิด...นี่เป็นรถของคุณสินชัย น่าจะเป็นผมมากกว่าที่ถูกลักพาตัว"

ตำรวจต่างมองหน้ากัน ทันใดนั้น รถของสินชัยถอยพรืด แล้วบึ่งออกไปอย่างรวดเร็ว อภิชาติได้ที

"เห็นไหมครับ...แค่เรื่องเข้าใจผิด"

ผู้หมวดยังไม่ปักใจเชื่อ เชิญตัวอภิชาติไปสถานีตำรวจก่อน อภิชาติเข้าตาจนไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร จังหวะนั้น นายตำรวจจากหน่วยพิเศษของท่านรองฯก้องเกียรติกับลูกน้องขับรถตำรวจอีกคันหนึ่งแล่นมาถึงพอดี ตำรวจนายนั้นเดินเข้ามาหาผู้หมวดชุดจับกุม

"ท่านรองฯก้องเกียรติให้มาเชิญตัวคุณอภิชาติไปพบครับ"

"แต่..." ผู้หมวดอ้าปากจะค้าน แต่นายตำรวจจากหน่วยพิเศษของท่านรองฯก้องเกียรติชิงพูดขึ้นก่อน

"งานลับด่วนครับ"

ผู้หมวดพูดไม่ออก ได้แต่มองตามนายตำรวจนายนั้นพาตัวอภิชาติขึ้นรถไป

ooooooo

ไม่นานนัก ตำรวจนายนั้นพาอภิชาติมาส่งที่ตึกบัญชาการหน่วยปฏิบัติการพิเศษ อภิชาติรีบตรงไปพบท่านรองฯก้องเกียรติที่ห้องทำงานของท่านทันที ท่านรองฯก้องเกียรตินั่งรอเขาอยู่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

"คุณคิดจะทำอะไรคุณอภิชาติ บุกไปยิงนายสินชัยถึงในรถ"

"นายสินชัยแจ้งความหรือครับ" อภิชาติยิ้มกว้างอย่างเคย

"เปล่า...มีรายงานมาที่ผม..."

"ไม่มีการแจ้งความ ผมก็ไม่มีความผิด...มันเล่นงานคุณอาหญิง มันเล่นงานผู้กองจนขณะนี้หายสาบสูญหาตัวไม่เจอ กฎหมายทำอะไรมันไม่ได้...ผมต้องขอเล่นงานมันบ้าง" อภิชาตินั่งอย่างสบายอารมณ์

ท่านรองฯก้องเกียรติพยักหน้าช้าๆอย่างเข้าใจความรู้สึก "เอาล่ะๆ...คุณไปได้แล้ว...ระวังตัวด้วย...คุณก็รู้กฎหมายดีอยู่แล้ว ทำอะไร..."

"ผมทราบครับท่าน" อภิชาติลุกขึ้น เดินออกจากห้อง

ท่านรองฯก้องเกียรติมองตาม ยิ้มพอใจ ที่ท่านต้องเรียกตัวอภิชาติมาพบก็แค่อยากจะดึงๆเขาไว้บ้าง ไม่อยากให้ทำอะไรล้ำเส้นเกินไป

ooooooo

ขณะอภิชาติกำลังจะออกจากตึกบัญชาการหน่วยปฏิบัติการพิเศษ คุณหญิงรัตนาโทร.มาเชิญให้ไปพบที่บ้าน พออภิชาติไปถึงบ้านของท่านรู้สึกแปลกใจว่าทำไมวันนี้ไม่มีเด็กรับใช้มารอต้อนรับ เห็นแต่ประตูรั้วเปิดอยู่ เขาจอดรถที่ลานหน้าบ้านอย่างเคยแล้วตรงไปยังห้องรับแขก เห็นคุณหญิงรัตนานั่งรออยู่ก่อนแล้ว

"สวัสดีครับคุณอาหญิง...วันนี้เงียบจัง เด็กๆกลับบ้านกันหมดหรือครับ"

คุณหญิงรัตนาไม่ตอบเอาแต่จ้องหน้า เขารู้ทันทีว่ามีเรื่องไม่ชอบมาพากล รีบชักปืนขึ้นมากระชับไว้ในมือ พลันมีชายชาวจีนห้าคนพร้อมอาวุธครบมือกรูกันออกมาล้อมอภิชาติกับคุณหญิงรัตนา หนึ่งในพวกนั้นจ้องปืนไปยังคุณหญิงรัตนา อภิชาติยิ้มมุมปาก

"ที่แท้พวกแก๊งมังกรนี่เอง"

"ในที่สุดเราก็ได้พบกัน...คุณอภิชาติ" หัวหน้าพวกชาวจีนชื่อ "จงชือ" ร้องทัก

"ผมจำไม่ได้ว่ามีเพื่อนอย่างคุณ...แต่ถ้าใครขยับ...คุณไปก่อน" อภิชาติตวัดปืนเล็งจงชือทันที จังหวะนั้นลูกน้องของ

จงชือคนหนึ่งขยับตัว มืออีกข้างของอภิชาติชักปืนอีกกระบอกหนึ่งที่เหน็บไว้ด้านหลังยิงเปรี้ยง ปืนในมือลูกน้องกระเด็น อภิชาติตวัดปืนทั้งสองกระบอกจ้องไปที่จงชือ

"คราวหน้าคุณโดนแน่"

"คุณเข้าใจผิด...เราไม่ใช่แก๊งมังกร"

"ผิดหรือไม่ผิดผมไม่คุยกับคนที่ถือปืนโดยเฉพาะต่อหน้าผู้หลักผู้ใหญ่"

จงชือพยักพเยิดให้ลูกน้องเก็บปืน "ผมไม่มีเจตนาที่จะรบกวนคุณหญิงรัตนา เพียงแต่ให้ช่วยประสานงานเพื่อพบคุณอภิชาติเท่านั้น"

"เชิญคุณอภิชาติตามสบาย" คุณหญิงรัตนาว่าแล้วลุกออกไป อภิชาติจ้องหน้าจงชือเขม็ง

"ผมให้โอกาสคุณครั้งเดียว ถ้าผมไม่สน ถือว่าจบ...พวกคุณสลายตัว"

จงชือพยักหน้ารับ พูดสั้นๆว่า "บาโล ยูเว่" อภิชาติหรี่ตามองเขาอย่างสนใจ

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น