วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

ป่านางเสือ ตอนที่ 14

ตอนที่ 14

จักจั่นจอดรถแอบข้างทาง แล้วเดินเท้าต่อไปยังถ้ำซึ่งเก็บร่างของเธอ ทันทีที่เธอดีดตัวลงมายืนหน้าถ้ำสมาชิกโจรสองคนซึ่งเฝ้าระวังอยู่ตวัดปืนเล็งใส่ พอเห็นจักจั่นชัดๆต่างเอาปืนลง จักจั่นกราดสายตาไปรอบๆ

"อยู่แค่สองคนเท่านั้นหรือ"

หนึ่งในสมาชิกโจรผิวปาก สมาชิกโจรอีกสองคนซึ่งซุ่มอยู่ในพงไม้ใกล้ๆ โผล่พรวดขึ้นมาจ้องปืนใส่ จักจั่นพยักหน้าพอใจ สองคนนั่นหลบหายไปเข้าพงไม้อย่างไร้ร่องรอย หญิงสาวยกนิ้วให้ชมว่าเยี่ยมมาก แล้วเดินเข้าไปในถ้ำ เห็นแสงพ่อของตนเองกำลังนั่งเฝ้าร่างเดิมของเธออยู่ไม่ห่าง จักจั่นไม่เห็นสมพรแม่ของเธออยู่ที่นั่นด้วยก็ถามหา ได้ความว่าพ่อส่งกลับไปอยู่ค่ายใหญ่ ไม่พรุ่งนี้หรือวันมะรืนก็มา

"งั้นอีกวันสองวันจักจั่นจะกลับมาใหม่ บอกแม่ให้รอด้วยนะจ๊ะ...จักจั่นไปก่อนนะพ่อ"

"ระวังตัวด้วยนะลูก"

"รุ่นนี้แล้ว...พ่อไม่ต้องห่วง" จักจั่นยิ้มหน้าเป็น

"เออ...เก่ง" แสงอดขำกับความทะเล้นของลูกสาวไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่วายเป็นห่วง...

อีกด้านหนึ่งของป่า ดาวกำลังขับรถบ่ายหน้าไปที่ค่ายโจรชั่วคราว ต้องแปลกใจที่เห็นชาวบ้านสี่คนเดินอยู่บนเส้นทางเบื้องหน้า ดาวขับรถขนาบข้างร้องถามว่าจะไปไหนกัน ชายในกลุ่มคนหนึ่งอ้างว่าหลงทางมา

"อ๋อ...ที่แท้หลงทางนี่เอง ขึ้นมาสิจ๊ะ...ฉันจะพาออกไปส่ง" ดาวว่าพลางจับตามองทุกคนเขม็ง

ชาวบ้านทั้งสี่คนพากันขึ้นรถ ดาวขับรถยังไม่ถึงไหน ชาวบ้านเหล่านั้นกลับกลายเป็นพวกคนร้าย ควักมีดพกขึ้นมาหมายจะสังหารดาว แต่เธอไหวตัวทันจัดการพวกนั้นตายเรียบ พอถึงค่ายโจร ดาวรีบเตือนสมาชิกโจรที่ออกมาต้อนรับให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นสองเท่า พวกศัตรูใกล้ค่ายของเราเข้ามาทุกที

จากนั้น ดาวตรงไปยังกระท่อมที่ฤทธิชัยพักรักษาตัว เป็นเวลาอาหารกลางวันของฤทธิชัยพอดี ดาวเลยอาสาป้อนข้าวต้มให้ ฤทธิชัยกินได้ไม่กี่คำ ขอร้องดาวช่วยพาไปเดินเล่น เธอไม่อยากขัดใจพยุงเขาเดินชมธรรมชาติอันสวยงามของป่าบ้านดอนเสือ ฤทธิชัยสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดด้วยความสดชื่น

ดาวเล่าให้ฟังว่าเมื่อวานอภิชาติมาเยี่ยม หลังจากนั้นก็กลับไปแถลงข่าวเรื่องฤทธิชัยหายสาบสูญ เพื่อตบตาสินชัย แต่ตอนนี้เขากลับกรุงเทพฯ ไปแล้ว ไปตามล่าตัวนายยูเว่ สองหนุ่มสาวคุยกันอยู่ดีๆ ฤทธิชัยก็ทรุดฮวบ มีเลือดซึมออกมาจากบาดแผล ดาวตกใจปราดเข้ามาประคองรีบพากลับที่พัก

ooooooo

ในเวลาเดียวกัน อภิชาติตามจงชือมาที่ศูนย์ บัญชาการชั่วคราวของเขา จงชือเปิดแฟ้มข้อมูลรูปถ่ายของนายยูเว่ในคอมพิวเตอร์ให้อภิชาติดู แต่ละรูปที่ปรากฏหน้าตาของนายยูเว่แตกต่างกันราวกับเป็นคนละคน

"คุณไม่มีทางที่จะรู้ได้เลย แม้ว่านายยูเว่จะยืนอยู่ตรงหน้าของคุณ...ลือกันว่าไอ้หมอนี่ได้คาถาปลอมแปลงตัวมาจากหมอผีของชนเผ่าในแอฟริกา สามารถเปลี่ยนร่างให้อ้วน ผอม สูงต่ำได้อย่างแนบเนียน...แม้แต่นายสินชัยเองก็ยังไม่รู้ว่าหน้าตาที่แท้จริงของนายยูเว่เป็นอย่างไร" จงชือเล่าเป็นฉากๆ

"คุณกำลังจะบอกผมว่าพวกคุณรู้"

จงชือมีคนที่รู้จักนายยูเว่ดีพอจะชี้ตัวได้ อภิชาติพูดสวนขึ้นทันทีว่าถ้าอย่างนั้นจงชือเอาเขามาเกี่ยวด้วยทำไม ถึงจงชือจะเป็นตำรวจสากลเอเชีย แต่ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นความลับ เขาจึงอยากให้อภิชาติช่วยเคลียร์กับทางการไทยให้ เพื่อที่พวกเขาจะทำงานได้อย่างเต็มที่ และจะได้ลากคอนายยูเว่ ไปจากเมืองไทยไวๆ

อภิชาติคิดอยู่อึดใจ "ได้...แต่ผมต้องขอมีเอี่ยวและขอเกี่ยวด้วยคนเพราะบอกตามตรงผมไม่ไว้ใจคุณ"

ทั้งจงชือและอภิชาติต่างจ้องหน้ากันเขม็ง...

หลังจากทำข้อตกลงกับจงชือเรียบร้อย อภิชาติตรงไปยังออฟฟิศของเขา ทันทีที่มาถึงเลขาฯของอภิชาติเข้ามารายงานว่ากำจรมารอพบที่ห้องประชุม อภิชาติส่ายหน้าเอือมระอา แต่จำใจต้องไปพบ

"มาผิดที่หรือเปล่าเพื่อน นายสินชัยไม่ได้อยู่ที่นี่" อภิชาติแดกดัน

"ฉันเป็นนักข่าว ใครที่มีข่าวจะให้ฉัน ฉันจำเป็นต้องรับฟัง ฉันไม่ได้เป็นคนของนายสินชัยหรือใครทั้งนั้น"

"แต่ฉันไม่มีข่าวจะให้นาย"

"ฉันไม่ได้มาหาข่าว ฉันก็เป็นเพื่อนไอ้ชัย...ฉันก็ห่วงมันเหมือนกัน...แกแน่ใจหรือว่ามันหายสาบสูญไป"

อภิชาติไม่ค่อยเชื่อคำพูดของกำจรนัก "ฟังดูแล้วเหมือนแกกำลังหาข่าวว่ะ...แต่เอาล่ะฉันจะคิดว่าแกเป็นเพื่อน แล้วแกเป็นห่วงไอ้ชัยจริงๆ...คำตอบก็คือ...มันหายสาบสูญไปหลังจากที่ถูกนางเสือซุ่มโจมตี"

"หายสาบสูญไม่ได้หมายความว่าตาย..." กำจรจ้องหน้าอภิชาติเขม็งเหมือนจะจับผิด "ฉันไม่เชื่อว่ามือระดับอย่างไอ้ชัยจะหายไปง่ายๆ ฉันจะไปบ้านดอนเสือค้นหาความจริงให้ได้"

"ถ้าเจอมัน...อย่าลืมโทร.บอกฉันด้วย...โชคดีเพื่อน" อภิชาติยิ้มกว้างนึกชมตัวเองที่เล่นละครได้เก่ง

ooooooo

จักจั่นขับรถกลับจากเยี่ยมพ่อได้แค่ครึ่งทาง มีเสียงร้องของสายลมดังขึ้น เธอรีบจอดรถ หลับตาทำสมาธิ สัมผัสได้ว่าพวกคนร้ายมีการเคลื่อนไหว จักจั่นขับรถมุ่งไปทิศทางนั้นทันที ไม่นานนัก เธอกระโดดขวางหน้ารถกระบะคันหนึ่ง แต่ต้องแปลกใจที่รถคันนั้นกลายเป็นรถขนเสบียงของสมพร

"หนูจับสัมผัสจากสายลมว่ามีพวกมันเคลื่อนไหวอยู่แถวนี้ถึงได้แวะมาดู ที่แท้กลายเป็นแม่กับพวกเรา"

"ก็ดีแล้วนี่ แม่ก็อยากเจอจักจั่น...สายลมคงรู้ว่าจักจั่นอยากเจอแม่มั้ง"

จักจั่นคิดคล้อยตามแม่ว่า สองแม่ลูกโผกอดกันด้วยความคิดถึง จักจั่นเพิ่งไปหาพ่อมาเห็นพ่อบอกว่าแม่จะมาพรุ่งนี้ ไม่ใช่หรือ สมพรเกรงแสงจะไม่มีเสบียงใช้เลยรีบเอามาส่ง จักจั่นไม่อยากดึงแม่ไว้นานเกรงจะมืดกลางทาง เร่งให้แม่รีบไปแล้วเตือนสมาชิกโจรสี่คนที่นั่งเฝ้าระวังอยู่กระบะท้ายให้ คอยระวังตัวทุกฝีก้าว เธอยืนมองจนรถของแม่วิ่งลับสายตา มีเสียงสายลมร้องดังขึ้นอีก จักจั่นกวาดตามองไปรอบๆ แต่ ไม่พบสิ่งผิดปกติ

"สายลมคงพาเรามาเจอแม่มั้ง" จักจั่นดีดตัวกลับไปยังรถจี๊ปของตัวที่จอดหลบอยู่ในพงไม้ใกล้ๆก่อนไปเธอกวาดตามองไปรอบๆบริเวณเป็นครั้งสุดท้าย โดยไม่เห็นว่าลินจงแอบซุ่มดูอยู่

"ฉันต้องรู้ให้ได้...ว่าแกมีกี่ร่าง" ลินจงว่าแล้วดีดตัวตามทิศทางที่รถกระบะของสมพรแล่นไป...

ในเวลาต่อมา ที่หน้าถ้ำซึ่งเก็บร่างเดิมของจักจั่น สมาชิกโจรสองคนที่ยืนเฝ้าระวังอยู่หน้าถ้ำ ได้ยินเสียงสัญญาณเป็นเสียงนกร้องดังเข้ามา สมาชิกโจรคนหนึ่งส่งสัญญาณตอบกลับ แล้วตะโกนบอกให้เข้ามาได้

สมาชิกโจรซึ่งเป็นคนดูต้นทาง ปรากฏตัวขึ้น "เอ็งไปบอกพี่แสงว่า พี่สมพรมา"

สมาชิกโจรที่ยืนเฝ้าระวังหน้าถ้ำรีบเดินเข้าไปในถ้ำ สักพัก สมพรกับสมาชิกโจรอีกสี่คนเดินขนเสบียงมาตามทางเดินหายเข้าไปในถ้ำ เหตุการณ์นี้อยู่ในสายตาของลินจงโดยตลอด พักใหญ่ๆแสงก็ออกมาส่งสมพรกับสมาชิกโจรหน้าถ้ำ แล้วกลับเข้าไปในนั้นอีก

"พวกแกซ่อนอะไรไว้ในถ้ำ" ลินจงสีหน้าครุ่นคิดสงสัย แล้วดีดตัวออกไป...

รถกระบะของสมพรกลับจากส่งเสบียงได้สักระยะก็ถูกชายในชุดดำสมุนของนางเสือปลอมลอบโจมตี หนึ่งในสมาชิก โจรถูกกระสุนของพวกนั้นเจาะไหล่ล้มฟุบ รถของสมพรพุ่งเข้าจอดหลังต้นไม้ใหญ่ใช้เป็นที่กำบัง สองฝ่ายเปิดฉากยิงต่อสู้ กันอย่างดุเดือด ชายในชุดดำปักหลักยิงใส่สมาชิกโจรอย่างไม่ลืมหูลืมตา แต่ไม่ยอมบุกเข้ามาแค่ต้องการตรึงพวกสมพรอยู่กับที่ เสียงปืนดังไปถึงถ้ำที่แสงอยู่

แสงรู้ว่าต้องเกิดเรื่องกับสมพร รีบออกจากถ้ำเพียงลำพังพร้อมอาวุธครบมือตรงไปยังจุดปะทะ ทิ้งสมาชิกโจรทั้งหมดเฝ้าที่นั่นไว้ห้ามไปไหนเด็ดขาด ลินจงซึ่งซุ่มดูอยู่ รีบพุ่งตัวมายังถ้ำเป้าหมาย...

ครู่ต่อมา แสงลัดเลาะมาทางด้านหลังกลุ่มชายชุดดำที่ซุ่มยิงรถกระบะของสมพร สังหารพวกนั้นตายหมด เขาตะโกนบอกสมาชิกโจรทั้งหมดออกจากที่กำบังได้แล้ว ก่อนเดินเข้ามาสมทบกับกลุ่มของสมพร พอได้ฟังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากปากเมียรัก แสงเอะใจ

"แย่แล้ว...แผนล่อเสือออกจากถ้ำ...พวกเอ็งรีบพาสมพรกลับไปที่ค่ายใหญ่" แสงพูดเสร็จ พุ่งตัวกลับถ้ำอย่างรวดเร็ว สมพรมองตามด้วยความเป็นห่วง

ooooooo

หน้าถ้ำซึ่งเก็บร่างเดิมของจักจั่น สมาชิกโจรสองคนยืนกราดปืนไปมาเตรียมรับการบุก จังหวะนั้นมีเสียงสัญญาณเป็นเสียงนกร้องดังขึ้น สมาชิกโจรทั้งสองคนต่างมองหน้ากัน รู้ทันทีว่ามีผู้บุกรุกเพราะแสงสั่งห้ามไม่ให้ใช้สัญญาณซ้ำ ตะโกนเตือนพรรคพวก

สมาชิกโจรทั้งหมดไม่รอช้าสาดกระสุนออกไปรอบบริเวณ ถูกชายในชุดดำล้มคว่ำไปหลายคน พวกโจรโดดเข้าหาที่กำบัง เสียงปืนยิงต่อสู้กันดังสนั่นหวั่นไหว ลินจงในคราบนางเสืออาศัยจังหวะชุลมุนดีดตัวเข้าถ้ำอย่างรวดเร็ว เดินลึกเข้าไปจนสุดทาง เห็นร่างๆหนึ่งนอนนิ่งอยู่บนแท่นหิน เธอเหลียวซ้ายมองขวาอย่างระแวดระวัง ก่อนจะเดินมาที่แท่นหิน แล้วต้องตกใจเมื่อพบว่าร่างนั้นคือร่างเดิมของจักจั่น

"แกมีสองร่างจริงๆอย่างที่ฉันคิด"

ลินจงยิ้มเหี้ยม กระชากมีดขึ้นมาหมายจะสังหาร พลันมีเสียงคำรามของเสือดังกึกก้อง ลินจงหันไปมองเห็นสายฟ้ายืนอยู่อีกด้านหนึ่งของแท่นหินที่จักจั่นนอนอยู่ แยกเขี้ยวน่ากลัวจ้องมาที่ตนเองพร้อมจะจู่โจม...

ขณะเดียวกัน จักจั่นกำลังขับรถบ่ายหน้าออกจากป่า ต้องเหยียบเบรกกะทันหัน หัวใจเธอเต้นแรงแทบจะหลุดออกมานอกอก รู้สึกปวดหัวจี๊ดจนต้องเอามือทั้งสองข้างกุมหัว ก่อนจะหมดสติฟุบคาพวงมาลัยรถ...

ด้านลินจงยืนตัวแข็งทื่อหน้าซีดด้วยความหวาดกลัว สายฟ้าคำรามขึ้นอีกครั้ง ลินจงหันหลังกลับดีดตัวออกจากถ้ำอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าตอนเข้ามา ผ่านด้านหลังสมาชิกโจรหายเข้าไปในพงไม้ เหล่าสมาชิกโจรยิงสกัดชายในชุดดำ สักพัก เสียงปืนยิงโต้กลับจากพวกนั้นค่อยเงียบหายไป

สมาชิกโจรคนหนึ่งโบกมือเป็นสัญญาณให้พรรคพวกของตัวหยุดยิง ร่างของแสงปรากฏขึ้นเบื้องหน้า ก้าวผ่านสมาชิกโจรเข้าไปในถ้ำสีหน้าเคร่งเครียด สมาชิกโจรรีบตามไปติดๆ พอแสงเห็นร่างของจักจั่นยังอยู่ในสภาพเดิมก็โล่งใจ แต่ยังไม่คลายกังวลเมื่อได้ฟังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

"พวกมันรู้สัญญาณของพวกเรา แสดงว่าพวกมันต้องซุ่มอยู่ใกล้มาก...ข้าขอบใจพวกเราที่ต้านไม่ให้พวกมันผ่านเข้าไปทำอะไรจักจั่นได้"

สมาชิกโจรคนหนึ่งแนะให้แสงย้ายร่างจักจั่นไปไว้

ที่อื่น แสงร้องห้ามลั่น ที่นี่เป็นถ้ำศักดิ์สิทธิ์สามารถรักษาร่างของจักจั่นได้ แต่เพื่อความไม่ประมาท แสงสั่งให้สมาชิกโจรไปหาลุงเดช เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง แล้วขอกำลังมาเพิ่มด่วน สมาชิกโจรรับคำ รีบบ่ายหน้าไปยังค่ายโจรชั่วคราวทันที...

ฝ่ายจักจั่นเริ่มรู้สึกตัว เงยหน้าขึ้นจากพวงมาลัยรถสีหน้างุนงง เสียงหัวใจที่เต้นแรงเริ่มเบาลงๆและหายไปในที่สุด "แปลกมาก...เราไม่เคยเป็นแบบนี้นี่นา" จักจั่นนิ่งคิดอยู่อึดใจ ก่อนจะขับรถออกจากตรงนั้น...

ลุงเดชไม่ค่อยสบายใจนักเมื่อได้ฟังเรื่องที่เกิดขึ้นจากปากของป้าเนียน เตือนป้าเนียนเก็บรูปถ่ายของเขากับท่านอิทธิรูปนี้ไว้ให้ดีอย่าให้พวกเด็กๆเห็นเด็ดขาด เขายังไม่อยากอธิบายอะไรให้เด็กทั้งสามคนฟังตอนนี้ ป้าเนียนอ้าปากจะถามอะไรบางอย่าง แต่ลุงเดชรีบตัดบทห้ามถามอะไรอีก แค่ทำตามที่เขาบอกก็พอ แล้วขอตัวกลับ ไผ่ซึ่งยืนเฝ้าระวังอยู่หน้าบ้านป้าเนียน ร้องทักลุงเดชว่าจะไม่รอจักจั่นกับดาวก่อนหรือ

"ลุงจะรีบกลับไปที่ชุมโจร...แล้วเจอกัน" ลุงเดชว่าแล้วผลุนผลันออกไป ไผ่มองตามอย่างสงสัย

ooooooo

ณ ค่ายโจรชั่วคราว ดาวแวะเยี่ยมฤทธิชัยที่เพิ่งรู้สึกตัวแต่ยังมึนๆจากฤทธิ์ยานอนหลับที่จันจิราจัดให้ ฤทธิชัยเพิ่งรู้ตัวว่าอาการหนักกว่าที่คิดไม่แน่ใจว่าจะรอดหรือเปล่า คว้ามือดาวมากุมไว้ ตัดสินใจสารภาพความรู้สึกที่มีต่อเธอว่ารักเธอมากเพียงใด ส่วนเธอจะเชื่อเขาหรือไม่ก็แล้วแต่เธอ ดาวเชื่อทุกคำที่เขาพูด

"อย่างนั้น ถ้าเกิดผมหาย ผมจะให้คุณอาหญิงมาสู่ขอคุณดาวนะครับ"

"อันนี้สงสัยต้องเป็นฤทธิ์ยานอนหลับแน่ๆ...เอาอย่างนี้ดีกว่านะคะ รอให้ผู้กองหายก่อน ถ้ายังจำได้ว่าพูดอะไรไว้กับดาว ค่อยว่ากันดีไหมคะ"

"ได้เลย...ห้ามเบี้ยวนะครับ" ขาดคำฤทธิชัยหลับไปอีกครั้งด้วยฤทธิ์ยา ดาวยิ้มจ้องมองเขาด้วยสายตาลึกซึ้ง ภาพหวานๆระหว่างเธอกับเขาผุดขึ้นมาในความคิดคำนึงของดาว ทำให้เธอยิ้มอย่างมีความสุข...

เย็นวันเดียวกัน ดาวกลับถึงบ้านป้าเนียน เจอจักจั่นเพิ่งมาถึงก่อนหน้าเธอเล็กน้อย แต่ไม่เห็นลุงเดชรออยู่ก็ถามไผ่ ได้ความว่าลุงเดชกลับไปแล้ว ดาวออกจะแปลกใจนิดๆทำไมลุงเดชถึงรีบกลับมีเรื่องอะไรหรือเปล่า ไผ่ได้แต่ยักไหล่ ป้าเนียนไม่อยากพูดอะไรมาก รีบชวนทั้งสามคนกินข้าว

ดาวเสนอว่ากินเสร็จแล้ว พวกเรามาวางแผนลุยพวกสินชัยกันดีกว่า จักจั่นกับไผ่ตอบตกลงทันที ทั้งสามคนมัวแต่ดีใจที่จะได้แก้เผ็ดสินชัยไม่ทันสังเกตสีหน้าเป็นกังวลของป้าเนียน...

หลังจากวางแผนกันเรียบร้อย ไผ่ ดาวกับจักจั่นเตรียมอาวุธพร้อมจะออกไปลุยกับพวกสมุนของสินชัยในวันรุ่งขึ้น จักจั่นรอจังหวะเหมาะตอนได้อยู่ลำพังกับดาว เล่าเรื่องที่รู้สึกเหมือนหัวใจจะหยุดเต้นให้ฟัง ดาวมองจักจั่นที่เธอรักเหมือนน้องสาวแท้ๆอย่างตกใจ

"ไม่น่าจะเป็นไปได้ จักจั่นได้รับพรเหมือนพี่ ร่างกายมีพลังพิเศษ อาการแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น...หรือว่า..." ดาวมองสำรวจจักจั่นหัวจดปลายเท้า จักจั่นรีบออกตัว

"บ้าน่า...จักจั่นไม่ได้ท้องสักหน่อย"

"พี่แกล้งล้อเล่นเท่านั้นเอง...อย่าคิดมาก ถ้ามีอะไรพี่จะรู้...จักจั่นก็รู้ สวรรค์อยู่ข้างเรา" สองสาวต่างยิ้มให้กัน จักจั่นรู้สึกสบายใจขึ้น...

ดึกมากแล้ว ดาวยังนอนไม่หลับ ออกมายืนที่ระเบียงหลังบ้านทอดสายตาไปยังราวป่า สักพัก จักจั่นตามออกมา เธอเป็นกังวลเรื่องของเธอกับอภิชาติ ถ้าเกิดมีวันใดที่เขาบอกรักเธอขึ้นมา เธอจะทำอย่างไรดี

ดาวตอบแบบไม่ต้องคิด "ถ้าคุณอภิชาติขอจักจั่น...พี่อยากให้จักจั่นตอบรับและไปอยู่กับคุณอภิชาติที่กรุงเทพฯ... แล้วอย่าลืมมาเยี่ยมพี่บ่อยๆ...พี่อยากเห็นจักจั่นมีความสุข ไม่ต้องยุ่งกับเรื่องพวกนี้อีกต่อไป"

"อ้าว...แล้วถ้าเกิดผู้กองบอกรักพี่ดาวล่ะ"

ดาวขอให้ถึงเวลานั้นก่อน ค่อยตัดสินใจ เธอไม่ได้เล่าเรื่องที่ฤทธิชัยบอกรักเธอเพราะคิดว่าตอนนั้นเขาพูดเพราะฤทธิ์ยานอนหลับ จักจั่นอ้าปากจะพูดบางอย่าง ดาวรีบตัดบทไล่ให้ไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้พวกเรามีงานใหญ่รออยู่ ส่วนเธอขออยู่ต่ออีกหน่อย ดาวมองตามจักจั่นเดินเข้าบ้าน ถอนใจเฮือกใหญ่พึมพำกับตัวเอง

"ผู้กองคงไม่บอกรักเราหรอก ถ้ารู้ว่าเราคือนางเสือ...เราสองคนมีเส้นทางเดินที่ต่างกัน ดาวหวังว่าผู้กองคงเข้าใจ" ดาวรู้ดีว่าความรักระหว่างฤทธิชัยกับเธอเป็นเหมือนเส้นขนานที่ไม่มีวันมาบรรจบกันได้

ooooooo

ขณะที่ฤทธิชัยกำลังนอนหลับสนิทอยู่ในกระท่อมกลางค่ายโจร มีเสียงคำรามของสายฟ้า ตามมาด้วยเสียงร้องของสายลมแว่วเข้ามา อยู่ๆร่างของฤทธิชัยเปล่งแสงเรืองรองออกมา ฤทธิชัยฝันเห็นตัวเองเดินวนอยู่ในป่าลึกคล้ายกับจะหาทางออก เหลือบเห็นร่างเรืองแสงของสายฟ้าก้าวออกมาจากหลังพุ่มไม้

ผู้กองหนุ่มจ้องสายฟ้าเขม็ง มีเสียงเหยี่ยวร้องดังขึ้นเหนือหัว เขาแหงนหน้ามอง เห็นร่างเรืองแสงของสายลมบินวนอยู่ ฤทธิชัยรู้สึกถึงพลังประหลาดในตัว ยกมือขึ้นดู แปลกใจที่ตนเองก็เรืองแสงเช่นกัน ทันใดนั้นสายฟ้ากับสายลมพุ่งเข้าใส่ฤทธิชัย ร่างของเขาถูกแสงของสัตว์วิเศษทั้งสองตัวแผ่ครอบคลุม

ฤทธิชัยสะดุ้งสุดตัว ลุกพรวดขึ้นนั่ง เหงื่อท่วมตัว มองไปรอบๆถึงได้รู้ว่าฝันไป พลันมีเสียงอึกทึกดังขึ้นด้านนอก เขาคว้าปืนจากใต้หมอนขึ้นมาถือไว้ ลุกขึ้นยืน ต้องแปลกใจที่ไม่รู้สึกเจ็บแผล

"เกิดอะไรขึ้น...หรือว่าเราเดี้ยงเป็นวิญญาณแล้ววะเนี่ย" ฤทธิชัยว่าพลางขยับตัวไปมาสำรวจตัวเอง

มีเสียงคนเคลื่อนไหวแว่วเข้ามาอีก เขาเดินไปแง้มหน้าต่างดู เห็นสมาชิกโจรรวมพลกันวุ่นวาย โดยมีลุงเดชยืนสั่งการอยู่ใกล้ๆกองไฟ ฤทธิชัยตัดสินใจเดินออกไปดู ยังไม่ทันจะพ้นประตูห้อง จันจิราเอาปืนมาจ่อด้านหลังสั่งให้ยกมือขึ้น ฤทธิชัยหันไปช้าๆพอเห็นหน้าชัดๆจันจิราตกใจ ขยับจะเข้ามาประคอง

"ตายแล้ว...ผู้กอง ทำไมเดินออกมาล่ะคะ"

"ผมไม่เป็นอะไรครับ...ไม่รู้ว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้น ผมจะไปดูเสียหน่อย" ฤทธิชัยพูดจบเดินตัวปลิวออกไป จันจิราไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง เมื่อตอนเย็น เขายังอาการทรุดอยู่เลยทำไมตอนนี้กลับหายเป็นปลิดทิ้ง เธอยืดอกอย่างภาคภูมิใจที่ ตัวเองรักษาผู้กองเก่งราวกับเป็นหมอเทวดา...

ฤทธิชัยรู้เหตุการณ์ที่ถ้ำเก็บร่างของจักจั่นจากลุงเดช เลยอาสาจะไปช่วยอีกแรง ลุงเดชไม่ยอม ไม่แน่ใจว่าอาการบาดเจ็บของฤทธิชัยจะดีจริงอย่างเจ้าตัวอ้างหรือเปล่า ขอร้องให้รอไปก่อน ถ้าอาการของเขาดีขึ้นจริงลุงเดชจะให้คนพาไปสมทบกับพวกแสง ฤทธิชัยอ้าปากจะค้าน ลุงเดชชิงพูดขึ้นก่อน

"อย่าให้ผมต้องลำบากใจเลยครับ ขืนให้ผู้กองไปคืนนี้เกิดเป็นอะไรขึ้นมา หนูดาวมาเล่นงานผมแน่"

ฤทธิชัยเถียงไม่ออก จำใจกลับที่พัก ให้จันจิราช่วยตรวจอาการให้อีกครั้งเพื่อความแน่ใจ จันจิราตรวจอย่างละเอียดแล้ว ฤทธิชัยปกติดีทุกอย่างราวกับไม่เคยได้รับบาดเจ็บ ทั้งคู่ต่างงงว่าเกิดอะไรขึ้น ฤทธิชัยยกความดีความชอบให้จันจิรา ชมว่าเธอเป็นพยาบาลที่เก่งที่สุดในโลก จันจิราชักเขินออกตัวว่าจริงๆแล้วเธอเดาสุ่มทำไปอย่างนั้นเอง ไม่รู้จะถามใครที่ไหนเพราะเรื่องของเขาต้องเป็นความลับ ฤทธิชัยถึงกับอึ้ง

"แปลว่าคุณจันไม่เคยผ่าตัดมาก่อน"

"ไม่เคยค่ะ นี่เป็นครั้งแรก มีพี่ดาวช่วยชี้ค่ะว่ากระสุนฝังที่ไหน...จันยังนึกว่าผู้กองจะไม่รอดซะแล้ว...จันว่าจันให้ผู้กองพักผ่อนดีกว่า แล้วพบกันตอนเช้านะคะ"

ฤทธิชัยรอจนจันจิราคล้อยหลัง ลองจับแผลตัวเองก็ไม่รู้สึกเจ็บ พลันมีเสียงร้องของสายฟ้ากับสายลมดังขึ้นพร้อมกัน ฤทธิชัยพยักหน้าเหมือนเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ยกมือขึ้นพนม

"ขอบคุณเจ้าป่าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยปกป้องรักษา"

ooooooo

เช้าวันถัดมา ดาว จักจั่นกับไผ่นำกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจเข้ากวาดล้างธุรกิจผิดกฎหมายของสินชัย ทั้งบ่อนการพนัน พวกลักลอบตัดไม้ ค้าของเถื่อนและบุกทลายแหล่งค้ามนุษย์ ดาวหวังว่าการกระทำครั้งนี้ของพวกเธอคงทำให้สินชัยปั่นป่วนจนไม่มีเวลาตามล่าฤทธิชัย...

ขณะเดียวกัน ที่กรุงเทพฯ อภิชาติมาพบจงชือที่ศูนย์บัญชาการชั่วคราวของเขา จงชือแนะนำอภิชาติให้รู้จักกับกู่หลิน สาวฮ่องกงที่จะช่วยให้พวกเราได้พบกับนายยูเว่ตัวจริง อภิชาติเห็นกู่หลินอายุยังน้อย เลยไม่เชื่อว่าเธอจะทำได้อย่างที่จงชือคุย พูดเหน็บแนมจนหญิงสาวไม่พอใจลุกหนี จงชือมองอภิชาติอย่างตำหนิ

"คุณอภิชาติ ถ้าคุณจะกรุณาให้ความร่วมมือผมจะขอบคุณมาก"

จงชือว่าแล้วลุกขึ้นไปตามกู่หลินกลับมา อภิชาติรู้ตัวว่าเสียมารยาทรีบขออภัยกู่หลิน เธอพยักหน้ายอมรับคำขอโทษ แต่ไม่พูดอะไรทรุดตัวลงนั่งที่เดิม จงชือเท้าความให้ฟังว่าทำไมกู่หลินถึงมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

เนื่องจากพ่อของเธอเป็นศัลยแพทย์ทางสมองที่เก่งขั้นเทพ นายยูเว่ถูกพวกเดียวกันยิงแต่ไม่ตาย กระสุนฝังที่หัว ลูกน้องของนายยูเว่จับพ่อของกู่หลินไปทำการผ่าตัดให้เจ้านาย การผ่าตัดสำเร็จ แต่ส่วนกะโหลกของนายยูเว่เสียหาย พ่อของกู่หลินต้องใช้แผ่นไทเทเนียมมาปิดแทน

"ไม่ว่าไอ้ยูเว่จะปลอมตัวอย่างไร มันก็ยังมีแผ่นเหล็กอยู่ที่หัว" อภิชาติพูดเสริม

จงชือพยักหน้ารับคำ เล่าอีกว่า หลังจากผ่าตัดเสร็จ นายยูเว่ก็ฆ่าพ่อของกู่หลินเพื่อปิดปาก โชคดีที่ก่อนตาย เขามีโอกาสบอกความลับเรื่องแผ่นไทเทเนียมกับลูกสาว และนี่คือสาเหตุที่กู่หลินทุ่มเทสร้างเครื่องตรวจจับไทเทเนียมชนิดพิเศษขึ้นมา จงชือยกสร้อยคอมีเหรียญกลมขนาดเหรียญสิบบาทห้อยอยู่ให้อภิชาติดู

"เมื่อไหร่ที่คุณเผชิญหน้ากับนายยูเว่ เหรียญจะสั่นและส่งกระแสไฟฟ้าอ่อนๆออกมาช็อตผิวหนังคุณ" จงชือส่งสร้อยเส้นนั้นให้อภิชาติคล้องคอไว้

"คุณกู่หลิน...ผมสัญญา ผมจะจับตัวไอ้ยูเว่ให้ได้" อภิชาติ สบตากู่หลินด้วยสายตามุ่งมั่น...

สินชัยรู้ว่านายทอมคอยเลื่อยขาเก้าอี้ตนเองอยู่ตลอด ครั้งนี้ก็เช่นกัน พอเห็นเขาก้าวพลาดถูกตำรวจบุกปิดบ่อน ของ เถื่อนถูกยึด แถมแหล่งค้ามนุษย์ก็ถูกกวาดล้าง นายทอมกะจะ เอาเรื่องนี้ไปรายงานนายใหญ่โดยไม่ฟังคำทัดทานใดๆของเขา สินชัยตัดสินใจกำจัดนายทอมแล้วโยนความผิดให้แก๊งมังกร

จากนั้นสินชัยเรียกลินจงมาพบ ตำหนิเธอว่าธุรกิจของเขาต้องพังพินาศเพราะเธอไร้ความสามารถ ลินจงทักท้วงว่าเธอไม่ได้มีหน้าที่ดูแลบ่อนหรือธุรกิจผิดกฎหมายใดๆของสินชัย งานของเธอคือดักทำร้ายเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ปล้นชาวบ้านและจัดการนางเสือเท่านั้น

"แต่เป็นเพราะงานของคุณล้มเหลว ทำให้มีผลกระทบต่อหน่วยอื่นๆของเรา...คุณไม่มีประโยชน์สำหรับเราอีกต่อไป" สินชัยชักปืนขึ้นมาจ่อลินจง

"ฝีมืออย่างท่านคิดจะเก็บเราไม่ใช่เรื่องง่าย" ลินจงยิ้มแสยะรู้ดีว่าฝีมือของเธอเหนือกว่าเขามากนัก

ทันใดนั้น สมุนของสินชัยนับสิบๆคนโผล่พรวดมาล้อมลินจงไว้ ที่สินชัยยังไว้ชีวิตลินจงก็เพราะเธอมีผลงานสามารถเขี่ยฤทธิชัยพ้นทาง เขาจะให้โอกาสเธออีกครั้งเป็นครั้งสุดท้าย ลินจงได้แต่พยักหน้ารับคำ...

ลินจงประเมินสถานการณ์แล้วเห็นว่าลำพังเธอคนเดียวคงรับมือพวกนางเสือไม่ไหว จึงให้คนไปเชิญอาจารย์ผู้มีวิชาแก่กล้าของเธอที่ชื่อ "เฉิน" มาช่วย พอได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากลินจง อาจารย์เฉินสรุปว่า

"ผู้หญิงที่ถูกจรวดยิงมีพลังคุ้มครอง ร่างกายไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ภายในกระทบกระเทือนหนักจนวิญญาณออกจากร่าง แล้วไปอาศัยร่างใหม่ จนกว่าร่างเก่าจะกลับคืนเป็นปกติ"

"ที่แท้เป็นอย่างนี้เอง"

"ถ้าเป็นจริงอย่างที่ว่า แสดงว่าเจ้ากำลังเผชิญศัตรูที่มีพลังและฝีมือที่น่ากลัว"

"แต่คงไม่มากกว่าอาจารย์"

"เจ้าบอกว่ามีถึงสามคน ข้าเกรงว่าข้าจะเสียเปรียบถ้าพวกมันบุกเข้ามาพร้อมๆกัน" อาจารย์เฉินสีหน้าเคร่งเครียด ลินจงมีทางออกให้ เราต้องกำจัดพวกนางเสือทีละคนไม่ให้รวมกันติด

ooooooo

ดาวเรียกประชุมชาวค่ายอาสาฯเพื่อเตือนให้ระวัง พวกสมุนสินชัยจะตามมาแก้แค้นที่โดนพวกเรานำ กำลังเจ้าหน้าที่ของทางการออกปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมายของพวกมัน

"ใครที่อยู่ไกล ก็เข้ามาอยู่กันที่ค่ายก็ได้ จนกว่าเรื่องจะเย็นลง...ถ้าที่ทางไม่พอก็กางเต็นท์กันไปก่อน"

ขณะดาวกำลังกล่าวต้อนรับการกลับมาช่วยค่ายอาสาฯของลุงหงวน มีเสียงระเบิดดังขึ้นติดๆกันหลายครั้งหน้าค่าย
ชาวค่ายอาสาฯรู้ว่าถูกพวกสมุนของสินชัยรังควานเตรียมจะออกไปสู้ ดาวต้องร้องห้ามเสียงลั่น

"เดี๋ยวก่อน...ทุกคนฟังทางนี้...ดาวอยากให้ทุกคนรออยู่ที่นี่ ด้วยความสงบ พวกเราจะออกไปจัดการกับพวกมันเอง" ดาวหันไปทางสมาชิกโจรในคราบชาวค่ายอาสาฯ สั่งให้คอยระวังอย่าให้ใครออกจากห้องประชุมเด็ดขาด แล้วชวนจักจั่นกับไผ่ไปหน้าค่าย ลุงหงวนขอตามไปด้วย ดาวพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต

พอดาวกับพวกมาถึงหน้าค่าย เห็นนายไชยกับสมุนหลายคนอาวุธครบมือยืนคุมเชิงอยู่บนท้ายรถกระบะ ด้านหน้าของพวกนั้นมีชาวบ้านทั้งชายและหญิงหลายสิบคนยืนอยู่ พวกชาวบ้านต่างส่งเสียงตะโกนขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกันว่า "ปิดค่ายอาสาฯ" ดาวออกมายืนประจันหน้ากับพวกชาวบ้าน

"ค่ายอาสาฯสอดส่องไม่ให้คนร้ายเข้ามาลักลอบตัดไม้ ขายของเถื่อนและทำสิ่งชั่วๆในบ้านดอนเสือ ช่วยเจ้าหน้าที่กำจัดคนเลว"

"พวกค่ายอาสาฯทำให้กิจการป่าไม้หยุดชะงัก นายทุน ไม่กล้าเข้ามาซื้อสัมปทาน คนไม่มีงานทำชาวบ้านไม่มีจะกิน" นายไชยโต้กลับอย่างไม่ยอมแพ้ แต่ยังคงยืนอยู่หลังกลุ่มชาวบ้านเหมือนเดิม ชาวบ้านเรียกร้องให้ปิดค่ายอาสาฯอีก ดาวไม่พอใจมากตวัดปืนขึ้นมาถือไว้

"ใครคิดจะปิดค่ายก็เข้ามา แต่ขอบอกไว้ก่อน ปืนจริงกระสุนจริง"

จักจั่นกับไผ่ก้าวเข้ามายืนขนาบข้างดาว ในมือทั้งคู่ ถือปืนเตรียมพร้อม ชาวบ้านชักลังเล นายไชยยุส่งให้พวกชาวบ้านลุยเข้าไปเลยไม่ต้องกลัว พวกดาวไม่กล้าทำอะไรใคร จักจั่นเอาปืนชี้หน้านายไชย

"เอ็งไม่กลัว ทำไมไปอยู่ข้างหลังล่ะ...ไอ้หน้าตัวเมีย"

"จักจั่น...พูดจาไม่สุภาพ"

"ขอโทษค่ะพี่ดาว...คุณหน้าตัวเมีย" จักจั่นหัวเราะคิกคักชอบใจ

นายไชยแค้นจัดทำอะไรไม่ถูก ลุงหงวนได้ทีแนะพวกชาวบ้านลองถอยไปอยู่ข้างหลังพวกนายไชย แล้วดูว่าพวกนั้นจะกล้าออกหน้าจริงหรือเปล่า ชาวบ้านเริ่มทำตามที่ลุงหงวนบอกทยอยไปยืนหลังพวกนายไชยจนหมด ลุงหงวนชักปืนยิงขึ้นฟ้าดังปัง นายไชยสะดุ้งโหยง โดดผลุงลงไปยืนรวมกับพวกชาวบ้าน

"เห็นหรือยังพี่น้อง แค่เสียงปืนมันก็รีบโดดลงแทบไม่ทัน...เชื่อหรือยังว่ามันเก่งแต่ปาก" ลุงหงวนยิ้มเยาะ

"ไปดีกว่าพวกเรา ให้เงินนิดเดียวมาตายแทนมันไม่คุ้มเว้ย" ชาวบ้านตะโกนลั่นก่อนจะพากันสลายตัวเหลือแต่นายไชยกับพวก นายไชยเห็นท่าไม่ดีพากันขึ้นรถขับออกไปอย่างรวดเร็ว ดาวยิ้มพอใจ

ลินจงนั่งสังเกตการณ์อยู่ในรถตู้ซึ่งจอดฝั่งตรงข้ามค่ายอาสาฯ ชี้ให้อาจารย์เฉินดูจักจั่น บอกว่านี่คือผู้หญิงที่เธอคิดว่ามีสองร่าง อาจารย์เฉินมองดาว ไผ่ กับจักจั่นแล้ว รู้สึกได้ทันทีว่าทั้งสามคนมีพลังพิเศษอยู่ในตัว จังหวะที่รถตู้ของลินจงเคลื่อนออกไป ดาวหันขวับมามอง อาจารย์เฉินถึงกับผงะเล็กน้อย

"ผู้หญิงคนนั้น พลังสูง มันสบตากับข้า"

"แต่รถปิดกระจกทึบนะคะอาจารย์"

"จิตของมันแข็งมากจริงๆ" อาจารย์เฉินหน้าเครียด ดาวมองตามรถตู้ไปจนลับสายตา แล้วเตือนจักจั่นกับไผ่ให้ระวังตัวมีคนมีฝีมือมาคอยจับตาดูพวกเราอยู่ เธอสัมผัสพลังของคนคนนี้ได้

ooooooo

ฤทธิชัยขี้เกียจนั่งๆนอนๆอยู่แต่ในค่าย พอรู้ว่าลุงเดชจะส่งคนไปสมทบกับพวกของแสงที่ถ้ำซึ่งเก็บร่างของจักจั่น เขาขอตามไปเป็นกำลังเสริมอีกแรง ระหว่างรถจี๊ปของสมาชิกโจรแล่นมาตามทางในป่า มีเสียงสายลมร้องดังขึ้น ฤทธิชัยรับรู้ได้ถึงภัยใกล้ตัวกวาดสายตาไปรอบๆ มีเสียงสายฟ้าคำรามดังตามมา

ผู้กองหนุ่มตะโกนลั่น "หยุดรถ...ถอยรถเร็วเข้า..."

ฤทธิชัยพูดยังไม่ทันขาดคำ มีเสียงปืนดังขึ้นเป็นชุด สมาชิกโจรถูกคมกระสุนกระเด็นตกรถสองคน ชายในชุดดำออกจากพงไม้ริมทางสาดกระสุนมาที่รถจี๊ปไม่ยั้ง ฤทธิชัยตะโกนบอกให้ทุกคนลงจากรถหาที่กำบัง พวกชายในชุดดำกลับหยุดยิง กระจายกำลังกันล้อมพวกฤทธิชัยไว้ ผู้กองหนุ่มชักเอะใจ

"พวกมันมีแผนถล่มนายแสงแน่ๆถึงได้ปิดทางพวกเรา... ผมจะอ้อมไปข้างหลัง จัดการกับพวกมัน ขอคนนำสองคน...ผมว่าพวกมันไม่บุกเข้ามาหรอก มันต้องการให้เราติดอยู่ที่นี่"

"กุ่ย...กับหลาว พอพวกข้ายิงสาดพวกมัน เอ็งนำผู้กองไป...ขอให้ผู้กองโชคดี"

ฤทธิชัยพยักหน้า สมาชิกโจรพากันสาดกระสุนใส่กลุ่มชายในชุดดำ นายกุ่ยกับนายหลาววิ่งนำฤทธิชัยอ้อมไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว หนึ่งในพวกนั้นเห็นพอดีส่งพรรคพวกออกตามล่า...

ขณะเดียวกัน ที่ศูนย์บัญชาการของจงชือ อภิชาติ จงชือ และกู่หลินกำลังระดมความคิดว่าจะทำอย่างไรให้สินชัยพาเราไปพบนายยูเว่อย่างรีบด่วน เห็นพ้องต้องกันว่ามีทางเดียวเท่านั้นคือต้องใช้เงินปลอมเข้าล่อ

ในเมื่อไม่มีใครรู้จักหน้าตาที่แท้จริงของนายยูเว่ อภิชาติจึงวางแผนให้ตัวเองสวมบทเป็นนายยูเว่ ตรงไปหาสินชัยที่ออฟฟิศของเขา สินชัยไม่ค่อยแน่ใจนักว่าจะใช่นายยูเว่จริงอย่างที่กล่าวอ้างหรือเปล่า แต่พออภิชาติวางแบงก์พันดอลลาร์ ลงตรงหน้า สินชัยถึงกับคาดไม่ถึง หยิบขึ้นมาดูอย่างตื่นเต้น เข้าทางอภิชาติทันที

"เงินแบงก์พันมีปัญหา...มีตำหนิ ผมต้องรีบไปตรวจดูแม่พิมพ์โดยด่วน"

"น่าจะตรวจดูทางคอมพิวเตอร์ก่อน ไม่จำเป็นต้องถึง โรงพิมพ์ก็ได้" สินชัยทักท้วง

"ก็เพราะตรวจทางคอมพิวเตอร์นะสิ ผมถึงไม่เห็นรอยตำหนิ ไปดูแม่พิมพ์เลยดีกว่า ถ้ามีตำหนิจริงผมจะได้แก้ หลังจากนั้นค่อยไปตรวจดูจากคอมพิวเตอร์อีกครั้งว่าเห็นหรือไม่เห็น"

"คุณน่าจะโทร.มาให้ผมไปรับก็ได้ ผมนึกว่าคุณไม่อยากไปไหนเสียอีก" สินชัยจ้องอภิชาติอย่างจับพิรุธ

"แหม...ผมก็เบื่อของผมมั่งสิ ต้องออกมาหาสาวๆกันบ้างคุณก็รู้ๆอยู่...ที่ผมปลอมตัวเป็นนายอภิชาติเพราะนายอภิชาติเป็นทนายความที่มีชื่อเสียง ไปไหนมาไหนสะดวก น่าจะดีกับคุณนะ" อภิชาติยิ้ม ทำให้สินชัยเริ่มยิ้มออก คลายความสงสัยไปได้เปลาะหนึ่ง

"คุณบาโล ยูเว่ ฝีมือปลอมตัวของคุณเหนือชั้นจริงๆ... นายอภิชาติต้องคลั่งแน่ ถ้ารู้ว่าตัวมันคือคนที่อำนวยความสะดวกให้ผมทุกอย่าง" ทั้งคู่ต่างหัวเราะชอบใจ

อภิชาติเร่งสินชัยรีบพาไปยังโรงพิมพ์ทันที ครู่ต่อมา

อภิชาติกับสินชัยเดินออกมาหน้าตึกออฟฟิศพร้อมด้วยบอดี้-การ์ดสองคน ตรงไปขึ้นรถตู้ ขับออกไป โดยไม่ทันสังเกตเห็นรถของจงชือสะกดรอยตามมาห่างๆ

ooooooo

ระหว่างที่ดาวกำลังปรึกษากับจักจั่นและไผ่อยู่ ในห้องประชุมของค่ายอาสาฯ เรื่องที่เธอสัมผัสกับพลังชั่วร้ายของยอดฝีมือตรงข้ามได้ หญิงชาวค่ายอาสาฯ

คนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามารายงานว่าพวกนายไชย มาป่วนหน้าค่ายอีกแล้ว ทันใดนั้น มีเสียงสายลมร้องดังขึ้น

ดาวเงี่ยหูฟังได้ยินเสียงหัวใจจักจั่นเต้นแรงขึ้นๆ หันขวับไปมองเห็นจักจั่นหายใจหอบถี่ เอามือกุมหัวไว้ ดาวปราดเข้าไปประคอง รีบหลับตาทำสมาธิส่งพลังเข้าร่างจักจั่น อึดใจ เสียงหัวใจเธอเต้นเบาลงๆจนเป็นปกติ จักจั่นสะบัดหัวไล่ความมึนงง ไผ่ถามน้องสาวด้วยความเป็นห่วงว่าเป็นอย่างไรบ้าง

"ดีขึ้นแล้ว...พี่ดาวจักจั่นเป็นอะไรไป"

"พี่ว่าร่างเดิมของจักจั่นส่งพลังมาเตือนภัยให้จักจั่น

รู้...แย่แล้ว พวกมันบุกไปที่เก็บร่างของจักจั่น" ดาวสัมผัสเหตุร้ายได้ สั่งให้ไผ่อยู่รับมือกับพวกนายไชยที่นี่ ส่วนเธอกับจักจั่นจะไปที่ถ้ำเอง...

ขณะรถตู้ของสินชัยกำลังบ่ายหน้าสู่โรงพิมพ์ มีเสียงมือถือของสินชัยดังขึ้น สมุนโทร.มารายงานว่ามีคนของแก๊งมังกรมาป้วนเปี้ยนแถวโรงพิมพ์ สินชัยเลยต้องเปลี่ยนแผนพาอภิชาติไปหาที่นั่งดื่มเหล้าฆ่าเวลาระหว่างรอเคลียร์แก๊งมังกร ไม่นานนัก รถตู้ของสินชัยเลี้ยวเข้าไปจอดที่โรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่ง รถของจงชือรีบจอดข้างทาง จงชือแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น หรือว่าสินชัยจับโกหกอภิชาติได้ รีบหยิบมือถือขึ้นมากดเบอร์

"ผมต้องการเจ้าหน้าที่พิเศษเพื่อปฏิบัติการด่วน" จงชือวางสายสีหน้าเป็นกังวล...

ภายในห้องล็อบบี้ของโรงแรม ระหว่างที่สินชัยกับอภิชาติซึ่งสวมบททนายยูเว่กำลังยกแก้วเหล้าขึ้นชนกัน มีเสียงร้องเรียกอภิชาติขึ้นด้านหลัง ทั้งคู่หันไปมอง เห็นสาวสวยสองคนยืนอยู่ อภิชาติงงไม่รู้จักสองสาวจริงแต่กลายเป็นดี เพราะนายยูเว่ย่อมไม่รู้จักสาวๆของอภิชาติ ทำให้สินชัยเชื่อว่าเป็นนายยูเว่ตัวจริงช่วยแก้ตัวให้

"คุณอภิชาติ คุณมีสาวเยอะจนจำไม่ได้"

อภิชาติรีบสวมรอย ลุกขึ้นยืน "อ๋อ...สวัสดีครับ...คุณ..."

"อุ๋ยไงคะ...แล้วนี่ก็หลิน ตายแล้วทำเป็นลืม"

อภิชาติได้ยินชื่อหลินพอจะเดาเหตุการณ์ออก ขอโทษสาวๆที่จำไม่ได้ ทักทายกันพอหอมปากหอมคอ ก็ถึงเวลาบอกลา หลินกางแขนออกเหมือนจะให้อภิชาติกอด เขากลับยืนนิ่ง หลินทำงอน ต่อว่าว่าเดี๋ยวนี้แค่ลาเฉยๆไม่มีกอดกันแล้วหรือ แล้วสะบัดหน้าออกไป อุ๋ยค้อนขวับ เดินตาม

อภิชาติรู้งานรีบเดินตามหลินจนทัน ซึ่งตอนนั้นอยู่ห่างจากสินชัยพอสมควร แต่เขายังมองตามตาไม่กะพริบ อภิชาติ ดึงหลินมากอด หลินกระซิบถามว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมไม่ไปโรงพิมพ์ อภิชาติกระซิบตอบว่าแก๊งมังกรไปป้วนเปี้ยนแถวนั้นเลยไปไม่ได้ ช่วยเคลียร์ด่วน หลินรับคำ แล้วถอยออกจากอ้อมกอดอภิชาติ

"อย่างนี้ค่อยยังชั่ว...หลินหายโกรธแล้วค่ะ...แล้วเจอกันนะคะ" หลินพูดเสียงดังให้สินชัยได้ยิน

อภิชาติเดินกลับมานั่งที่เดิม "ปลอมเป็นนายอภิชาติก็ลำบากตรงนี้แหละ สาวเยอะ...เกือบแย่"

"คุณเองก็มีสาวเยอะเหมือนกัน คุณยูเว่"

อภิชาติแกล้งหัวเราะ สินชัยพลอยหัวเราะไปด้วยไม่ติดใจสงสัยอะไรอีก จังหวะนั้น มีเสียงมือถือของสินชัยดังขึ้น สมุนโทร.มาแจ้งว่าแก๊งมังกรสลายตัวไปแล้ว สินชัยชวนอภิชาติไปโรงพิมพ์ทันที

ooooooo

ในเวลาเดียวกัน ฤทธิชัยจัดการกลุ่มชายในชุดดำ ที่ตามไล่ล่าเขา นายกุ่ยและนายหลาวได้อย่างง่ายดายจากนั้น ทั้งสามคนตีโอบกลุ่มชายชุดดำที่ลอบทำร้ายพวกเขา และสังหารพวกนั้นได้หลายคน พวกที่เหลือสู้สมาชิกโจรกับฤทธิชัยไม่ได้ ทิ้งปืนยอมแพ้...

อีกด้านหนึ่งของป่าลึกแถวหุบเขา ลินจงและอาจารย์เฉินส่งสมุนในชุดดำเคลื่อนกำลังเข้าใกล้ถ้ำเก็บร่างจักจั่นทุกขณะ สมาชิกโจรที่เฝ้าระวังอยู่โดยรอบ เริ่มสาดกระสุนใส่พวกลินจงที่ดาหน้าเข้ามา แสงกับสมาชิกโจรอีกสองคนพร้อมอาวุธครบมือเตรียมพร้อมอยู่ในถ้ำเป็นด่านสุดท้ายก่อนจะถึงร่างของจักจั่น...

เสียงปืนยิงต่อสู้กันดังมาถึงหูของดาวกับจักจั่น ดาวรีบจอดรถจี๊ปแล้วเงยหน้าสัมผัสป่า รู้ทันทีว่ายอดฝีมือฝ่ายตรงข้ามใกล้ถึงถ้ำ จักจั่นก็รู้สึกได้ถึงพลังของเขาเช่นกัน

"จักจั่นไปช่วยพ่อแสง ดูแลร่างเดิมไว้ พี่จะไปจัดการพวกมัน" ดาวพูดจบดีดตัวออกไป จักจั่นตะโกนไล่หลังให้เธอระวังตัวด้วย แล้วพุ่งตัวไปทางหุบเขาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด...

ท่ามกลางเสียงปืนดังสนั่นและเสียงร้องโอดโอยของผู้ได้รับบาดเจ็บ ลินจงกับอาจารย์เฉินมุ่งหน้าไปที่ยังถ้ำเป้าหมาย แต่อยู่ๆอาจารย์เฉินหยุดกึก หันขวับไปมองในราวป่าอีกด้านหนึ่ง

"มีคนมา...เจ้ารีบเข้าไปจัดการกับร่างที่อยู่ในถ้ำ ข้าจะรับมือมันเอง" อาจารย์เฉินโบกมือไล่ลูกศิษย์สาว

ทันทีที่ลินจงดีดตัวออกไป ดาวพุ่งลงมาจากยอดไม้ยืนประจันหน้ากับอาจารย์เฉิน สายฟ้าก้าวตามมายืนข้างๆ คำรามก้อง ทันใดนั้น สายลมซึ่งบินวนอยู่เหนือถ้ำส่งเสียงร้องดังขึ้น ดาวมองผ่านทางสายตาของสายลมเห็นชายในชุดดำสมุนของลินจงจำนวนมากชิงความได้เปรียบ ตีฝ่ากลุ่มสมาชิกโจรถึงทางเดินขึ้นถ้ำ

"สายฟ้า...ดาวจัดการเองได้ สายฟ้าไปช่วยดูจักจั่นหน่อยนะจ๊ะ"

สายฟ้าคำรามแล้วกลายร่างเป็นควันดำพุ่งหายไป อาจารย์เฉินกับดาวตรงเข้าปะทะฝีมือกันอย่างดุเดือด ทั้งสองคนต่างผลัดกันรุกผลัดกันรับไม่มีใครยอมใคร...

ทางด้านจักจั่นมาถึงลานหน้าถ้ำช่วยสมาชิกโจรซึ่งกำลังเพลี่ยงพล้ำยิงต่อสู้กับชายในชุดดำ ฆ่าพวกนั้นตายเป็นเบือ อึดใจเดียว สายฟ้าก็ปรากฏตัวขึ้น พุ่งตะปบพวกนั้นล้มคว่ำที่เหลือสู้ไม่ได้เริ่มล่าถอย ลินจงมองดูสมุนของตัวเองที่เริ่มเสียเปรียบด้วยความแค้น โบกมือเรียกชายในชุดดำคนหนึ่งเข้ามารับคำสั่ง

"ระเบิดถ้ำ"

ชายคนนั้นพยักหน้าแล้วรีบปฏิบัติตามทันที...จักจั่นกวาดตามองไปรอบๆบริเวณอย่างระแวดระวัง แปลกใจที่เห็นพวกนั้นล่าถอยไปง่ายๆ แต่แล้วกลับต้องตกใจเมื่อกลุ่มชายในชุดดำดาหน้าเข้ามาพร้อมด้วยปืนยิงจรวดอาร์พีจีสามกระบอก จักจั่นตะโกนเตือนทุกคน

"พวกมันจะถล่มถ้ำ"

สิ้นเสียงพูดของจักจั่น จรวดอาร์พีจีสามลูกพุ่งออกมาเกือบจะพร้อมกันตรงไปยังปากถ้ำ จักจั่นเป็นห่วงพ่อซึ่งเฝ้าระวังอยู่ในถ้ำ รีบดีดตัวไปที่นั่นอย่างรวดเร็ว เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว ทั้งถ้ำสั่นสะเทือน เศษหินร่วงกราว แสงหันไปมองด้านหลัง เห็นเศษหินร่วงใส่ร่างของจักจั่นที่นอนอยู่บนแท่นหิน

"พวกมันระเบิดถ้ำ คิดจะทำลายร่างจักจั่นลูกข้า" แววตาของแสงเต็มไปด้วยความแค้นสุดๆ

มีเสียงระเบิดดังติดๆกันอีกสองลูก ถ้ำสั่นสะเทือนอีกครั้ง เศษหินร่วงลงใส่แสงกับสมาชิกโจร ดีที่พุ่งหลบได้ทัน สมาชิกโจรชี้ให้แสงดูอะไรบางอย่าง แสงหันมองตามมือไปที่แท่นหิน เห็นแสงสีทองจางๆปรากฏขึ้นคลุมร่างของจักจั่นไว้ เศษหินไม่สามารถทำอะไรได้

"เจ้าป่าคุ้มครองลูกข้า"

เสียงระเบิดดังขึ้นอีก คราวนี้เพดานถ้ำถล่มใส่แสงและสมาชิกโจรหายไปในม่านฝุ่น จักจั่นพุ่งเข้ามาในถ้ำเห็นแต่เศษฝุ่นฟุ้งไปทั่วร้องเรียกพ่อลั่น มีเสียงไอแค้กๆดังขึ้น เธอหันขวับไปมอง ยังไม่ทันจะเห็นอะไรก็เกิดการระเบิดขึ้นอีก หินก้อนใหญ่ๆนับไม่ถ้วนร่วงจากเพดานถ้ำทับสมาชิกโจรคนหนึ่งตายอนาถ

จักจั่นชักใจไม่ดี เรียกหาพ่อไม่หยุด มีเสียงขานรับของแสงดังขึ้น จักจั่นมองตามเสียง ถึงกับถอนใจโล่งอก เห็นพ่อกำลังประคองสมาชิกโจรอีกคนหนึ่งออกมาจากม่านฝุ่น

"ทางนี้พ่อ...เร็วเข้า...ตามมาทางนี้"

จักจั่นสะบัดมือไปข้างหน้า แสงสีทองจากฝ่ามือสว่างขึ้นเผยให้เห็นทางออก เธอวิ่งเดินนำออกไป เสียงระเบิดยังดังเป็นระยะๆ เศษหินหล่นลงมาอีกแต่จักจั่นสะบัดมือออกไป หินเหล่านั้นกระเด็นพ้นทาง ในที่สุด แสง สมาชิกโจร และจักจั่นออกมาจากถ้ำได้อย่างปลอดภัย พวกคนร้ายยังระดมยิงจรวดใส่ถ้ำไม่หยุด

"จักจั่นจะไปเอาร่างเดิมออกมา" จักจั่นบอกพ่อแล้วดีดตัวไปหน้าถ้ำ

"จักจั่นอย่าลูก...เจ้าป่าคุ้มครองอยู่แล้ว" แสงร้องห้ามแต่จักจั่นไม่ได้ยิน

ทันใดนั้น จรวดอาร์พีจีพุ่งตกหน้าถ้ำพอดี ระเบิดตูมพื้นดินสั่นสะเทือนไปทั่ว ร่างของจักจั่นกระเด็นลอยจากถ้ำ ตกโครมตรงหน้าแสงพอดี

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น