วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

ป่านางเสือ ตอนที่ 3

ตอนที่ 3

อภิชาติเพิ่งออกจากห้องพักในคอนโดฯหรูของฤทธิชัยเดินยังไม่ถึงรถตัวเองด้วยซ้ำ เพื่อนตัวดีก็โทร. มาหาอภิชาติโวยลั่นว่าโทร.มาทำไมอีก เขาไม่ว่างไปลุยพวกคนร้ายกับฤทธิชัยด้วยแล้ว

"แล้วไป ท่านรองฯโทร.มาชวนไปกินข้าวเย็นนี้ ฉันเลยโทร.มาชวนนาย นายไม่ว่างก็ไม่เป“นไร"

เจอไม้นี้เข้า อภิชาติรีบตอบตกลงเสียงอ่อย

เย็นนั้น ฤทธิชัยกับอภิชาติมานั่งรออยู่ที่ล็อบบี้โรงแรมหรูแห่งหนึ่งตามนัด โดยไม่รู้ว่าท่านรองฯนัดคุณหญิงรัตนามาด้วย หลังจากท่านรองฯแนะนำฤทธิชัยกับอภิชาติให้รู้จักกับคุณหญิงรัตนาแล้ว ฤทธิชัยรับปากกับเธอว่าจะนำตัวคนที่ทำร้ายอาอิทธิมารับโทษให้ได้ คุณหญิงรัตนามองฤทธิชัยด้วยสายตาชื่นชม

"โห...สิบห้าป•แล้ว คุณอาหญิงยังสวยอยู่เลยนะครับ อย่างนี้ถ้ามีลูกสาวต้องสวยน่าดู"

"ลูกษาหน้าตาสวยค่ะ" คุณหญิงรัตนาฝ—นยิ้ม ท่านรองฯก้องเกียรติกับฤทธิชัยถึงกับอึ้ง ฤทธิชัยพยายามส่งสัญญาณให้เพื่อนหยุดพูดเรื่องนี้ แต่อภิชาติยังปากเสียต่อ

"มิน่า...นายชัยไม่ยอมเล่าให้ผมฟังเลย ที่แท้กันท่านี่เอง"

ท่านรองฯก้องเกียรติรีบขอโทษคุณหญิง เธอไม่ถือสาอะไรหันมายิ้มให้อภิชาติ...

อภิชาติถึงกับหน้าเครียดเมื่อรู้เรื่องของหนูพฤกษาลูกสาวคุณหญิงรัตนา เกรงว่าเธอจะโกรธ ฤทธิชัยชอบใจที่เห็นเพื่อนเป“นกังวลเพราะปกติอภิชาติจะเป“นคนเอาแต่เล่นสนุก

"เฮ่อ...สงสารคุณหญิงจริงๆ เสียสามีและลูกสาวไปพร้อมๆกัน"

"นี่คือสาเหตุที่ท่านรองฯเรียกฉันมาช่วยและหาทางเล่นงานนายสินชัยให้ได้"

"ฉันเข้าใจว่าท่านรองฯคงสนิทกับคุณหญิงมาก...ฉันหมายถึงว่า ท่านรอง...คือ...แบบว่าคนพิเศษ"

ฤทธิชัยพยักหน้ารับคำ พ่อของเขาเคยเล่าให้ฟังว่า ท่านรองฯกับอาอิทธิเจอคุณหญิงพร้อมๆกัน แต่คุณหญิงเลือกอาอิทธิ ท่านรองฯก็เลยอยู่เป“นโสดตั้งแต่นั้นเป“นต้นมา อภิชาตินับถือท่านรองฯที่รักมั่นคงต่อคุณหญิง แล้ววกถามฤทธิชัยว่า

ลูกสาวคุณหญิงสวยไหม ฤทธิชัยจำไม่ได้ ตอนที่เขาเจอน้องษา เขาแค่ 5 ขวบเอง แล้วน้องษาก็แค่ขวบเดียว เขาจะไปรู้ได้อย่างไรว่าสวยหรือเปล่า

"นี่...ตามที่นายเล่า คุณหญิงยังเชื่อว่าลูกสาวของท่านยังมีชีวิตอยู่"

"คงยาก ตอนที่เกิดเหตุน้องษาอายุแค่ 4 ขวบเท่านั้นเอง นี่ก็ผ่านมาแล้ว 15 ป•"

อภิชาติสงสารคุณหญิงมาก ตัดสินใจจะช่วยฤทธิชัยเล่นงานสินชัยให้ได้

ooooooo

ที่ลานหน้าบ้านพักของลุงเดชในค่ายโจร ลุงเดชแจ้งให้ดาว จักจั่น และไผ่รู้ว่า เขาจะพาทุกคนไปดูลาดเลาศูนย์รวมเครือข่ายของสินชัย ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านดอนเสือ และพวกเราอาจจะต้องใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านดอนเสือสักระยะหนึ่ง เพื่อให้กลมกลืนกับพวกชาวบ้านเพื่อง่ายต่อการสืบข่าวและจัดการพวกนั้น

"แล้วเจ้าสายฟ้ากับสายลมล่ะค่ะ" ดาวเป“นห่วงเสือเพื่อนรัก

"สายลมยังไม่เท่าไหร่ แต่สายฟ้าคงลำบากหน่อย ขืนเอาเข้าไปผู้คนคงแตกตื่น"

ลุงเดชเห็นด้วยกับไผ่ แต่สายฟ้าอาจจะมาเจอกับดาวแถวป่าใกล้ๆหมู่บ้าน แต่ดาวต้องระวังหน่อย แล้วห้ามไม่ให้เด็กๆแสดงฝ•มือเด็ดขาดจนกว่าจะถึงเวลาเหมาะสม...

ฤทธิชัยได้ข้อมูลจากนายโจที่เคยเป“นสายให้เขาว่าบ่ายวันพรุ่งนี้จะมีการส่งมอบยาเสพติดลอตใหญ่ที่บ้านดอนเสือ เขารีบโทร.ชวนอภิชาติ...เช้าวันรุ่งขึ้น ฤทธิชัยและอภิชาติก็มุ่งหน้าสู่บ้านดอนเสือ

ooooooo

ลุงเดชพาดาว จักจั่น และไผ่มาที่ตัวเมืองดอนเสือ เดินดูลาดเลาอย่างที่วางแผนไว้ เดินกันตั้งแต่เช้าจนใกล้เที่ยงจึงแวะร้านอาหารหาอะไรกิน ขณะกำลังรอจ่ายเงินค่าอาหาร ดาวตื่นเต้นที่เห็นอภิชาติเดินนำฤทธิชัยเข้ามาร้าน เธอจำอภิชาติได้แม่น แต่ไม่แน่ใจว่าชายอีกคนใช่ตำรวจที่เธอช่วยไว้หรือเปล่า ลุงเดชเห็นท่าทางแปลกๆของดาว ถามว่ามีอะไร

"ไผ่กับจักจั่นนั่งเฉยๆอย่าหันไปดู คนนั้นคือคนที่มาช่วยตำรวจในป่าหลังจากที่ลุงเดชคุมตัวพวกมันออกไปแล้ว แต่อีกคนดาวไม่แน่ใจว่าใช่ตำรวจที่ปลอมเข้าไปหรือเปล่า เพราะดาวไม่เห็นโฉมหน้าจริง"

"พี่ดาวรู้ได้อย่างไรว่าไม่ใช่โฉมหน้าจริง"

"เพราะมัวแต่ขำหนวดที่หลุดมาครึ่งหนึ่ง หน้าที่เหลือก็ตกแต่งเลยจำไม่ค่อยได้" ดาวพูดแล้วอดขำไม่ได้

ไผ่กับจักจั่นพลอยยิ้มขำไปด้วย ดาวมองไปหน้าร้านอีกครั้ง เพราะรู้สึกได้ถึงความเคลื่อนไหว เห็นชายสองคนท่าทางมีพิรุธเป”ดประตูร้านเข้ามา มองไปทางโต๊ะของอภิชาติกับฤทธิชัยอึดใจแล้วกลับออกไป ดาวมองออกว่าเป“นสมุนของสินชัยที่ส่งมาประกบพวกตำรวจ ลุงเดชไม่อยากมีปัญหารีบลุกออกมา เด็กๆลุกตาม ดาวอดหันไปมองฤทธิชัยไม่ได้ จึงชนเข้ากับพนักงานเสิร์ฟซึ่งถือถาดใส่แก้วน้ำอย่างจัง แก้วตกแตกเสียงดัง

ฤทธิชัยหันมองตามเสียง สายตาประสานกับดาวพอดี เขารู้สึกคุ้นๆ ดาวได้สติรีบเดินตามลุงเดชออกไปหน้าร้านอาหาร พบชายสองคนเมื่อกี้ยืนคุยกับพวกตัวเองอีกคนหนึ่งที่นั่งอยู่ในรถ ไผ่เดาว่าเดี๋ยวคงมีการยิงกันเละแน่ๆ ดาวมองปราดเดียวก็รู้ว่าพวกสมุนสินชัยไม่มีฝีมือพอจะสู้สองหนุ่มนั่นได้...

ครู่ต่อมา ขณะที่ลุงเดชกับพวกเด็กๆกำลังเข้าไปในตลาดบ้านดอนเสือ เห็นมีกลุ่มชาวนามุงกันอยู่นับสิบคน ทันใดนั้นมีชายชาวนาคนหนึ่งถูกนักเลงร่างยักษ์ผลักกระเด็นมากองกลางถนน จักจั่นจะเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ลุงเดชเตือนว่าอย่าไปยุ่งเรื่องของคนอื่น ดาวโพล่งขึ้นทันทีว่า

"เรื่องพ่อค้ากดราคาพืชไร่...ดาวได้ยินทุกอย่าง อย่าถามว่าได้ยินยังไง ดาวไม่รู้ แค่อยากได้ยินก็ได้ยิน...ชาวนากำลังต่อรองราคา แต่พวกมันไม่ยอม...ดาวอยากช่วยชาวนา ขอเวลาดาวแป๊บหนึ่งนะจ๊ะลุง"

ลุงเดชนิ่งคิดอยู่อึดใจก่อนจะพยักหน้า จักจั่นกับไผ่ขอตามไปดู ลุงเดชเตือนว่าดูได้แต่ห้ามยุ่ง ปล่อยให้ดาวจัดการเอง ดาวเดินแหวกกลุ่มชาวนาเข้าไปถึงโต๊ะติดต่อรับซื้อสินค้า มีเสมียนชายนั่งอยู่ข้างๆผู้ชายท่าทางเหมือนเถ้าแก่ ด้านหลังพวกนั้นมีนักเลงตัวโตสองคนยืนคุมเชิงอยู่ เถ้าแก่ถาม เธอว่ามีอะไรมาขาย

"ฉันอยากจะขายข้าวเกวียนละหมื่นสองจ้ะ"

พวกนั้นพากันหัวเราะร่วนราวกับสิ่งที่ดาวพูดเป็นเรื่องตลก เสมียนพูดด้วยเสียงกลั้วหัวเราะว่าที่นี่รับซื้อแค่ เกวียนละสามพันบาท ดาวเพ่งสายตาไปยังเถ้าแก่ มือสองข้างของเธอที่วางอยู่บนโต๊ะตรงหน้าเขา ค่อยๆขยุ้มเข้าหากันคล้ายกำลังบีบอะไรสักอย่าง พลันเถ้าแก่หัวเราะไม่ออกเหมือนมีอะไรติดคอ ส่งเสียงครืดคราด

"อะไรนะจ๊ะ...ได้เหรอจ๊ะ ขอบใจจ้ะ"

เสมียนหันมองหน้าเถ้าแก่ เห็นเขาพยักหน้า ดาวตะโกนบอกพวกชาวนาว่าเถ้าแก่ตกลงรับซื้อข้าวในราคาเกวียนละหนึ่งหมื่นสอง พันบาท ชาวนาต่างเฮโลกันเข้ามา ดาวสั่งเสมียนให้จดลงสมุดบัญชี เสมียนรีบจดมือเป็นระวิง นักเลงเห็นผิดสังเกต เข้ามาไล่พวกชาวนา ดาวไล่นักเลงกลับแล้วตั้งท่าเอาเรื่อง

จักจั่นกับไผ่จะเข้าไปช่วย ลุงเดชสั่งให้เฉยไว้ก่อน นักเลงเดินเข้าหาเงื้อมือตบ ดาวเบี่ยงตัวหลบแล้วตบสวนเข้าเต็มหน้ากระเด็นไปชนโต๊ะล้มระเนระนาด เสียงดังโครมครามทำให้พวกนักเลงที่อยู่ด้านในอีกสามคนกรูกันออกมาล้อมกรอบ ดาวไว้ จังหวะนั้น ฤทธิชัยกับอภิชาติเข้ามาขวางพวกมัน แล้วบอกให้ดาวถอยไปก่อน

ดาวขยับจะถอยแต่พวกนักเลงไม่ให้ไป เธอเลยตั้งการ์ดเตรียมสู้ ดาวรู้ดีว่าจะใช้พลังเต็มที่ไม่ได้ จึงใช้แค่ครึ่งเดียว ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฤทธิชัยกับอภิชาติ แค่อึดใจ ทั้งสามคนจัดการพวกนักเลงได้หมด ลุงเดช จักจั่น และไผ่ตามเข้ามาสมทบ ลุงเดชขอบคุณชายหนุ่มทั้งสองที่มาช่วยหลานสาวของตนไว้ อภิชาติแนะนำตัวเองเสร็จ อ้าปากจะแนะนำฤทธิชัยว่าเป็นตำรวจ แต่ฤทธิชัยชิงแนะนำตัวเองก่อน

"ผมฤทธิชัยครับ มาเยี่ยมเพื่อนที่บ้านดอนเสือ"

"ผมชื่อเดช นี่หลานๆของผม คนก่อเรื่องนี่ชื่อดาว นั่นจักจั่นแล้วก็ไผ่"

ต่างคนต่างยิ้มให้กัน จักจั่นสบตาอภิชาติแล้วอายม้วน ลุงเดชขอตัวแล้วผละจากไป พวกเด็กๆรีบตาม อภิชาติสงสัยว่าทำไมฤทธิชัยต้องปกปิดเรื่องที่เป็นตำรวจด้วย ฤทธิชัยอ้างว่าไม่อยากดัง เสียงเถ้าแก่เล่นงานเสมียนว่าใครสั่งให้รับซื้อข้าวเกวียนละหนึ่งหมื่นสอง พันบาท เสมียนสวนทันทีว่าเถ้าแก่นั่นแหละสั่ง ฤทธิชัยเตือนเถ้าแก่ว่าถ้าคิดจะโกงละก็เจอดีแน่ เถ้าแก่พูดไม่ออก ชาวบ้านต่างดีใจรีบเข้าไปรับเงิน...

ด้านลุงเดชกับพวกเด็กๆเดินออกจากตลาดสวนกับรถของชายสองคนที่เข้าไปในร้าน อาหาร ทุกคนหยุดหันกลับมองเห็นฤทธิชัยกับอภิชาติยืนคุมเชิงให้พวกชาวนาอยู่ รถพวกนั้นค่อยๆแล่นเข้าไปใกล้ ลุงเดชสั่งให้เด็กเฉยไว้ เขาคิดว่าหนุ่มสองคนนั่นมีฝีมือพอ ฤทธิชัยกับอภิชาติยืนหันหลังให้ถนนขณะที่รถของคนร้ายแล่นมาถึงด้านหลังพวก เขา มีปากกระบอกปืนโผล่ออกมาจากรถ ดาวจ้องไปยังสองคนนั่นตาไม่กะพริบ พึมพำว่า

"หันกลับมาได้แล้วตาทึ่ม"

พลัน ฤทธิชัยกับอภิชาติหันขวับพร้อมกับปืนในมือ สาดกระสุนใส่รถคนร้ายไม่ยั้ง พวกนั้นไม่มีโอกาสตอบโต้ ได้แต่ขับรถหนีออกไปอย่างรวดเร็ว ดาวถอนใจโล่งอก นึกอยู่ในใจว่าสองคนนั่นจะไม่รอดเสียแล้ว แต่เธอต้องแปลกใจที่เห็นฤทธิชัยหันขวับมามองที่กลุ่มของพวกเธอ ลุงเดชชวนเด็กๆกลับกันได้แล้ว

อภิชาติเห็นท่าไม่ดีชวนฤทธิชัยกลับ ทั้งคู่เดินไปตามทิศทางที่รถของคนร้ายแล่นออกไป ฤทธิชัยก้มดูที่พื้นถนน เห็นรอยเลือด คาดว่าน่าจะเป็นของพวกคนร้าย ทั้งสองคนรีบไปดักรอพวกนั้นที่สถานีอนามัย...

ในเวลาต่อมา ฤทธิชัยกับอภิชาตินั่งดื่มกาแฟอยู่ในร้านกาแฟฝั่งตรงข้ามสถานีอนามัยบ้านดอน เสือ ไม่นานนัก มีรถกระบะคันหนึ่งมาจอดหน้าสถานีอนามัย คนร้ายสองคนลงจากรถ คนหนึ่งท่าทางบาดเจ็บที่หัวไหล่เดินเซๆแล้วพากันเข้าไปข้างใน สองหนุ่มนั่งดื่มกาแฟรอจนพวกนั้นกลับออกมา คนร้ายที่ได้รับบาดเจ็บเดินแยกไปอีกด้านหนึ่ง ขณะที่เพื่อนของเขาขึ้นรถกระบะขับออกไป ฤทธิชัยจ่ายเงินแล้วบอกให้อภิชาติตามคนเจ็บ ส่วนเขาจะตามคนขับรถเอง อภิชาติยกกาแฟเย็นขึ้นดื่ม หันไปลาป้าเจ้าของร้านแล้วตามคนเจ็บไป

ooooooo

ขณะที่ลุงเดชกับเด็กๆเดินเตร่อยู่ในตลาดบ้านดอนเสือ เจอลุงหงวนกับป้าเนียนเพื่อนร่วมค่ายอาสาฯกับลุงเดช ป้าเนียนดีใจมาก คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอเพื่อนเก่า ชวนลุงเดชกับพวกไปคุยกันต่อที่บ้านของเธอ...

พอถึงบ้านป้าเนียน เด็กๆแยกไปที่ห้องดูทีวี ส่วนพวกผู้ใหญ่คุยกันอยู่อีกห้องหนึ่ง จักจั่นกดรีโมตทีวีเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมีใบหน้าของผู้หญิงสวยคนหนึ่งปรากฏ เธอกดเปลี่ยนช่องอีก ดาวบอกให้ถอยกลับดูช่องเมื่อกี้ จักจั่นกดรีโมตถอยกลับ เห็นพิธีกรรายการกำลังแนะนำผู้ชมให้รู้จักกับคุณหญิงรัตนา

ดาวจ้องมองคุณหญิงรัตนาด้วยความสนใจ เนื้อหาของการสัมภาษณ์เป็นเรื่องของการอนุรักษ์ป่าไม้ที่คุณหญิงรัตนาให้การ สนับสนุน ดาวไม่เข้าใจว่าทำไมถึงรู้สึกผูกพันกับผู้หญิงคนนี้

"คุณหญิงรัตนาสวยแล้วใจดีอีกด้วย รักป่าเหมือนพวกเราเลยนะพี่ดาว" จักจั่นอดชื่นชมคุณหญิงไม่ได้

ดาวเอาแต่จ้องมองคุณหญิงรัตนาแทบไม่ได้ยินที่จักจั่นพูดด้วย...

ป้าเนียนพูดถึงพวกนักเลงในบ้านดอนเสือแล้วเลือดเจ้าหน้าที่อาสาฯเก่าพลุ่ง พล่าน ผิดกับลุงหงวนที่ดูกลัวๆไม่อยากพูดถึง แถมขอตัวกลับบ้านหน้าตาเฉยอ้างว่าต้องเอายาไปให้เมีย พอลุงหงวนคล้อยหลัง ป้าเนียนแอบนินทาว่าตั้งแต่เมียของลุงหงวนล้มป่วย ลุงหงวนก็เก็บตัวเงียบห่วงเมียไม่ยุ่งกับใครไม่กล้าเหมือนเมื่อก่อน

"บ้านดอนเสือเปลี่ยนไปเยอะ เจริญขึ้นมาก"

"ก็ตั้ง 15 ปีแล้วนี่ แต่อย่างที่บอก นักเลงมันคุมหมด รีดไถชาวบ้าน...เฮ่อ...เสียดายท่านอิทธิแท้ๆ" ป้าเนียนว่าแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตา "วันนั้น ฉันก็ดันไปกรุงเทพฯ เลยไม่ได้เจอลูกสาวแก เห็นว่าน่ารัก...เฮ่อ...น่าสงสารทั้งคู่ นี่ถ้าท่านอยู่ พวกมันต้องหัวหด ลุงเดชน่าจะกลับมาอยู่ที่นี่ จะได้ช่วยกันจัดการพวกมัน มาอยู่ที่บ้านฉันเนี่ยล่ะ ที่ทางเยอะแยะ ฉันชอบเด็กๆ ฉันจะได้มีเพื่อน"

ลุงเดชจะลองปรึกษากับหลานๆดูก่อน แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งอยากจะขอร้องป้าเนียนว่าห้ามพูดเรื่องเขากับท่านอิทธิ เขาไม่อยากให้เด็กๆกลัว ถ้าเขาจะกลับมาอยู่ที่บ้านดอนเสือเพราะคิดถึงที่นี่ ไม่ได้อยากยุ่งเกี่ยวกับใคร ป้าเนียนเข้าใจดีว่าแก่ๆกันแล้ว เขี้ยวเล็บเลยกุดไปหมด...

อภิชาติเดินตามนายหมานสมุนของสินชัยที่ได้รับบาดเจ็บมาถึงร้านอาหารกึ่งผับ แห่งหนึ่ง เห็นนายหมานเดินไปนั่งคุยกับชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่โต๊ะอาหารด้านในสุดของ ร้าน อภิชาติตรงไปนั่งที่บาร์ สั่งน้ำส้มมาดื่ม จังหวะนั้นมีเสียงเอะอะดังขึ้น นายหมานกระชากชายวัยกลางคนที่นั่งคุยด้วยขึ้นมา ตะคอกใส่หน้าว่าถ้าวันนี้ไม่จ่ายหนี้โดนดีแน่ อภิชาติเข้าไปถามว่ามีเรื่องอะไรกัน

"ไอ้แก่นี่มันติดเงินข้า เล่นไพ่เสียแล้วไม่ยอมจ่าย"

อภิชาติสบโอกาสจะได้แฝงตัวเข้าบ่อน อาสาจะจ่ายหนี้แทน แล้ววานชายวัยกลางคนคนนั้นไปร้านกาแฟหน้าสถานีอนามัยให้เขาหน่อย บอกป้าเจ้าของร้านว่าคนหล่อๆที่ชอบกินกาแฟเย็น ฝากป้าช่วยบอกเพื่อนของเขาด้วยว่าเขาอาจจะไปตามนัดช้านิดหนึ่ง แล้วส่งเงินแบงก์พันให้ชายคนนั้นเก็บไว้เป็นค่ากาแฟ

ชายวัยกลางคนรับเงินแล้วรีบออกไป อภิชาติควักเงินปึกใหญ่ออกมาดึงบางส่วนมาจ่ายค่าดอกเบี้ย นายหมานเห็นเงินก็ตาโตจะคว้าเอาไว้ทั้งหมด อภิชาติดึงหนีอ้างว่าจะเก็บส่วนนี้ไว้เล่นพนันเผื่อได้เงินคืน นายหมานหลงกลคิดว่าจะได้เงินจากอภิชาติง่ายๆ รีบกุลีกุจอพาไปบ่อน

ooooooo

ระหว่างทางกลับค่ายโจร ลุงเดชสังเกตเห็นดาวเอาแต่นั่งใจลอย พอถึงค่าย ลุงเดชเรียกจักจั่นมาถามว่าดาวใจลอยเรื่องอะไร จักจั่นไม่แน่ใจ แต่เห็นดาวดูทีวีสัมภาษณ์ผู้หญิงคนหนึ่งเรื่องรักษาป่า

"รู้สึกว่าเป็นคุณหญิงอะไรเนี่ย เห็นว่าสามีเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ด้วย พอดูจบก็ใจลอย"

ลุงเดชพยักหน้ารับรู้ บอกให้จักจั่นไปพักผ่อน ทันทีที่หญิงสาวเดินลับสายตา ลุงเดชแหงนมองท้องฟ้าพึมพำว่า "ท่านครับ หนูษาแกเริ่มรู้สึกแล้วครับว่าใครเป็นแม่แก ท่านช่วยปกป้องหนูษาด้วยนะครับ..."

ดาวเห็นจักจั่นมาถึงบ้านพักช้ากว่าเพื่อน ถามว่าหายไปไหนมา จักจั่นอยู่คุยกับลุงเดชเรื่องที่พักนี้ดาวใจลอยบ่อยๆดาวปฏิเสธลั่นว่าไม่ ได้ใจลอย จักจั่นยืนยันว่าใจลอยจริงๆ ตั้งแต่ดูทีวีสัมภาษณ์คุณหญิงหรือว่าใจลอยถึงตำรวจคนนั้น เสียงสาวๆกระเซ้าเย้าแหย่กันทำให้ไผ่หลับไม่ลง ลุกหนี พอสาวๆรู้ว่าไผ่จะไปฝึกวิชากับสายลมและสายฟ้าขอตามไปด้วย...

ขณะเดียวกัน ฤทธิชัยสะกดรอยตามรถกระบะของคนร้ายเห็นเลี้ยวหายเข้าไปในราวป่า เขาตัดสินใจจอดรถหลบหลังพุ่มไม้ แล้วเดินเท้าตามรอยยางรถกระบะ หวังว่าคนร้ายจะพาไปถึงรังใหญ่ของพวกตน...

ดาว จักจั่น และไผ่วิ่งแข่งกันมาถึงลานเล็กๆแห่งหนึ่งกลางป่า ดาวร้องเรียกสายฟ้า ขณะที่ไผ่หลับตาทำสมาธิกางมือออก พลันมีเสียงร้องของเหยี่ยวแว่วมา สายลมปรากฏตัวเกาะแขนไผ่ แต่อยู่ๆก็หายวับไป ไผ่ทำสมาธิอีกครั้งเห็นขบวนรถของพวกคนร้ายผ่านทางสายตาของสายลม มีรถตู้สองคันวิ่งนำรถคอนเทนเนอร์ขนาดกลางอยู่บนเส้นทางคดเคี้ยวใกล้ชายป่า ไผ่บอกดาวกับจักจั่นว่าพวกคนร้ายมีการเคลื่อนไหว สายฟ้าคำรามแล้วโดดหายเข้าไปในดงไม้ พวกเด็กๆดีดตัวกลับค่าย รายงานเรื่องนี้กับลุงเดช...

ฤทธิชัยเดินตามรอยรถกระบะมาถึงรังลับของพวกคนร้าย เห็นรถกระบะคันที่เขาสะกดรอยตามจอดอยู่กับรถกระบะอีกคันหนึ่ง มีสมุนยืนยามอยู่ห้าคนพร้อมอาวุธครบมือ ปากทางเข้ารังลับมีประตูไม้สูง แล้วใช้ตาข่ายสีเขียวกับเศษใบไม้พรางไว้ ฤทธิชัยค่อยๆคืบคลานเข้าไปดูใกล้ๆ...

ในเวลาไล่เลี่ยกัน ไผ่ จักจั่นกับดาวในชุดดำสวมหน้ากากซุ่มอยู่บนต้นไม้กลางป่า ขณะที่ลุงเดช แสง กับสมาชิกโจรนับสิบทุกคนมีผ้าคาดหน้า กระจายกำลังกันโอบล้อมรถตู้คันหนึ่งกับรถบรรทุกขนาดกลางอีกคันซึ่งจอดรอผู้ ซื้อ พวกนางเสือเข้าจู่โจมทันทีที่รถตู้อีกสองคันของผู้ซื้อเข้ามาจอดเทียบ ทันใดนั้น พวกคนร้ายกรูกันออกมาจากรถทั้งสี่คัน ระดมยิงใส่พวกนางเสือ ทั้งสองฝ่ายยิงต่อสู้กันอย่างดุเดือด

เสียงเสือคำรามพร้อมกับเสียงร้องของสายลมดังขึ้น ดาวเอะใจว่าต้องมีบางอย่างไม่ชอบมาพากล เหมือนคนร้ายล่อให้พวกเราติดอยู่ที่นี่ อยู่ๆสายลมที่บินอยู่เหนือหัวก็หายวับ ไผ่ลองหลับตาทำสมาธิ เห็นรถตู้คันหนึ่งกำลังวิ่งนำรถคอนเทนเนอร์ขนาดกลางอีกคันวิ่งอยู่อีกฟาก หนึ่งของป่า

"พวกมันอีกกลุ่มหนึ่งกำลังออกไปอีกทาง...พี่จัดการเอง"

"ไม่ต้อง พี่ไผ่อยู่กับจักจั่นที่นี่ คอยช่วยลุงเดช ดาวจะตามสายลมไปเอง" ดาวพูดจบดีดตัวไปตามต้นไม้อย่างรวดเร็วโดยมีสายฟ้าวิ่งตาม เธอไปดักหน้าเส้นทางรถของพวกคนร้ายที่ค่อยๆวิ่งมา รถตู้วิ่งนำรถคอนเทนเนอร์ผ่านต้นไม้ที่ดาวซ่อนตัวอยู่ พอได้จังหวะเธอทิ้งตัวลงนอนแนบไปกับหลังคารถคอนเทนเนอร์...

หลังจากยิงต่อสู้กันพักใหญ่ พวกคนร้ายสู้ไม่ได้ทิ้งอาวุธยอมแพ้ พวกนางเสือควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ในที่สุด ลุงเดชไม่เห็นดาวอยู่กับไผ่และจักจั่นก็ถามหา พอรู้ว่าดาวไปจัดการกับคนร้ายอีกกลุ่มทางฟากโน้นของป่า ลุงเดชสีหน้าเป็นกังวล แต่ไม่ยอมให้จักจั่นกับไผ่ตามไปช่วย เกรงจะวุ่นวายไปกันใหญ่...

ดาวซ่อนตัวอยู่บนหลังคารถคอนเทนเนอร์จนรถแล่นมาถึงรังลับของคนร้าย รอจังหวะปลอดคนรีบลงจากหลังคารถเข้าไปหลบอยู่ในซอกหินหลังพุ่มไม้ ระหว่างนั้นรถของเสี่ยม้งแล่นเข้ามาจอด ดาวได้ยินเสียงบางอย่างอีกด้านหนึ่งของรังลับ หันขวับไปมองเห็นฤทธิชัยโผล่หน้าออกจากที่ซ่อนหลังพุ่มไม้ เธอตื่นเต้นปนแปลกใจ เสี่ยม้งมาตรวจสินค้าเพื่อเตรียมส่งมอบในวันรุ่งขึ้น

นางเสือสาวถึงได้เห็นว่ามียาเสพติดอัดแน่นอยู่ในลังเต็มตู้คอนเทนเนอร์ เสี่ยม้งตรวจสินค้าเรียบร้อย เดินทางกลับ พวกคนร้ายยกลังยาเสพติดเก็บใส่รถคอนเทนเนอร์ แล้วดึงประตูปิดใช้ตาข่ายกับกิ่งไม้คลุมอำพรางรถไว้ ก่อนจะพากันขึ้นรถตู้ขับออกจากรังลับเหลือคนเฝ้าระวังไว้แค่สองคน ดาวหันไปมองที่ฤทธิชัยอีกครั้ง แต่เขาหายไปแล้ว เห็นอีกทีตอนที่เขาอยู่บนเนินเหนือร่างของยามเฝ้าระวังทั้งสองคน

ฤทธิชัยโดดใส่พวกยาม แล้วจัดการซัดจนหมอบ จากนั้น ตรงเข้ารื้อตาข่ายคลุมรถคอนเทนเนอร์ออกเปิดประตูด้านคนขับขึ้นไป ทันใดนั้น ชายฉกรรจ์นับสิบคนโผล่ออกมาจากดงไม้ยืนเรียงหน้ากระดานหน้ารถคอนเทนเนอร์ จ้องปืนมายังฤทธิชัย รถของเสี่ยม้งกลับมาอีกครั้ง เสี่ยม้งลงจากรถมายืนหน้าชายฉกรรจ์

"นึกไม่ถึงว่าผู้กองจะหลงกลกับแผนตื้นๆของผม แค่ไอ้โจปล่อยข่าว ให้คนไปลอบยิงล่อให้ตามมา ผู้กองก็ติดกับจนได้...ฆ่ามัน" เสี่ยม้งตะโกนลั่น แล้วหลบไปยืนข้างๆ

คนร้ายระดมยิงใส่ฤทธิชัยไม่ยั้ง ผู้กองหนุ่มตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน ดีที่ดาวในคราบนางเสือมาช่วยไว้ทัน สังหารพวกคนร้ายตายเป็นเบือ พวกที่เหลือพากันล่าถอย รวมทั้งเสี่ยม้งด้วย ทิ้งยาเสพติดมูลค่ามหาศาลไว้ ฤทธิชัยขอบคุณนางเสือที่ช่วยเขาไว้อีกครั้ง ดาวช่วยเขาเพราะเห็นว่าเราแค่มีศัตรูคนเดียวกัน

"เพราะคุณช่วยผมสองครั้ง ผมจะขอร้องให้คุณปล่อยให้เป็นหน้าที่ผม หน้าที่กฎหมายจัดการคนพวกนี้"

"ถ้าฉันไม่ฟัง คุณจะจัดการกับฉัน...ถ้าอย่างนั้นเราไม่ควรจะพบกันอีก" ดาวว่าแล้วดีดตัวออกไป...

ครู่ต่อมา ดาวกลับถึงบ้านพัก ลุงเดช จักจั่นกับไผ่รออยู่ ดาวขอโทษลุงเดชที่ออกปฏิบัติการโดยไม่ได้บอกกล่าว ลุงเดชอยากรู้ว่าทำลายยาเสพติดได้หรือเปล่า ดาวส่ายหน้า พอดีตำรวจบ้าคนนั้นโผล่มาจากไหนไม่รู้ เธอก็เลยปล่อยให้เขาจัดการ ลุงเดชดูท่าทีแล้วว่าตำรวจคนนี้เอาจริง อาจจะป่วนแผนการที่เราวางไว้

ดังนั้น พวกเราต้องไปแฝงตัวอยู่ที่บ้านดอนเสือก่อนกำหนด แล้วค่อยให้แสงจะพาพวกสมาชิกโจรตามไปหาจุดเหมาะตั้งค่ายเสริมกำลังทีหลัง

ooooooo

เสี่ยม้งกลับมามือเปล่า แผนการที่สินชัยวางไว้ พังไม่เป็นท่า นอกจากฆ่าฤทธิชัยไม่ได้ ยาเสพติดมูลค่ามหาศาลที่ต้องส่งให้ลูกค้าวันพรุ่งนี้ก็ถูกฤทธิชัยยึดไปหมด โทษสถานเดียวที่เสี่ยม้งจะได้รับคือความตาย สินชัยยิงเสี่ยม้งด้วยมือของเขาเอง เสี่ยเหลิมถึงกับหน้าถอดสี

"เสี่ยเหลิม ผมให้คุณคุมงานทั้งหมดและอย่าให้พลาดอีก" สินชัยว่าแล้วขยับจะออกไป

"เดี๋ยวครับท่าน เรื่องนางเสือท่านจะทำยังไงครับ มันจ้องเล่นงานพวกเราทุกครั้งที่เราทำงาน ผมคิดว่า..."

"ผมจะหาคนมาจัดการมันให้เร็วที่สุด" สินชัยกลับออกไป ทิ้งเสี่ยเหลิมไว้กับร่างไร้วิญญาณของเสี่ยม้ง...

อภิชาติกำลังมือขึ้น เล่นไพ่ได้เงินจากเจ้ามือบ่อนเป็นกอบเป็นกำ พวกนักเลงคุมบ่อนเห็นท่าไม่ดี รีบไปตามนายไชยลูกพี่ตัวเองมาจัดการ...

ฝ่ายฤทธิชัยมารออภิชาติที่ร้านกาแฟหน้าสถานีอนามัย ตามนัด ชายวัยกลางคนที่อภิชาติช่วยใช้หนี้ให้เข้ามาบอกว่าตอนนี้เพื่อนของเขาอยู่ที่บ่อน ฤทธิชัยไม่ห่วงอภิชาติเพราะรู้ว่าเขาเล่นพนันเป็น

"คืออย่างนี้ครับ พวกมันให้เข้าไปเล่นเสีย ถ้าเล่นได้มันจะไม่ปล่อยให้กลับออกมา"

ฤทธิชัยหน้าเครียดขึ้นมาทันที...

เป็นจริงอย่างชายวัยกลางคนบอกฤทธิชัย นายไชย หัวหน้าบ่อนหาว่าอภิชาติเล่นโกง แถมเอาปืนจ่อหัวเขาไว้ อภิชาติโวยกลับว่าเจ้ามือนั่นแหละโกง นักพนันในบ่อนต่างพากันมาที่โต๊ะที่อภิชาติเล่น สร้างความปั่นป่วนทั้งบ่อน ขณะอภิชาติกำลังจะถูกลากออกไปยิงทิ้ง ฤทธิชัยตามมาช่วยไว้ทัน...

ได้เวลาพักผ่อนแล้วแต่ดาวยังไม่ง่วง คว้าชุดนางเสือมาเปลี่ยนแต่ไม่สวมหน้ากากออกไปยืดเส้นยืดสายในป่า มองพระจันทร์สวยบนฟ้าแล้วอดคิดถึงตำรวจหนวดหลุดคนนั้นไม่ได้ ชมจันทร์เพลินกว่าจะกลับบ้านพักก็ดึกมากแล้ว ลุงเดชยืนอยู่ที่ระเบียงบ้านพักเห็นดาวในชุดนางเสือเพิ่งกลับ ร้องทักว่านอนไม่หลับหรือ ถึงได้ออกไปฝึกวิชาจนดึกป่านนี้ ดาวสงสัยว่าทำไมลุงเดชถึงคิดว่าเธอนอนไม่หลับ

"เข้าบ้านดอนเสือเหยียบจมูกศัตรู อาจยุ่งยากเกินไปทำให้คนคิดมากก็ได้"

ดาวไม่ได้คิดมาก แค่ตื่นเต้นนิดหน่อย ลุงเดชเป็นห่วง ถ้าเธอมีเรื่องอะไรไม่สบายใจคุยกับเขาได้ทุกเวลา

"งั้นดาวแค่คิดเล่นๆนิดหน่อยว่าป่านนี้คุณแม่คุณพ่อของดาวอยู่ที่ไหนแล้วทำอะไรอยู่น้อ"

"ลุงเสียใจที่ไม่มีคำตอบให้ แต่เชื่อได้ว่า พ่อแม่หนูก็กำลังคิดเหมือนกันว่าป่านนี้หนูกำลังทำอะไรอยู่...ใครจะไปรู้

วันหนึ่งฟ้าอาจจะลิขิตให้ทุกคนโคจรมาพบกันก็ได้"

"ไม่ว่าจะอย่างไร ดาวอยากจะบอกว่าที่ดาวคิดถึงพ่อแม่ ไม่ใช่ดาวจะไม่มีความสุข ดาวแค่คิดสงสัยไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น ดาวมีความสุขอยู่แล้ว เพราะดาวมีลุงเดช แม่พร พ่อแสงที่รักดาว"

ลุงเดชลูบผมเธอด้วยความรักและเอ็นดู บอกให้เข้านอนได้แล้ว เขาก็จะไปนอนเช่นกัน ลุงเดชไม่ได้กลับไปนอนอย่างที่บอกดาว เขาลัดเลาะไปยังหลุมศพหลังค่ายโจร

"ท่านครับ...หนูดาวเริ่มถามถึงท่านแล้วก็คุณแม่ของแกแล้วนะครับ ผมควรจะทำอย่างไรดีครับท่าน หวังว่าท่านคงดลใจให้ผมรู้ว่าจะทำอย่างไรเมื่อถึงเวลา" ลุงเดชยกมือไหว้ ก่อนจะถอนใจ หนักใจ

ooooooo

ลุงเดช ดาว จักจั่น และไผ่มาพักที่บ้านป้าเนียน เพราะที่นี้กว้างขวางสะดวกสบาย มีห้องนอนหลายห้อง ป้าเนียนซึ่งเป็นพยาบาลประจำสถานีอนามัยบ้านดอน-เสือคุยให้เด็กๆฟังว่า สมุนของสินชัยไม่กล้าทำอะไรเธอเพราะกลัวเธอจะไม่รักษาพวกมัน แล้วชวนเด็กๆว่าถ้าเกิดเบื่อขึ้นมาไปช่วยเธอที่สถานีอนามัยก็ได้ คุยกันไปคุยกันมาป้าเนียนเกิดหลุดปากเรื่องจะมีงานทำบุญครบรอบวันตายปีที่สิบห้าให้อิทธิในวันพรุ่งนี้

"ท่านอิทธิคนเดียวกับที่เป็นเจ้าหน้าที่รักษาป่าหรือเปล่าจ๊ะ"

ป้าเนียนกับลุงเดชตกใจที่ดาวถามเรื่องนี้ พยายามเก็บอาการไม่ให้ผิดสังเกต ไผ่สงสัยว่าทำไมดาวถึงรู้เรื่องท่าน จักจั่นคุยว่าตัวเองก็รู้เหมือนกัน วันก่อนเธอนั่งดูทีวีกับดาว เจอรายการสัมภาษณ์เรื่องภาวะโลกร้อนได้ยินชื่อท่านพอดี ลุงเดชสบตาป้าเนียนก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

"เล่าให้หลานๆฟังหน่อยป้าเนียน ไหนๆก็ไหนๆไม่อย่างนั้นเด็กพวกนี้ถามไม่หยุด"

"ท่านอิทธิเหรอ เอ่อ...ท่านก็เป็นผู้ก่อตั้งศูนย์อาสาฯ ก็เท่านั้นเอง ชาวบ้านก็แค่มาทำบุญรำลึกถึงท่าน ไม่มีอะไรหรอก น่าเบื่อจะตาย มีแต่คนแก่ๆรุ่นป้านี่แหละ เดินกันไม่ค่อยจะไหวแล้ว" ป้าเนียนพูดจบก็หัวเราะกลบเกลื่อน ทุกคนพากันหัวเราะตาม ยกเว้นดาวที่จับพิรุธบางอย่างของป้าเนียนกับลุงเดชได้

แต่สุดท้ายก็ทำเป็นยิ้มกับทุกคน ไผ่เห็นว่างๆเลยชวนจักจั่นกับดาวไปช็อปปิ้ง พอเด็กๆคล้อยหลัง ป้าเนียนบอกลุงเดชว่างานนี้เชิญคุณหญิงรัตนามาด้วย แต่ไม่รู้ว่าคุณหญิงจะมาหรือเปล่า ถ้ามาก็ดีลุงเดชจะได้คุยเรื่องวันนั้นกับคุณหญิง เพราะวันที่อิทธิตายลุงเดชอยู่ด้วยไม่ใช่หรือ

"ใช่...แต่ทุกอย่างมันสับสนไปหมด ฉันรู้ตัวอีกทีก็อยู่ในกระท่อมของพวกชาวบ้าน ฉันสลบไปสามวัน ทุกอย่างสายเกินไป" ลุงเดชไม่บอกความจริงเรื่องตัวเองและดาว เพราะเกรงป้าเนียนจะเก็บความลับไม่ได้ แล้วขอร้องป้าเนียนอีกครั้งว่าห้ามพูดเรื่องอดีตของเขากับหลานๆของเขา ไม่อย่างนั้น เขาจะไปจากที่นี่...

เย็นวันเดียวกัน ท่านรองฯก้องเกียรติโทร.มาขอร้องให้ ฤทธิชัยไปงานทำบุญครบรอบวันตายของอิทธิที่บ้านดอนเสือเป็นเพื่อนคุณหญิงรัตนา ฤทธิชัยชวนอภิชาติมาด้วย

ooooooo

งานทำบุญครบรอบวันตายปีที่ 15 ของอิทธิจัดขึ้นบริเวณสวนเล็กๆใกล้ศูนย์อาสาฯเก่า มีการทำบุญตักบาตรตามประเพณี ลูกน้องเก่าๆของอิทธิมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง...

ดาว จักจั่นกับไผ่แวะมาหาป้าเนียนที่สถานีอนามัย ป้าเนียนกำลังจะไปงานทำบุญพอดี เลยชวนเด็กทั้งสามคนไปด้วย ไผ่ขับรถมาส่งแล้วขอรออยู่ที่รถ ปล่อยให้ดาวกับจักจั่นไปกับป้าเนียน ดาวดีใจมากที่รู้ว่าคุณหญิงรัตนามางานนี้ด้วย และยิ่งดีใจมากๆเมื่อป้าเนียนพาเธอกับจักจั่นมาแนะนำตัวให้คุณหญิงรู้จัก

คุณหญิงรัตนาคุยถูกคอกับดาวและจักจั่น ถึงกับออกปากชมกับป้าเนียนว่าหลานของแกน่ารักมาก และถือโอกาสชวนป้าเนียนกับหลานทั้งสองคนไปกินข้าวกลางวันด้วยกัน ป้าเนียนอึกๆอักๆ นึกถึงลุงเดชที่ไม่อยากให้ยุ่งกับคุณหญิงเลยปลีกตัวขอกลับก่อน บอกให้ดาวกับจักจั่นไปกินข้าวเป็นเพื่อนคุณหญิง

ดาวเกรงใจ ทำท่าจะปฏิเสธ แต่คุณหญิงรัตนาคะยั้นคะยอ ทั้งคู่จึงตกลงรับคำชวน คุณหญิงเอ็นดูดาวกับจักจั่นขอร้องให้พวกเธอเรียกท่านว่าอาหญิง ทันใดนั้น มีเสียงดังขึ้นทางด้านหลัง

"คุณอาหญิงมีเพื่อนใหม่หรือครับ"

คุณหญิงรัตนา ดาว และจักจั่นหันไปมองตามเสียง เห็นฤทธิชัยกับอภิชาติยืนอยู่ ดาวกับจักจั่นคาดไม่ถึงว่าจะเจอชายหนุ่มทั้งสองคน คุณหญิงรัตนาแนะนำให้ทั้งสี่คนรู้จักกัน โดยที่ไม่รู้ว่าพวกเขารู้จักกันมาก่อนแล้ว

"อาชวนหนูดาวกับหนูจักจั่นกินข้าวด้วยกัน"

"ดีครับ ผมรู้จักร้านอาหารอร่อยด้วย คุณดาวก็คงรู้จักมั้งครับ"

"ค่ะ...น่าจะเป็นร้านเดียวกันด้วย"

"ดีเลย จะได้ไม่ต้องเลือกกันมาก...เอ...คุณหนึ่งรู้ได้อย่างไรจ๊ะว่าหนูดาวรู้จักร้านนี้"

ฤทธิชัยเรียนคุณหญิงว่าเขาเคยพบกับดาวและจักจั่นมาครั้งหนึ่งแล้ว คุณหญิงยิ่งพอใจมากที่เจอคนกันเอง ทั้งหมดตรงไปยังร้านอาหารร้านเดิมที่ฤทธิชัยเคยมากินเมื่อคราวมาบ้านดอนเสือครั้งแรก...

คุณหญิงรัตนายิ่งได้พูดคุยทำความรู้จักกับดาวยิ่งถูกชะตา หลังกินข้าวเสร็จ ดาวกับจักจั่นเดินมาส่งคุณหญิงรัตนาที่รถ คุณหญิงขอบใจทั้งคู่มาก วันนี้เธอสนุกมาก วันหลังถ้าเธอมาบ้านดอนเสือ เธอจะแวะไปหา หรือถ้าดาวกับจักจั่นไปเที่ยวกรุงเทพฯ ไปพักที่บ้านเธอได้เลย เธอจะดูแลอย่างดี

"คุณลุงคงไม่อนุญาตง่ายๆหรอกค่ะ" ดาวเสียงอ่อย

"ไปเยี่ยมคุณหญิงที่กรุงเทพฯก็ดีเหมือนกันนะ คุณหญิงมาที่นี่อาจจะไม่สะดวก"

"อ๋อ...ไม่เป็นไรจ้ะ ฉันมีบ้านพักอยู่ที่นี่ ใกล้กับบ้านพักของเจ้าหน้าที่ป่าไม้"

ได้เวลาต้องจากกัน ดาวกับจักจั่นยกมือไหว้ลาคุณหญิง แล้วหันหลังเดินออกไป ได้ยินเสียงคุณหญิงรัตนาเรียก "หนูดาว" ดาวหยุดเดินหันกลับไปมอง เห็นคุณหญิงรัตนามองมาด้วยน้ำตาคลอเบ้า ดาวเดินมาหาด้วยความตื้นตันใจ คุณหญิงรัตนาโอบกอดดาวไว้ในอ้อมอก จักจั่นน้ำตาซึมด้วยความซาบซึ้งใจ คุณหญิงรัตนาสัญญาว่าจะมาหาดาวอีก ทั้งสองคนจ้องมองกัน ยิ้มให้กันอย่างมีความสุข

ห่างออกมาอีกมุมหนึ่งฝั่งตรงข้ามที่จอดรถ ลุงเดชลอบมองอยู่ด้วยสีหน้าไม่สบายใจ ดาวกับจักจั่นยืนมองคุณหญิงรัตนาจนรถแล่นลับสายตา จักจั่นนึกไม่ถึงจริงๆว่าคุณหญิงรัตนาจะชอบพี่ดาวของเธอมากขนาดนี้ ดาวยิ้มไม่พูดอะไร สีหน้าเหมือนพบความอบอุ่นที่ขาดหายไป

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น