วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

รักไม่มีวันตาย ตอนที่ 15

ตอนที่ 15

ไตรภูมิพาปลายฉัตรกลับมาบ้าน ทั้งๆที่เธอยังช็อกเรื่องอโนไม่หาย ด้วยความสับสนในใจ จึงถามความคิดไตรภูมิว่า เคยคิดจะเปลี่ยนเธอให้เหมือนอโนหรือไม่

"ไม่ ฉันไม่อยากให้เธอต้องเป็นทุกข์ เธอเป็นแบบที่ เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็ดีอยู่แล้ว ฉันไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเธอเป็นอย่างอื่น"

ปลายฉัตรยิ้มนึกถึงตอนที่อยู่ด้วยกันที่ญี่ปุ่น พลางถามเหตุผลชายหนุ่มเรื่องไม่อยากมีความรัก ว่าตอนนี้เปลี่ยนใจหรือยัง ไตรภูมิได้แต่เขิน

"ยังไม่ต้องตอบก็ได้ไม่เป็นไร ฉันจะรอจนกว่าคุณจะพร้อมบอกฉัน แล้วเรื่องกฤชมังกร ฉันขอโทษที่เคยพูดว่าจะไม่ช่วยคุณอีกแล้ว ตอนนั้นฉันสับสนมากไปหน่อย แต่ตอนนี้ ฉันเข้าใจแล้ว ฉันไม่รู้ว่าเราจะได้อยู่ด้วยกันอีกนานแค่ไหน ฉันไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ร่างของคุณ

จะสลายหายไป แต่ฉันจะใช้เวลาทุกนาทีที่อยู่กับคุณให้คุ้มค่ามากที่สุด ถึงแม้เราจะต้องจากกัน แต่ความทรงจำดีๆจะยังคงอยู่กับฉันตลอดไป"

ปลายฉัตรน้ำตาร่วงเดินเข้าหาไตรภูมิ ชายหนุ่มเอื้อมมือเช็ดน้ำตาให้อย่างแผ่วเบา ก่อนดึงเข้ามากอดแทนคำขอบใจ

ooooooo

สิงห์เก็บของพลางบ่นเรื่องอโนแปลกไป จ่าดอนรับฟังอย่างเข้าใจ ระหว่างนั้นวัลลภเข้ามาบอกสิงห์ว่า จะย้ายสิงห์ไปทำคดีที่หน่วยงานใหม่ ให้เตรียมตัวเข้าประชุมในเวลา 20.00 น.

"พอประชุมเสร็จแล้วก็ทำสรุปให้ผมด้วย พรุ่งนี้เช้า ผมจะมาอ่านแต่เช้า" สั่งเสร็จ วัลลภก็ออกไป

สิงห์ลังเลเพราะเป็นห่วงน้อง จ่าดอนอาสาไปดูแลอโนให้ เพื่อความสบายใจ สิงห์ยกมือไหว้ขอบคุณ

"โอ้ยๆ หมวดไม่ต้องไหว้ผมก็ได้ เดี๋ยวคนอื่นมาเห็นเข้า หมวดจะเสียชื่อเปล่าๆ เป็นหมวดมายกมือไหว้จ่าไม่ได้นะครับ เสียการปกครองหมด ก็ผมเคยบอกหมวดแล้วว่า ผมตัวคนเดียว ญาติโกโหติกาก็ไม่มี จะมีก็แต่หมวดนี่แหละครับที่ใกล้ชิดสุดแล้ว ผมไปก่อนนะครับ" จ่าดอนก้าวออกไป

สิงห์มองตามรู้สึกเป็นห่วง จึงตะโกนสั่งให้จ่าดอนระวังตัว

ooooooo

ขณะที่อโนกระหายเลือด งุ่นง่านอยู่ในห้องนอน พาลีกับคีรีก็ปรากฏตัวขึ้น เขาโยนถุงเลือดให้อโนดื่มรองท้องแล้วชวนออกไปข้างนอก เพื่อสาธิตให้ดูว่าทำยังไงถึงจะหายหิว อโนตามทั้งคู่ไปที่รถ จ่าดอนมาถึง พอดี เขาเห็นอโนนั่งรถออกไปกับสองผู้ต้องสงสัยก็รีบตามไป และโทร.รายงานสิงห์ แต่สิงห์ติดประชุมจึงไม่ได้ รับสาย

จ่าดอนตามพาลีกับคีรีมาถึงโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง เขาไปแสดงตัวกับพนักงานเพื่อสอบถามหมายเลขห้องที่อโนเข้าไป พนักงานกลัวรีบชี้บอกแล้ววิ่งหนี

"อ้าว จะรีบหนีไปไหนวะ ตำรวจนะเว้ย ไม่ใช่ผี" จ่าดอนส่ายหน้าแล้วก็หันไปทางห้องที่พนักงานชี้บอก

อโนนั่งตัวสั่นอยู่ในรถด้วยความกลัว เมื่อเห็นพาลีจัดการกับเหยื่อสาว จ่าดอนเปิดม่านเข้ามา เห็นพาลีฝังเขี้ยวลงที่ซอกคอของเหยื่อ ถึงกับขาอ่อน

"จ่าดอน" อโนเรียกด้วยความตกใจ

คีรีพุ่งมาลากคอจ่าดอนเข้าไปในห้อง พลันเสียงกระดูกคอจ่าดอนเคลื่อนดังกร๊อบ แม้อโนจะร้องห้าม แต่คีรีฝังเขี้ยวเข้าซอกคอจ่าดอนไปแล้ว เธอจึงทำได้เพียงเบิกตากว้าง มองจ่าดอนที่โดนคีรีสูบเลือดอยู่ตรงหน้า

เช้าวันต่อมา วัลลภเข้ามาบอกข่าวร้ายกับสิงห์เรื่องจ่าดอน สิงห์รีบไปที่เกิดเหตุ พบรอยเขี้ยวที่ซอกคอจ่าดอนเข้าใจว่าเป็นฝีมือไตรภูมิ จึงไปเล่นงานถึงบ้าน แต่ปลายฉัตรออกรับแทน ทำให้สิงห์ยิ่งโกรธ ขณะที่ปลายฉัตรก็ฉุนสั่งให้สิงห์ ไปคาดคั้นเอาความจริงจากอโน

ในเวลาไล่เลี่ยกัน จิตต์เปิดฉากอาละวาดใส่รามและลูกน้อง เพราะโกรธที่พาลีกับคีรีฆ่าจ่าดอน รามรีบขอโทษพ่อจิตต์จึงยื่นคำขาดให้รามจัดการกับอโน ส่วนเรื่องไตรภูมิกับกฤชมังกร เขาจะจัดการเอง เพราะรู้แล้วว่าจุดอ่อนของไตรภูมิคือผู้หญิงที่ชื่อ ปลายฉัตร

ooooooo

ปลายฉัตรเดินออกมาจากห้องทำงาน กวาดตามองไม่พบใครจึงเขียนโน้ตแปะไว้ที่หน้าประตู "ฉันกลับบ้านแล้วนะคะ มีธุระสำคัญต้องทำ ปลายฉัตร"

เวลาปลายฉัตรจากไปนั้น ไตรภูมิกำลังสั่งงานลูกน้องอยู่ในห้องเก็บสมบัติ

"เราทุกคนต้องระวังตัวให้ดี พวกนั้นกำลังสูญเสียการควบคุม เหตุการณ์จะต้องวุ่นวายมากกว่านี้ และถ้าพวกมันเดือดร้อน มันไม่ปล่อยให้เราอยู่เป็นสุขแน่ อินทร์ดูแลปลายฉัตรอย่างใกล้ชิด ถ้าเห็นสถานการณ์ไม่ดีรีบรายงาน เราจะย้าย

ปลายฉัตรออกไปอยู่ในที่ปลอดภัยทันที กร กัณฑ์ ดูแลรักษาความปลอดภัยสมบัติอย่างดีที่สุด พวกนั้นต้องหาทางเข้ามาทำลายสมบัติอีกแน่ หวังว่าเราจะหากฤชมังกรเจอ ก่อนที่เรื่องต่างๆจะเลวร้ายมากไปกว่านี้"

ลูกน้องทั้งสามรับคำ ไตรภูมิเดินออกไปหาปลายฉัตรที่ห้องทำงาน แต่พบเพียงกระดาษโน้ตที่เธอเขียนไว้ เขาสังหรณ์ใจว่าจะเกิดเรื่องจึงโทร.หา แต่ปลายฉัตรไม่ยอมรับสาย เพราะกำลังเตรียมตัวไปงานศพจ่าดอน

สิงห์กลับมานั่งทบทวนคำพูดของปลายฉัตรอยู่ในบ้าน แล้วตัดสินใจเดินไปเคาะประตูเรียกอโน เพื่อจะถามเรื่องจ่าดอน แต่รามแอบเข้ามาในห้องอโนก่อนแล้ว เขาขู่ให้เธอพูดตามที่บอก ถ้าไม่อยากให้สิงห์ตาย อโนจำใจโกหกสิงห์ว่าเธอไม่ได้เจอจ่าดอนเลย เพราะ

ไม่ค่อยสบายก็เลยกินยานอนตั้งแต่เย็นวาน แล้วแสร้งทำตกใจ เมื่อรู้ว่าจ่าดอนถูกฆ่า

สิงห์ยอมเชื่อ เขาออกไปนั่งรอน้องหน้าบ้าน เพื่อไปงานศพจ่าดอนด้วยกัน

"ทำได้ดีมาก แต่มันยังไม่ดีพอที่จะลบล้างสิ่งที่เธอทำเอาไว้ ถ้าเป็นคนอื่นฉันคงจะฆ่าเธอไปนานแล้ว แต่ฉันเห็นว่าเธอเคยพยายามจะช่วยฉันอยู่หลายเรื่อง ฉันจะให้โอกาสเธอเป็นครั้งสุดท้าย กลับไปอยู่เป็นทาสรับใช้ฉันตามที่เธอเคย รับปากไว้ แล้วฉันจะยกโทษ

ให้ฉันให้เวลาคิดหนึ่งคืน ถ้าพรุ่งนี้ฉันยังไม่ได้คำตอบ เธอจะไม่มีโอกาสได้ตอบมันอีกต่อไป" รามทิ้งท้ายอย่างเลือดเย็น อโนมองรามด้วยความหวาดหวั่น

หน้าศพจ่าดอน อโนพึมพำขอโทษทั้งน้ำตา ส่วนวัลลภเดินเข้ามาหาสิงห์ บอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย สิงห์ลุกตามวัลลภออกไป อโนมองตามไป และได้ยินวัลลภบอกกับสิงห์ว่า จะให้พักเรื่องคดีผีดูดเลือดไว้ก่อน เพราะทางผู้ใหญ่เป็นห่วง ไม่อยากให้สูญเสียมากไปกว่านี้

เพื่อให้เวลาทำใจกับการสูญเสีย เขาเซ็นอนุญาตให้สิงห์พักร้อนหนึ่งเดือน

เมื่อวัลลภจากไป สิงห์ยืนเศร้า อโนมองพี่ชายด้วยความสงสาร พอดีปลายฉัตรเดินเข้ามาพร้อมกับเฉิด ลุงฉิ่งและมหา อโนเห็นก็รีบลุกมาบอกกับสิงห์ว่าจะไปห้องน้ำ

ปลายฉัตรไหว้ศพจ่าดอนเสร็จก็พยุงเฉิดไปนั่ง พลันเหลือบไปเห็นอโนเดินออกไป เธอรีบตามไปขอร้องให้อโนบอกความจริงกับสิงห์ และขู่ว่าถ้าไม่บอก เธอจะเป็นคนบอกเอง

"ฉันเคยบอกพี่แล้วไงว่าอย่ามายุ่งเรื่องของฉัน ทีตอนพี่รู้ความจริง พี่ยังไม่ยอมบอกคนอื่นเลย แล้วทำไมทีกับฉัน พี่ต้องมาบังคับให้ฉันบอกด้วย" อโนเสียงแข็ง

"ก็เพราะไตรภูมิกับรามไม่เหมือนกัน อโนก็รู้ว่าพวกนั้น โหดเหี้ยมแค่ไหน ถึงอโนจะเป็นเหมือนพวกมัน ก็ไม่ได้ หมายความว่าจะปลอดภัย เชื่อพี่สักครั้งนะอโน ถ้าไม่อยากให้ตัวเองและคนอื่นเดือดร้อนมากไปกว่านี้ บอกความจริงกับสิงห์ ก่อนที่มันจะสายมากไปกว่านี้"

อโนเห็นสิงห์กำลังเดินมาด้านหลังปลายฉัตร "ก็ฉัน บอกพี่แล้วไงว่าฉันไม่รู้เรื่อง พี่จะมาคาดคั้นอะไรกับฉัน ฉันไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น ฉันช่วยพี่ไม่ได้หรอก"

ปลายฉัตรยืนงง แล้วอโนก็หันไปฟ้องสิงห์ที่เข้ามาถึงว่า ปลายฉัตรมาคาดคั้นจะให้เธอบอกสิงห์ว่าใครเป็นคนฆ่าจ่าดอน ทั้งๆที่เธอไม่รู้เรื่อง ทำให้สิงห์เข้าใจผิดว่า ปลายฉัตรพยายามหาคนอื่นมารับผิดแทนไตรภูมิ

"แกกำลังเข้าใจผิดนะสิงห์" ปลายฉัตรจะอธิบาย แต่สิงห์ไม่เปิดโอกาส

"เราว่า อย่าคุยกันเรื่องนี้อีกเลย เราเสียจ่าดอนไปคนนึงแล้ว ไม่อยากต้องเสียเพื่อนไปอีกคน เพราะถ้าปลายยังยืนยันที่จะปิดบังความผิดให้พวกมัน แล้วพยายามยัดเยียดความผิดให้คนอื่น เราสองคนคงเป็นเพื่อนกันไม่ได้ ปลายไม่ให้เรายุ่งกับไตรภูมิ ปลายก็อย่ามายุ่งกับน้องสาวเรา" สิงห์ลากอโน กลับไปที่ศาลา

ปลายฉัตรยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก รู้สึกเสียใจและผิดหวังอย่างแรง อโนหันมามองปลายฉัตร รู้สึกสงสารวูบขึ้นมา

ooooooo

ปลายฉัตรกลับมาถึงบ้านก็พบไตรภูมิยืนรออยู่ ด้วยความเป็นห่วง เธออธิบายว่าไปงานศพจ่าดอนมา ที่ไม่บอกให้รู้เพราะกลัวไตรภูมิกับลูกน้องตามไป จะทำให้สิงห์เข้าใจผิด

"ปัญหาของฉัน ฉันจัดการเอง แต่ถ้าเธออยากช่วยฉัน ก็หากฤชมังกรให้เจอ และเรื่องราวทุกอย่างจะยุติเอง ตอนนี้พวกนั้นยังไม่ทำอะไรเธอ เพราะคิดว่าฉันดูแลอยู่ แต่ถ้าพวกมันรู้ว่าฉันดูแลเธอไม่ได้ มันไม่ปล่อยเธอไว้แน่ ถ้าไม่อยากเป็นอันตราย อยู่ห่างเด็กคนนั้นให้มากที่สุด" ไตรภูมิย้ำเสียงเข้ม

ปลายฉัตรรับฟัง แต่ไม่รับปาก ส่วนอโนที่นั่งเศร้าอยู่ในศาลาหันไปมองสิงห์อย่างรู้สึกผิด เธอตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะไม่อยู่สร้างความลำบากให้พี่มากไปกว่านี้ เธอไปหารามที่บ้าน

"ถ้าไม่อยากให้ตำรวจรู้เรื่องจ่าดอน แล้วก็เรื่องที่พวกคุณเป็นผีดูดเลือด ห้ามคุณมายุ่งกับชีวิตฉัน แล้วก็ห้ามมายุ่งกับพี่ชายของฉัน ไม่อย่างนั้น ฉันจะบอกตำรวจทุกอย่าง ฉันรู้ว่าคุณไม่กลัวฉัน ฉันก็อยากให้คุณรู้ว่าฉันก็ไม่กลัวคุณเหมือนกัน ถะ ถ้าไม่อยากเดือดร้อน ก็ทำตามที่ฉันบอก" อโนพูดจบก็รีบหันหลังก้าวพรวดๆออกไป

รามมองตาม แล้วหันมาสั่งมายาว่าอยากทำอะไรก็ทำ มายารับคำ แล้วพรายยิ้มออกมาด้วยความสะใจ

ooooooo

เช้าวันใหม่ จิตต์มาจอดรถซุ่มอยู่หน้าบ้านปลายฉัตร เขาเห็นอินทร์ขับรถมาจอดที่หน้าบ้าน แล้วเดินเข้าไปถามหาปลายฉัตรกับลุงฉิ่งและเฉิด ลุงฉิ่งบอกว่าปลายฉัตรออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าแล้ว พลันสายตาของอินทร์ก็สะดุดเข้ากับรูปท่านเทียนที่วางอยู่ เขารีบถามถึงที่มาของรูป ลุงฉิ่งกับเฉิดมองหน้ากันมั่นใจว่า อินทร์คือคนที่หลวงพี่พูดถึง

ทั้งสองแนะนำให้อินทร์ไปหาหลวงพี่ที่วัด และนำรูปท่านเทียนไปด้วย

"ขอบคุณมาก" อินทร์ถือรูปเทียนออกมาจากบ้านปลายฉัตร แล้วตรงไปที่รถ

จิตต์ที่ซุ่มอยู่ในรถเห็นภาพท่านเทียนก็ประหลาดใจอย่างแรง รีบขับรถตามอินทร์ไป ในระหว่างทางอินทร์โทร.รายงานไตรภูมิเรื่องไม่พบปลายฉัตรที่บ้าน แต่พบรูปท่านเทียนที่เป็นบรรพบุรุษของเธอ และตอนนี้เขาก็กำลังจะไปหาหลวงพี่ที่วัด เพราะอาจได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฤชมังกร

"ดี งั้นรีบไป ถ้าได้อะไรเพิ่มเติมรีบบอกเรา ส่วนเรื่องปลายฉัตร เดี๋ยวเราจัดการเอง เราพอจะรู้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน" ไตรภูมิวางสายแล้วหันมาทางกรกับกัณฑ์ที่ยืนรออยู่ "เราจะออกไปตามหาปลายฉัตร จัดการงานที่เหลือให้เรียบร้อย"

กรกับกัณฑ์รับคำแล้วเดินแยกไปจัดการกับกล่องของที่ถูกแพ็กอย่างดี มีหมายเลขเขียนไว้เรียงตามลำดับ

ooooooo

ปลายฉัตรหนีงานมาเลือกซื้อไฟแช็ก หวังใช้เป็นอาวุธป้องกันตัว แล้วไปหาอโนที่บ้านแต่ไม่พบ จึงได้แต่ นั่งรอ ส่วนอโนไปหาหัวหน้าที่สตูดิโอภาพนิ่ง เพื่อขอลาออกและขอรับเงินชดเชย ในระหว่างนั่งรอรับเงินอยู่ ตามลำพังนั้น มายาก็ปรากฏตัวขึ้น ตรงเข้าเล่นงานอโนและเตรียมจะเผาทั้งเป็น แต่อโนฮึดสู้ และรอดมาได้อย่างหวุดหวิด

เวลาเดียวกันนั้น ไตรภูมิตามมาต่อว่าปลายฉัตรที่บ้านอโน

"โห เป็นชุดเลยนะคะคุณเจ้านาย เอาเป็นว่าฉันขอโทษที่ไม่ฟังคุณ แต่ฉันขอครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย จริงๆนะ เมื่อคืนฉันเห็นเขามองฉันด้วยความรู้สึกผิด ตอนนี้เขาอาจจะคิดได้แล้ว ฉันขอพูดกับอโนเป็นครั้งสุดท้าย เขาอาจจะยอมใจอ่อนบอกความจริงทั้งหมดกับสิงห์ แล้วนายรามจะได้โดนจับ คุณจะได้หลุดพ้นข้อกล่าวหาสักที น่านะ ถ้าครั้งนี้ไม่มีประโยชน์ฉันจะเลิกยุ่งกับเขาทันที" ปลายฉัตรส่งสายตาอ้อนวอน

"งั้นก็รีบๆพูด จะได้รีบๆไป เรายังมีเรื่องสำคัญต้องทำ เด็กนั่นมาแล้ว" ไตรภูมิพูดจบ รถแท็กซี่ก็แล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน อโนเปิดประตูพรวดออกมาจากรถ แล้ววิ่งเข้าไปเก็บของในห้อง

ไตรภูมิกับปลายฉัตรตามไปสอบถาม อโนบอกว่าเธอต้องรีบหนีเพราะรามสั่งให้มายามาจัดการกับเธอ ปลายฉัตรเห็นใจจึงขอร้องให้ไตรภูมิรับอโนไปอยู่ด้วย

ไตรภูมินิ่งคิดแล้วยื่นเงื่อนไข "ก็ได้ ฉันจะรับเด็กนี่ อยู่ที่บ้านฉัน แต่ฉันมีข้อแลกเปลี่ยน เธอต้องย้ายออกจากบ้านไปอยู่ในที่ที่ฉันเตรียมไว้ให้"

"ย้ายบ้าน" ปลายฉัตรตกใจ

เมื่อมายามาถึงบ้านอโน เธอต้องผิดหวังเพราะอโนเก็บข้าวของหนีไปแล้ว จึงกลับไปรายงานรามและเตรียมรับโทษ แต่รามกลับไม่ทำอะไร เขาหันไปสั่งพาลีและคีรีให้แยกย้ายกันออกตามหาอโน ถ้าเจอเมื่อไหร่ให้ฆ่าทันที

ooooooo

อินทร์นำรูปท่านเทียนมากราบหลวงพี่ในโบสถ์ เพื่อขอคำชี้แนะ

"อาตมาไม่อาจจะชี้แนะได้ ขอทำหน้าที่เป็นผู้ส่งต่อข้อความที่ได้รับมอบหมายมาก็แล้วกัน เพราะครอบครัวของอาตมามีหน้าที่เก็บข้อความนี้ไว้ รอจนกว่าพวกโยมจะตามหาอาตมาเจอ"

"แต่ผมก็รู้จักกับคุณเปรม โยมน้องของหลวงพ่อ ทำไมคุณเปรมไม่เคยบอกเรื่องนี้"

"เพราะมันยังไม่ถึงเวลา อาตมาและโยมเปรม พ่อของโยมปลาย ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่สำคัญแตกต่างกัน โยมพ่อย้ำเสมอว่าถ้ายังไม่ถึงเวลาห้ามพูด"

อินทร์ฟังด้วยความตั้งใจแล้วเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราว เมื่อครั้งที่เปรมมาพบไตรภูมิและอาสาช่วยหาสมบัติจากถ้ำมังกรอมตะจนพบ จากนั้นอีกยี่สิบห้าปีต่อมา อินทร์ก็ได้พบกับปลายฉัตรลูกสาวของเปรม และเธอก็มาช่วยไตรภูมิตามหาสมบัติที่เหลืออีกเช่นกัน

"ทุกอย่างได้ถูกกำหนดไว้แล้วหรือนี่" อินทร์รำพึง

"ทุกอย่างบนโลกล้วนตั้งอยู่บนพลังแห่งจิต จิตที่แข็งแกร่ง มุ่งมั่น สามารถที่จะกำหนดวิถีแห่งชีวิต วิถีแห่งอนาคตได้ สิ่งที่โยมต้องการ ถูกปิดไว้อย่างหนาแน่นด้วยความรักและความศรัทธา อยู่เบื้องหลังบุคคลที่ควรค่าแก่การระลึกถึง" หลวงพี่บอกปริศนา

"ถูกปิดไว้อย่างหนาแน่นด้วยความรักและความศรัทธา อยู่เบื้องหลังบุคคลที่ควรค่าแก่การระลึกถึง มันคืออะไรครับ" อินทร์ไม่เข้าใจ

"อาตมาก็รู้เพียงแค่นี้ ตามที่บอกไว้แล้ว อาตมากับโยมเปรมมีหน้าที่ที่ต่างกัน โยมต้องนำสิ่งที่ได้จากอาตมาและจากโยมเปรมมาปะติดปะต่อ แล้วโยมจะได้คำตอบที่ต้องการ อาตมาขอให้โยมหลุดพ้นจากเคราะห์กรรมนี้ไปให้ได้ เพราะผลบุญในครั้งนี้ จะช่วยให้ครอบครัวของอาตมาหลุดพ้นจากชะตากรรมในครั้งนี้ไปด้วย เจริญพรนะโยม"

อินทร์กราบหลวงพี่ จิตต์ที่แอบฟังอยู่คิดถึงสิ่งที่ได้ยิน แล้วคิดถึงปลายฉัตรขึ้นมา เขาเดินออกไปอย่างแผ่วเบาราวกับไม่มีเสียงฝีเท้านั้น แต่อินทร์ที่ก้มกราบอยู่สัมผัสได้

ooooooo

ปลายฉัตรกลับมาถึงบ้านก็ขยับจะบอกลุงฉิ่งเรื่องย้ายบ้าน แต่ลุงฉิ่งไม่ว่างฟังเพราะจะรีบเอาของไปส่งลูกค้า แกเอาท่อนแขนกวาดตัวปลายฉัตรให้พ้นทาง แล้วรีบเดินออกจากบ้านไป ปลายฉัตรถอนใจด้วยความเซ็ง

"ปลาย เอาดอกไม้ไปเปลี่ยนที่หิ้งพ่อทีสิลูก แม่ว่าจะเปลี่ยนหลายวันแล้ว ลืมทุกที" เฉิดเดินคลำทางมาพร้อมถาดดอกไม้

"จ้ะ" ปลายฉัตรรับถาดดอกไม้ไป แล้วก็ตัดสินใจหยั่งเชิงถามเรื่องย้ายบ้านใหม่

"บ้านที่เราอยู่ทุกวันนี้ก็ดีอยู่แล้วนี่ จะต้องไปหาบ้านใหม่ ทำไม แม่ว่าปลายอย่าหาเรื่องลำบากเลยลูก เอาดอกไม้ไปเปลี่ยนให้พ่อแล้วมาช่วยแม่ทำงานดีกว่าไป อย่าฟุ้งซ่าน" เฉิดตัดบท

ปลายฉัตรจ๋อยรีบไปเปลี่ยนดอกไม้ให้เปรม แล้วพนมมืออธิษฐาน "พ่อจ๋า ช่วยปลายที ทำให้แม่กับลุงใจอ่อนยอมย้ายไปจากที่นี่ ไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัยด้วยนะจ๊ะ" ปลายฉัตรก้มลงกราบที่หน้ารูปเปรม

ooooooo

ไตรภูมิยอมให้อโนมาอยู่ที่บ้าน ตามความ ต้องการของปลายฉัตร เขาให้กรพาเธอไปพักในห้องที่ว่างอยู่ แล้วหันมาถามกัณฑ์เรื่องบ้านพักหลังใหม่ ของปลายฉัตร

"ผมจัดเตรียมทุกอย่างไว้เรียบร้อย พร้อมเข้าพักได้ทันที" กัณฑ์รายงาน

ไตรภูมิยิ้มอย่างพอใจ แล้วอินทร์ก็เข้ามาบอกข่าวดี เรื่องเบาะแสของกฤชมังกร พร้อมถ่ายทอดข้อความปริศนา

"กฤชมังกร ถูกปิดไว้อย่างหนาแน่นด้วยความรัก และ ศรัทธา อยู่เบื้องหลังบุคคลที่ควรค่าแก่การระลึกถึง" ไตรภูมิครุ่นคิด แต่ยังหาคำตอบไม่ได้ จึงตามกรกับกัณฑ์มาช่วยกันไขปริศนา

"หลวงพ่อบอกว่า ท่านกับคุณเปรม มีหน้าที่ต่างกัน เราต้องนำสิ่งที่เราได้จากท่านมารวมกับส่วนของคุณเปรมถึงจะได้คำตอบ" อินทร์เล่าต่อ

กรแย้งว่า เปรมตายไปแล้วจะเอาคำตอบส่วนที่เหลือจากที่ไหน

"หรือว่า ปลายฉัตร เธอรู้ว่ากฤชมังกรอยู่ไหน แต่ไม่ยอมบอกเรา" กัณฑ์โพล่งออกมา

"ไม่น่าใช่ ถ้าปลายฉัตรรู้ต้องบอกเราแน่ เราว่าปลายฉัตรเองก็ไม่น่าจะรู้" ไตรภูมิมั่นใจ

ในขณะที่ไตรภูมิกับลูกน้องกำลังช่วยกันไขปริศนาที่ซ่อนกฤชมังกรอยู่นั้น จิตต์ก็บุกมาที่บ้านปลายฉัตรและทำร้ายเธอกับแม่ที่ไม่ยอมบอกที่ซ่อนกฤชมังกร

"ฉันไม่เชื่อ แกจะไม่รู้ได้ยังไง แกสืบเชื้อสายมาจากไอ้เทียน พี่ชายฉันเอากฤชมังกรไปให้มัน มันต้องอยู่กับพวกแก บอกมาแกเอากฤชมังกรไปไว้ที่ไหน" จิตต์ตวาดใส่ พร้อมกับบีบคอปลายฉัตรไว้

ปลายฉัตรส่งเสียงออกมาอย่างแหบพร่าบอกว่า เธอไม่รู้จริงๆ ส่วนเฉิดตะโกนขอความช่วยเหลือ

"อีแก่นี่น่ารำคาญจริงๆ" จิตต์เหวี่ยงปลายฉัตรไปกระแทกผนังไม่ห่างจากหิ้งของเปรม แล้วเข้ามาตบเฉิดพร้อมขู่ว่า ถ้าไม่อยากให้ปลายฉัตรตายก็หุบปาก

"แม่" ปลายฉัตรพยายามตั้งสติ หันไปหยิบไม้ขีดมาจุดไฟ หวังจะจัดการจิตต์ แต่จิตต์กลับดับไฟด้วยมือเปล่า

ในเวลาเดียวกันไตรภูมิก็นึกอะไรบางอย่างได้ เขาบอกกับลูกน้องทั้งสาม

"ถ้าอาเทียนใช้รูปของตัวเองเป็นตัวนำทางให้เราไปเจอกับทายาทของท่าน บางทีท่านจะใช้รูปเป็นคำตอบของอะไรบางอย่าง รูปของคนที่ควรค่าแก่การระลึกถึง น่าจะเป็นคนที่ไม่ได้อยู่ในโลกนี้แล้ว คนที่ตายไปแล้ว หรือว่า" ในวินาทีนั้นเอง ไตรภูมิก็ลุกพรวดขึ้นแล้วก็เดินออกไปจากบ้านด้วยความรวดเร็ว

ไตรภูมิขับรถออกไปหาปลายฉัตรและพยายามโทร.ติดต่อเธอ แต่ไม่มีคนรับสายทำให้เขายิ่งเป็นห่วง ส่วนเฉิดได้ยินเสียงมือถือปลายฉัตรดังขึ้นก็พยายามจะขยับเข้าไปใกล้ ในขณะที่จิตต์กำลังเล่นงานปลายฉัตร

"ถ้าฉันหาเจอ เธอตายเป็นคนแรก" จิตต์กระชากตัวปลายฉัตรออกมาแล้วเหวี่ยงไปที่ผนังข้างรูปเปรม จากนั้นก็กวาดสายตามองไปรอบๆ เห็นเฉิดกำลังจะหาทางกดปุ่มรับโทรศัพท์ ก็รีบคว้าโทรศัพท์มือถือไปจากมือเฉิดมาทำลาย

"อีแก่นี่ ทำตัวน่ารำคาญไม่เลิก อยากตายนักใช่ไหม ได้" จิตต์พุ่งมือมาบีบคอเฉิด

"แม่" ปลายฉัตรร้องดังลั่น แล้วหันไปคว้าโคมไฟที่วางอยู่ข้างๆมาฟาดจิตต์ แต่จิตต์ยืนนิ่งไม่รู้สึกอะไร เขาปล่อยมือจากเฉิด แล้วพูดอย่างขำๆ

"ฉันอยู่มาสี่ร้อยกว่าปี...แกคิดว่าฉันจะตายเพราะท่อนเหล็กบ้าๆเนี่ยเหรอ"

จิตต์ดึงขาตั้งโคมไฟจากมือปลายฉัตรแล้วเหวี่ยงใส่ แต่เธอหลบได้อย่างหวุดหวิด ขาตั้งโคมไฟลอยเคว้ง เจาะทะลุผนังออกไป เหลือแต่รูปของเปรมที่ติดอยู่เหนือผนังที่โหว่เป็นช่องว่าง แล้วจิตต์ก็พุ่งมาจับตัวปลายฉัตรเหวี่ยงไปในทิศทางเดียวกับขาตั้งโคมไฟ หญิงสาวลอยไปกระทบเข้ากับรูปของเปรมที่ติดอยู่ที่ผนัง รูปแตกกระจายร่วงลงพื้นพร้อมๆกับร่างของเธอ ไม่กี่นาทีต่อมาก็มีห่อผ้าหล่นลงมาที่พื้นข้างๆตัวปลายฉัตร เห็นด้ามกฤชที่ซ่อนอยู่ภายใน

"กฤชมังกร" จิตต์จำได้ดี

ปลายฉัตรแม้ยังมึนอยู่ เมื่อเหลือบไปเห็นกฤชมังกรก็ตกใจ จังหวะนั้นเองจิตต์พุ่งเข้ามาพร้อมกับแยกเขี้ยวจะกัดที่ซอกคอ ปลายฉัตรหยิบกฤชมังกรแทงเข้าหน้าอกจิตต์สุดแรง จิตต์ตาเบิกโพลง เขี้ยวยาวค่อยๆหดกลับไป เขาเงยหน้ามองปลายฉัตรด้วยความแค้นใจ และเปล่งเสียงเรียกชื่อราม ก่อนร่างจะสลายกลายเป็นฝุ่นผงต่อหน้าต่อตาปลายฉัตร

รามที่นั่งอยู่ในบ้านกับมายาสะดุ้งเฮือก รับรู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับจิตต์ "พ่อ..." น้ำตาของรามร่วงลงมา

ร่างของจิตต์สลายไป เหลือแต่ผงกระดูกที่ร่วงอยู่ที่พื้น ปลายฉัตรนั่งตัวสั่นด้วยความกลัว เธอปล่อยกฤชมังกรลงพื้นอย่างหมดแรง

"ปลายฉัตร" ไตรภูมิพุ่งเข้ามากอดปลายฉัตรไว้ด้วยความรัก ปลายฉัตรร้องไห้โฮ "ฉันขอโทษ ฉันขอโทษที่มาช้าเกินไป ฉันขอโทษ" ไตรภูมิจูบเบาๆเป็นการปลอบขวัญ

เมื่อหายตกใจแล้วปลายฉัตรที่หันไปเก็บรูปของเปรมและกฤชมังกร "ไม่อยากเชื่อเลย กฤชมังกรที่ฉันตามหา ที่แท้ก็อยู่หลังรูปของพ่อในบ้าน และมันก็ช่วยชีวิตฉันไว้อย่างหวุดหวิด มันเป็นเรื่องบังเอิญ หรือเป็นความตั้งใจของใครกันแน่"

"ฉันว่า...ทิ้งเรื่องนั้นไปก่อน ตอนนี้เธอและแม่ต้องรีบออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด อีกไม่นานรามกับพวกของมันต้องมาแน่นอน เพราะจิตของอาจิตต์และรามส่งถึงกัน การสูญเสียใครคนใดคนหนึ่ง อีกคนจะรับรู้ทันที" ไตรภูมิบอก

ปลายฉัตรเห็นด้วย เธอมองสภาพบ้านที่พังเละเทะแล้วบอกกับลุงฉิ่งที่เพิ่งมาถึงว่า มีนักเลงมาพังผิดบ้านและขอร้องให้ลุงฉิ่งย้ายไปอยู่บ้านที่ไตรภูมิเตรียมไว้ให้เป็นการชั่วคราว ไตรภูมิพาทุกคนมาที่บ้านหลังใหม่ แล้วสั่งให้กรกับกัณฑ์พาทั้งสามไปพักในห้องที่เตรียมไว้ ส่วนตัวเองเดินแยกออกมาหยิบอุปกรณ์ทำแผลตามไปให้ปลายฉัตรกับเฉิด

เฉิดเมื่อได้อยู่กับลูกก็เอ่ยถามเรื่องตัวตนของไตรภูมิ ปลายฉัตรอึ้งไปนิด แล้วก็ยอมบอกความจริงกับแม่ พลางยืนยันว่า ไตรภูมิไม่ได้เป็นคนฆ่าผู้หญิงเพื่อดูดเลือด แต่คนที่ทำคือรามกับลูกน้อง และพวกรามยังฆ่าจ่าดอนด้วย

ในเวลาเดียวกันนั้น รามพาลูกน้องมาที่บ้านปลายฉัตรเพื่อแก้แค้นให้จิตต์ แต่ไม่พบใคร

"พวกมันเจอกฤชมังกรแล้ว" รามคุกเข่าลงตรงหน้าเถ้ากระดูกของจิตต์ มายา พาลี คีรี ชะงัก "ท่านพ่อ...หลับให้สบาย...ข้าจะแก้แค้นให้ท่านเอง"

รามกัดฟันกรอด กำเถ้ากระดูกพ่อไว้แน่นด้วยความแค้น

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น