วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

รักไม่มีวันตาย ตอนที่ 14

ตอนที่ 14

ไตรภูมิครั้นไตร่ตรองคำทำนายของมหาแล้ว ก็ตัดสินใจบอกกับปลายฉัตรที่เดินออกมาส่งว่าไม่ต้องไปทำงานกับเขาอีก ส่วนค่าผ่าตัดตาของเฉิด เขายินดีออกให้ แต่ปลายฉัตรไม่ยอม ยืนยันจะอยู่ช่วยงานไตรภูมิ ต่อไป ทำให้ไตรภูมิซาบซึ้งใจ

อารมณ์ซึ้งของทั้งสอง สิงห์มาเห็นเข้าก็จ๋อย ขณะหันหลังให้ก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นรามขับรถสวนเข้ามาจอด แล้วเดินไปหาปลายฉัตร ไตรภูมิมองรามอย่างไม่วางใจ ขณะที่หมาบ้านข้างๆเห่าดังระงม

"บังเอิญจริงๆ ไม่นึกว่าเราจะได้มาเจอกันที่นี่ เพิ่งรู้ว่าคนเก็บเนื้อเก็บตัวอย่างคุณไตรภูมิ จะยอมออกจากที่ซ่อนตัว เพื่อมาหาลูกน้องถึงที่บ้าน แสดงว่าลูกน้องคนนี้คงจะมีความสำคัญมาก" รามทักทาย พลางปรายตามาที่ปลายฉัตร

"อย่ายุ่งกับเธอ" ไตรภูมิตวาด

แต่รามกลับส่งสายตาท้าทาย ขณะไตรภูมิจะพุ่งเข้าไปหา ปลายฉัตรรีบจับไว้ แล้วหันไปถามจุดประสงค์การมาของราม

"เรื่องงานที่เราคุยค้างกันไว้ ตกลงคุณตัดสินใจได้ หรือยัง"

"ฉันตัดสินใจได้นานแล้วค่ะ ฉันไม่เคยคิดจะทำงานกับคุณ ไม่ว่าคุณจะให้เงินมากแค่ไหน ฉันก็ไม่ทำ ฉันมีความสุขที่ได้ทำงานกับคุณไตรภูมิ และไม่เคยคิดจะเปลี่ยนใจ ขอบคุณสำหรับคำชวน แต่ฉันไปทำงานกับคุณไม่ได้จริงๆ" ปลายฉัตรตอบอย่างฉะฉาน

รามโกรธจัดขู่ปลายฉัตร แล้วหันหลังเดินกลับขึ้นรถไป สิงห์เมื่อเห็นหน้ารามชัดๆก็จำได้เพราะเหมือนรูปสเกตช์ของจ่าดอน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไตรภูมิไม่สบายใจนัก หันมาบอกปลายฉัตรเรื่องจะให้กรกับกัณฑ์สลับกันมาเฝ้าที่บ้านและมารับมาส่งเธอไปทำงาน แต่ปลายฉัตรไม่ยอม พลางยืนยัน อย่างมั่นใจว่ามีวิธีป้องกันตัวเอง

ooooooo

รามเดินหงุดหงิดเข้ามาในบ้าน มายาเข้ามาหมาย จะดูแล แต่ถูกรามตะเพิดออกไปด้วยความน้อยใจ ขณะก้าวเธอได้ยินพาลีกับคีรีอาสาจัดของมาให้เจ้านายแก้เครียดในคืนนี้ จึงคิดแผนขึ้นมาในใจ

เวลาเดียวกันนั้น สิงห์เรียกอโนมาสอบถามเรื่องราม เพราะหน้ารามเหมือนกับชายในภาพสเกตช์ แต่อโนปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น พลางเดินหนีไป

"หมวดกำลังคิดว่าผู้ชายที่ผมเจอ จะเป็นคนที่ชื่อรามเหรอครับ" จ่าดอนเข้ามาถาม

"ใช่ และสิ่งที่เราสงสัยอาจจะเป็นจริง สองคนนี้ไม่ถูกกันอย่างแรง และหนึ่งในนี้ หรือทั้งสองคนอาจจะเป็นฆาตกร" สิงห์มองรูปรามกับไตรภูมิ

แล้วคำพูดปลายฉัตรที่เตือนให้อโนระวังผู้ชายชื่อรามก็แวบเข้ามา ส่วนอโนที่แอบฟังอยู่หน้าห้องก็ใจเต้นแรง เมื่อกลับมาถึงบ้านพร้อมกับความสับสน เธอพบกับมายาที่มารออยู่ แรกเห็นเธอถอยกรูดด้วยความกลัว แต่เมื่อถูกมายาท้าทายให้ไปพิสูจน์ตัวตนของราม เธอจึงตัดสินใจตามไป

เมื่อถึงห้องราม อโนเห็นรามกำลังจัดการเหยื่ออย่างโหดเหี้ยม จึงกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ รามพุ่งเข้ามาหาหมายปลิดชีพ แต่เมื่อเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวก็เปลี่ยนใจ ยอมปล่อยเธอไป แล้วสั่งให้คีรีคอยติดตามไม่ให้ คลาดสายตา แล้วหันมาเล่นงานมายา มายาน้ำตาร่วงยืนยันว่า ที่ทำไปนั้นเพราะรักราม ไม่อยากให้รามไปยุ่งเกี่ยวกับอโน

"รักฉัน ก็หัดทำตัวให้มันฉลาดๆหน่อย อย่ารักโง่ๆแบบนี้ มันยิ่งทำให้ฉันเกลียดเธอ แล้วทีหลัง อย่ามายุ่งเรื่องของฉัน เด็กนั่นฉันจะฆ่าเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องให้เธอมาเจ้ากี้เจ้าการ" รามเอ่ยพลางก้าวจากไป

ooooooo

เมื่อปลายฉัตรออกไปทำงานกับไตรภูมิเหมือนเดิม เฉิดกับลุงฉิ่งจึงต้องยอมรับชะตากรรม

"บางทีเราก็ต้องปล่อยให้เขาจัดการกับชีวิตตัวเองบ้าง เขาอาจจะทำได้ดีกว่าเราก็ได้" ลุงฉิ่งปลอบ

"จ้ะ ฉันก็ทำใจ อะไรจะเกิด มันก็คงต้องเกิด เฮ่อ" เฉิดถอนใจเบาๆ

ไตรภูมิดีใจมาก เมื่อเห็นปลายฉัตรมาทำงาน ครั้นปลายฉัตรเลียบๆเคียงๆถามเรื่องคนรัก ไตรภูมิรู้ทัน เขาแกล้งเปลี่ยนเรื่องไล่ปลายฉัตรไปทำงาน

ในเวลาเดียวกัน ขณะจ่าดอนจะมารับสิงห์ออกไปทำงาน เขาเห็นอโนที่ปากซอย และมีคีรีตามมาด้วย เขารีบตามทั้งคู่ไป แต่ไม่ทัน เพราะมีรถตู้มาตัดหน้า เขาเห็นท่าไม่ดีรีบโทร.บอกสิงห์ ส่วนอโนก็วิ่งไม่คิดชีวิตเข้ามาในซอยแคบๆเพราะคิดว่าจะหนีคีรีพ้น แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นคีรียิ้มกวนๆอยู่ข้างหน้า เธอตั้งสติหยิบมีดพกในกระเป๋าออกมาแทงคีรี แต่คีรีกลับไม่เป็นอะไรเลย อโนแทบช็อก

ส่วนปลายฉัตรนั่งคิดได้ว่าเพื่อนรักของพระเวทอาจจะรู้ที่ซ่อนของกฤชมังกร จึงออกไปสอบถามกับไตรภูมิและอินทร์

"คุณบอกว่าเพื่อนรักพ่อคุณเป็นคนอ่านคำจารึกที่ถ้ำมังกรอมตะ และรู้ว่ากฤชมังกรคืออาวุธที่ฆ่าพวกคุณได้ เขารู้จุดอ่อนของพ่อคุณ แล้วยังมาบอกเพื่อให้ระวังตัว แสดงว่า เขาสองคนจะต้องเป็นเพื่อนที่รักกันมากๆ ถ้าพ่อคุณเลือกที่จะ ฝากกฤชมังกรไว้กับใครสักคน ฉันคิดว่าอาจจะเป็นเพื่อนรัก คนนี้ก็ได้"

อินทร์คิดตามแล้วก็เอ่ยชื่อท่านเทียนออกมา ปลายฉัตรและไตรภูมิหันไปทางอินทร์

"ท่านเทียนคือเพื่อนรักของท่านพระเวท นายท่าน ผมนึกออกแล้ว หลังจากที่ท่านเทียนเดินทางมาพบนายใหญ่และบอกเรื่องกฤชมังกร หลังจากนั้นไม่กี่วัน นายใหญ่ก็เดินทางไปพบท่านเทียนอีกครั้ง"

อินทร์นึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น แล้วเล่าต่อว่าหลังจากที่พระเวทโดนคำสาปแล้ว เขาได้ติดตามพระเวทไปพบท่านเทียน และเห็นพระเวทฝากของสิ่งหนึ่งไว้กับท่านเทียน

ไตรภูมิเชื่อมโยงเหตุการณ์แล้วออกความเห็นว่าของสิ่งนั้นน่าจะเป็นกฤชมังกร เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องท่านเทียนก็หายตัวไป และกฤชมังกรก็หายไปด้วย

"บางทีนายใหญ่อาจจะกลัวว่าถ้ากฤชมังกรอยู่ท่านจิตต์ พวกเราทุกคนจะต้องเดือดร้อน" อินทร์เสริม

ไตรภูมิกับปลายฉัตรเห็นด้วย

"มีใครเคยได้ข่าวของท่านเทียนบ้างหรือเปล่า ว่าท่านเป็นยังไงบ้าง และอยู่ที่ไหน หรือว่าลูกหลานของท่านเป็นใคร" ปลายฉัตรถาม

ไตรภูมิและอินทร์ส่ายหน้าช้าๆ

"ถ้ากฤชมังกรอยู่กับอาเทียนจริงๆ ทางเดียวที่เราจะหากฤชมังกรเจอ คือต้องหาครอบครัวของท่านให้เจอ" ไตรภูมิเสนอ

"โห แล้วเราจะไปหาที่ไหน เวลามันก็ผ่านมาตั้งหลายร้อยปี ฉันว่าต้องมีปาฏิหาริย์เท่านั้นแหละ เราถึงจะหาเจอ" ปลายฉัตรหมดหวัง

ooooooo

หลวงพี่ลืมตาออกจากสมาธิ แล้วเดินไปหยิบหีบใส่ของใบหนึ่งออกมาเปิดออก ด้านในมีรูปหลวงพี่ตอนเป็นหนุ่มถ่ายคู่กับเปรม และภาพวาดของท่านเทียนผู้เป็นต้นตระกูล หลวงพี่นำภาพวาดของท่านเทียนมาให้เฉิดเก็บไว้ และพูดเป็นนัยว่าอีกไม่นานจะมี คนมาเห็นรูปนี้ และมันจะนำคนคนนั้นมาหาท่านเอง

ด้านอโนเมื่อหนีคีรีไม่พ้นก็หันมาเผชิญหน้า แล้วยิงคำถามเรื่องผีดูดเลือด คีรียักไหล่กวนๆบอกว่าที่เขาเป็นแบบนี้ได้ก็เพราะราม

"คุณรามเป็นคนทำให้นายเป็นแบบนี้เหรอ เป็นแบบนี้แล้ว มันเป็นยังไง มันดีหรือเปล่า"

"ดีมาก ไม่ต้องแก่ ไม่ต้องเจ็บ ไม่ต้องตาย ดีพอป่ะ" คีรีสวนกลับ

เมื่ออโนมาถึงออฟฟิศ เธอถูกมายาลากออกไปเล่นงานในมุมลับตา แถมยังดูถูกว่าอโนเป็นแค่มนุษย์อ่อนแอหมดประโยชน์เมื่อไหร่ ก็จะโดนรามกำจัดทิ้งทันที

"คุณรามไม่มีวันสนใจมนุษย์ที่อ่อนแอและไร้ค่าอย่างเธอ และที่สำคัญอย่าบังอาจมาคิดเทียบกับฉัน มันยังห่างไกล คนอย่างเธอไม่มีวันจะชนะฉันได้"

มายากดอโนเข้ากับกำแพง อโนดิ้นพราดๆหลับตานิ่งคิดว่าตาย แต่แล้วมายาก็หายตัวไป อโนมองซ้ายมองขวาอย่างหวาดๆ คำพูดถากถางของมายาดังก้องในหัว

"เดี๋ยวก็รู้ว่าฉันจะชนะเธอได้หรือเปล่า" อโนแค้น

อโนตัดสินใจไปหารามที่บ้าน เป็นเวลาเดียวกับที่สิงห์ โทร.มาขอความช่วยเหลือกับปลายฉัตรเพราะอโนหายไปกับคีรี ปลายฉัตรบอกไตรภูมิและขอลางานครึ่งวันเพื่อไปช่วยสิงห์ ไตรภูมิไม่อาจทัดทานจึงได้แต่กำชับว่ากลับถึงบ้าน

เมื่อไหร่ให้โทร.บอกด้วย เพราะมีลางสังหรณ์ว่าจะเกิดเรื่อง

ในขณะที่ปลายฉัตรไปหาสิงห์ อโนก็เข้ามาคุกเข่าขอเป็นทาสรับใช้รามเหมือนกับคีรีและพาลี

"ฉันยินดีทำทุกอย่างที่คุณต้องการ โดยเฉพาะเรื่องคดีที่พี่ฉันดูแล ตอนนี้ตำรวจมีภาพสเกตช์ของคุณแล้ว อีกไม่นาน เขาคงสืบมาถึงคุณ ฉันพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยคุณให้พ้นผิด"

"เธอทำแบบนี้ทำไม ทำไมเธอถึงอยากเป็นพวกฉัน" รามเดินเข้ามาใกล้ๆ

"พ่อแม่ฉันตายตั้งแต่เด็ก ฉันจำความได้ ฉันไม่เคยมีใครนอกจากพี่สิงห์ แต่พี่ฉันก็มีแต่พี่ปลาย อะไรๆก็พี่ปลาย ฉันเหมือนอยู่ตัวคนเดียวบนโลก เป็นคนธรรมดาที่ไม่เคยมีความสำคัญ จนกระทั่งฉันได้เจอคุณ คุณทำให้ฉันมีความสำคัญ มีตัวตน ถ้าฉันได้เป็นเหมือนพวกคุณ ฉันก็จะไม่ใช่คนธรรมดาอีกต่อไป ฉันจะอยู่เหนือคนพวกนั้น ฉันยอมทำทุกอย่างเพื่อจะได้เป็นพวกเดียวกับคุณ"

"พูดได้น่าประทับใจ ทำให้ได้ตามที่พูดก็แล้วกัน" รามยิ้มพอใจ แล้วก็ยื่นมือมาดึงอโนที่นั่งคุกเข่าเข้าไปกอดพลางกระซิบข้างหู "หลับตา พอเธอลืมตามาอีกครั้ง เธอจะไม่ใช่คนธรรมดาอีกต่อไป"

อโนทำตาม รามแยกเขี้ยวขาวออกมาพร้อมเสียงคำราม แล้วฝังเขี้ยวลงซอกคออโนอย่างรวดเร็วและรุนแรง อโนผวาเกร็งสุดตัวด้วยความเจ็บปวด

เวลานั้น สิงห์ยังตามหาน้องสาว เขาพาปลายฉัตรมาที่ห้องทำงาน และชี้ให้ดูภาพคีรีที่เดินตามอโนเมื่อเช้า พลางขอร้องให้ปลายฉัตรช่วยบอกข้อมูลของรามและไตรภูมิ แต่ ปลายฉัตรไม่ยอมเปิดปาก แถมยังเปลี่ยนเรื่อง

"ฉันว่าตอนนี้แกรีบกลับบ้านดีกว่า บางทีอโนอาจจะอยู่ที่บ้านแล้วก็ได้ ที่ฉันมาเพราะอยากช่วยเรื่องอโน ส่วนเรื่องอื่นฉันช่วยไม่ได้จริงๆ รูปนี้ฉันขอยืมไปก่อนแล้วกัน ถ้าได้ข้อมูลเพิ่มเติมจะรีบโทร.มาบอก"

ปลายฉัตรดึงรูปคีรีออกมาแล้วหันไปหยิบกระเป๋ากลับบ้าน เมื่อถึงบ้านเธอถึงกับผงะ เพราะรูปท่านเทียนวางอยู่ เธอรีบถามลุงฉิ่งว่าเป็นใคร ทำไมหน้าตาน่ากลัวจัง

"รูปบรรพบุรุษเองนั่นแหละ หลวงลุงเพิ่งเอามาตั้งไว้เมื่อกลางวัน"

"หลวงลุงเนี่ยนะ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ร้อยวันพันปีฉันไม่เคยเห็นหลวงลุงจะมาบ้านเราเลย แล้วนี่จู่ๆก็มาเพื่อเอารูปมาไว้ที่นี่เนี่ยนะ"

"เออ แค่นั้นยังแปลกไม่พอ ถ้าเอ็งได้ยินที่หลวงพี่พูดจะรู้ว่า แปลกหนักเลย เพราะท่านพูดทำนองว่า รูปนี้จะพาใครสักคนไปหา อะไรทำนองเนี้ยะ แต่เอ็งไม่ต้องถามว่าใคร เพราะพวกข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน" ลุงฉิ่งตัดบท

ooooooo

เช้าวันต่อมา ปลายฉัตรเอารูปคนที่เดินตามอโน ไปให้ไตรภูมิดู ไตรภูมิบอกว่า ชื่อคีรีเป็นลูกน้องราม แต่ปกติพวกรามจะไม่สนใจใครนอกจากคนที่เป็นเหยื่อ ปลายฉัตรฟังแล้วอึ้งกลัวว่าอโนจะเป็นเหยื่อรายต่อไปจึงจะไปช่วยสิงห์ตามหาอโน เพราะเธอรู้จุดอ่อนของราม

"ถ้าเธออยากจะกำจัดรามจริงๆ ฉันมีวิธีที่ง่ายกว่านั้น ตามหากฤชมังกรให้เจอ เพื่อทำลายคำสาป เมื่อคำสาปหมดสิ้น รามและลูกน้องก็จะหมดสิ้นอายุขัยกลายเป็นเถ้าธุลีไปในทันที" ไตรภูมิแนะนำ

"จริงเหรอ พวกนั้นจะโดนกำจัดไปพร้อมกับคำสาปจริงๆ เหรอคะ แล้วถ้าพวกนั้นโดนทำลาย แล้วพวกคุณ" ปลายฉัตรฉุกคิดหันมามองไตรภูมิ เห็นเขาพยักหน้าช้าๆ พูดเน้นๆ

"ใช่ พวกเราทุกคนจะต้องแหลกสลายไปพร้อมๆกัน"

"หมายความว่า ถ้าฉันหากฤชมังกรเจอ คุณก็ต้องตาย" ปลายฉัตรถึงกับเข่าอ่อนอยากจะร้องไห้ แต่ไม่มีน้ำตา

ไตรภูมิมองปลายฉัตรอย่างเข้าใจและเสียใจไม่แพ้กัน ขณะที่อโนกลับรู้สึกดีที่ได้ชีวิตอมตะสมใจ มายาไม่พอใจที่เรื่องลงเอยแบบนี้ จึงเข้ามาเล่นงานอโน อโนโต้กลับ ขยับจะซ้ำมายาที่เพลี่ยงพล้ำ แต่รามเข้ามาห้าม แล้วให้พาลีกับคีรีพาอโนออกไปสงบสติอารมณ์ก่อน

เมื่อสมุนออกไปแล้ว รามหันมาจะจัดการมายา มายาตัดพ้อรามที่มอบความเป็นอมตะให้อโน หวังขอความเห็นใจ

"ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ ก็เพราะตัวเธอเอง ก็อย่างที่พ่อฉันเคยบอก ฉันให้ความเป็นอมตะกับพวกเธอได้ ฉันก็ทำลายมันได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้น อยู่กันให้ดีๆ จะได้อยู่กันได้นานๆ" รามเสียงกร้าว ก่อนจากไป

มายาได้แต่กัดฟันกรอดด้วยความแค้นใจ แต่ไม่ยอมแพ้ ผิดกับปลายฉัตรที่คิดจะถอดใจเมื่อรู้ความลับเรื่องกฤชมังกร เธอตัดสินใจบอกไตรภูมิว่า จะเลิกทำงานนี้เพราะไม่อยากฆ่าเขา และเสนอให้ใช้ไฟจัดการกับพวกรามแทนกฤชมังกร

"เธอไม่เข้าใจ ฉันอยู่บนโลกนี้มานานเกินไป ฉันอยากกลับเป็นคนธรรมดา ไม่ว่าจะในภพชาติไหนก็ตาม ฉันก็จะรอ แต่สำหรับตอนนี้เวลานี้ ฉันต้องการยุติความเป็นอมตะไว้เพียงแค่นี้"

"คุณแน่ใจเหรอว่า คุณอยากให้ร่างกายคุณสลายกลายเป็นเถ้าถ่านไปจริงๆ คุณแน่ใจเหรอว่า ในตอนนี้ ไม่มีอะไรที่ทำให้คุณอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป ถ้าคุณตอบว่าแน่ใจ ฉันจะกลับไปทำงานให้คุณเหมือนเดิม" ปลายฉัตรถามวัดใจ

ไตรภูมิมองหน้าหญิงสาวแล้วฝืนใจตอบ "ฉันแน่ใจ ชีวิตฉันในตอนนี้ ไม่มีอะไรทำให้ฉันอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแล้วจริงๆ"

"โอเคๆ ฉัน เข้าใจแล้ว ฉันเข้าใจแล้ว" ปลายฉัตรเสียงสั่นพยายามกลั้นน้ำตาไว้อย่างสุดแรง เธอหันหลังเดินออกไปแล้วปล่อยโฮ ขณะที่ไตรภูมิกำมือแน่น เพราะความเสียใจไม่แพ้กัน

ooooooo

ลุงฉิ่งเห็นปลายฉัตรนั่งเหงาอยู่ที่สวนหน้าบ้าน ก็หันไปถามต้นสายปลายเหตุจากเฉิด ทำให้เฉิดเป็นห่วงลูกจึงออกไปคุยด้วย ปลายฉัตรถามเรื่องความเสียใจของแม่ เมื่อเปรมจากไป

"ตอนนั้นแม่ก็ไม่ได้เสียใจฟูมฟาย เพราะแม่ทำใจไว้อยู่แล้ว เพราะพ่อจะคอยบอกแม่เสมอว่าเราสองคนต้องใช้ชีวิตคู่อย่างคุ้มค่า เพราะไม่รู้ว่าเราจะตายจากกันไปเมื่อไหร่ ทำให้เราสองคนพยายามไม่ทะเลาะกัน ถ้างอนกัน หรือโกรธกันก็จะไม่ปล่อยให้ความรู้สึกแย่ๆมันอยู่นาน ต้องปรับความเข้าใจกันให้เร็วที่สุด พ่อกับแม่ใช้ชีวิตอยู่แบบคิดว่า ถ้าพรุ่งนี้เราต้องตายจากกันเราก็จะไม่เสียใจ เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน เราทั้งสองคนต่างทำอย่างดีที่สุดแล้ว ถึงพ่อจะจากไป แต่พ่อก็ยังอยู่ในความคิด อยู่ในความทรงจำ และอยู่ในใจของแม่เสมอ"

"ขอบคุณมากค่ะแม่"

ปลายฉัตรสวมกอดเฉิดด้วยความรักแล้วร้องไห้เบาๆ เพราะคิดถึงไตรภูมิ

ในระหว่างที่เฉิดให้คำแนะนำดีๆกับปลายฉัตรอยู่นั้น อินทร์ก็ตัดสินใจเข้ามาแนะนำไตรภูมิให้เปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงที่เขามีต่อปลายฉัตรให้เธอรู้ เพราะอยากเห็นทั้งคู่มีความสุข

"ขอบใจ เราจะลองเก็บมาคิดดู ว่าเราจะเลือกแบบไหน" ไตรภูมินึกถึงปลายฉัตร

คีรีกับพาลีไม่พบอโนในห้อง ก็รีบมารายงานราม แต่รามไม่สน เพราะมั่นใจว่าอโนแอบหนีไปไหนไม่ไกล อีกไม่นานจะต้องซมซานกลับมา

"แต่ถ้าเราไม่รีบหาเด็กนั่นให้เจอ แล้วฆ่าปิดปากมันซะ มันอาจจะหนีกลับไปบ้าน แล้วพี่ชายมันรู้เรื่อง เราจะเดือดร้อนกันหมดนะคะ" มายาที่โพล่งออกมา

"ใครถาม" รามตวาด แล้วพูดต่อว่า ถ้าพรุ่งนี้เช้าอโนยังไม่กลับมา เขารู้ว่าจะไปตามที่ไหน

มายากัดฟันกรอดด้วยความไม่พอใจ แล้วแอบไปฟ้องจิตต์เรื่องรามมอบความเป็นอมตะให้อโน จิตต์โกรธมากครุ่นคิดหาทางแก้ปัญหา

สิงห์ดีใจมาก เมื่ออโนกลับมาบ้าน แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ เมื่อเห็นน้องมีท่าทางแปลกเหมือนไม่ใช่อโนคนเดิม เขาจึงกดข้อความส่งไปให้ปลายฉัตร "มีเรื่องอโนจะปรึกษา พรุ่งนี้ตื่นแล้วโทร.หาด้วย"

ooooooo

เช้าวันใหม่ ไตรภูมิมารับปลายฉัตรที่บ้าน ตั้งใจจะสารภาพว่า เธอคือสิ่งเดียวที่ทำให้เขาอยากมีชีวิตอยู่ แต่ก็ไม่มีโอกาส เพราะลุงฉิ่ง มหา และหมาข้างบ้านมาขัดจังหวะ แถมด้วยสิงห์โทร.มาตามปลายฉัตรอีก ไตรภูมิแม้จะหึง แต่ก็จำยอมพาปลายฉัตรไปหาสิงห์ที่บ้าน

สิงห์เมื่อเห็นปลายฉัตรมากับไตรภูมิก็ปวดใจ ส่วนไตรภูมิขณะเดินตามปลายฉัตรเข้าบ้าน ประสาทสัมผัสอันพิเศษก็จับได้ว่า มีคลื่นรบกวนแปลกๆอยู่ในระยะใกล้ เขามองไปที่หน้าต่างห้องของอโน ปลายฉัตรเห็นท่าทางของไตรภูมิ พลันรับรู้ได้ว่า มี เหตุการณ์ไม่ธรรมดาเกิดขึ้น

"ไม่ต้องห่วงเรื่องอโนนะ เดี๋ยวเราจัดการเอง มีประชุมสำคัญกับเจ้านายต้องรีบไปไม่ใช่เหรอ ไปเถอะ ที่นี่ เราดูแลเอง" ปลายฉัตรบอกสิงห์

"เมื่อคืนอโนกลับมาดึกมาก แล้วก็มีท่าทางแปลกๆหน้าซีดๆตัวเย็นๆเหมือนไม่สบาย ถามอะไรก็ไม่ตอบปลายเป็นผู้หญิงเหมือนกัน อาจจะคุยกันสะดวกกว่าเรา"

ปลายฉัตรฟังแล้วก็เครียด แต่ก็จำต้องรับปากว่าเธอจัดการได้ ส่วนไตรภูมิเมื่อได้ยินทุกคำพูดของสิงห์ ก็รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อสิงห์ขึ้นมอเตอร์ไซค์รับจ้างไป ปลายฉัตรหันกลับมาเห็นไตรภูมิเดินเข้าบ้านไปแล้ว ก็รีบตามไป ไตรภูมิเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่กลางบ้าน อโนลืมตาโพลงอยู่ในห้องด้วยสัญชาตญาณการป้องกันตัว เธอสูดลมหายใจเมื่อได้กลิ่นเลือดของปลายฉัตร ก็คำรามออกมา

"มีอะไรเหรอ" ปลายฉัตรเดินเข้ามาหาไตรภูมิ

ไตรภูมิยกมือให้หยุดพูด ปลายฉัตรชะงักหยุดด้วยความแปลกใจ ไตรภูมิเงี่ยหูฟัง แล้วก็ตะโกน

"ระวัง" ทันใดนั้นปลายฉัตรก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างพุ่งเข้ามาหาด้วยความเร็ว เธอกระเด็นไปตามแรงพุ่งชน รู้สึกเหมือนโดนลากไปตามพื้นจนหลังชนเข้ากับฝาผนัง

"อ๊ากซ์" อโนยื่นหน้าเข้ามา พร้อมกับเขี้ยวขาววับ

ปลายฉัตรเหมือนหัวใจหยุดเต้น ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง มือของไตรภูมิยื่นเข้ามาและจับล็อกที่คอของอโนอย่างแรงแล้วดึงออกห่างจากปลายฉัตร อโนดิ้นไปมาพยายามจะแกะมือไตรภูมิออก แต่สู้แรงไม่ได้ ไตรภูมิดึงอโนมาใกล้และหยิบขวดเลือดกรอกใส่ปากอโน อโนรีบดื่มอย่างกระหาย ไตรภูมิปล่อยมือจากคอ และส่งเลือดทั้งขวดให้ อโนคว้ามาดื่ม

ปลายฉัตรหายใจหอบด้วยความตื่นเต้น เธอมองภาพที่อยู่เบื้องหน้าด้วยความตระหนก พร้อมกับยิงคำถาม

"ทำไมอโนถึงเป็นแบบนี้ ใคร ใครเป็นคนทำ"

"อาจจะเป็นราม เพราะตอนนี้คนที่จะถ่ายทอดความเป็นอมตะให้กับคนอื่นได้ มีผม อินทร์ อาจิตต์ และราม ผมกับอินทร์ไม่ใช่แน่นอน ส่วนอาจิตต์ไม่มีทางจะมอบความเป็นอมตะให้คนอื่น โดยเฉพาะคนนอกครอบครัว"

"แล้วทำไมมีแค่พวกคุณ 4 คนที่ทำได้"

"เพราะต้องเป็นคนที่ได้รับคำสาปโดยตรง ถึงจะมีพลังมากพอจะถ่ายทอดพลังให้คนอื่นได้ พ่อกับอาจิตต์ได้รับ คำสาปจากค้างคาวในถ้ำ พ่อมอบพลังให้ผม และอินทร์ อาจิตต์ มอบให้ราม เราสี่คนจึงมีพลังมากที่สุด แต่สำหรับคนที่ได้รับความเป็นอมตะจากผม

อินทร์ และราม ไม่สามารถจะส่งต่อพลังให้คนอื่นได้"

"สรุป คุณก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นราม และอโนก็ได้กลายเป็นพวกคุณไปเรียบร้อย"

ปลายฉัตรไม่อยากเชื่อ แต่เมื่อเห็นไตรภูมิพยักหน้ารับก็โพล่งออกมาว่า เธอต้องบอกสิงห์

"อย่ามายุ่งเรื่องของฉัน" อโนเดินเข้ามา

"แต่เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลยนะ ที่อโนเป็นแบบนี้รู้หรือเปล่าว่ามันเป็นเรื่องใหญ่มากนะ" ปลายฉัตรอ้าง

"แต่มันก็ยังเล็กกว่าเรื่องที่พี่รู้ว่าใครเป็นผีดูดเลือด แต่พี่ก็ยังปิด ไม่ยอมบอกพี่สิงห์ ที่แท้พี่ก็รู้ความจริงมาโดยตลอด ถึงได้เตือนไม่ให้ฉันอยู่ใกล้ราม" อโนตวาดใส่

"แต่เธอก็ไม่ฟัง แล้วเห็นไหม สิ่งที่รามทำกับเธอ มันเลวร้ายขนาดไหน"

"ใครบอกว่าเลวร้าย มันสุดยอดต่างหาก และที่สำคัญฉันเป็นคนขอร้องให้คุณรามมอบความเป็นอมตะให้กับฉัน ฉันไม่ได้โดนบังคับ สิ่งที่ฉันเป็นอยู่ในตอนนี้ คือสิ่งที่ฉันต้องการจะเป็น พี่ปิดปากไม่พูดความจริงมานานแล้ว ก็หุบปากต่อไปก็แล้วกัน แต่ถ้าพี่บอก

เรื่องฉันกับพี่สิงห์เมื่อไหร่ ฉันก็จะแฉเรื่องเจ้านายพี่เหมือนกัน" อโนยื่นหน้ามาขู่

ปลายฉัตรมองอโนด้วยความผิดหวัง แล้วหันมาทางไตรภูมิที่ยืนมองอโนอย่างเวทนาในความด้อยปัญญา อโนยื่นเงื่อนไขว่า ถ้าไม่อยากเดือดร้อนก็ต่างคนต่างอยู่ ปลายฉัตรจะอ้าปากแย้ง แต่ไตรภูมิชิงพูดขึ้นมาก่อน

"เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง เพราะพวกเราใช้กฎนี้มานานแล้ว เธอเพิ่งมาใหม่...ยังต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะ และสิ่งแรกที่เธอต้องจำไว้ ห้ามแตะต้องปลายฉัตรเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้น ฉันจะไม่ยั้งมือแบบเมื่อกี้" ไตรภูมิย้ำทิ้งท้าย

ปลายฉัตรมองหน้าไตรภูมิ แววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความซาบซึ้งใจ

ooooooo

จิตต์มาอาละวาดใส่รามกับลูกน้อง เพราะโกรธที่รามถ่ายทอดความเป็นอมตะให้อโน เขากลัวว่า สักวัน มันจะเป็นอาวุธที่กลับมาทำร้ายทุกคน รามรีบชี้แจงว่า อโนจะเป็นคนช่วยเขาเรื่องคดี และเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้ชนะไตรภูมิ แต่ถ้าเธอไม่มีประโยชน์อย่างที่เขาคิด เขาก็ปิดปากเธอทันที

"แกคิดได้แบบนั้นก็ดี จะได้ไม่ต้องยุ่งยาก และถ้านังเด็กนั่นมันทำตัวไร้ประโยชน์เมื่อไหร่ แกต้องเก็บมันทันที ฉันไม่อยากจะมีปัญหาปวดหัวมากไปกว่านี้แล้ว"

"พ่อไม่ต้องห่วง ชีวิตของเด็กนั่นมันไม่ได้มีค่าอะไรเลย นอกจากเป็นแค่หมากตัวนึงบนกระดานที่ผมเป็นคนคุมเกม"

รามยิ้มออกมา แววตาดุดันไร้ซึ่งความปรานี

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น