วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

ดอกส้มสีทอง ตอนที่ 3

ตอนที่ 3

วันรุ่งขึ้น เรยาไปเจอเด่นจันทร์ที่ร้านขายของแบรนด์เนมแห่งหนึ่งโดยบังเอิญ เรยาจำเด่นจันทร์ได้ เพราะเคยเห็นที่สนามบิน แต่เด่นจันทร์ไม่รู้ว่าเรยาเป็นใคร รู้แต่ว่าผู้หญิงคนนี้กำลังอวดดีมาแย่งกระเป๋าที่เธอถูกใจอยากจะซื้อ

เรยาจงใจปะทะคารมกับเด่นจันทร์ด้วยเรื่องกระเป๋าที่มีใบเดียว เด่นจันทร์โต้เถียงด้วยไม่นานก็ใช้เงินฟาดหัวพนักงานให้บอกคุณมนจัดส่งกระเป๋าใบนี้และอีกสามใบสามแบบที่โชว์อยู่ไปให้เธอที่บ้าน แล้วรูดบัตรไปให้เธอเซ็นด้วย พูดจบเด่นจันทร์ก็วางบัตรเครดิตเอาไว้แล้วเดินเชิดหน้าออกไป

เรยาหมั่นไส้ที่เด่นจันทร์อวดรวย และคนอย่างเธอก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆด้วย เรยาจะเอากระเป๋าใบนี้ให้ได้เพราะเธอตกลงซื้อก่อน จึงสั่งพนักงานเอาไปใส่ถุงให้เธอเดี๋ยวนี้ พนักงานลังเลตัดสินใจเองไม่ได้จึงบอกให้คอยสักครู่

พนักงานหายไปหลังร้านครู่เดียว...คุณมนเจ้าของร้านก็เดินออกมาเจรจากับเรยาด้วยท่าทีสุภาพ เธอขอโทษที่ขายกระเป๋าให้ไม่ได้เพราะมีคนจองไว้แล้ว เรยาไม่เชื่อและคว้าบัตรเครดิตของเด่นจันทร์มายึดไว้

"ขอบัตรของคุณเด่นจันทร์ให้ฉันเถอะ"

"ฉันไม่ให้ คุณเป็นคนขายของที่เลวมาก คุณทำอย่างนี้กับลูกค้าได้ยังไง ฉันทำให้เป็นข่าวได้นะ ร้านของคุณจะต้องเสียชื่อเสียง"

"ขอบัตร...แล้วเชิญคุณเถอะค่ะ ฉันจะปิดร้านแล้ว"

"บอกแล้วไงว่าไม่ให้ คุณไม่มีสิทธิ์ไล่ฉันด้วย...นั่น คุณเขียนหน้าร้านว่าเปิดกี่โมงปิดกี่โมง ฉันมีสิทธิ์อยู่ในร้านนี้จนถึงเวลาปิดร้าน"

"ฉันขอโทษนะคะ เอาล่ะค่ะ ฉันจะลดราคา 30 เปอร์เซ็นต์ ให้กับของชิ้นแรกที่คุณซื้อ เชิญเลือกตามสบาย แพงเท่าไหร่ก็ได้ค่ะ ฉันหาทางออกอย่างดีที่สุดแล้วนะคะ ยอมขาดทุน"

เรยาค่อนข้างพอใจ ไปเลือกกระเป๋าใบใหม่แล้วส่งบัตรให้คุณมนรูด คุณมนอ่านชื่อในบัตรที่สะกดด้วยภาษาอังกฤษแล้วชมว่าชื่อเพราะจัง

เสร็จขั้นตอนแล้วเรยารับบัตรคืนมา และฝากคำพูดทิ้งท้ายไปถึงเด่นจันทร์ว่า

"เอาเงินฟาดหัวคนแบบนี้ระวังเจอของแข็งแล้วจะรู้สึก เขาไม่ได้รวยอยู่คนเดียวนะ คนอื่นถึงจะไม่รวยเท่า แต่บางทีอาจจะมีอย่างอื่นที่ดีกว่าก็ได้"

เรยาเดินพ้นจากร้านไปแล้ว พนักงานบอกคุณมนตามตรงว่า เมื่อกี้ตนใจคอไม่ดีเลย นึกว่าจะมีการตบกันในร้านซะแล้ว แต่เรยาคนนี้ก็พูดถูก คุณเด่นใช้เงินฟาดหัวจริงๆ

"แต่คุณเด่นเขาก็ฟาดถูกนี่ ไม่งั้นตัวเองจะได้ลดสามสิบเปอร์เซ็นต์เหรอ ฉันสิขาดทุนเห็นๆ ไหนนามสกุลอะไร เอาสลิปมาดูซิ...เรยา วงซะเวท ไม่เคยได้ยินนามสกุลนี้ แล้วจะมีอะไรไปสู้กับนามสกุลชลธีของคุณเด่นเขา"

คุณมนออกเสียงนามสกุลผิดเพี้ยนเพราะไม่สันทัดภาษาอังกฤษ แต่ที่แน่ๆก็คือคุณมนมั่นใจว่านามสกุลนี้เทียบชั้นไม่ได้กับตระกูลชลธี...

เหตุการณ์วันนี้ที่ร้านคุณมนอาจเงียบหายและไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเรยา ถ้าเด่นจันทร์ไม่เอามาเล่าให้สินธรฟังในเช้ารุ่งขึ้น เด่นจันทร์เล่าโดยไม่รู้ว่าเรยาเป็นใคร แต่หล่อนทำให้เธอหงุดหงิดมาก...มากจนต้องโทร.ไปถามชื่อเอากับคุณมน สินธรที่นั่งอยู่ด้วยจึงได้ยินชื่อเรยาเต็มสองหู

สินธรไม่พอใจอย่างมาก เขาบุกไปหาเรยาที่คอนโดฯ แต่ไม่พบเพราะเรยาทนเหงาอยู่คนเดียวไม่ได้ เธอกลับไปนอนค้างกับแม่ที่บ้านนายแหม่ม...

ooooooo

ลำยองดีใจมากที่ลูกกลับมา แค่ได้ยินลูกบ่นเมื่อยขาคนเป็นแม่ก็กระวีกระวาดบีบนวดให้ เรยายิ้มชอบใจ จริงๆเธอก็รักแม่มาก แต่ด้วยความเอาแต่ใจจึงพูดอะไรไม่คิด ทำให้แม่น้อยใจและเสียใจบ่อยครั้ง

พออารมณ์ดีๆ เรยาก็ให้แม่เล่าอดีตในบ้านเจ้าสัวให้ฟังอีก เรยาอยากรู้ว่าเวลาเจ้าสัวมีเมียคนที่สอง สาม สี่ เขาจัดงานแต่งงานหรือเปล่า

"ที่แม่รู้ ไม่ได้แต่ง แค่เลี้ยงฉลอง ที่บ้านเจ้าสัวมีงานแต่งงานแค่หนเดียว เป็นงานแต่งคุณชายใหญ่ จัดแบบจีน พวกเราคนใช้เขาไม่ให้ขึ้นไปดูหรอก แต่แม่อยากเห็น เลยไปแอบดู"

ลำยองนึกถึงอดีตวันนั้น...พิธีแต่งงานของก้องเกียรติหรือคุณชายใหญ่ บุตรชายคนโตของตระกูลเชงกับณฤดีจัดแบบจีนโดยแท้ ลำยองแอบดูอย่างตื่นตาตื่นใจ ลูกสะใภ้เจ้าสัวสวยและเป็นผู้ดีทุกกระเบียด สมกับคุณชายใหญ่ที่หล่อมาก

เรยาได้ยินแม่ชมคุณชายใหญ่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมยังเหลือมาได้ เขาไม่มีแฟนอยู่ก่อนเหรอ...คำถามนี้ทำเอาลำยองหน้าขรึมลง นึกถึงก่อนวันแต่งงาน ตัวเองทำความสะอาดอยู่หน้าห้องก้องเกียรติแล้วได้ยินเรืองยศกับก้องเกียรติทะเลาะกัน เรืองยศจะไปบอกเม่งฮวยให้ยกเลิกการแต่งงาน แต่ก้องเกียรติไม่ยอม ทั้งขู่ทั้งปลอบเรืองยศว่า

"อย่าทำเป็นอันขาด ถ้ายังขืนทำ ชาตินี้ไม่ต้องพบกันอีกเลย...ยศ เรื่องของเรามันไม่ถูกต้อง ผิดทั้งธรรมชาติ ผิดทำนองคลองธรรม ผิดขนบธรรมเนียม เราจะใช้ชีวิตแบบนี้ตลอดไปได้ยังไง คิดดูนะ เราสองคนเป็นลูกคนจีน โดยเฉพาะฉันเป็นลูกคนโต ฉันมีหน้าที่นะยศ ตระกูลเชงต้องมีลูกหลานสืบแซ่ต่อไป ฉันจะทำให้อาเตียเสียใจไม่ได้ อาเตียนายก็เหมือนกัน"

"ฉันไม่แคร์ ฉันยอมทุกอย่าง เพราะฉันรักนาย"

"แต่เราไม่ได้อยู่กันสองคนในโลก มีพ่อมีแม่มีญาติพี่น้อง เขาต้องอับอายขายหน้า เราเสี่ยงไม่ได้นะยศ"

"แต่ใหญ่ก็เสี่ยงมาแล้วจนถึงเดี๋ยวนี้...ใหญ่ไม่รักยศแล้วใช่มั้ย"

"ยศ...อย่าพูดเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกเลย"

"ทำไม...เป็นไปไม่ได้ยังไงฮะใหญ่ ไหนพูดซิ"

"นายก็รู้ว่าเรื่องมันเกิดขึ้นยังไง"

"ยังไง...หมายความว่าไง ฉันขืนใจนายงั้นเหรอ นายจะพูดยังงั้นใช่มั้ย นายไม่ได้ยินยอมเหรอ ไม่ได้มีความสุขด้วยเหรอ"

"พอแล้วยศ ฉันไม่อยากพูดถึงมัน ไม่อยากนึกถึงอีกต่อไป เข้าใจด้วยนะว่าฉันรู้สึกตลอดมาว่า มันเป็นความผิด... ครั้งเดียวก็เกินพอ"

"จะมาสำนึกผิดอะไรตอนนี้ เพราะมาเจออีนังผู้ดีนั่นใช่มั้ย"

"ไม่ใช่ผิดอย่างเดียว...ฉันรู้สึกอับอาย...อาย..."

"แน่ล่ะ เรื่องในมุ้ง ใครๆก็ต้องอายทั้งนั้น ไม่ว่าผู้ชาย-ผู้หญิง ผู้ชาย-ผู้ชาย หรือผู้หญิงกับผู้หญิง ของอย่างนี้มันเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับใคร มันเป็นสิทธิ์ของเรา ใครจะ..."

"แต่ที่ทรมานคืออายตัวเอง" ก้องเกียรติแทรกขึ้นมา

"ใหญ่...ฉันจะบอกให้นะ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่มีมาแต่โบราณกาล มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ มนุษย์มีอยู่สองเพศเท่านั้น ถ้าไม่มีใจรักเพศตรงข้าม ก็รักเพศเดียวกันได้ มันไม่ใช่เรื่องว่าโลกจะแตกถล่มทลายไป ทุกอย่างมันเป็นเรื่องการยอมรับของคนด้วยกัน ศีลธรรมจรรยาเหรอ ขนบธรรมเนียมประเพณีเหรอ มันก็คนสร้างขึ้นทั้งนั้น คนว่าผิดมันก็ผิด คนว่าไม่ผิดมันก็ไม่ผิด สมัยโบราณที่เขาเรียกเล่นเพื่อนน่ะ ใครทำเข้าโดนทำโทษถึงขับไล่ถึงประหารก็มี เดี๋ยวนี้ล่ะมีบทลงโทษมั้ย...ก็มีไม่ได้ ต่อไปอีกสิบยี่สิบปีข้างหน้า งานแต่งงานคราวนี้อาจเป็นนายกับฉันก็ได้"

ก้องเกียรติลุกพรวด ไม่ว่าจะยังไงเขาก็รับไม่ได้ ที่สำคัญเขาต้องนึกถึงอาเตียกับอาม้าที่อายุมากแล้ว เขาคงผัดผ่อนท่านอีกไม่ได้ แต่เราสองคนยังเป็นเพื่อนที่รักและหวังดีต่อกันตลอดไป เรืองยศฟังแล้วน้ำตารื้น รู้แน่แก่ใจว่าจนปัญญาขัดขวาง จำต้องกล้ำกลืนความเสียใจ บอกเขาว่าตนอยากอยู่คนเดียว ก้องเกียรติจึงเดินหน้าเศร้าออกจากห้อง โดยมีสายตาลำยองแอบมองตามอย่างเห็นใจ

มัวแต่เหม่อลอยนึกถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ของก้องเกียรติกับเรืองยศที่ตัวเองแอบล่วงรู้แต่ไม่อาจบอกกับใครได้ กระทั่งเรยาส่งเสียงเรียกแม่หลายคำ ลำยองถึงรู้สึกตัว แล้วเลียบเคียงถามเรยาว่าที่ทำงานของลูกมีผู้ชายรักกับผู้ชายด้วยกันเยอะไหม

"มี...ไม่รู้เยอะรึเปล่า มีทุกที่แหละแม่ ไม่เห็นแปลกอะไร เดี๋ยวนี้เขาให้แต่งงานกันได้แล้วนะ"

"จริงเหรอ"

"จริ๊ง...แต่ในเมืองนอกนะออกเป็นกฎหมายให้แต่งได้ เมืองไทยยังไม่มี ถามทำไมเหรอแม่"

"ถามเฉยๆ"

"แม่...เมียคุณชายใหญ่เขาเป็นผู้ดีขนาดไหนเหรอ ผู้ดีตีนแดงรึเปล่า"

"เขาก็เรียบร้อยนุ่มนวลดี"

"เขาชื่ออะไร"

"แม่ลืม...จำไม่ได้ว่าเขาชื่ออะไร"

ooooooo

ขณะเดียวกันนั้นเอง ก้องเกียรติกำลังพาภรรยามาเยี่ยมเยียนอาม้าเม่งฮวยที่สังขารร่วงโรยไปตามกาลเวลา เม่งฮวยกับลูกสะใภ้เข้ากันได้ดี แต่ชอบเรียกชื่อเล่นเธอผิดอยู่เสมอ เธอชื่อณฤดีหรือคุณดี๋ แต่เม่งฮวย ออกเสียงเป็นคุณหลีจนติดปาก

เม่งฮวยอยากมีหลานเต็มแก่ แต่ก็ยังไม่มีวี่แววสักที ทั้งๆที่ก้องเกียรติกับณฤดีแต่งงานมาเป็นสิบปีแล้ว ณฤดีเองก็เริ่มจะถอดใจ บอกอาม้าว่าเราทั้งคู่ทำใจกันได้แล้วว่าใครคนใดคนหนึ่งคงเป็นหมัน อาม้าคงต้องคอยหลานจากอาหมวยใหญ่

ก้องเกียรติหรือคุณชายใหญ่เห็นอาม้าหน้าสลด ก็รีบปลอบใจ

"อาม้าครับ ตระกูลเชงไม่ขาดหายหรอกครับ อาม้าอย่าลืมตี๋เล็กสิครับ"

"ใช่ค่ะ น้องชายเล็กเรียนหมอจวนจบแล้ว อาม้าเตรียมหาลูกสะใภ้ได้แล้วนะคะ"

"ม่ายลู้...พูกม่ายถูก อั้วเกียดแม่มัง"

"ตี๋เล็กเป็นคนดีครับอาม้า ตั้งใจเรียนมาก ผมคิดไม่ถึงว่าเด็กเกเรอย่างตี๋เล็กจะกลับตัวได้ขนาดนี้"

รอยยิ้มของก้องเกียรติผุดขึ้นเล็กน้อย เมื่อเอ่ยถึงเกียรติกรหรือตี๋เล็กลูกชายของโรสคุณนายที่สามแห่งตระกูลเชงซึ่งเขากำลังขะมักเขม้นตั้งใจเรียนหมออยู่ที่อเมริกา

ooooooo

อยู่ค้างกับแม่แค่คืนเดียวเรยาก็รีบกลับมาที่คอนโดฯ เพราะเมื่อวานสินธรโทร.หาแล้วเธอไม่ได้รับ แต่พอวันนี้เธอโทร.กลับไปหา ปรากฏว่าเขาปิดเครื่อง จึงโทร.เข้าออฟฟิศของเขา สินธรยังกรุ่นโกรธเรื่องที่ได้ยินจากเด่นจันทร์เมื่อวานจึงเสียงแข็งดุเรยาว่าโทร.มาทำไม บอกแล้วไม่ให้โทร.ที่ทำงาน และตอนนี้ตนกำลังทำงาน ไม่มีเวลาพูดเรื่องไร้สาระ

"แล้วพ่อโทร.มาหาฟ้าทำไม บอกมานะ"

"ไว้พบกันแล้วก็รู้ ตอนนี้คุณนึกดูแล้วกันว่าคุณไปทำอะไรร้ายกาจไว้ที่ไหน" สินธรตัดสายฉับ...เรยาโกรธจี๊ด แล้วบ่ายหน้าไปหาเขาที่ออฟฟิศ จึงเกิดปะทะอารมณ์กับพนักงานหญิงคนหนึ่งที่บอกว่าสินธรไม่อยู่ เรยาไม่เชื่อดึงดันเข้าไปในห้องทำงานสินธรจนได้ แต่ครู่เดียวก็กลับออกมาฉุนเฉียวใส่พนักงานคนเดิมด้วยความผิดหวัง เพราะสินธรไม่อยู่จริงๆ

"ทำไมคุณไม่บอกตั้งแต่แรก พูดเป็นบ้าอยู่ได้"

"พูดเป็นบ้าน่ะคุณ ไม่ใช่ฉัน เพราะถ้าคุณไม่ยืนยันจะเข้าไปให้ได้ ทั้งๆที่ไม่ได้นัดล่วงหน้า ก็ไม่ต้องพูดเป็นบ้าหรอก"

เรยาเจ็บใจแต่ไม่กล้าอาละวาด หันหลังกลับโดยเร็ว แต่ก็ยังได้ยินเสียงเยาะหยันของพนักงานคนนั้นที่เปรยกับเพื่อนอีกคนว่า

"โง่...คนโง่เท่านั้นแหละที่จะทำอะไรโง่ๆ เพื่อแสดงว่าตัวเป็นเมียน้อย"

เรยาเจ็บจี๊ด กลับไปอาละวาดขว้างปาข้าวของในห้องเช่าโดยไม่รู้ว่าสินธรอยู่ในห้องน้ำ กระทั่งเขาเดินออกมาคว้ากุญแจรถเตรียมจะกลับ เรยารีบตามไปคว้ามือเขาไว้

"พ่อ...เดี๋ยว...จะไปไหน"

"ผมมีเรื่องสำคัญจะพูดกับคุณ แต่คุณกำลังโกรธเรื่องอะไรก็ไม่รู้ โกรธอย่างนี้เขาเรียกว่าลมออกหู ผมไม่อยู่หรอก ต้านแรงลมของคุณไม่ได้"

"ทำไมพ่อไม่รับโทรศัพท์"

"ถ้าไม่รับผมจะรู้หรือว่าคุณกำลังจะไปที่ทำงานผม แล้วผมคงต้องอายขายหน้าพนักงานในบริษัทมากกว่านี้"

เรยานิ่งไปนิด เปลี่ยนท่าทีเป็นอ่อนลง "แต่...พ่อไม่ยอมรับโทรศัพท์ตั้งแต่แรก ถ้าพ่อไม่ปิดโทรศัพท์ ฟ้าเหรอจะโทร. เข้าไปในห้องของ ผอ.ผู้ยิ่งใหญ่"

สินธรถอนใจยาว รู้สึกเหนื่อยขึ้นมาเฉยๆ เรยาจึงใช้ ไม้ตายเข้ามากอดคอนัวเนียจะพาขึ้นเตียง

"อย่าเพิ่ง...ไปนั่งดีๆ ผมจะพูดเรื่องซีเรียส"

"แหม...ก่อนซีเรียส เรามาทำอะไรๆ ที่ไม่ซีเรียสก่อนไม่ดีเหรอคะ"

"ฟ้า...นั่งลง...แล้วฟังนะ"

เรยาฟังซะที่ไหน เธอทอดตัวลงบนเตียงพร้อมเหนี่ยวเขาลงไปด้วย แล้วซุกไซ้เร่าร้อนจนสินธรอดใจไม่ไหว...

หลังจากเกมรักจบลงแล้ว เรยาก็ออดอ้อนฉอเลาะสินธรว่ามีอะไรจะพูดกับตน สินธรพยายามใจเย็นถามถึงเหตุการณ์ที่ร้านคุณมน ก่อนจะขอร้องเรยาอย่าได้เข้าไปที่ร้านนั้นอีก เพราะเด่นจันทร์ไปเป็นประจำ คุณมนแทบจะปิดร้านขายให้เธอคนเดียว

คำพูดสินธรยิ่งตอกย้ำให้เรยารู้สึกต่ำต้อย เธอโกรธจี๊ดขึ้นเสียงใส่เขาว่า พอได้แล้ว ไม่ต้องอวดสรรพคุณเมียตัวเองขนาดนั้นหรอก แค่นี้ก็อะเมซซิ่งเต็มทน ถ้าเขารักเมียจนแม้แต่

รอยเท้าก็ไม่ให้ตนเข้าไปเหยียบ ก็กลับไปเลย ไปหาเมีย ไปหาน้ำพริกปลาร้าบูดแล้วบูดอีกของเขาเลย

"ไปสิ...ไป๊" เรยาตวาดแว้ด สินธรโกรธขึ้นมาจริงๆ ลุกขึ้นแต่งตัวออกจากห้องไปโดยไม่ฟังเสียงทัดทานของเรยาที่วิ่งตามออกมาอย่างแตกตื่น นึกไม่ถึง

เสียงกรี๊ดของเรยาสร้างความรำคาญให้สองผัวเมียที่อยู่ห้องติดกันถึงขนาดโผล่ออกมามองด้วยสีหน้าหยามหยันในชะตาของเมียน้อย

ooooooo

เมื่อทำท่าจะหมดหวังเรื่องผู้สืบสกุลจากก้อง-เกียรติบุตรชายคนโต เม่งฮวยจึงอยากให้กรองกาญจน์

บุตรสาวคนรองแต่งงานกับไทรรัตน์เสียที เพราะสองคนหมั้นกันมาตั้งสิบห้าปีแล้ว แต่ด็อกเตอร์กรองกาญจน์

ก็ไม่ใส่ใจ เอาแต่บ้างาน ขนาดไทรรัตน์เองเคยรบเร้ากรองกาญจน์หลายครั้งหลายครา แต่ก็ไม่เป็นผล เขาต้องเป็นฝ่ายโมโหกลับไปทุกครั้งคืนนี้ก็เช่นกัน ไทรรัตน์มาที่บ้านเจ้าสัวแล้วทวงถามเรื่องนี้จากกรองกาญจน์อีก เขาไม่เข้าใจทำไมเธอไม่ยอมแต่งงานเสียที ทั้งที่เราสองคนมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันมานานแล้ว แม้จะนับครั้งได้ก็ตาม

แล้วกรองกาญจน์ก็พูดจาบ่ายเบี่ยงอีกตามเคยจนไทรรัตน์อ่อนใจ

"ผมขี้เกียจทะเลาะกับคุณ ที่ผมมาพูดกับคุณทั้งๆที่ ไม่อยากพูดเลย...เบื่อมาก เพราะว่าอาเตียอาม้าผมเขาเริ่มถามอีกแล้ว เขาไม่ยุ่งเรื่องนี้มาเป็นปีๆแล้วนะ ผมบอกให้คุณเตรียมตัว เพราะถ้าพ่อแม่ผมมาพูดกับพ่อแม่คุณ ก็จะเป็นเรื่องบีบมาถึงเราสองคนอีก เตรียมคำตอบไว้แล้วกัน"

"คุณล่ะ คุณจะบอกว่าไง"

"อ๋อ ง่ายมาก ผมจะบอกว่าผมเป็นกามตายด้าน มีเมียไม่ได้" ไทรรัตน์ประชดแล้วเดินหนีไปทางหน้าตึกใหญ่ โดยมีเสียงกรองกาญจน์แหย่เย้าไล่หลังมาอย่างนึกสนุก

"ฉันจะยืนยันนั่งยันว่าคุณน่ะ...ไม่ใช่หรอก คุณยังแจ๋วอยู่เลย"

ไทรรัตน์หัวเสียกลับไปที่รถ เจอซิลเวียออกมาทักทาย ซิลเวียแววตาเจ้าชู้กรุ้มกริ่มเข้ามาถึงเนื้อถึงตัวไทรรัตน์ พยายามรื้อฟื้นความหลังเมื่อครั้งเขาและเธอพบกันที่ท่าน้ำเมื่อสิบปีที่แล้ว วันนั้นไทรรัตน์อดใจไม่ไหวเผลอไผลจูบซิลเวียอย่างดูดดื่ม...แล้ววันนี้ซิลเวียที่กำลังเบื่อเจ้าสัวก็อยากให้เป็นเหมือนวันนั้นอีก เธอจู่โจมดึงไทรรัตน์มากอดจูบอย่างไร้ยางอาย โดยที่ฝ่ายชายตั้งตัวไม่ติด พอรู้สึกตัวเขารีบผลักเธอออกอย่างแรง แล้วขึ้นรถกลับออกไปทันที

ซิลเวียชอบใจหัวเราะเสียงแผ่วก่อนกรีดกรายกลับเข้าตึก โดยไม่รู้ว่าเจ้าสัวยืนมองมาจากบนตึกด้วยความโกรธแค้น

เจ้าสัวรู้ตัวดีว่าตนไม่หนุ่มแน่นเหมือนเดิมแล้ว แม้จะเคยไปทำศัลยกรรมจากอเมริกา แต่ศัลยกรรมก็ช่วยได้เฉพาะร่างกายภายนอก แต่กำลังวังชานั้นร่วงโรยไปตามวัย แม้อาจิวจะสรรหาทั้งยาและของบำรุงหลายขนานมาให้กิน ก็ดูเหมือนจะไม่ดีขึ้น

ยิ่งมาเห็นภาพบาดตาบาดใจของเมียรักกับชายอื่นแบบนี้ เจ้าสัวโกรธถึงกับทรุดและหมดสติอยู่ในห้อง โชคดีอาจิวเข้ามาเห็นในครู่ต่อมา จึงรีบเยียวยา พร้อมกันนี้ก็ให้เด็กไปบอกบรรดาเมียของเจ้าสัว

เม่งฮวยกับเยนหลิงแตกตื่นมาดูแลเจ้าสัว ต่างจากซิลเวียที่รับรู้ด้วยท่าทีเฉยๆ ปฏิเสธที่จะไปดูอาการ อ้างว่ามีคนหลายคนไปแล้ว เมื่อเจ้าสัวฟื้นขึ้นมาเห็นใครต่อใครวุ่นวายเป็นห่วงอาการของตนเต็มไปหมด ยกเว้นซิลเวียที่ไม่มีแม้แต่เงา เจ้าสัวเก็บซ่อนความรู้สึกผิดหวังและชิงชัง บอกทุกคนให้เลิกวุ่นวายได้แล้ว...สั่งอาจิวไปจัดห้องให้ตนด้วย ตนจะไปที่ห้องของอาเหมเกว่

หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าสัวก็ขึ้นไปที่ห้องเหมเกว่หรือโรสเมียคนที่สาม ภายในห้องทุกอย่างยังคงเดิม เพียงแต่ไม่มีโรส ผู้หญิงที่จริตมารยาแสนพลิ้ว ช่างเอาอกเอาใจ เจ้าสัวมองรอบห้องด้วยความคิดถึง อดนึกถึงคืนวันเก่าๆไม่ได้ แต่ครู่เดียวก็เรียกสติกลับคืนมา บอกตัวเองว่าโรสตายไปนานแล้ว

"อาเหมเกว่...ลื่ออยู่ไหน อั้วคิดถึงลื่อ"

เจ้าสัวเอนตัวลงบนเตียง ลูบหมอนของโรสอยู่ไปมา ก่อนจะเอามากอดแนบอก พลันหยาดน้ำตาใสๆก็ซึมออกมาด้วยความรู้สึกเดียวดาย อ้างว้าง...

ooooooo

เช้าวันนี้ณฤดีออกไปสระผมที่ร้านประจำ เสร็จแล้วจะไปทานข้าวกลางวันกับเพื่อน ขณะที่ณฤดีไปถึงร้าน ปรากฏว่าอนงค์เจ้าของร้านกำลังทำผมให้เรยาอยู่ แต่พอเห็นณฤดีเข้ามา อนงค์ก็ผละมาบริการด้วยตัวเอง โดยให้พนักงานไปทำแทนให้เรยานี่เองสร้างความไม่พอใจให้เรยาอย่างแรง เรยาหมั่นไส้

พวกผู้ดีเป็นทุนอยู่แล้ว จึงมองเขม่นณฤดีอย่างโจ่งแจ้ง ณฤดีเองก็มีมารยาทพอ เธอไม่ต้องการอนงค์มาทำให้ เพราะเธอแค่สระผมอย่างเดียว ซึ่งอนงค์ก็ทำท่าจะรับฟัง แต่จังหวะนี้เองเด่นจันทร์โทร.เข้ามือถือณฤดีและรู้เรื่องนี้เข้า เด่นจันทร์ก็วางอำนาจสั่งอนงค์ให้สระผมให้ณฤดี

เรยาหูผึ่งเมื่อได้ยินชื่อเด่นจันทร์ พอณฤดีสระผมเสร็จออกจากร้าน เรยาจึงเรียกแท็กซี่สะกดรอยตามเธอไป แล้วเรยาก็ได้เห็นกับตาว่าใช่เด่นจันทร์เมียของสินธรจริงๆ

ณฤดีกับเด่นจันทร์เป็นเพื่อนสนิทกัน ทั้งคู่นัดทานกลางวันที่ร้านหรู ความอิจฉาริษยาทำให้เรยาอดรนทนไม่ไหว เธอเข้าไปนั่งโต๊ะข้างๆทั้งคู่ แล้วเริ่มลีลายียวนกวนประสาทกับเด่นจันทร์ หลังจากเคยปะทะกันมาครั้งหนึ่งแล้วที่ร้านคุณมน

แล้วเหตุการณ์ในวันนี้ก็บานปลายเมื่อเด่นจันทร์รู้จากณฤดีว่าเรยาเป็นแอร์โฮสเตส อนงค์พูดให้ฟังที่ร้านทำผม เด่นจันทร์

ฉุกใจขึ้นมาทันทีสั่งให้นพเช็กชื่อและนามสกุลเรยาว่าทำงานสายการบินไหน ซึ่งนพใช้เวลาไม่นานก็ได้ข้อมูลมาแจ้งเจ้านาย

เรยาเดือดร้อนแล้ว...เธอเข้ามาเช็กเวลางานที่บริษัท ปรากฏว่ามันว่างทั้งเดือน เรยารู้ทันทีว่านี่คือฝีมือเด่นจันทร์ เธอแค้นใจแทบกระอัก รีบเดินออกไปพ้นผู้คน แล้วโทร.หาสินธร บอกกับเขาด้วยน้ำเสียงร้อนรนว่า

"พ่อ...พ่ออย่าเพิ่งไปที่คอนโดฯนะ เมียพ่อเขาให้คนสืบเรื่องฟ้า"

สินธรตกใจ แล้วนัดเจอเรยาที่โรงแรมแห่งหนึ่ง โดยต่างคนต่างไปเพราะกลัวเด่นจันทร์จะให้คนของเธอสะกดรอยตาม ...เมื่อเผชิญหน้ากัน สินธรซักเรยายกใหญ่ เรยากลับตีรวนให้เขาไปถามเมียที่บ้านเอาเอง

"เพราะคุณไปทำจุ้นจ้านอีกแล้วน่ะสิ ทำไม คุณทำทำไม ทำให้มันได้อะไรขึ้นมา"

สินธรขึ้นเสียงอย่างหมดความอดทน เรยาเถียงฉอดๆ เอาดีเข้าตัวตลอด แต่ยังไงสินธรก็ไม่เชื่อ เพราะเขารู้จักนิสัยเด่นจันทร์ดี

"เป็นไปไม่ได้ ที่เขาจะหาเรื่องคุณก่อน เด่นจันทร์

ไม่หาเรื่องคน ไม่ทะเลาะกับคน เขาจะมองข้ามหัวคนไปเลย ไม่อยากเกี่ยวข้องด้วย ถ้าคนคนนั้นไม่มาหาเรื่องเขาก่อน"

"หมายความว่าไง เขาเป็นเทวดานางฟ้ามองไม่เห็นหัวมนุษย์ หรือเห็นคนอื่นต่ำเตี้ยติดดิน ไม่คู่ควรกับฝ่าเท้าของคุณเด่นจันทร์ ชลธี...ตอบฟ้ามาซิ คุณสินธร ชลธี"

"อย่านะเรยา คุณอย่ามาก้าวก่ายเรื่องนามสกุลผม ผมมีเหตุผลของผม หน้าที่ของคุณคือทำตัวเป็นเมียอีกคนของผม ไม่ใช่เป็นเมียคนเดียว ไม่งั้นก็อยู่กันไม่ได้"

สินธรเสียงแข็งเอาจริง เรยาใจเสียบีบน้ำตาสุดแรงเกิด แล้วโถมตัวลงนอนสะอึกสะอื้นจนตัวโยน สินธรเห็นแล้วอ่อนใจ พยายามไม่ใส่ใจจะเดินออกจากห้อง แต่ต้องชะงักกับเสียงกรี๊ดของเรยา

เรยาสีหน้าดุดัน ท่าทางขึงขังเสียจนสินธรกลัวใจ

"ถ้าพ่อออกไป ฟ้าจะฆ่าตัวตาย...ฟ้าตายแล้ว ใครไปเปิดห้องฟ้า ก็เห็นรูปพ่อ เห็นวีดิโอของพ่อ เห็นจดหมายพ่อ เห็นของขวัญของพ่อ คิดเหรอว่าคุณเด่นจันทร์เขาจะเอาพ่อไว้ทำอะไร"

"ฟ้าไม่รู้จักเขาดี อย่าพูดอะไรเลย ทำตามที่ผมบอก ฟ้าเป็นเมียอีกคนของผม วิธีปิดไม่ให้เขารู้เป็นหน้าที่ผม คุณอยู่เงียบๆในที่ของคุณ ผมจะรับผิดชอบดูแลคุณในฐานะเมียคนหนึ่งตลอดไป"

เรยาฟังแล้วลุกพรวดโผเข้าหาสินธร กอดรอบคอเขาแล้วดึงอย่างแรงจนล้มลงบนเตียงด้วยกัน...เรยาใช้ไม้ตายอีกตามเคย หลังจากนั้นก็ออดอ้อนฉอเลาะจนสินธรเคลิ้ม

"ฟ้ามีความสุขที่สุด พ่อน่ะเก่งที่สุด แมนที่สุด ฟ้าไม่สงสัยเลยว่าทำไมคุณเด่นเขาถึงรักพ่อหวงพ่อขนาดนี้...ดูฟ้าสิ รักพ่อหลงพ่อ ทั้งรักทั้งหลง ฟ้าขาดพ่อไม่ได้นะ พ่อรู้ไว้ด้วย"

"จะเอาอะไรเหรอเนี่ย"

"ฟ้าพูดจริงจากหัวใจ พ่อเป็นรักแรกของฟ้า จะเป็น

รักสุดท้ายด้วย เพราะพ่อทำให้ฟ้ามีความสุขที่สุด...ที่สุดของที่สุด"

"อย่างเนี้ย...ใครจะทิ้งไปได้ลงคอ" สินธรกอดจูบเรยาอย่างหลงใหล

ooooooo

กลับไปถึงบ้านในคืนนั้น สินธรถูกเด่นจันทร์ ถามเรื่องสเตทเม้นท์ของเขา ทั้งที่เมื่อก่อนเธอไม่เคยยุ่ง แต่วันนี้มันสะดุดตามีหลายรายการที่เธออยากรู้ เหตุผล โดยเฉพาะร้านเพชรคุณยุพา เขาซื้อไปให้ใคร?

สินธรได้ยินแล้วหน้าเครียด เสียวสันหลังวาบ แต่เด่นจันทร์เหมือนแค่ทิ้งระเบิดเอาไว้แล้วนอนหันหลังให้เขาทันที กระทั่งรุ่งเช้าของวันใหม่ขณะจะกินอาหารด้วยกัน จู่ๆเด่นจันทร์ก็ทวงคำตอบจากสินธรด้วยท่าทีมึนตึง

"ว่าไงสิน ที่เด่นถามเมื่อคืนมีคำตอบหรือยัง"

"มีสิจ๊ะ"

"แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่เมื่อคืน"

"อ้าว...เด่นถามแล้วไม่ฟังคำตอบนี่ สินคิดว่าเด่นถามเฉยๆ"

"คิดแบบเข้าข้างตัวเองสิว่าเด่นจะถามเฉยๆ มีประโยชน์อะไรถามเฉยๆ"

"อีกอย่างสินคิดว่าเด่นง่วง ถามๆแล้วก็นอนเลย แล้วมาคุยกันตอนเช้าก็ได้ สินก็เลย..."

"ตกลงคำตอบคืออะไร" เด่นจันทร์เริ่มเสียงดัง

"เพื่อน...ไอ้จ๊อบน่ะมันจะซื้อของขวัญให้เมีย ทีนี้วงเงินบัตรเครดิตมันไม่พอ ก็เลยมาขอให้สินรูดให้ก่อน แต่มันขอผ่อนสินสิ้นเดือน มันจะให้ดอกเบี้ยด้วย"

"จะบ้าเหรอสิน อย่าไปคิดดอกเบี้ยกะเพื่อนเชียวนะ"

"อยากจะคิดให้มันเข็ดเหมือนกัน คนอะไรไม่มีตังค์แล้วยังจะทำรวยอวดเมีย"

"เอ๊า...ก็เมียเขาไม่รวยเหมือนเมียสินนี่"

สินธรหน้าเสียชั่วพริบตาหนึ่ง "ใช่ มันหาเมียไม่เก่งเหมือนสิน"

"สินหาเองซะเมื่อไหร่ เด่นเป็นคนหาสินเอง จำได้มั้ย...อ้าวบุญช่วย มายืนเก้ๆกังๆทำไม วางสิ ถืออยู่ได้"

บุญช่วยถือถาดใส่อาหารฝรั่งสองจาน เด็กอีกคนมาพร้อมชุดกาแฟหรูหรา บุญช่วยลำเลียงของจัดวางบนโต๊ะ ขณะที่เด่นจันทร์ยังพล่ามเรื่องส่วนตัวไม่หยุด

"จำได้มั้ยสินว่าตัวเองอยู่กะนังแหม่มแก่ที่สินคิดว่ามันรวยจัด ที่แท้มันก็มีสมบัติผัวอยู่นิดหน่อยเท่านั้น"

สินธรเหลือบชำเลืองแม่บ้านด้วยสีหน้าอึดอัด พอแม่บ้านและสาวใช้ออกจากห้องไปแล้ว สินธรจึงต่อว่าเด่นจันทร์พูดอะไรไม่ไว้หน้าสามีเลย

"บุญช่วยมันรู้จนไม่รู้ยังไงแล้ว กลัวอะไร"

"แล้วเด่นมารักสินทำไมล่ะ ก็รู้ว่าสินมีเมียแล้ว"

"ไม่รู้...ช่วยไม่ได้ ก็มันรักนี่ ตัวเองอยากน่ารักทำไม ตอนนั้นหล่อกว่านี้ ไม่ฉุอย่างนี้ หน้าใส ยิ้มสวย เด่นก็รักน่ะสิ รักแล้วยังไงก็ต้องได้"

"สินก็รักเด่น ตอนนี้ยิ่งรักมากกว่าตอนนั้นอีก เพราะสวยกว่าตอนนั้นตั้งหลายเท่า"

"แสดงว่าห้าแสนที่ให้ไปหมดไปแล้ว..."

สินธรชะงักทันใด อุตส่าห์ปากหวานชื่นชมหวังว่าจะฉุดบรรยากาศให้ดีขึ้น กลับต้องมาอึดอัดใจกับวาจาของเด่นจันทร์ยิ่งขึ้นไปอีก แต่อีกครู่ค่อยหายใจโล่งขึ้นหน่อย เมื่อน้องดาวลูกสาวคนเดียวเข้ามาร่วมโต๊ะอาหาร น้องดาวอยู่โรงเรียนประจำจะกลับบ้านเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์ เด่นจันทร์เห็นลูกสาวเลยนึกได้ว่าวันนี้วันเสาร์เธอมีนัดกับบิดาต้องไปดูที่ดิน 300 ไร่ จึงชวนน้องดาวไปด้วย เผื่อคุณตาจะโอนเป็นชื่อลูก

แต่เดี๋ยวเดียวเด่นจันทร์ก็เปลี่ยนใจเพราะเห็นลูกสาวเพิ่งเริ่มกินอาหาร เธอกลัวบิดาจะรอ จึงบอกลูกว่า วันนี้แม่ไปคนเดียวก่อนดีกว่า ดาวหน้าจ๋อยลงทันตาด้วยความน้อยใจแม่ แล้วบอกกับพ่อทันทีที่แม่ลุกออกไป

"วีกเอนด์หน้าดาวไม่กลับบ้านนะคะคุณพ่อ"

"อ้าว ทำไมล่ะ โกรธคุณแม่หรือ...คุณแม่เขาก็เป็นของเขาอย่างงี้แหละ คอยใครไม่ได้ น้องดาวยังไม่ชินเหรอลูก"

"คุณพ่อบอกดาวว่าจะไปรับดาวจากโรงเรียน"

ฟังคำของลูกแล้วสินธรหน้าเสียทันที ดาวยังตัดพ้อต่อไปว่า ดาวคอยจนเย็นถึงได้โทร.บอกให้บุญช่วยไปรับ

"พ่อ...พ่อขอโทษหนูนะลูก แต่พ่อบอกน้องดาวเหรอคะ"

"บอกค่ะ"

"พ่อลืมจริงๆ น้องดาวอย่าโกรธพ่อเลยนะคะ"

"คุณพ่อไม่เคยผิดคำพูดกับดาว ครั้งนี้เป็นครั้งแรก คุณพ่ออย่าผิดอีกแล้วกัน"

สินธรชะงักด้วยความไม่พอใจ "น้องดาว...ทีหลังอย่าพูดกับพ่อแบบนี้นะ เก็บไว้ให้คุณแม่พูดคนเดียวก็เกินพอแล้ว"

ดาวยืนนิ่ง หน้าเรียบเฉย สินธรใจหาย นี่คือท่าทีของเด่นจันทร์โดยแท้

"ถ้าไม่อยากให้ดาวพูด คุณพ่อก็อย่าทำ มันอยู่ที่คุณพ่อ ไม่ได้อยู่ที่ดาว" พูดจบดาวเดินจากไปทันที ทิ้งคนเป็นพ่อยืนอึ้ง...หนักใจ

ooooooo

เรยาหายไปหลายวันจนลำยองซึมเหม่ออีกแล้ว นายแหม่มเห็นเข้าก็ทนไม่ได้บอกให้ลำยองโทร.ไปตามเรยา บอกว่าตนให้มาหา พอลำยองติดต่อไป เรยาพูดกับแม่ไม่ค่อยดีนักเพราะกำลังหงุดหงิดที่เจอฤทธิ์เดชของเด่นจันทร์จนงานปั่นป่วน พอได้ยินว่าแม่ให้ กลับมาหานายแหม่ม เรยาก็ยิ่งอารมณ์เสีย ปฏิเสธเสียงแหลม แต่แม่ก็ยังพยายามใจเย็น

"ฟ้า...ฟ้าไม่ได้กลับบ้านเลย แล้วฟ้านอนไหนล่ะลูก"

"มีที่นอนแล้วกัน ฟ้าเป็นแอร์นะแม่ สวัสดิการของแอร์เขามีอยู่ แม่ไม่ต้องห่วงหรอก"

"แม่คิดถึงฟ้า"

"ถ้าบอกอย่างนี้ก็อาจจะไปนะแม่ บอกว่ายายแหม่มแก่เรียกฟ้า ฟ้าไม่ไปหรอก"

"นะฟ้า แม่ไม่ได้เจอฟ้าตั้งเกือบสองอาทิตย์แล้ว แม่คิดถึงฟ้ามากๆ"

"ได้แม่...แล้วฟ้าจะไปหาแม่นะ"

"หมู่นี้บินบ่อยเหรอลูก"

"ไม่บ่อยหรอกแม่ มีอีนังตัวร้ายกาจคนหนึ่งมันอิจฉาฟ้า มันสั่งหัวหน้าไม่ให้จัดตารางให้ฟ้าบิน มันเลวมาก ชั่วมาก วันหนึ่งเถอะจะถูกผัวทิ้ง"

"ฟ้า...ทำไมพูดอย่างนั้น"

"เท่านี้นะแม่" เรยาตัดสายทันที สีหน้าขึงตึง มองผู้คนในบริษัทเดินผ่านไปมา กระทั่งสายตาไปสะดุดอยู่ที่สินธร กับเด็กสาวคนหนึ่ง สินธรมากับลูกสาวแต่เรยาเข้าใจผิดนึกว่าเขามีกิ๊กใหม่ กะจะเข้าไปเอาเรื่อง แต่พอดีได้ยินสินธรแนะนำกับผู้ใหญ่คนหนึ่งว่าน้องดาวเป็นลูกสาว เรยาจึงชะงัก มองลูกสาวสินธรเต็มตา แล้วยกมือไหว้สินธรอย่างนอบน้อม ไร้พิรุธ

ครั้นเดินผ่านสองพ่อลูกมาแล้ว เรยาโทร.เข้ามือถือสินธร ปรากฏว่าสินธรตัดสายทิ้งก่อนพาลูกสาวขึ้นลิฟต์ไป สร้างความน้อยใจแก่เรยาจนแทบจะร้องไห้ออกมา

เมื่อมีเรื่องทุกข์ใจ ไม่สบายใจ เรยาตัดสินใจกลับไปหาแม่ที่บ้านนายแหม่ม เพราะที่นี่มีแม่ที่รักและเอาใจเรยาสารพัด ไม่ว่าเรยาต้องการอะไรแม่ก็ทำให้ด้วยความเต็มใจ

นัทก็เป็นอีกคนที่เรยานึกถึง วันนี้สองคนออกไปเที่ยวแถบชานเมืองที่เต็มไปด้วยนาข้าว เรยารู้สึกดีขึ้นบ้าง แต่พอเดินทางกลับบ้าน ความเศร้าหมองก็เข้าครอบงำเรยาอีกครั้ง ที่สุดเธอก็ตัดสินใจบอกนัทขณะที่เขาเดินมาส่งเธอถึงหน้าบ้านนายแหม่ม

"นัท...ตอนนี้เรารักคนอื่นแล้ว แต่มันเป็นความรักที่ไม่ค่อยจริงจังเท่าไหร่"

นัทซักว่าใครไม่จริงจัง เรยาเล่าหมดเปลือกว่าเขาเป็นฝ่ายไม่จริงจัง เพราะเขามีเมียแล้ว แต่เธอรักเขามาก นัทฟังแล้วอึ้งไปอึดใจ ก่อนจะเตือนเรยาว่า อย่าได้คิดแย่งเขามา เพราะมันผิดศีลธรรม

"แต่เรารักเขา เขามาทำให้เรารักเขา" เรยาเอ่ยทั้งน้ำตา

"รักเขาเถอะฟ้า ไม่เป็นไรหรอก แต่อย่าแย่งเขามา มันผิด ฟ้าแย่งเขามาได้ ฟ้าจะไม่มีความสุขหรอก...เขามีลูกด้วยกันรึเปล่า ถ้าเขามี ฟ้าต้องเลิกให้เด็ดขาดนะ สงสารเด็ก เด็กที่พ่อแม่เลิกกันน่าสงสารมาก ชีวิตเขาขาดไปครึ่งหนึ่งเลยนะฟ้า"

ถ้อยคำของนัททำเอาเรยานิ่งอึ้ง รู้สึกกำลังใจหดหาย ว้าเหว่ขึ้นมาจับจิต พอวันต่อมาตามไปเห็นสินธรพาลูกเมียไปช็อปปิ้งและกินข้าว เรยาก็ยิ่งเศร้าหมอง แต่แล้วความเศร้าก็กลายเป็นความแค้นและริษยา เรยาโทร.หาสินธร ยื่นคำขาดกับเขาว่า ถ้าวันนี้ไม่ได้เจอ พรุ่งนี้ก็มารับศพเธอแล้วกัน

สินธรถือโทรศัพท์ค้าง มองไปยังเรยาที่ปรากฏตัวให้เห็นอยู่ไกลๆ แล้วเรยาก็สะบัดพรืดจากไป สินธรมองตามอย่างว้าวุ่น ที่สุดเขาก็หาข้ออ้างบางอย่างแยกกับเมียและลูกไปจนได้ โดยไม่รู้ว่ามีนพคนของเด่นจันทร์แอบสะกดรอยตาม

สินธรโทร.นัดเรยามาพบกันที่โรงแรมแห่งหนึ่ง พอเจอหน้ากันในห้องเรยาก็ฟูมฟายน้ำตา โถมเข้ากอดรัดเขา พูดแทบไม่เป็นภาษา

"พ่อ...พ่อไม่รักฟ้า พ่อเกลียดฟ้าเหรอ ทำไมพ่อทำกับฟ้าอย่างนี้"

"ผมรักฟ้า ฟ้าก็รู้ แต่ฟ้าต้องเข้าใจให้มากๆ ต้องเข้าใจ ต้องยอมรับสถานภาพของเรา ถ้าฟ้ายอมรับ ถ้าทำได้ ผมบอกแล้วว่าทุก

อย่างจะเรียบร้อย อย่าทำอย่างวันนี้อีก...เข้าใจนะ ไม่ว่ากับใคร ภรรยาผมหรือลูกสาวผม"

เรยาพยักหน้าทั้งๆยังร้องไห้สะอึกสะอื้น สินธรหยิบซองส่งให้

"เงินค่าเช่าคอนโดฯ กับเงินที่ผมให้ฟ้าใช้ ผมเพิ่มให้อีกเดือนละหมื่น รวมเป็นสี่หมื่น รับไว้สิ"

"ถ้าพ่อให้ฟ้าอีกหมื่น แล้วพ่อรักฟ้าน้อยลง ฟ้าไม่เอา รักฟ้าให้เต็มร้อย ไม่ต้องให้ฟ้าเลยก็ได้" พูดจบเรยากอดสินธรแน่น สะอื้นจนตัวโยน...

อีกพักใหญ่ๆ สองคนก็ออกมาขึ้นรถคันเดียวกัน เรยา ดูแช่มชื่นขึ้นผิดตา ส่วนนพที่แอบตามสินธรมาเห็นผู้หญิงนั่งรถออกไปกับสินธร เขารีบกลับไปรายงานเด่นจันทร์ที่บ้าน

"ตอนเข้า เข้าไปคนเดียว แต่ตอนออกมามีผู้หญิงนั่งมาด้วย แต่ผมไม่เห็นหน้าครับ อยู่กันประมาณชั่วโมงนึง"

"แต่ไม่เห็นหน้า"

"ครับ...ไม่เห็น"

"แล้วแกกลับมาให้ฉันเห็นหน้าแกทำไม" เด่นจันทร์ ตวาดแว้ดจนนพหน้าเสีย "ฉันไม่ได้อยากรู้ว่าเขาเข้าไปนานเท่าไหร่ เขาอาจจะเอาผู้หญิงไปนอนชั่วคราวก็ได้ ฉันอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แกมีหน้าที่บอกฉันว่ามันเป็นใคร ...ไป๊!"

นพลนลานออกไปทันที เด่นจันทร์กำมือแน่น แววตาแข็งกร้าวน่ากลัว

ooooooo

หลังจากสัญญากับสินธรไปแล้วว่าจะไม่ก่อปัญหาใดๆ และจะอยู่อย่างสงบในฐานะเมียอีกคนของเขา เรยารู้สึกสบายใจขึ้น รุ่งขึ้น

เธอนัดเจอนัท บอกให้เขารู้ว่าเธอเชื่อคำพูดของเขา...รักแต่ไม่แย่ง

"อ้าว ทำไมนิ่งไปล่ะนัท...นัทจะบอกว่า มันก็ผิดอยู่ดีใช่มั้ย"

"ก็ใช่อยู่ อยู่ที่ความสัมพันธ์กับเขาจะก้าวหน้าไปขั้นไหน"

"มันก็...ก้าวไปจนสุดนั่นแหละ ยังไงมันก็เกิดขึ้นแล้ว เราไม่แก้ตัวอะไรทั้งสิ้น"

"แล้วต่อไปล่ะฟ้า"

"ก็เหมือนที่นัทพูดไง ว่ารักได้แต่ไม่แย่ง เราไม่คิดแย่งเขาอีกแล้ว เพราะคิดไปแล้วมีแต่ทุกข์...ทุกข์จริงๆ ทุกข์สุดๆเลย เราไม่ใช่คนที่จะทนกับความทุกข์ด้วย เผลอๆทำอะไรไม่เข้าท่าขึ้นมา"

"เช่น..."

"เช่นเหรอ...เช่น เดินเข้าไปหาเมียเขาแล้วบอกว่า ฉันก็เป็นเมียเขาเหมือนคุณ"

"ก็เลยตบกันเละเหมือนละครโทรทัศน์"

"อ๋อ ถ้าถึงขนาดนั้น รับรองว่าเราเจ๋ง แต่สำคัญเขาไม่ตบกับเรา แต่ฆ่าเราเลยน่ะสิ" เรยาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่นัทมองเรยาอย่างห่วงใย

ooooooo

วันนี้นายแหม่มแอบเห็นลำยองร้องไห้อีกแล้วด้วยความคิดถึงและเป็นห่วงเรยา เพราะเรยาเงียบหายไปเป็นสัปดาห์ พอนายแหม่มเดินเข้ามาสอบถาม และแนะนำให้ ลำยองโทร.ไปที่ทำงานของเรยา ลำยองตอบเสียงเครือว่า

"ฉันไม่รู้เบอร์ค่ะ ฉันห่วงเขาเหลือเกินค่ะแหม่ม"

"ถ้าให้ฉันพูดนะ...เรยาไม่เป็นอะไรหรอก...เขาเก่ง"

"แต่ครั้งก่อนที่เขามา เห็นเขาร้องไห้ด้วย"

"เรยาร้องไห้เก่ง...ถ้าเขาอยากจะร้อง"

ลำยองนิ่งเงียบ นายแหม่มเห็นใจแต่ไม่รู้จะช่วยยังไงเหมือนกัน...แล้วรุ่งขึ้นอีกวัน เรยาก็มาปรากฏตัวตรงหน้าแม่ เธอเป็นฝ่ายเดินเข้ามากอดแม่ที่กำลังโหยหา

"ฟ้า...แม่เป็นห่วงฟ้า...ฟ้าเป็นอะไรหรือเปล่าลูก คนที่เขาแกล้งฟ้าไม่จัดให้ฟ้าบินเหรอ เขาเกลียดฟ้าเรื่องอะไร แม่ช่วยอะไรได้มั่งลูก"

สองแม่ลูกกอดกันแน่น แล้วอีกครู่เรยาก็พาแม่ออกไปกินข้าวนอกบ้าน ลำยองเห็นลูกอารมณ์ดีจึงถือโอกาสถามเรื่องงานที่ว่ามีคนกลั่นแกล้ง

"ฟ้ายังโกรธคนนั้นอยู่รึเปล่าลูก" ลำยองหมายถึงคนที่จัดตารางการบิน แต่เรยาตอบในความหมายถึงสินธร

"ไม่โกรธแล้วแม่ ตอนนี้ไม่โกรธเขาแล้ว"

"ทำไมล่ะ ฟ้าอภัยให้เขาเอง หรือเขาไม่ทำให้ฟ้าโกรธแล้ว"

"เขาบอกว่า ถ้าฟ้าไม่โกรธเขา เขาก็จะไม่ทำให้ฟ้าโกรธ"

คำตอบของลูกทำให้ลำยองสบายใจขึ้นมาบ้าง แต่ยังไงคืนนี้ลำยองก็ยังอยากให้เรยานอนค้างด้วย แต่พอออกจากร้านอาหาร เรยากลับบอกแม่ว่าพรุ่งนี้ตนมีบินเช้า ไปส่งแม่แล้วจะกลับเลย

"บินเช้าทุกทีเลย" ลำยองบ่น

"เขาจัดให้อย่างนี้ ฟ้าเปลี่ยนไม่ได้นี่แม่"

"แต่ก็ดี แปลว่าเขาหายโกรธฟ้าแล้วถึงจัดให้ฟ้าบิน ดูแลตัวเองดีๆนะลูก"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น