วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

รักไม่มีวันตาย ตอนที่ 13

ตอนที่ 13

สิงห์เปิดประตูห้องทำงานเข้ามา ชะงักเมื่อเห็นจ่าดอนนั่งทำแผลอยู่ อ้าปากจะถาม แต่ช้าไปกว่า จ่าดอน

"อ้าว...หมวด ทำไมกลับเร็วจัง ไหนบอกว่าคืนนี้จะเฝ้าทั้งคืน นี่ผมกะว่าทำแผลเสร็จจะแวะไปเปลี่ยนเวรกับหมวดนะเนี่ย"

"พวกนั้นมันรู้ตัวแล้ว เฝ้าไปก็ไม่มีประโยชน์ แล้วจ่าไปทำไรมา ทำไมเยินทั้งตัวแบบนี้"

"ก็ผมตามผู้ต้องสงสัยไป ไอ้สองคนเนี้ย" จ่าดอนชี้ไปที่รูปพาลีกับคีรี "แต่เหมือนมันจะรู้สึกตัว ผมก็เลยต้องหักรถหลบเข้าข้างทาง มันก็เยินอย่างที่เห็น นี่ยังน้อยนะครับ รถผมเยินกว่านี้อีก อู่ยังไม่รับซ่อม หมวดคิดดู"

สิงห์มองด้วยความเห็นใจ แล้วก็คว้าขวดยามาช่วยใส่แผลให้ จ่าดอนคุยต่อว่า หลังจากตามปลายฉัตรไปที่ศูนย์การค้าก็พบพาลีกับคีรี และราม แต่เสียดายที่ถ่ายภาพรามไม่ทัน

สิงห์ซักว่า จำหน้าได้ไหม จ่าดอนว่า จำได้แม่นเพราะ มีส่วนคล้ายไตรภูมิ

"งั้น จ่ารีบไปหาเจ้าหน้าที่สเกตช์ภาพ แล้วให้เขาวาดภาพเจ้านายมันออกมาให้ใกล้เคียงมากที่สุด"

ขณะจ่าดอนรับคำสั่งแล้วเดินออกไป สิงห์หันไปมองดูบอร์ดที่เต็มไปด้วยภาพมากมาย สายตาของเขามาหยุดตรงรูปไตรภูมิ

"ฉันจะต้องรู้ตัวตนที่แท้จริงของแกให้ได้..." สิงห์มองดูรูปด้วยแววตามุ่งมั่น

ในเวลาเดียวกันนั้น รามกลับมาบอกกับจิตต์ด้วยความไม่พอใจ ที่ปลายฉัตรดูจะฉลาดกว่าที่คิด และรู้เรื่องของพวกเขามากเกินไป แถมยังแกล้งทำปวดท้องชิ่งหนีไปอีก แต่จิตต์ไม่แปลกใจเลย เขาบอกกับลูกชาย ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่มีดี ไตรภูมิคงไม่สนใจ แล้วซักต่อว่า ไตรภูมิได้ถ่ายทอดความเป็นอมตะให้เธอหรือเปล่า รามปฏิเสธเพราะไม่รู้สึกว่าปลายฉัตรเป็นพวกเดียวกัน

"ถ้ามันไม่ได้คิดจะหลอกใช้ มันก็คงจะรักผู้หญิงคนนี้จริงๆ" จิตต์เปรย

"รักจริง ก็ดี ยิ่งมันรักมากเท่าไหร่ ตอนโดนหักหลัง มันจะได้เจ็บมากเท่านั้น พ่อไม่ต้องห่วง ผู้หญิงต่อให้ฉลาดแค่ไหนก็มีจุดอ่อนกันทุกคน ยิ่งฉลาด ยิ่งมั่นใจ ยิ่งพลาดได้ง่าย ถ้าผมอยากได้ผู้หญิงคนไหน ไม่มีทางจะหลุดรอดไปได้"

รามพูดด้วยอารมณ์ทะนงตน โดยไม่เห็นมายายืนแอบฟังอยู่หน้าห้องด้วยความช้ำใจ

"เลือดของฉัน...มันแรงจริงๆ ฮ่าๆ" จิตต์หัวเราะสะใจ

มายาทนฟังไม่ได้จึงเดินร้องไห้ออกมา ระหว่างนั้นภาพในอดีต ก็ย้อนกลับมาตอกย้ำให้ช้ำใจ

เมื่อกว่า 100 ปีที่ผ่านมา เธอพบรักกับราม ทั้งสองมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง รามบอกรักเธอและเสนอจะถ่ายทอดความเป็นอมตะให้ เธอตกลงเพราะอยากอยู่เคียงเขาตลอดไป ทั้งๆที่รู้ว่าต้องอยู่อย่างทรมาน เธอจับรอยเขี้ยวที่ท้ายทอย ขณะแว่วเสียงคำบอกรักของราม สลับกับคำดูถูกเรื่องความรักของเขาดังก้องอยู่ในหัว เธอคว้ากระถางต้นไม้ที่วางอยู่ใกล้มือขึ้นมาปาออกไปอย่างแรงเพื่อระบายอารมณ์ ก่อนทรุดตัวลงร้องไห้

"เวลาทำให้คุณเลิกรักฉันได้ ทำไมเวลาทำให้ฉันเลิกรักคุณไม่ได้ ทำไม ทำไม ในเมื่อฉันเลิกรักคุณไม่ได้ ฉันก็จะไม่ยอมให้คุณมีคนอื่น นอกจากฉัน" มายาประกาศกร้าว

ooooooo

เมื่อปลายฉัตรกลับมาถึงบ้าน เธอโดนลุงฉิ่งเล่นงานเรื่องกลับบ้านผิดเวลา แล้วไม่โทร.มาบอกให้รู้

"พอดีปลายแวะไปคุยธุระกับอโนที่บ้านสิงห์น่ะค่ะ

เลยกลับช้าไปหน่อย ส่วนโทรศัพท์ก็แบตหมดเลยโทร.ไม่ติด"

ฟังเหตุผลของปลายฉัตรแล้ว เฉิดไม่ว่าอะไร ถามลูกเรื่องข้าวปลาอาหารด้วยความห่วงใย ลูกสาวบอกว่าไม่หิวแล้วขอตัวขึ้นไปนอน ทั้งๆที่ยังสับสนค้างคาใจเรื่องราม

"ตกลง นายรามเป็นใครกันแน่" ปลายฉัตรพึมพำแล้วเดินไปหยุดที่ริมหน้าต่างสีหน้าคิดหนัก แต่ไม่เห็นไตรภูมิที่ยืนมองอยู่หน้าบ้าน เพราะเขาเป็นห่วงที่โทร.หาเธอไม่ติดจึงมาดูด้วยตัวเอง

เมื่อไตรภูมิเห็นว่าปลายฉัตรปลอดภัยดีก็โล่งใจ จึงเดินกลับไปที่รถ แต่ในระหว่างทางมีเสียงหมาเห่าหอนด้วยความกลัวไปตลอดทาง ปลายฉัตรได้ยินเสียงหมาหอนก็มองซ้ายมองขวาเห็นท่าไม่ดีรีบปิดหน้าต่างทันที

เมื่อไตรภูมิกลับมาถึงบ้านก็เจอคำถามของอินทร์

"สองสามวันมานี้ นายท่านดูจะเป็นห่วงคุณปลายฉัตรมาก มีอะไรหรือเปล่าครับ"

"เราเองก็ยังไม่แน่ใจ แต่เราคิดว่า การที่ปลายฉัตรรู้เรื่องคำสาปและรู้ความจริงว่าพวกเราเป็นอะไร มันไม่น่าจะเป็นผลดีกับตัวเธอเอง"

"นายท่านคิดว่า...พวกคุณรามและท่านจิตต์จะทำร้ายคุณปลายฉัตรเหรอครับ" กรมองหน้าเจ้านาย

"ใช่...ถ้าพวกนั้นรู้ว่าปลายฉัตรกำลังตามหากฤชมังกร และรู้ว่าเธอรู้ความจริง พวกมันไม่ปล่อยไว้แน่..อยู่ที่ว่ามันจะทำอะไร..และเมื่อไหร่เท่านั้นเอง"

ooooooo

เช้าวันใหม่ เมื่อปลายฉัตรถึงที่ทำงาน เธอบอกไตรภูมิเรื่องพบรามเมื่อวันที่ผ่านมา พลางตั้งคำถามว่ารามเป็นฆาตกรที่สิงห์กำลังตามหาตัวอยู่ใช่หรือไม่ ไตรภูมิไม่ยอมตอบหญิงสาว ให้เหตุผลว่าไม่อยากให้เธอเข้าไปยุ่งในเรื่องดังกล่าว

"ถึงฉันไม่เข้าไป แต่เรื่องมันวิ่งมาหาฉันแล้ว เขาคือผู้ชายที่ฉันเจอที่ปราสาทโอซาก้า และเมื่อวานเขามาหาฉัน ติดต่อจะให้ฉันไปทำงานกับเขา"

"เมื่อวาน เธอไปเจอกับเขาได้ยังไง"

"เขารู้จักกับอโน แล้วเมื่อวานอโนก็ไม่ได้โดนกระชากกระเป๋า แต่เขาโกหกเพราะอยากให้ฉันไปเจอกับนายรามเนี่ยแหละ"

ไตรภูมิแปลกใจซักปลายฉัตรว่าตอบรามไปว่ายังไง

"ยังไม่ได้ตอบ ฉันเห็นท่าไม่ดี เขามีอะไรหลายอย่างเหมือนคุณ ฉันก็เลยชิ่งหนีออกมาก่อน ตกลงจะบอกฉันได้หรือยัง ว่านายรามเป็นใคร บอกมาก่อนที่ฉันจะเป็นอันตรายไปมากกว่านี้"

ไตรภูมิคิดหนักไม่รู้จะบอกยังไงดี เวลาเดียวกันนั้นเองจ่าดอนนำภาพสเกตช์ของรามมาให้สิงห์ดู สิงห์รู้สึกคุ้นหน้า เขาเอารูปรามมาติดไว้ตรงกลางระหว่างพาลีและคีรี แล้วไล่เรียง ความสัมพันธ์

"ถ้าผู้ชายคนนี้เป็นเจ้านายของสองคนนี้ และนายไตรภูมิก็เป็นเจ้านายของพวกนี้" สิงห์ชี้มาที่รูป กร กัณฑ์ และอินทร์ แล้วเชื่อมโยงรามกับไตรภูมิเข้าหากัน "มีความเป็นไปได้มากที่ทั้งสองคนนี้จะต้องรู้จักกัน แล้วสองคนนี้เป็นอะไรกัน"

คำถามของสิงห์ ไตรภูมิกำลังตอบปลายฉัตรอยู่ที่บ้าน

"รามเป็นลูกชายของจิตต์ เป็นอมตะเหมือนกับฉัน แต่เขาเป็นคนที่มีจิตใจโหดเหี้ยมมาก"

"เขาเป็นคนฆ่าเหยื่อพวกนั้นใช่ไหม" ปลายฉัตรยิงคำถาม ไตรภูมิไม่ตอบ เธอจึงสรุปเอาเอง "นั่นไงฉันว่าแล้ว แสดงว่าตอนอยู่ญี่ปุ่นคุณรู้ว่าผู้ชายที่ฉันเจอคือเขา คุณถึงได้รีบย้ายเมืองหนี"

"ใช่...ฉันไม่อยากให้เขามายุ่งกับเธอและถ้าเป็นไปได้ ฉันก็ไม่อยากให้เธออยู่ใกล้เขา เพราะฉันไม่อยากให้เธอเป็นอันตราย"

"เป็นห่วงล่ะสิ กลัวจะไม่มีคนทำงานให้เหรอ" ปลายฉัตรลองหยั่งเชิง

"ไม่ใช่ ครั้งนี้ฉันเป็นห่วงเธอจริงๆไม่ได้ห่วงงาน รามเข้ามาตีสนิทกับเธอ แล้วยังใช้ชื่อจริง แสดงว่าเขาต้องการอะไรบางอย่าง" น้ำเสียงไตรภูมิฟังแล้วอบอุ่นและจริงใจ

"คุณไม่ต้องห่วง ไม่ว่าเขาจะต้องการอะไร ฉันดูแลตัวเองได้ และถ้าเขามายุ่งกับฉันมากๆ ฉันจะบอกสิงห์ว่าเขาเป็นฆาตกร"

"ไม่ได้ อย่าเข้าไปยุ่งกับคดี ตอนนี้รามยังไม่ทำอะไรเธอ เพราะเห็นว่าเธอยังมีประโยชน์ แต่ถ้าเธอเริ่มทำตัวเป็นศัตรูเมื่อไหร่ เขาไม่ปล่อยเธอไว้แน่ เพราะรามทำแบบนั้นกับเหยื่อได้ เขาก็ทำกับเธอได้เหมือนกัน อย่าเล่นกับไฟ"

ปลายฉัตรชะงักกึก นึกถึงคำทำนายของมหา แล้วพึมพำถามตัวเอง "มันจะเป็นไฟเดียวกันหรือเปล่านะ"

ooooooo

ปลายฉัตรนั่งค้นข้อมูลเรื่องกฤชมังกรจนเย็น แต่ไม่มีอะไรคืบหน้า เธอถอนใจแล้วเก็บของเตรียมกลับบ้าน ไตรภูมิเข้ามาบอกว่า จะให้กัณฑ์ขับรถไปส่งเพื่อความปลอดภัย แต่ปลายฉัตรไม่ยอม ไตรภูมิจึงจะไปส่งเธอเอง

"ถ้าคุณไป ทั้งแม่ ทั้งลุง โวยวายบ้านแตกแน่ ยิ่งแรงๆ กันอยู่ เขาเชื่อเต็มที่เลยว่าคุณเป็นฆาตกร" ปลายฉัตรโวยแต่พอเห็นไตรภูมิหน้าเสียก็สงสารยอมเดินตามมาที่รถ เพื่อให้กัณฑ์ไปส่ง

อินทร์ กร และกัณฑ์เห็นเจ้านายกับปลายฉัตรพูดคุยหยอกล้อกันอย่างมีความสุขตามประสาคนมีความรัก ก็ยิ้มมีความสุขไปด้วย

"รีบไปได้แล้ว แล้วก็ระวังอย่าให้รามรู้ ว่าเธอรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา" ไตรภูมิทำเข้มเมื่อเห็นลูกน้องยืนมอง

"ได้ค่ะ...ฉันจะระวัง...ไปก่อนนะคะ...พรุ่งนี้เจอกัน" ปลายฉัตรบอกลาด้วยรอยยิ้ม

ไตรภูมิยิ้มรับนิดๆหันไปพยักหน้าให้กัณฑ์ กัณฑ์โค้งรับ แล้วเข้าประจำที่ ขณะรถเคลื่อนออกไป ไตรภูมิมองตามด้วยแววตาห่วงใย

"ผมไม่เคยเห็นนายท่านมีความสุขแบบนี้มาก่อนเลยนะครับ" อินทร์เปรยขึ้น

"ฉันเองก็ลืมไปแล้วว่ารู้สึกแบบนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ความรู้สึกที่มนุษย์เรียกว่าความสุข แต่ถ้าเราเจอกฤชมังกรเมื่อไหร่ ทุกอย่างก็ต้องจบ"

"นายท่านบอกเรื่องนี้กับคุณปลายฉัตรหรือยังครับ"

ไตรภูมิส่ายหน้าแทนคำตอบ เพราะใจหนึ่งก็อยากให้เจอกฤช แต่อีกใจก็ไม่อยากให้คำสาปต้องจบ

ooooooo

รามเดินหน้าแผนการดึงปลายฉัตรมาเป็นพวกเขาหลอกให้อโนพามาที่บ้านปลายฉัตร แล้วเข้าตีสนิทกับทุกคน ลุงฉิ่ง มหา และเฉิดพอใจรามมากเพราะเขาดูเป็นกันเอง แถมยังใจถึงเช่าพระเครื่องชุดใหญ่ราคาแพงจากลุงฉิ่งไป

ปลายฉัตรกลับมาเห็นรามก็ไม่พอใจรีบไล่เขากลับ รามส่งยิ้มให้ แต่เป็นรอยยิ้มที่แสนเยือกเย็นและเจ้าเล่ห์ เขากระซิบบอกเธอว่า มีเรื่องต้องคุยกัน

"อโนว่าค่อยคุยกันวันหลังดีกว่านะคะวันนี้...แค่นี้ก่อนดีกว่าค่ะ ไปกันเถอะค่ะ" อโนเข้ามาแทรกแล้วลากแขนรามออกไป

"อโน"ปลายฉัตรมองตามด้วยความเป็นห่วงเพราะเห็นแววตาของรามแฝงความร้ายกาจตอนที่มองอโน เธอตัดสินใจวิ่งตามไป โกหกว่าสิงห์จะมารับ ให้อโนรออยู่ที่บ้าน แต่อโนไม่ฟังยืนกรานจะไปกับราม

ปลายฉัตรสังหรณ์ใจขอตามไปด้วย "คือพี่มีธุระต้องคุยกับสิงห์ แล้วพี่ก็เพิ่งนึกได้ว่า สิงห์ทำงานอยู่แถวๆบ้าน ถ้าพี่ไปรอที่บ้าน สิงห์จะได้ไม่ต้องย้อนไปย้อนมา เอาเป็นว่า พี่ไปกับอโนด้วยนะ"

ปลายฉัตรไม่รอฟังคำตอบและไม่ขอรามด้วย เธอเปิดประตูด้านหลังเข้าไปนั่งเลย อโนเอ๋อ มองปลายฉัตรด้วยความเซ็งส่วนรามยิ้มพอใจ

ในระหว่างที่ปลายฉัตรนั่งรถออกมากับรามและอโน ไตรภูมิที่กำลังฝึกการต่อสู้โดยใช้อาวุธกับกัณฑ์ก็เหมือนมีอะไรบางอย่างมาขัดสมาธิทำให้เขาพลาดถูกปลายดาบของกัณฑ์ตวัดเข้าที่แก้มเป็นรอยแผลยาว

"นายท่าน" กัณฑ์กับอินทร์ตกใจรีบเข้ามาดู

"ไม่เป็นไร...กัณฑ์ทำดีแล้ว เราไม่มีสมาธิเอง"

"นายท่านไม่เคยเป็นแบบนี้...มีอะไรรบกวนจิตใจหรือเปล่าครับ"อินทร์แปลกใจ

"ปลายฉัตร...เรารู้สึกว่าปลายฉัตรกำลังอยู่ในอันตราย" ไตรภูมิสีหน้าเครียด

อินทร์จะส่งกัณฑ์กับกรไปดู แต่ไตรภูมิยกมือห้ามไว้ พลางบอกว่าจะจัดการเอง

ooooooo

อโนเดินเข้ามาในบ้านด้วยความเซ็งเพราะมีปลายฉัตรตามมาด้วย ส่วนปลายฉัตรมองซ้ายมองขวาให้แน่ใจว่าไม่มีคนแอบฟัง แล้วขอร้องให้อโนอยู่ห่างๆราม เพราะผู้ชายคนนี้เป็นอันตราย

"ถ้าพี่บอกฉันไม่ได้ว่าเขาเป็นอะไร เป็นอันตรายยังไง ฉันก็ไม่เชื่อ"อโนหันมาสวน

"พี่บอกไม่ได้จริงๆ พี่บอกได้แค่ว่าเขากำลังหลอกใช้เราอยู่ เขากับคุณไตรภูมิกำลังมีปัญหากันอยู่ เขาตั้งใจใช้อโนเป็นสะพานมาหาพี่แล้วก็ใช้พี่ทำร้ายคุณไตรภูมิอีกที"

"พี่ปลายจะสำคัญตัวเองผิดไปแล้ว ไม่ใช่เพราะพี่คุณรามถึงสนใจฉัน แต่เพราะฉันเขาถึงได้สนใจพี่ ฉันพูดถึงด้านดีๆ แล้วก็คุยให้เขาฟัง เขาถึงอยากร่วมงานด้วย ถ้าไม่มีคำพูดของฉัน อย่าหวังเลยว่าพี่จะอยู่ในสายตาของเขา พี่ปลายเลิกยุ่งเรื่องของฉันได้แล้ว พี่ห่วงตัวเองจะดีกว่า คุณไตรภูมิ คือคนที่พี่ต้องอยู่ห่างๆ นอกจากจะอันตรายแล้ว ยังเป็นฆาตกรอีกต่างหาก" อโนใส่เป็นชุด

ปลายฉัตรถอนใจอยากจะบอกความจริงแต่ทำไม่ได้ เพราะอโนไม่ยอมเปิดใจรับฟัง แถมตวาดใส่ปลายฉัตรห้ามไม่ให้มายุ่งกับเธออีก สิงห์กลับมาพอดี

"พี่สิงห์มาก็ดีแล้ว บอกเพื่อนพี่ด้วยนะ ว่าอย่ามายุ่งกับชีวิตของฉัน" พูดจบอโนก็คว้ากระเป๋าเดินเข้าห้อง

ปลายฉัตรจะอ้าปากเรียกอโน แต่สิงห์ห้ามไว้ เพราะมีเรื่องจะคุยด้วย เขาเดินนำเธอไปที่เก้าอี้หน้าบ้าน

"เฮ่อ ฉันขอโทษ ฉันยอมรับว่าฉันยุ่งกับน้องสาวแกมากเกินไป แต่...มันอดไม่ได้" ปลายฉัตรออกตัว

"ปกติเห็นปลายไม่ยุ่งเรื่องคนอื่น มีอะไรหรือเปล่า เมื่อกี๊เราได้ยินปลายพูดถึงไตรภูมิ ทำไมปลายมั่นใจว่าเขาไม่ได้เป็นฆาตกร"

"ก็เพราะ เขาไม่ได้เป็น" ปลายฉัตรเสียงเข้ม

"ปลาย เราถามตรงๆเลยนะ ปลายคิดยังไงกับไตรภูมิ"

ปลายฉัตรชะงัก มองหน้าสิงห์แล้วตอบออกมา "ฉันชอบเขา ไม่ว่าคนอื่นจะคิดว่าเขาเป็นผีดูดเลือด เป็นฆาตกรหรือเป็นอะไร...ฉันก็ยังชอบเขา และยอมรับทุกอย่างที่เขาเป็น"

สิงห์รู้สึกเหมือนโดนบีบที่ขั้วหัวใจอย่างแรง ฝืนใจถามว่าเป็นเพราะไตรภูมิหล่อและรวยใช่ไหมถึงได้ชอบ ปลายฉัตรสวนว่า ถ้าเธอเป็นคนแบบนั้น สิงห์คงไม่คบเธอเป็นเพื่อน

"ถ้าเขาทำให้ปลายเดือดร้อน ปลายก็ยังจะชอบเขาเหรอ"

"เรื่องระหว่างฉันกับคุณไตรภูมิ มันมีอะไรมากมายที่ฉันเล่าให้แกฟังไม่ได้ บางทีที่ฉันกับเขาต้องมาเจอกัน มันอาจจะเป็นโชคชะตา หรือกรรมที่ได้กำหนดไว้แล้ว ขอบใจมากที่แกเป็นห่วงฉัน แต่ฉันมีความสุขกับโชคชะตาที่อาจจะโหดมากไปหน่อย แต่ฉันยอมรับและพร้อมจะสู้กับมัน" ปลายฉัตรลุกขึ้นหยิบกระเป๋า แล้วหันมาบอกกับสิงห์ที่ยังยืนอึ้ง

"แกห่วงฉันมามากแล้ว พอเหอะ คนที่แกจะต้องห่วงมากที่สุดในตอนนี้ คือ อโน ระวังผู้ชายที่ชื่อรามไว้ให้ดี ผู้ชายคนนี้อาจจะทำให้อโนเดือดร้อน ส่วนเรื่องของฉันไม่ต้องห่วง ฉันดูแลตัวเองได้ และฉันมั่นใจว่าคุณไตรภูมิจะดูแลฉันอย่างดีที่สุด"

สิงห์อึ้งมองปลายฉัตรที่เดินจากไป ตอบตัวเองได้ทันทีว่า ความรักครั้งนี้ได้มาถึงทางตันแล้ว เขานั่งทบทวนคำพูดของปลายฉัตรและมาสะดุดที่เรื่องของอโนกับราม ด้วยความเป็นห่วงสิงห์จึงไปเคาะประตูเรียกอโนตั้งใจจะถามเรื่องรามแต่กลับโดนน้องตะเพิดก่อนปิดประตูใส่หน้าดังปัง

"ฉันโตแล้ว ฉันดูแลตัวเองได้ พี่ไม่ต้องห่วง และก็บอกเพื่อนพี่ด้วยว่าไม่ต้องมายุ่งกับเรื่องของฉัน"

"ไม่ให้เป็นห่วงอีกคนแหละ เฮ่อ เก่งๆ กันทั้งนั้น"

ooooooo

เมื่อปลายฉัตรลงจากรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็พบไตรภูมิรออยู่แล้ว เธอชะเง้อเข้าไปในบ้าน แล้วลากแขนชายหนุ่มออกไปคุยที่อื่น ปลายฉัตรเล่าว่า เธอตามอโนไปที่บ้านเพราะไม่อยากให้ไปกับรามตามลำพัง และวันนี้รามก็มาประจบประแจงแม่กับลุงฉิ่ง แล้วดูท่าทั้งคู่จะปลื้มเขามากด้วย

ไตรภูมิได้ฟังก็ยิ่งห่วงชวนปลายฉัตรกับครอบครัวย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่ปลายฉัตรไม่ยอม เธอรับปากจะดูแลตัวเองอย่างดีที่สุด และถ้าเมื่อไหร่ที่คิดว่าควรจะย้ายบ้านหนีราม เธอจะรีบบอกเขาทันที

ไตรภูมิจำต้องพยักหน้ารับ ปลายฉัตรขอบคุณในความห่วงใยของเขา พลางยิ้มลากัน

ปลายฉัตรเข้ามาในบ้านได้ยินลุงฉิ่งกับมหาพูดชื่นชมรามแต่นินทาไตรภูมิ เธอเข้าไปขัดคอ ลุงฉิ่งได้โอกาสถามหลานสาวเรื่องงาน เพราะอยากให้ไปทำกับรามมากกว่า ปลายฉัตรยังไม่ทันจะพูดอะไร เฉิดก็รีบสนับสนุนว่า รามเป็นคนดี

"ใช่ แล้วเขาจะให้ค่าจ้างมากกว่าไอ้หน้าหล่ออีก ไหนๆ เอ็งก็ทำงานเพราะอยากหาเงินมาจ่ายค่าผ่าตัด ก็เปลี่ยนงานไปเลย ได้เงินเยอะๆ แม่เอ็งก็จะได้ผ่าตาไวๆไง" ลุงฉิ่งยุ

"ฉันว่า แม่กับลุงฉิ่งตัดสินคนจากภายนอกเร็วเกินไป เจอกันแค่ไม่กี่ชั่วโมง สรุปได้ยังไงว่าเค้าเป็นคนดี บางทีเค้าอาจจะซ่อนความไม่ดีไว้ก็ได้ ฉันไม่อยากเอาตัวเองไปเสี่ยง ฉันไปอาบน้ำก่อนนะ พรุ่งนี้ต้องไปทำงานแต่เช้า" ปลายฉัตรตัดบทขึ้นบ้านไปเลย

ลุงฉิ่งกับเฉิดได้แต่มองตามด้วยความเป็นห่วง แล้วลุงฉิ่งก็บอกกับน้องสาวว่า งานนี้คงต้องใช้ไม้แข็ง

เฉิดเห็นด้วยกับพี่ชาย เธอจึงยื่นเงื่อนไขกับปลายฉัตรในเช้าวันต่อมาว่า จะไม่ยอมรับการผ่าตัดตาถ้าปลายฉัตรยังทำงานอยู่กับไตรภูมิ เพราะเป็นห่วงความปลอดภัย และอ้างถึงหลวงลุงที่พูดคล้ายๆกับคำทำนายของมหาว่า ผู้ชายที่เข้ามาจะทำให้ปลายฉัตรเป็นอันตรายถึงชีวิตและพบกับความหายนะ เพราะมั่นใจว่าต้องเป็นไตรภูมิแน่

"ปลาย แม่ขอร้องล่ะ อย่าไปทำงานกับคุณไตรภูมิอีกเลยนะ แม่เสียพ่อไปคนนึงแล้ว...อย่าให้แม่ต้องเสียปลายไปอีกคนเลยนะลูก" เฉิดตาแดงๆเหมือนจะร้องไห้

ปลายฉัตรสุดแสนจะอึดอัดเพราะบอกความจริงไม่ได้ เธอแอบโทร.ไปเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ไตรภูมิฟัง ไตรภูมิบอกจะพิสูจน์ให้รู้ว่าผู้ชายคนนั้นไม่ใช่ตน

"แล้วคุณจะพิสูจน์ยังไง..." ปลายฉัตรสงสัย ไตรภูมิไม่ตอบแต่วางสายไปเฉยๆ

ในระหว่างที่ปลายฉัตรรอดูวิธีพิสูจน์ตัวเองของไตรภูมิอยู่นั้น มายาแกล้งขับรถเฉี่ยวอโนที่เดินออกมาหน้าปากซอยพร้อมกับขู่

"ฉันคือคนที่เธอจะต้องจำเอาไว้ และถ้าเธอยังไม่เลิกยุ่งกับคุณรามเธอจะไม่โดนแค่เฉี่ยว คราวหน้าฉันไม่พลาดแน่" แล้วมายาก็เร่งเครื่องออกรถไปอย่างเร็ว อโนมองตามนึกสงสัยว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นอะไรกับราม

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ไตรภูมิก็มาที่บ้านปลายฉัตรเพื่อดูดวงกับมหา เพราะต้องการพิสูจน์ว่า เขาไม่ใช่คนอันตรายอย่างที่ทุกคนเข้าใจ

มหาถึงกับมือไม้สั่นด้วยความกลัว ลุงฉิ่งเข้ามาให้กำลังใจเพื่อนรัก เพราะอยากรู้เหมือนกันว่า ไตรภูมิใช่คนคนนั้นหรือเปล่า โดยมีปลายฉัตรแอบลุ้นอย่างมีความหวัง มหาใช้วิธีดูลายมือตามคำแนะนำของปลายฉัตร

ไตรภูมิยื่นมือมาวางบนโต๊ะ มหายื่นมือมาจับแล้วสะดุ้งเพราะมือไตรภูมิเย็นมาก ปลายฉัตรรีบแก้ตัวแทนว่า ไตรภูมิป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับเลือด ก็เลยตัวซีดๆเหลืองๆ มือเย็นๆ เป็นธรรมดา

มหากลืนน้ำลายพยายามทำใจก้มดูลายมือของไตรภูมิ ลุงฉิ่งชะโงกเข้ามาดูด้วยความอยากรู้ ในขณะที่เฉิดขยับตั้งใจฟังด้วยความเป็นห่วง ปลายฉัตรกับไตรภูมิสบตากัน

"เนินพฤหัสเต็มดี เป็นคนมีน้ำใจ ใจใหญ่ ชอบช่วยเหลืออุปถัมภ์ค้ำชู เลี้ยงดูบริวารดี เลี้ยงกันทีก็อยู่กันยาว เนินอังคารสูง เป็นคนเชื่อมั่นในตัวเอง กล้าได้ กล้าเสีย เนินเสาร์ไม่ค่อยเสมอ เป็นคนมีเรื่องเศร้าในใจ มีความลับที่ต้องเก็บไว้ ทำให้ จิตใจหดหู่ เส้นชีวิตมีเส้นแขนงแยกออกสองเส้น พุ่งจากเส้นชีวิต ผ่านเส้นสมอง เป็นคนที่อยากได้อะไรก็จะได้ อยากได้สมบัติ อยากร่ำรวย ก็จะได้ เป็นคนที่โชคดีมากๆ" มหาว่าเป็นชุด

ลุงฉิ่งฟังแล้วทึ่งดูมือตัวเองว่า มีเหมือนไตรภูมิบ้างหรือเปล่า เสียงมหาทำนายต่อ

"เส้นวาสนาจากเนินจันทร์ไปสิ้นสุดที่เนินอาทิตย์ จะได้รับความช่วยเหลือจากเพศตรงข้าม ชาวบ้านเรียกนารีอุปถัมภ์ ผู้หญิงจะช่วยให้สิ่งที่หวังสัมฤทธิผล กากบาทระหว่างเส้นสมองกับเส้นหัวใจ ไม่น่าเชื่อ...ชัดมากกากบาทเนี่ย...คนที่มีจะเป็นคนมีความสามารถพิเศษทางจิต จะมีพลังจากสิ่งเร้นลับในจักรวาลให้ความช่วยเหลือ มีลางสังหรณ์แม่นยำ ทำอะไรจะมีพลังมากๆ อยู่ที่ไหนก็จะติดต่อกับสิ่งลี้ลับหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้"

ไตรภูมิรับฟังอย่างตั้งใจ เฉิดยิ่งฟังยิ่งตื่นเต้น บอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง แล้วจู่ๆลุงฉิ่งก็โพล่งออกมาว่า ให้ดูเรื่องความรักเลย เรื่องอื่นช่างมัน ไตรภูมิเห็นด้วย เขาหันมาสบตากับปลายฉัตรที่นั่งเขิน

มหาจับมือไตรภูมิพลิกไปมาแล้วทำนายต่อ "เนินศุกร์ มีสามเหลี่ยม เป็นคนที่มีพลังควบคุมตัวเองอย่างมาก ไม่ลุ่มหลงอะไรง่ายๆ รักคนยาก ไม่รักใครจนกว่าจะเป็นคนที่ใช่จริงๆ เส้นหัวใจเป็นรูปเกาะ จะได้พบรักแบบปาฏิหาริย์ เป็นความรักที่ไม่คาดฝันมาก่อน เนินศุกร์มีเส้นละเอียดชัด ไม่ยุ่งเหยิง เป็นคนรักคู่ ใครได้เป็นผัว เอ๊ย...ได้เป็นคู่สบาย จะได้รับการดูแล ปรนนิบัติอย่างดี จะมีความสุขในชีวิตคู่ เส้นแต่งงานอยู่ไกลเส้นหัวใจ เป็นคนแต่งงานช้า แต่มีเส้นเดียวชัดๆ แสดงว่าคนที่ได้แต่งเป็นคู่แท้ อยู่กันจนถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร"

"ทำไมมันมีแต่ดีๆวะ ไม่มีอะไรที่มันไม่ดีเลยเหรอ" ลุงฉิ่งมองหน้ามหา เห็นสีหน้าเพื่อนซี้เปลี่ยนไป

"บนเส้นหัวใจมีสี่เหลี่ยมใต้เนินเสาร์ จะเกิดโชคร้ายกับคนที่รัก คนที่รักกำลังมีเคราะห์ หรืออาจจะต้องสูญเสียคนที่รัก เร็วกว่าเวลาอันควร" มหาหยุดคำทำนาย

ไตรภูมิชะงักหันมามองปลายฉัตร แววตามีความกังวลซ่อนอยู่ ปลายฉัตรเองก็หน้าเสียใจคอไม่ดีหันมามองไตรภูมิอย่างอึ้งๆ ขณะที่เฉิดรู้สึกใจเต้นแรง...หน้าซีด

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น