วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

ดอกส้มสีทอง ตอนที่ 2

ตอนที่ 2

เรยาหรือแขกในวัยห้าขวบ แม้จะยังเล็กนักแต่ เรยาก็ปากกล้าก้าวร้าวเหลือเกิน ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ ถ้าพูดไม่เข้าหู โดยเฉพาะล้อเลียนเรื่องตัวดำ ผมหยิกหย็อง เรยาจะยอกย้อนให้อย่างสุดแสบ ลำยองเองรู้ว่าไม่เหมาะไม่ควร แต่ห้ามเท่าไหร่ลูกก็ไม่ฟัง แถมบางครั้งเรยายังอาละวาดเอากับลำยองด้วยซ้ำ

ถูกเรียกถูกล้อบ่อยๆว่าเป็นลูกแขก เรยาทนไม่ไหวรบเร้าจะให้แม่เปลี่ยนชื่อเล่นจากแขกเป็นฟ้า เมื่อลูกๆของเจ้าสัวที่เกิดกับคุณนายที่สองและสามรู้เข้าก็พากันหัวเราะขบขัน วิ่งต้อนหน้าต้อนหลังเรยา พร้อมส่งเสียงล้อว่าอีนางฟ้าหน้าดำ อีดำตับเป็ด อีดำมะละกา...เรยาโกรธมากตะโกนด่าทุกคนแล้วหันหลังจะวิ่งหนี แต่ดันชนกับเยนหลิงจนล้มลงไปด้วยกัน

พอลุกขึ้นได้เรยารีบวิ่งหนี แต่เยนหลิงสั่งเง็กให้ตามไปจับมาจนได้ จากนั้นเยนหลิงก็ตั้งท่าจะตีเรยาด้วยไม้เรียวโทษฐานกล้าต่อล้อต่อเถียงลูกเจ้านาย ทั้งๆที่ตัวเองเป็นแค่ลูกขี้ข้า ไม่รู้จักเจียมกะลาหัว

"วันนี้ฉันจะเฆี่ยนแก ห้าทีให้คุณยี่ฮุย ห้าทีให้คุณยี่หรง กับอีกห้าทีให้คุณชายเล็ก...ยัง ยังจ้องตาเป๋ง นังเด็กคนนี้มันจองหองพองขนจริง นังเง็กจับมันผูกทั้งสองมือโยงกับต้นไม้"

"หา...ต้องผูกเลยเหรอฮะ อาคุงนาย"

"ใช่...นังนี่มันเซียน ถ้าไม่ผูก มันวิ่งหนีแน่ๆ แล้วฉันจะโมโหมากกว่านี้"

เง็กอ้อมแอ้มว่าไม่มีเชือก เยนหลิงเลยตวาดแว้ดให้ไปหามา พอเง็กวิ่งออกไป ลำยองก็ก้าวเข้ามาแอบดูอยู่ห่างๆด้วยความตกใจ เรยาถูกตีสิบห้าทีตามที่เยนหลิงลั่นวาจา ลำยองสงสารลูกจับใจ แต่ไม่กล้าเข้าไปห้าม จนกระทั่งเยนหลิงทำท่าจะตีอีกเพราะโกรธจัดที่เรยากัดฟันท้าทาย เจ็บแสนเจ็บแต่ไม่มีน้ำตาสักหยดให้เห็น ลำยองจึงต้องวิ่งออกมาคุกเข่าพนมมือขอร้องเยนหลิง

ทันทีที่เยนหลิงและลูกๆพากันกลับไปแล้ว ลำยองรีบแก้มัดเชือกที่มือเรยาแล้วพากลับไปที่เรือนคนใช้ เรยาเข้าห้องนอนคว่ำหน้าร้องไห้น้ำตาเป็นเผาเต่า คนเป็นแม่สงสารพยายามปลุกปลอบ กลับถูกลูกสาวกล่าวโทษว่าเป็นเพราะแม่คนเดียว แม่ตั้งชื่อว่าแขกทำไม

"ก็...ใครๆก็ว่าหนูหน้าเหมือนแขก"

"พวกมันอิจฉา อีนังสองยี่นั่นมันอิจฉา เพราะหนูสวยกว่ามัน เนี่ย...ตาโตจมูกโด่ง ขนตายาว ผมก็หยิกสวย ตัวก็ไม่เห็นดำเลย แค่สองสีใช่มั้ยแม่ พวกมันน่ะซีดเหมือนผี"

"ใช่...ถึงได้บอกไงว่าเหมือนแขก"

"ไม่รู้ล่ะ หนูบอกตั้งหลายหนแล้วว่าไม่ชอบชื่อนี้ หนูเกลียด...เกลียด...เกลียด เพราะชื่อบ้าๆนี่เชียว ใครๆเลยหาว่าหนูเป็นลูกแขก หนูไม่อยากเป็นลูกแขก...แขกยามยิ่งไม่ชอบ"

"ทำไมล่ะลูก แขกยามเป็นยังไง"

"ไม่รู้ แต่หนูไม่ชอบแขกยาม ตัวดำๆ น่ากลัว"

"อย่าหัดเกลียดคนไม่มีเหตุผลสิลูก เรื่องชื่อเหมือนกัน คนเรียกแขกไปแล้วนี่"

"แล้วแม่ยอมทำไมล่ะ ปล่อยให้มันเรียกลูกว่าแขกๆอยู่ได้ ทำไมไม่ห้ามมัน ด่ามันไปเลยยิ่งดี แม่รู้ไหมว่าบางคนจิกเรียกหนูว่าอีแขกเสียด้วยซ้ำ"

ลำยองหมดปัญญาที่จะตอบโต้ จึงใช้วิธีนิ่งเสีย

"ไม่รู้ล่ะ แม่ต้องเรียกหนูให้ใครๆได้ยินทุกคนเลยว่านางฟ้า ถ้ายาวเรียกฟ้าเฉยๆ นะแม่นะ ใครๆก็ชมทั้งนั้นว่าลูกสาวแม่สวยเหมือนนางฟ้า โตขึ้นหนูจะเป็นนางฟ้าให้พวกไอ้อีนัยน์ตาตี่อิจฉายิ่งกว่านี้เลย"

เรยาฝันเฟื่อง แววตามุ่งมั่นประสาเด็ก ทั้งๆที่น้ำตายังเต็มหน้า...คืนนั้นลำยองกลุ้มใจจนนอนไม่หลับ ออกมานั่งที่โต๊ะม้าหินหน้าเรือนพัก ป้าพุ่มออกจากห้องตัวเองมาเห็นจึงเข้ามาถามไถ่ลำยองว่าคิดอะไรอยู่

"ป้า...ถ้าวันหนึ่งฟ้ามันรู้ว่าพ่อมันเป็นแขกยาม...มันต้องเสียใจตาย มันเกลียดแขกยาม"

ป้าพุ่มงงว่าฟ้าคือใคร พอลำยองเฉลยแกถึงกับอุทานพร้อมกับตบเข่าฉาดอย่างขำๆ

"อุแม่เจ้า จากอีแขก...เป็นคุณฟ้า"

"ป้า ฉันไหว้ล่ะ อย่าล้อมันนะป้า ลูกฉันไม่เหมือนลูกคนอื่น มันเก็บกดอะไรมาไม่รู้"

"จะมีอะไร้...มันเห็นพวกคุณชายเล็ก คุณหมวยข้างบนตึกน่ะสิ ไม่ต้องทำอะไร กินนอน แต่งตัวสวย นั่งรถยนต์โก้ไปโรงเรียน พอกลับมาก็หาเรื่องรังแกคน มันก็อยากเป็นอย่างนั้นมั่งน่ะสิลำยองเอ๊ย"

"หรือฉันจะลาออกไปทำมาหากินอย่างอื่น ฟ้ามันจะได้ ไม่คิดอยากคิดเป็นเหมือนเขา"

"อยู่ที่นี่ล่ะดีแล้ว ไม่ต้องห่วง นังแขกมันจะเก่งขึ้นล่ะไม่ว่า เชื่อป้าเถอะลำยอง ลูกสาวเอ็งคนเนี้ย มันไม่เบาหรอก"
ฟังป้าพุ่มแล้ว ลำยองนิ่งงันไปอย่างครุ่นคิด

ooooooo

คำพูดของป้าพุ่มเมื่ออดีตดูเหมือนจะชัดเจนขึ้น แล้วในปัจจุบัน เรยาไม่เบาเลยจริงๆ เธอเอาตัวเข้าแลกกับตำแหน่งหน้าที่การงานจนสำเร็จสมใจ เพียงแต่ลำยองยังไม่รู้ก็เท่านั้น...

เรยาได้เป็นแอร์โฮสเตสของสยามแอร์ไลน์ แถมสินธรยังเช่าคอนโดฯหรูให้อยู่และแวะเวียนมาหาเธอเป็นประจำเมื่อมีโอกาส นับวันเรยาก็ยิ่งรู้สึกรักสินธร ทุกครั้งที่เขามาหา เธอจะกอดนัวเนียเหมือนเด็กที่ขาดความอบอุ่นและโหยหา สินธรเองก็ดูเหมือนจะหลงเรยาไม่น้อยเหมือนกัน ยอมให้เธอเรียกพ่อได้ตามต้องการ

ตั้งแต่ได้ทำงานเรยากลับบ้านดึกดื่นบ่อย บางคืนก็ไม่กลับ พอลำยองซักถามด้วยความแปลกใจสงสัย เรยาอ้างว่าออกเวรแล้ว ไปกินข้าวกับเพื่อน และบางครั้งก็ต้องค้างคอนโดฯที่พักของพวกแอร์ฯ อยู่ใกล้ๆบริษัท สะดวกในการบินกะเช้า

ลำยองฟังแล้วส่ายหน้า บ่นว่างานอะไรไม่เป็นเวล่ำเวลา เสียสุขภาพหมด

"แต่เงินเยอะ อีกหน่อยฟ้าจะพาแม่ไปอยู่ที่อื่น ไม่ให้ แม่ลำบากเป็นขี้ข้าให้เขาจิกหัวใช้"

"แต่แม่อยากทำงาน ไม่ไปไหนหรอก อยู่นี่สบายแล้ว"

"สบายเหรอ งานเยอะแยะ มาดามน่ะบ้าความสะอาด ทุกอย่างส่องแล้วส่องอีก กฎเกณฑ์ก็เยอะ ฟ้าน่ะเบื่อมาดามแทบอ้วก"

"ปากจัดจริงเรา มาดามมีบุญคุณ"

"บุญคุณอะไร ทำงานแลกเงิน"

"ฟ้า...แม่ไม่ชอบให้ลูกล่วงเกินนายของแม่ คิดดู ถ้ามาดามไม่เคี่ยวเข็ญภาษาอังกฤษฟ้า ฟ้าจะได้เป็นแอร์เหรอ อย่าให้แม่ ได้ยินอีกนะ"

"ไม่อยากได้ยิน ก็ไม่อยู่" เรยาเอาแต่ใจเสมอ เธอผลุนผลันออกไปทั้งๆที่เพิ่งกลับเข้ามา และไม่สนใจด้วยว่าแม่จะห่วงแค่ไหน ขนาดแม่วิ่งตามมาร้องเรียกเสียงแหบเสียงแห้ง เรยาก็ยังโบกแท็กซี่หนีไปต่อหน้าต่อตา

ooooooo

สินธรต้องไปดูงานที่ประเทศนิวซีแลนด์ พอไปถึงเขาก็รีบติดต่อเรยาที่เมืองไทยให้รีบตามมาหา แต่ห้ามนั่งเครื่องของสายการบินสยามแอร์ไลน์เด็ดขาด เรยาทำตามโดยดีเพราะเธอคิดถึงเขาที่สุด พอถึงเมืองโอคแลนด์ ทั้งคู่พากันเที่ยวจนหนำใจ ก่อนสินธรจะบอกกับเรยาว่า เขามีเวลาอยู่กับเธอ 5 วัน แต่เรยาสวนทันควันว่าเธอต้องการ 7 วัน

"ถ้า 7 ผมจะไปไม่ทันงานวันเกิดคุณพ่อ..."

"ของภรรยาผู้แสนจะจืดชืดเหมือนน้ำล้างจานของพ่อ ไม่เห็นต้องไปเลย พ่อไม่อยู่เขาก็ไม่รู้สึกว่าขาดอะไรไปหรอก"

"ไม่เอาน่าฟ้า อย่าหาเรื่องผม ผมอุตส่าห์ปลีกตัวจากงานเพื่อมาอยู่กับฟ้า 5 วันนี่ผมก็จัดสับหลีกจนแทบจะทำอะไรไม่ถูกอยู่แล้ว ก่อนมาผมก็ต้องเคลียร์งานจนสายตัวแทบขาด ทุกอย่างผมทำเพื่อเราจะได้อยู่ด้วยกัน"

"ทั้งวันและทั้งคืน" พูดพลางยิ้มยั่ว เอนตัวเข้าไปแนบชิด ยื่นหน้าจูบที่แก้มเขาหลายครั้งก่อนจะกระซิบชวนกลับโรงแรม...

ไม่นานนักทั้งคู่ก็มานอนกอดก่ายกันในห้องพักอย่างมีความสุข แต่แล้วเรยากลับเป็นฝ่ายทำให้เสียบรรยากาศด้วยการซักถามถึงเด่นจันทร์ภรรยาของสินธรด้วยถ้อยคำหยาบคายจนถูกสินธรตำหนิออกมาอย่างทนไม่ได้

เท่านั้นเอง เรยาที่เอาแต่ใจและเจ้าอารมณ์ก็ของขึ้นทันที กรีดร้องต่อว่าสินธรเจียดเวลาให้ตนนิดๆหน่อยๆ แล้วทิ้งให้เป็นเบื้อใบ้แห้งเหี่ยวอยู่คนเดียว แบบนี้ตนทนไม่ได้หรอก

"ฟ้าจ๋า...ตอนนี้ฟ้าก็รู้ว่าผมมีครอบครัวแล้ว"

เรยาสะอึกอึ้ง แล้วกรี๊ดออกมาอย่างอัดอั้นตันใจสุดขีด สินธรตกใจมาก ถามเรยาว่าเป็นอะไร?

"พ่อ พ่อหมายความว่าฟ้าเป็นคนแย่งผัวชาวบ้านใช่มั้ย"

"ใช่...เอ๊ย ไม่ใช่ ไม่เอาน่าฟ้า พาลอย่างนี้ไม่น่ารักเลย ถ้าจะว่าไปผมต่างหากที่ผิด...ผิดที่มารักฟ้า แต่ที่จริงฟ้าก็ผิดเหมือนกัน"

"ฟ้าผิดอะไร"

"ผิดที่น่ารักจนผมอดใจไม่ไหว"

"พ่อน่ะ อย่ามาหลอกฟ้าให้หลงอีกเลย มาทำให้ฟ้ามีความสุขชั่วครู่ชั่วยาม แล้วกลับไปเสวยสุขบนวิมานกับมัน...มีความสุขแป๊บเดียว แล้วร้องไห้ทีหลัง ไม่คุ้มกันเลย"

เรยาสะอึกสะอื้นร้องไห้ สินธรเห็นน้ำตาก็ใจอ่อนยวบด้วยความสงสาร พยายามหว่านล้อมปลอบใจแต่ไม่เป็นผล เรยายังเอาแต่อารมณ์ของตนเป็นใหญ่ ฟาดหัวฟาดหางแล้วจะประชดด้วยการกระโดดหน้าต่างฆ่าตัวตาย สินธรต้องรวบตัวเอาไว้ พร้อมยืนยันอีกครั้งว่า

"ผมบอกแล้วไง ว่าผมไม่ได้รักเขา ผมรักฟ้าคนเดียว ผมอยู่กับเขาก็เพราะลูก"

"ลูก...คำก็ลูก สองคำก็ลูก แล้วฟ้าล่ะ ถ้าฟ้ามีลูก พ่อจะเลิกกับมันมั้ย"

สินธรกอดปลอบประโลม ลูบหลังลูบไหล่จนเรยาคลายสะอื้น แต่ยังไม่วายกำชับ ถ้าเขาพูดไม่จริง เธอเอาเรื่องแน่ จะทำให้คุณนายของเขาอยู่ไม่ได้เลย

"อย่านะฟ้า...ผมขอร้อง อย่ายุ่งกับเขาอย่างเด็ดขาด ผมย้ำอีกที...ฟ้าทำไม่ได้!"

เรยาเงียบไป แต่พอรุ่งขึ้นเธอก็แอบโทร.ไปกวนประสาทเด่นจันทร์ที่บ้าน ทำทีเป็นผู้หวังดีมีธุระส่วนตัวจะคุยด้วย แต่ไม่ยอมบอกชื่อ ทำให้เด่นจันทร์หงุดหงิดโมโหตวาดใส่แล้วตัดสายทิ้งทันที

"อีบ้า อีผู้ดีตีนแดง หนอย...ตัดสายฉันทิ้งเหรอ" เรยากัดฟันกรอด เหลือบเห็นสินธรเดินกดโทรศัพท์มือถืออยู่อีกมุม เธอเดินเข้าไปทางด้านหลังเขาอย่างเงียบกริบ

สินธรโทร.หาเด่นจันทร์ แต่ทางนั้นนึกว่าผู้หวังดีโทร. มาอีก จึงขึ้นเสียงใส่เป็นชุดจนสินธรสะดุ้ง

"เด่นจ๊ะ หงุดหงิดอะไรอยู่เหรอ"

"อ้าว สินหรือคะ ตายจริงขอโทษที เมื่อกี้มีคนบ้าที่ไหนก็ไม่รู้โทร.มา เด่นเพิ่งวางสายไปเดี๋ยวนี้เอง"

"ใครกันจ๊ะ ใครมากวนเด่น เขาต่อผิดรึเปล่า"

"ไม่ได้ต่อผิดหรอกค่ะ เพราะผู้หญิงคนนั้นเขาบอกเลยนะว่าเขาต้องการจะพูดกับเด่น พอเด่นถามชื่อก็ไม่ยอมบอก"

แอบฟังจนแน่ใจแล้วว่าเขาคุยกับเมีย เรยาสีหน้า หมายมาด เดินเข้ามาควงแขนสินธรและแกล้งส่งเสียงให้เด่นจันทร์ได้ยิน...สินธรตกใจรีบถอยห่างเรยาออกมา

"สินคะ นั่นสินอยู่กับใครน่ะ"

"เปล่าจ้ะ...คนที่โทร.มาเขาไม่ได้บอกชื่อเหรอจ๊ะ"

"เด่นถามแล้ว แต่เขาไม่ยอมบอก เอ...หรือว่าผู้หวังดีคนเนี้ยตั้งใจจะโทร.มาฟ้องเรื่องสิน"

"จะมาฟ้องเรื่องอะไร ผมไม่ได้ทำอะไรผิดนะ"

"ใครจะไปรู้ เผื่อสินไปตุกติกกุ๊กกิ๊กกับใคร แล้วผู้หวังดีเกิดบังเอิญไปเห็นเข้า เขาก็เลยโทร.มารายงานเด่นไง"

"เหลวไหลใหญ่แล้ว อาจจะมีใครต้องการโทร.มาแกล้งเราก็ได้มั้งครับ"

"แล้วเขาจะแกล้งเราทำไม เอ...เด่นชักจะสงสัยจริงๆซะแล้วสิ"

"เขาก็อิจฉาเราน่ะสิ เห็นว่าเราน่ะรักกันแล้วคงจะทนไม่ได้ เลยหาเรื่องให้เราทะเลาะกันเล่น"

เรยาหน้าตูมตึง แกล้งร้องเรียก "พ่อคะ" ทำให้สินธรถูกเด่นจันทร์ซักว่าเสียงใครเรียกพ่อ ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน

"อยู่ล็อบบี้โรงแรมที่ผมพักน่ะสิครับ พอดีมีครอบครัวคนไทยพ่อแม่ลูกเขามาพักที่นี่ด้วย เพิ่งเดินผ่านไปเมื่อกี๊นี้ น่าเบื่อ เจี๊ยวจ๊าวน่ารำคาญ ไม่เอาน่า คุณอย่าคิดมากนะ อีกไม่กี่วันผมก็กลับแล้ว"

เรยาหมั่นไส้คว้าโทรศัพท์ไปจากมือสินธรแล้วปิดเครื่องทันที สินธรไม่พอใจแต่ก็ทำอะไรเรยาไม่ได้ เพราะเธอใช้ลูกอ้อนลูกตื๊อพาเขากลับห้องแล้วปรนเปรอความสุขให้อย่างถึงใจ ปล่อยให้เด่นจันทร์เครียดจัดเดินพล่านเป็นหนูติดจั่นเพราะติดต่อสามีไม่ได้

ooooooo

ถึงกำหนดเดินทางกลับไทย สองคนมาด้วยกัน แต่ต้องทำเป็นไม่รู้จักกัน เรยาพอเหลือบเห็นเด่นจันทร์ มารอรับสามีก็แกล้งขยับมาใกล้ชิดสินธร ขณะที่สินธรเองก็เห็นเด่นจันทร์แล้วจึงดุเรยาและไล่ให้รีบแยกไปก่อนที่เด่นจันทร์จะเห็นเราสองคน

แต่กว่าจะไป เรยาก็อ้อยอิ่งจนเด่นจันทร์เห็นด้านหลังของเธอแต่นึกว่าฝรั่ง...เด่นจันทร์ใจเย็นพอที่จะไม่ซักสามีทันทีที่เผชิญหน้า หนำซ้ำเธอยังมีรถนำเข้าสุดหรูราคาแพงระยับที่สินธรอยากได้มาจอดรอเพื่อไว้ใช้สำหรับประดับบารมีพาเธอออกงานสังคม โดยรถคันนี้พ่อของเธอจ่ายเงินซื้อให้

สินธรลูบคลำรถใหม่ป้ายแดงด้วยความพอใจยิ่ง ครั้นทั้งคู่ขึ้นรถ เด่นจันทร์ทำเหมือนเพิ่งนึกได้ ถามสินธรว่าแหม่มที่ทักเขาเมื่อกี้เป็นใคร สินธรอึ้งไปนิดก่อนร้องอ๋อ บอกว่านั่งมาด้วยกันในเครื่องบิน เขามาหาลูกชายโตเป็นหนุ่มแล้ว ทำงานโรงแรมที่กระบี่

"มีลูกชายเป็นหนุ่มแล้ว โอ้โฮ เห็นข้างหลังคิดว่าสาวๆเสียอีก รูปร่างยังเปรี๊ยะอยู่เลย"

ท่าทีเด่นจันทร์เชื่อสนิท สินธรแอบผ่อนลมหายใจโล่ง แต่พอเข้าเกียร์จะออกรถต้องชะงักตกใจกับภาพเรยาที่ยืนจ้องตาเป๋งอยู่ข้างทาง สินธรกลัวเด่นจันทร์ผิดสังเกตจึงรีบออกรถผ่านเรยาไปอย่างรวดเร็ว โดยมีรถอีกคันของเด่นจันทร์ที่นพเป็นคนขับตามหลังไป

ด้วยอยากอวดรถอวดรวย เด่นจันทร์กับสินธรแวะไปงานสังคมแห่งหนึ่งก่อนกลับเข้าบ้าน สินธรดูสีหน้าไม่สู้ดีนักเพราะเพิ่งเจอถ้อยคำออกจะหยามหยันของเด่นจันทร์ที่ชอบพูดจนเป็นนิสัยโดยไม่ยั้งคิด เหมือนประหนึ่งจะเตือนสติสินธรให้เจียมตัวเจียมตน

ยิ่งพอเข้าบ้านแล้วมาถูกเด่นจันทร์คาดคั้นเรื่องผู้หวังดีว่ามันคือผู้หญิงที่เขาพาไปเมืองนอกด้วยใช่ไหม สินธรก็ยิ่งไม่สบอารมณ์ แต่ต้องเก็บกลั้นทำเป็นเปลี่ยนเรื่องออดอ้อนนัวเนียราวกับรักเมียนักหนา เด่นจันทร์ดูเหมือนจะเคลิ้ม แต่จู่ๆเธอกลับวกมาตอกย้ำเรื่องรถแล้วผละไปอย่างถือดี

สินธรเซ็งสุดๆ นั่งถอนใจอยู่หลายเฮือกก่อนจะนึกถึงเรยาว่าต้องโกรธตนแน่ๆ ครู่เดียวสินธรก็คิดออกว่าจะทำยังไง

เขาแกล้งโทร.มือถือคุยงานให้นพที่ยืนสอดส่องตามคำสั่งของเด่นจันทร์ได้ยินว่าเขาจะเข้าบริษัทเดี๋ยวนี้ ให้เลขาฯเตรียมสรุปรายงานการประชุมครั้งที่แล้วไว้ให้ด้วย

แต่ความจริงสินธรแวบไปซื้อแหวนเพชรด้วยเงินสดแล้วเอาไปง้อเรยาถึงห้องเช่าในคอนโดฯ เรยากำลังขุ่นมัวเศร้าเสียใจเพราะหึงหวง พอเห็นแหวนเพชรน้ำงามก็หายเป็นปลิดทิ้ง โผเข้ากอดสินธรและระดมจูบแทบไม่หายใจ

"ฟ้า...ผมอยากให้ฟ้าคิดเสมอว่าเรามีชีวิตร่วมกัน เรารักกัน ผมรักฟ้ามาก รักมากกว่าเขาแน่นอน เพราะฉะนั้น ฟ้าต้องเข้าใจนะว่าเหตุการณ์อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับเด่นจันทร์เป็นสิ่งที่ผมเลือกไม่ได้ ถ้าผมเลือกได้ ผมเลือกฟ้าอยู่แล้ว"

เรยาตื้นตันและสุขล้น พนมมือไหว้สินธรอย่างอ่อนช้อยสวยงาม

"ฟ้ารักพ่อนะ พ่ออย่าทิ้งฟ้านะคะ"

ooooooo

หลังจากหายไปหลายวัน เรยาก็หอบเอาเสื้อผ้ากลับมาให้แม่ซัก ลำยองไม่ว่ากระไร แต่บ่นเรื่องที่เรยาหายไปหลายวันโดยไม่บอกว่าจะไปไหน รู้ไหมว่าแม่ เป็นห่วงแค่ไหน เรยารู้ว่าแม่ห่วงแต่ก็ไม่ค่อยพอใจที่แม่ จู้จี้ ทำท่าเหมือนจะกลับไปค้างคอนโดฯอีก ยิ่งพอลำยองบอกว่านายแหม่มเรียกให้ไปพบ เรยาโวยวายทันที

"โอ๊ย เรื่องอะไรกันเล่า เรียกยังกะฟ้าเป็นขี้ข้าอีกคน"

"ฟ้า...แม่บอกกี่หนแล้วว่านายฝรั่งนายแหม่มมีบุญคุณ ถ้านายสองคนไม่รับแม่ไว้ทำงาน แม่จะพาฟ้าไปอยู่ไหน อาจจะต้องไปอยู่สลัมที่ไหนซักแห่ง แล้วฟ้าจะได้เรียนภาษา จะได้เป็นแอร์ฯแบบนี้เหรอ"

"อีกแล้ว..."

"แม่ต้องพูดเพราะแม่เป็นคนกตัญญู ใครมีบุญคุณ แม่จะไม่ลืม มีโอกาสต้องตอบแทน"

"กตัญญู...กตัญญูแล้วแม่ออกมาจากบ้านเจ้าสัวคนนั้นทำไมล่ะ แม่เคยเล่าว่าแม่หนีออกมาใช่มั้ย"

"แม่หนีเพราะแม่มีเหตุผล ไม่ใช่เพราะแม่คิดไม่ดีกับเขา"

"เออ...เอางี้ งั้นคืนนี้ฟ้ายังไม่กลับ เดี๋ยวแม่ม้วนผมให้ฟ้าด้วย แล้วแม่ก็เล่าเรื่องของแม่ไปด้วยนะ"

"เรื่องอะไรล่ะ ฟ้าจะฟังตรงไหน"

"ตรงไหนเหรอ คราวที่แล้วแม่เล่าว่าท่านเจ้าสัวมีเมียคนที่ห้าเป็นฝรั่งใช่มั้ย อยากฟังตรงนั้นแหละ อยากรู้ว่าเมียฝรั่งมาอยู่ใหม่ๆ ถูกเมียคนอื่นรุมรังแกขนาดไหน"

ลำยองเริ่มลำดับเหตุการณ์ในอดีตอีกครั้ง...วันนั้นลำยองกวาดพื้นระเบียงชั้นล่างบ้านเจ้าสัว แต่สายตาของลำยองจับจ้องไปที่เม่งฮวยกับเยนหลิงบ่อยครั้ง ทั้งคู่กำลังแอบอิจฉาริษยาซิลเวียที่กอดจูบนัวเนียเอาอกเอาใจเจ้าสัวอย่างไม่อายฟ้าดิน จนได้เพชรทองของมีค่าเป็นรางวัล

ฟังแม่ได้เท่านี้ เรยาก็มีคำถามขึ้นมาว่า ระหว่างคุณนายใหญ่กับคุณนายสองใครร้ายกว่ากัน ลำยองบอกร้ายคนละแบบ คุณนายใหญ่อารมณ์ร้ายตลอดเวลา ไม่พูดดีกับใคร มองทุกคนทำผิดหมด แต่คุณนายสองพูดหวานพูดดีแต่ไม่เคยเห็นใครดีจริง อิจฉาริษยา ใจคอโหดร้าย คิดฆ่าคนตลอดเวลา

"โห...แม่ อยู่กะเขานานแค่ไหนน่ะ รู้จักเขาซะถึงกึ๋นเลย"

"ไม่ต้องนานหรอก แม่ก็รู้แล้ว แม่ได้ยินประจำว่าเขาทะเลาะกัน ไม่ก็พูดจาเสียดสีกัน ฟ้าก็อยู่ด้วยตั้งบ่อยๆ จำไม่ได้เหรอ"

เรยาส่ายหน้า ลำยองจึงยกตัวอย่างวันหนึ่งที่เรยาในวัยห้าขวบแอบขึ้นไปบนตึกกับอ่อนเพื่อจะดูห้องคุณนายฝรั่ง แต่อ่อนต้องถูบ้านก่อน เรยาจึงเคว้งอยู่จนลำยองมาพบเข้า ลำยองตกใจจะพาลูกกลับลงไปก่อนที่ใครจะมาเห็น แต่ไม่ทันก้าวลงบันไดก็ได้ยินเสียงเยนหลิงดังมาจากชั้นบน

สองแม่ลูกแหงนมองขึ้นไปเห็นเม่งฮวยเดินนำออกมาจากห้องตัวเองโดยมีเยนหลิงเดินตามหลัง หน้าตาฉุนเฉียวไม่พอใจ

"คุณนายใหญ่เดินหนีแบบนี้ ที่แท้ก็ไม่กล้าใช่มั้ยล่ะ"

เม่งฮวยหันขวับมาประจันหน้ากับเยนหลิง "ใครว่าอั้วไม่กล้า"

"ก็บอกนายสิ ถ้ากล้า...ให้นายเอาเรื่อง จำได้มั้ยเมื่อก่อนคำแก้วเคยจูบนายแบบนี้แหละ โดนนายด่าซะไม่มี คุณนายใหญ่ ต้องลำเลิกนายแบบนี้ บอกนายว่าคนเขาพูดกันทั่วแล้วว่านายน่ะเอาผู้หญิงโรงน้ำชามาเป็นเมีย"

"อั้วต้องคิดดูก่อน ถ้าเฮียไม่เชื่อ นังอั้งม้อมันก็หัวเราะเยาะเรา"

"แต่ใจเย็นไม่ได้นะคะคุณนายใหญ่ ยิ่งปล่อยไว้มันจะยิ่งกำเริบปราบไม่ได้"

"ใจเย็นไม่ได้ให้ทำไง อั้วบอกแล้วว่าเราต้องค่อยๆหาอุบายให้รอบคอบ ขืนแหวกหญ้าให้งูตื่น...มันก็โง่"

"เอ๊ะ ว่าใคร" เยนหลิงเสียงแหลม

"ป่าวนี่" เม่งฮวยโต้ทันควัน

"นี่ไม่ใช่รบกันแบบนักรบเส้าหลินซะหน่อย มัวแต่วางแผนๆอยู่นั่นแหละ อย่างงี้ก็..."

"อาไลวะ ทำไมต้องเซ้าซี้ น่ารำคาญจิงๆ"

"ก็มัวแต่ชักช้า รอให้มันมาเหยียบอกหรือไง"

"หุบปาก...อั้วมีนี่" ชี้ศีรษะตัวเองอวดๆ "อั้วต้องคิด ไม่เหมือนลื่อ วันๆมีแต่ตอแหล"

"เอ๊ะ ยายซิ้มปากเหม็น พูดจาไม่เป็นผู้ดี อ๋อ นายไม่มานอนที่ห้องเลยอารมณ์เสียเที่ยวระรานคนไปทั่ว พอมีเรื่องจริงๆ ก็สมองตื้อ นี่คุณนายใหญ่ ไม่มีปัญญาก็อยู่เฉยๆ ฉันจัดการเอง"

"เออ...ลื่อเก่ง ดุเหมือนตั้วเก๊า มีลูกอีกตัวยกให้อั้วนะ

จะเอาไปกันขโมย"

"หมายความว่าไง ว่าฉันเป็นหมาใช่มั้ยคุณนายใหญ่"

"คิกเอาเองสิวะ อยากอวดเก่งนัก"

"ถ้าว่าฉันเป็นหมาก็เท่ากับด่านายด้วย ฉันเป็นหมา นายก็ต้องเป็น คุณนายใหญ่ก็ต้องเป็น เพราะคุณนายใหญ่เป็นเมียนาย"

เม่งฮวยสะดุ้ง อ้าปากอยากด่าคืนแต่คิดไม่ออก เยนหลิงเลยสมน้ำหน้า เยาะว่าใครกันแน่ที่โง่ ว่าแล้วก็เดินเข้า

ห้องตัวเองไป ปล่อยให้เม่งฮวยมองตามอย่างโกรธแค้น ลำยองที่แอบฟังรีบพาเรยาออกจากตึกไปโดยเร็ว

ตอนนั้นเรยาไม่รู้ว่าผู้ใหญ่โต้เถียงกันด้วยเรื่องใด วันนี้เพิ่งรู้จากแม่ว่าเมียเจ้าสัวสองคนพยายามรวมหัวกันกำจัดเมียใหม่ที่เป็นฝรั่ง แต่ที่เรยาอยากรู้มากกว่าก็คือแม่ของตนมีเรื่องอะไรถึงออกจากบ้านนั้นมา

"เรื่องมันไม่น่าเล่าหรอก แม่ไม่อยากรื้อฟื้นอีกเลย เรื่องไม่ดีของคนไม่ดี"

"แม่...พูดอย่างนี้ไม่อยากพูดด้วยแล้ว จะว่ากระทบใคร" สีหน้าและน้ำเสียงเรยาร้อนรนจนลำยองสงสัยทำไมลูกถึงทำเหมือนตุ๊กแกกินปูนร้อนท้อง หรือว่าไปทำอะไรไม่ดีไว้ เรยาโกรธจี๊ดจะเถียงแต่ถูกลำยองตัดบทให้ไปหานายแหม่มก่อน แม่ขอร้อง แม่ยังเป็นลูกจ้างเขาอยู่

เรยาทั้งเบื่อทั้งเซ็งคำว่าลูกจ้างเป็นที่สุด บอกให้แม่ไปลาออก ตนเลี้ยงแม่ได้ แม่อย่าบังคับตนเลย ตนไม่ใช่คนใช้นายแหม่ม สักวันตนจะไปจากที่นี่ แม่เอาอะไรมาฉุดก็จะไม่กลับ

ลำยองนิ่งอึ้งด้วยความเสียใจ เรยารับรู้จึงเบาเสียงลง

"ฟ้ากำลังเจริญขึ้น...เจริญขึ้น เป็นแอร์แสนจะโก้ อีกหน่อยก็จะหาที่อยู่ให้มันหรูหราสมฐานะ ฟ้าจะมีแม่เป็นคนใช้เขาได้ไง"

"ได้...เพราะแม่เป็นอยู่แล้ว แม่ไม่เปลี่ยนแปลงด้วย จะรับใช้นายฝรั่งกับนายแหม่มไปจนกว่าพวกเขาจะไม่อยู่ที่เมืองไทย เกิดเป็นคนมันต้องกตัญญู ใครทำบุญคุณไว้กับเรา ต้องไม่ลืม มีโอกาสตอบแทนต้องทำ...ฟ้าอย่าเถียงแม่เลยลูก แม่รักฟ้าที่สุดในโลก แต่แม่ก็ต้องมีจุดยืนของแม่ แม่จะยืนที่จุดนี้จนกว่าจะไม่จำเป็นต้องยืน"

ทั้งห้องเงียบกริบ สองแม่ลูกยืนจ้องหน้ากันนิ่งด้วยความเสียใจ...ที่สุดเรยาก็หันไปคว้ากระเป๋าสะพายออกจากห้องไป ลำยองอยากจะเรียกแต่เปลี่ยนใจ ทรุดนั่งน้ำตาไหลริน

เรยาก้าวฉับๆไปพบนายแหม่ม วางท่ายโสจะไม่ยอมนั่ง ยิ่งพอถูกนายแหม่มซักว่าเธอไปพักอยู่ที่ไหน ทำไมไม่ค่อยกลับบ้าน เรยาไม่พอใจ โกหกว่าอยู่อพาร์ตเมนต์ของสายการบิน แต่นายแหม่มดักคอว่าตนไม่เคยได้ยินว่าบริษัทการบินมีอพาร์ตเมนต์ให้พนักงาน เรยาเถียงไม่ตกฟากว่า นายแหม่มไม่เคยได้ยิน ก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มี

นายแหม่มเอือมเต็มที ตัดบทว่ามีก็มี แต่เธอควรจะกลับบ้านถ้ากลับได้ แม่ของเธอคิดถึงเธอ บินครั้งละหลายๆวัน เมื่อกลับมาเมืองไทยก็ควรจะกลับบ้าน...เรยาโกรธอยากสวนให้แสบ แต่ไม่กล้าพอ ได้แต่ด่าในใจว่ามันเรื่องอะไรของแก อีแหม่มหนังเหนียว ครั้นได้ยินนายแหม่มสำทับว่าเข้าใจที่ตนพูดไหม เรยาจำต้องตอบรับแล้วยกมือไหว้ก่อนลุกออกไปด้วยอาการไม่พอใจ

เรยาเดินลิ่วไปออกทางประตูเล็กแล้วผลักมันปิดดังโครม ลำยองยืนมองน้ำตาคลอๆ ถอนใจยาวกลุ้มใจอย่างบอกไม่ถูก พอเหลือบไปเห็นนายแหม่มเดินออกมาจากในบ้าน ลำยองรีบเข้าไปขอโทษ ที่ลูกสาวของตนนิสัยไม่ดี

"เขาอยากให้ลำยองทำอะไร" คำถามของนายแหม่มทำให้ลำยองนิ่วหน้าสงสัย "เขามาหาฉัน มู้ดดี้มาอย่างมาก ฉันจึงเดาเอาว่าลำยองคงทำอะไรให้เรยาเขาโกรธ"

ลำยองก้มหน้านิ่งไม่กล้าบอกเรื่องเรยาให้เธอลาออก แต่นายแหม่มดักคออย่างรู้ทัน

"ลำยอง ถ้าเรยาชวนไปอยู่ที่อื่น ไปไม่ได้นะ...ฉันรู้ว่าเรยาอยากชวนลำยอง แต่เรยาเขายังไม่มั่นคง ถ้าเดือดร้อนเรื่องที่อยู่ เรยาคนเดียวเขาแก้ปัญหาได้ แต่ถ้ามีลำยองด้วยจะลำบากทั้งแม่ทั้งลูก อยู่ที่นี่ไปเรื่อยๆ มีที่อยู่ มีรายได้ อย่าไปเชื่อเขา"

"ค่ะ...แหม่ม"

"ฉันเป็นห่วงเรยา เห็นมาตั้งแต่เป็นเด็กๆ เพราะเรยาไม่เหมือนลำยอง ไปอยู่ตรงไหนก็ยาก...ยากมาก"

ลำยองเงียบไปอย่างยอมรับ...สีหน้าทุกข์ใจเป็นห่วงลูกสาว

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น