วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

ป่านางเสือ ตอนที่ 4

ตอนที่ 4

สักพัก ลุงเดชเดินเข้าไปหาดาวกับจักจั่นไม่เห็นไผ่อยู่ด้วยเลยถามหา ได้ความว่าพาป้าเนียนกลับสถานีอนามัย ลุงเดชชวนหลานสาวทั้งสองคนไปหาไผ่ โดยไม่ปริปากถามเรื่องคุณหญิงรัตนา...

ระหว่างที่ลุงเดช ดาว และจักจั่นเดินผ่านหน้าตลาดดอนเสือ เจอนายพุกกับนายตันสมุนของสินชัยกำลังฉุดเด็กสาวชาวบ้านหน้าตาดีคนหนึ่งเข้ารถตู้โดยมีพ่อและแม่ของเด็ก สาวพยายามยื้อแย่งลูกไว้ ขณะพวกชาวบ้านมุงดูอยู่ห่างๆไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย ลุงเดชสั่งให้ดาวกับจักจั่นอยู่เฉยๆไว้ก่อน แต่พอเห็นคนร้ายผลักสองผัวเมียล้มลง ดาวปรี่เข้าหาพวกนั้นทันที จักจั่นไม่รอช้าพุ่งตามไปติดๆ ลุงเดชได้แต่ถอนใจ

ดาวสั่งให้คนร้ายปล่อยเด็กสาวไป นายตันกับนายพุกเห็นหน้าตาสะสวยของจักจั่นกับดาวคิดจะฉุดไปด้วย ลุงเดชตามมาสมทบ บอกให้ดาวกับจักจั่นถอยไป แล้วจัดการประเคนทั้งหมัดทั้งเข่าใส่นายพุกสลบเหมือด นายตันเห็นเพื่อนโดนเล่นงานชักปืนขึ้นมาจะยิงลุงเดช ดาวไวกว่าตวัดปืนจากเอวขึ้นมายิงใส่มือนายตันปืนกระเด็นหลุดมือ นายตันร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ยกมือไหว้ปลกๆขอชีวิต

"พาเพื่อนเอ็งไป ถ้าข้าเห็นหน้าพวกเอ็งอีก ข้าจะยิงเอ็งเหมือนยิงหมาตัวหนึ่ง" ลุงเดชขู่เสียงเข้ม

นายตันตาลีตาเหลือกพยุงนายพุกยัดใส่รถตู้ รีบขับออกไปทันที โดยมีเสียงชาวบ้านช่วยกันโห่ไล่หลัง สองผัวเมียขอบคุณสามคนลุงหลานยกใหญ่ ลุงเดชถามคู่ผัวเมียว่ามันเรื่องอะไรกัน ได้ความว่าพวกคนร้ายมาเรียกค่าคุ้มครอง พวกตนไม่มีเงินจ่าย มันเลยจะเอาลูกสาวไปแทน ลุงเดชสงสัยว่าทำไมไม่แจ้งตำรวจ

"แจ้งแล้ว แต่ไม่มีหลักฐานก็ทำอะไรมันไม่ได้ เป็นอย่างนี้มานานแล้ว"

ดาว จักจั่นกับลุงเดชได้แต่มองหน้ากันพูดไม่ออก... ครู่ต่อมา ลุงเดชกับสองสาวมาถึงสถานีอนามัย พอไผ่รู้เรื่องที่ลุงเดชลุยกับพวกคนชั่วด้วยตัวเอง นึกเสียดายที่ไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วย ลุงเดชยอมรับว่าสิ่งที่ทำไปไม่ถูกต้อง เขาควรจะระวังให้มากกว่านี้ ดาวบอกลุงเดชว่าเธอจะไม่ยอมอยู่เฉยๆอีกแล้ว จะจัดการไอ้คนเลวพวกนี้ให้สิ้นซาก จักจั่นกับไผ่เห็นด้วยกับดาว พวกเราจะลุยในแบบฉบับของชาวบ้านไม่ให้ความลับเปิดเผย

ลุงเดชคิดอยู่อึดใจ "เอา...งั้นลุงก็เอาด้วยคน เจอพวกมันก่อเรื่องที่ไหนลุยมันที่นั่น"

เด็กทั้งสามคนต่างดีใจส่งเสียงเฮลั่น ป้าเนียนได้ยินเสียงเอะอะถามว่ามีอะไรกัน พอรู้เรื่องที่เกิดขึ้น ป้าเนียนชูกำปั้นส่งเสียงเย้ ขอดีใจด้วยคน จากนั้นลุงเดชกับเด็กๆขอตัวกลับ ทิ้งป้าเนียนให้ทำงานของแกต่อ...

ที่บ้านป้าเนียน ขณะดาวกำลังเช็ดปืนอยู่ในห้องนอนตัวเอง แต่ใจลอยคิดถึงคุณหญิงรัตนาตอนที่กอดเธอไว้แนบอก และอดยิ้มไม่ได้เมื่อนึกถึงฤทธิชัยตอนที่คุณหญิงแนะนำว่าเขาเป็นหลานชายของ ท่าน จังหวะนั้นจักจั่นเดินเข้ามาในห้อง บ่นอย่างเสียดายว่าเราสองคนน่าจะรับคำเชิญไปเที่ยวกรุงเทพฯของคุณหญิงรัตนา พวกเราไม่ได้ไปที่นั่นเกือบสามปีแล้ว ดาวแซวจักจั่นว่าอยากไปกรุงเทพฯ เพราะต้องการให้อภิชาติดูแลใช่ไหม

จักจั่นแซวกลับว่า ดาวเองก็อยากให้ฤทธิชัยมาคอย ต้อนรับเหมือนกัน ดาวไม่สนคนทึ่มๆแบบนั้น บอกจักจั่นว่าเลิกคิดเรื่องนี้ได้แล้ว ชีวิตของพวกเราสวนทางกับพวกเขา เราเป็นโจรแต่เขาเป็นตำรวจ อย่าเจอกันอีกเป็นดี จักจั่นยังติดใจสงสัยอยู่นิดหนึ่งว่าทำไมดาวถึงเรียกฤทธิชัยว่าตาทึ่ม

"ก็เพราะว่าครั้งแรกที่พี่เจอ เขาปลอมเป็นพวกคนร้ายติดหนวด ใส่แว่น ทึ่มเป็นบ้า แถมยังหนวดหลุดห้อยร่องแร่งอีกต่างหาก ทึ่มสุดๆ" ดาวพูดจบ เผลอยิ้มตาเป็นประกายไม่รู้ตัว

จักจั่นเห็นท่าทางของดาวแล้วจับได้ว่าที่จริงดาวก็แอบมีใจให้ฤทธิชัย เลยอดกระเซ้าไม่ได้ ดาวเขินรีบพูดกลบเกลื่อนว่า พรุ่งนี้เราเข้าป่าไปหาสายฟ้ากับสายลมกันดีกว่า จักจั่นรับคำแล้วรีบไปชวนไผ่

ooooooo

ในเวลาเดียวกัน ที่บ้านหรูในกรุงเทพฯของคุณหญิงรัตนา คุณหญิงพรพรรณเห็นคุณหญิงรัตนาลูกสาวของเธอกลับจากบ้านดอนเสือด้วยสีหน้า สดใสเข้ามาทัก

"แม่นึกว่าการไปบ้านดอนเสือจะทำให้ลูกไม่สบายใจ แต่ดูเหมือนว่าแม่จะคิดผิด ลูกดูสบายใจขึ้น"

"ค่ะ ลูกเจอเด็กหญิงสองคนน่ารักทั้งคู่ รุ่นราวคราวเดียวกับลูกษา ถ้าคุณแม่ได้เจอ ต้องชอบพวกแกแน่ๆโดยเฉพาะหนูดาว ไม่รู้เป็นอย่างไรถูกชะตาลูกจริงๆ" คุณหญิงรัตนายิ้มตาเป็นประกาย

คุณหญิงพรพรรณสบายใจที่เห็นลูกสาวมีความสุข...

ที่คอฟฟี่ช็อปในโรงแรมบ้านดอนเสือ นายไชยสั่งให้ สมุนสองคนของตนพานายตันกับนายพุกที่อยู่ในสภาพสะบัก สะบอมไปส่งโรงพยาบาล แล้วกำชับให้ออกตามหาพวกที่กล้ามาลูบคมพวกเราให้เจอ ส่วนสมุนที่เหลือออกไปหาผู้หญิงมาเพิ่ม ทางกรุงเทพฯต้องการเด็กใหม่ๆอย่างน้อย 20 คนภายในอาทิตย์นี้ พวกสมุนรีบไปทำตามคำสั่งทันที เสี่ยเหลิมเดินหน้าบอกบุญไม่รับเข้ามาหานายไชย

"เจ้านายสั่งโควตาไม้มาแล้ว เยอะด้วย กำลังรอคำสั่งคอนเฟิร์ม...เฮ่อ...พวกเราโดนนางเสือเล่นงานทุกครั้ง จนพวกมันขยาดกันหมดไม่มีใครอยากออกไปตัดไม้กันแล้ว" เสี่ยเหลิมว่าแล้วถอนใจ หนักใจ

"ไม่ต้องห่วง เจ้านายให้ผมจัดพรานล่าเสือมาแล้ว มีวิชาอาคมสารพัด"

เสี่ยเหลิมแปลกใจว่าทำไมสินชัยไม่เห็นบอกตนเอง นายไชยแดกดันว่าเจ้านายคงเห็นเสี่ยเหลิมงานล้นมือ แล้วลุกออกไปดื้อๆเสี่ยเหลิมมองตามไม่พอใจที่นายไชยคิดจะทำผลงานข้ามหน้า ข้ามตา...

คืนเดียวกันนั้น ฤทธิชัยกับอภิชาติมาดักรอเล่นงานนายโจอยู่หน้าบาร์แห่งหนึ่งย่านอาร์ซีเอฐาน หลอกเขาไปติดกับ นายโจคุยว่ามีข่าวใหม่เกี่ยวกับสินชัยจะบอก ถ้าฤทธิชัยฟังแล้วต้องปล่อยเขาไป ฤทธิชัยพยักหน้า นายโจเล่าว่าสินชัยเปลี่ยนที่รับสินค้าใหม่มาเป็นที่กรุงเทพฯ โกดังที่ฤทธิชัยเคยบุกเข้าไปครั้งก่อน

"นายสินชัยหักหลังคนซื้อเชิดเงินพวกมันไป พวกมันเตรียมแผนปล้นนายสินชัยเป็นการแก้แค้น"

ฤทธิชัยส่ายหน้าไม่เชื่อ นายโจยืนยันว่าครั้งนี้เป็นเรื่องจริง พวกมันจะลงมือคืนนี้ แทนที่ฤทธิชัยจะปล่อยนายโจไปอย่างที่รับปาก เขากลับจะส่งเข้าคุก นายโจพยายามหนี ฤทธิชัย อัดกำปั้นเข้าท้องนายโจจนตัวงอ ลากไปที่รถของเขาจับยัดไว้ในกระโปรงท้ายรถ แล้วรีบขับรถตรงไปยังโกดังแห่งนั้น...

เหตุการณ์ไม่ได้เป็นอย่างที่นายโจพูด แทนที่สินชัยจะเป็นฝ่ายถูกปล้น เขากลับหักหลังคู่ค้าชิงเงินค่ายาเสพติดไป และสั่งให้สมุนสังหารคู่ค้าตายเรียบ แถมสถานที่เกิดเหตุก็ไม่ใช่ โกดังกลางกรุงอย่างที่นายโจว่า แต่เป็นลานกว้างเปลี่ยวๆชานกรุง...

ด้านฤทธิชัยกับอภิชาติบุกเข้าไปในโกดังตามที่นายโจให้ข่าวไม่เจอใครเจอแต่ ลังใส่ยาเสพติดสองถึงสามลังตั้งอยู่กลางโกดัง ทันใดนั้นตำรวจหน่วยปราบปรามยาเสพติด กรูกันเข้าล้อมทั้งคู่ไว้

"เราได้รับรายงานจากนายสินชัยว่ามีตำรวจใช้ที่นี่เป็นแหล่งค้าเฮโรอีน ผมหวังว่าผู้กองมีคำอธิบายในการเข้ามาในที่นี้"

ฤทธิชัยพยายามอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ดูเหมือนหัวหน้าตำรวจจะไม่เชื่อแถมขอหมายค้นจากเขา อภิชาติโกหกว่ามีหมายค้น แกล้งชูกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมา หัวหน้าตำรวจยังไม่ทันจะหยิบกระดาษแผ่นนั้นมาดูมีเสียงมือถือของเขาดังขึ้น ขัดจังหวะเสียก่อน หัวหน้าตำรวจรับสายไม่ได้พูดอะไรสักคำได้แต่พยักหน้า พอวางสายก็หันมองฤทธิชัยกับอภิชาติสีหน้าเยาะ

"มีรายงานว่าพวกคุณพยายามฆ่าปิดปากพยานรู้เห็นในการซื้อขายครั้งนี้"

"รายงานมีค่าเท่ากับศูนย์ ถ้าไม่มีหลักฐาน"

หัวหน้าตำรวจขอค้นรถของฤทธิชัย ขณะที่ฤทธิชัยกับอภิชาติเดินนำตำรวจไปที่รถ ฤทธิชัยนัดแนะกับอภิชาติอย่างดิบดีว่าจะแก้ตัวอย่างไรที่จับนายโจขังไว้ท้าย รถ แต่พอตำรวจเปิดฝากระโปรงท้ายรถขึ้นดูเห็นร่างของนายโจนอนตายตาเบิกโพลง กลางหน้าผากมีรอยกระสุน อภิชาติกับฤทธิชัย ถึงกับพูดอะไรไม่ออก...

ในเวลาต่อมา ที่กองปราบปรามยาเสพติด ท่านรองฯ ก้องเกียรติต้องเข้ามาเคลียร์เรื่องนี้ให้ฤทธิชัยกับอภิชาติ จนพ้นข้อกล่าวหา แต่ฤทธิชัยจะต้องถูกพักงานชั่วคราวจนกว่าจะมีการแจ้งให้ทราบ...

ข่าวฤทธิชัยกับอภิชาติถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายยาเสพติด เป็นข่าวเด็ดของคืนนี้ ทีวีทุกช่องรายงานข่าวกันอย่างครึกโครม สินชัยเห็นข่าวแล้วยิ้มสะใจ คว้ามือถือขึ้นมาโทร.

"ทางสะดวกเริ่มจัดของตามโควตาได้...ใช่...ทุกอย่าง"

ooooooo

วันรุ่งขึ้น ดาว จักจั่น และไผ่กลับเข้าป่าเยี่ยม เยียนสายฟ้ากับสายลม พบว่าพวกคนร้ายมีการเคลื่อนไหวกันอย่างคึกคักหลายจุดเหมือนได้รับออเดอร์ ตัดไม้มาลอตใหญ่ ดาวดูจากจำนวนคนและอุปกรณ์ของพวกคนร้ายแล้ว ประเมินได้ว่าพวกนี้จะต้องอยู่ในป่า อีกหลายวัน...

ฤทธิชัยจะใช้โอกาสที่ถูกพักงานเดินทางไปบ้านดอนเสือเพื่อสืบเรื่องธุรกิจผิด กฎหมายของสินชัย เขาจำเป็นต้องฉายเดี่ยว เพราะท่านรองฯก้องเกียรติจะลงมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไม่ได้ ฤทธิชัยขอร้องให้อภิชาติไปช่วยอีกแรงหนึ่ง อภิชาติขอเคลียร์งานที่ศาลสักสองสามวันก่อนแล้วจะตามไป

ขณะฤทธิชัยกำลังเก็บเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นใส่ กระเป๋าเดินทาง คุณหญิงรัตนาทราบข่าวฤทธิชัยถูกพักงาน โทร.มาเชิญให้เขาไปพบที่บ้านก่อนเขาจะไปบ้านดอนเสือ อภิชาติขอไปบ้านคุณหญิงรัตนาด้วย ไม่นานนัก สองหนุ่มมาถึงบ้านคุณหญิงรัตนา ดูคุณหญิงรัตนาไม่ค่อยสบายใจนักที่ฤทธิชัยถูกสั่งพักงานเกรงจะกระทบต่อการ จัดการกับสินชัย ฤทธิชัยยืนยันว่าไม่กระทบ อาจจะทำให้เขาสองคนทำงานง่ายขึ้นด้วยซ้ำ

"อาอยากให้เธอสองคนระวังตัวให้มาก บ้านดอนเสือมีอันตรายมานานแล้ว...เอ่อ...อาเป็นห่วงหนูดาวกับหนูจักจั่น ฝากคุณหนึ่งกับคุณชาติดูแลสองคนนั่นด้วยนะจ๊ะ ไม่รู้ทำไมถึงถูกชะตา"

อภิชาติคาดว่าน่าจะเป็นเพราะทั้งคู่ทำให้คุณหญิงรัตนาคิดถึงลูกสาวแล้วขอ ท่านดูรูปถ่ายของน้องษา คุณหญิงรัตนาหยิบรูปของหนูพฤกษาที่ถ่ายกับเธอและอิทธิเมื่อสิบห้าปีก่อนมา ให้ดู

"ผมจะเอารูปนี้ส่งไปให้เพื่อนผมที่อเมริกา ลองเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ดูว่าเมื่อผ่านไปสิบห้าปีแล้ว หน้าตาของน้องษาควรจะเป็นอย่างไร

"ใช่แล้วนายชาติ เป็นเทคนิคใหม่ที่ตำรวจใช้เพื่อคำนวณหน้าตาคนร้ายว่าเปลี่ยนไปแค่ไหน เป็นการอัพเดตหน้าของคนร้ายที่อายุมากขึ้น"

คุณหญิงรัตนาฟังด้วยความตื่นเต้น อภิชาติคาดว่าอาจต้องใช้เวลานานหน่อยกว่าจะเสร็จ ทั้งสามคนต่างยิ้มให้กัน ฤทธิชัยจ้องมองรูปถ่ายของหนูพฤกษาเหมือนจะจดจำรายละเอียดไว้ทุกส่วน อภิชาติมีอีกคำถามหนึ่งจะถามคุณหญิงรัตนา น้องษาเกิดปีอะไร พอรู้ว่าเธอเกิดปีเสือ สองหนุ่มเหลียวมองหน้ากันทันที...

ระหว่างฤทธิชัยขับรถกลับจากบ้านคุณหญิงรัตนา อภิชาติตั้งข้อสังเกตว่าบางทีนางเสือกับน้องษาอาจจะเป็นคนคนเดียวกัน ฤทธิชัยหาว่าทฤษฎีของเพื่อนหลุดโลกไปหน่อย

"อ้าวทำไม...น้องษาเกิดปีเสือ ชอบป่าตั้งแต่เด็ก หายไปในป่า สิบห้าปีผ่านไปมีนางเสือโผล่มารักษาป่า จัดการกับพวกลักลอบตัดต้นไม้ เป็นไปได้นะเพื่อน"

ฤทธิชัยชักคล้อยตามว่าทฤษฎีนี้เข้าท่าแต่ขอร้องเพื่อนว่าอย่าเพิ่งพูดเรื่อง ทฤษฎีนี้กับอาหญิง อภิชาติรับปาก ฤทธิชัยกำลังจะไปพบท่านรองฯก้องเกียรติ ถามอภิชาติว่าจะไปด้วยไหม อภิชาติส่ายหน้า เขามีนัดกับสาว แล้วกำชับเพื่อนว่าห้ามโทร.หาเขาเด็ดขาด...หลังจากส่งอภิชาติเสร็จ ฤทธิชัยไปพบท่านรองฯก้องเกียรติที่บ้านของท่าน ท่านรองฯเตือนว่าตั้งแต่ฤทธิชัยถูกซ้อนแผนเมื่อคืนดูเหมือนเขาจะถูกโดด เดี่ยว

ฤทธิชัยอ้างว่าเขายังมีอภิชาติอีกคนหนึ่ง ท่านรองฯอยากให้เขาพิจารณานางเสือมาเป็นตัวช่วยอีกแรง อย่างน้อย เธอก็เคยช่วยชีวิตเขาไว้ ฤทธิชัยอ้าปากจะค้านแต่ท่านรองฯชิงพูดขึ้นก่อนว่า

"ผมรู้ นางเสือเป็นคนนอกกฎหมาย ผมไม่ได้ให้คุณละเว้น แต่กรณีที่คุณมีงานล้นมือคุณต้อง..."

"ผมต้องเลือกเอาว่าคนไหนควรจัดการก่อน คนไหนควรจัดการทีหลัง"

ท่านรองฯก้องเกียรติพยักหน้า ขณะที่ฤทธิชัยรู้สึกหนักใจ...

ในเวลาเดียวกัน ที่บ้านของป้าเนียน ดาว จักจั่น และไผ่กลับมารายงานลุงเดชว่ามีการเคลื่อนไหวของคนร้ายในป่าไม่ห่างจากบ้าน ดอนเสือนัก ลุงเดชวิเคราะห์สถานการณ์แล้ว เห็นว่าครั้งนี้ดูท่าทียุ่งยากพอสมควรเพราะแต่ละจุดที่พวกนั้นกระจายกันอยู่ มีหน่วยเฝ้าระวังอยู่หลายสิบคน

"เราก็แยกกันบุก กวนให้พวกมันเสียสติไปเลย อย่าให้พวกมันได้หลับได้นอน"

ลุงเดชชมว่าความคิดของจักจั่นดี แต่เสี่ยงเกินไป เขาจะส่งไผ่ไปบอกแสงนำกำลังมาให้เร็วที่สุด ให้แสงหาที่เหมาะๆตั้งค่ายนอกเขตบ้านดอนเสือ ไผ่เดินทางแค่วันเดียวก็ถึงค่ายโจร แต่แสงกับพวกโจรเดินทางที่นี่อย่างมากก็สองวัน ทำให้พวกเรายังมีเวลาวางแผนทัน ระหว่างนี้ลุงเดชอยากให้พวกเราทำตัวเป็นชาวบ้านเหมือนเดิมอย่าเปิดเผยตัวเอง ให้พวกคนร้ายสงสัยได้

ooooooo

ที่สถานีอนามัยบ้านดอนเสือ ขณะป้าเนียนกำลังจ่ายยาให้คนไข้ หญิงชาวบ้านคนหนึ่งพรวดพราดเข้ามาบอกว่าคนร้ายที่มาฉุดเด็กสาวเมื่อวาน ตอนนี้กลับมาอาละวาดอีกแล้ว ชาวบ้านโทร.แจ้งตำรวจแต่ คนร้ายอ้างกับตำรวจว่าจะพาพวกหญิงสาวไปทำงาน พวกที่ถูกฉุดก็ไม่มีใครกล้าพูด ตำรวจเลยทำอะไรไม่ได้ ป้าเนียนคว้าโทรศัพท์จะโทร.ไปตามลุงเดช แต่ดาวกับจักจั่นโผล่เข้ามาพอดี อาสาจะจัดการเรื่องนี้เอง...

จากนั้น ดาว จักจั่นกับหญิงชาวบ้านวิ่งออกมาขึ้น

รถจี๊ปที่สมาชิกโจรยึดจากพวกลักลอบขนของเถื่อนเอามาทิ้งไว้ให้พวกเธอใช้ ฤทธิชัยเพิ่งมาถึงร้านกาแฟหน้าสถานีอนามัยบ้านดอนเสือ เห็นสองสาวขับรถออกไปอย่างรีบร้อน รีบขับตาม ครู่ต่อมา รถจี๊ปของดาวแล่นมาจอดหน้าทางเข้าท้ายตลาด

"ป้ากลับบ้านไปได้แล้ว เดี๋ยวพวกมันเห็นจะเดือดร้อน"

ดาวว่าแล้วมองเข้าไปยังตึกแถวท้ายตลาดเห็นคนร้ายนับสิบคนโดยการนำของนาย เผือกกำลังยื้อยุดฉุดกระชากหญิงสาวขึ้นรถตู้ของพวกตน ชาวบ้านแอบมองอยู่ในห้องแถวตัวเองไม่มีใครกล้าออกมา ดาวกับจักจั่นปราดเข้าไปขวาง พวกคนร้ายกรูกันล้อมกรอบสองสาวไว้ ทันใดนั้นมีเสียงดังขึ้นทางด้านหลัง

"ท่าทางสนุกดี ขอร่วมวงด้วยคน"

ดาวกับจักจั่นหันขวับไปมอง ต้องแปลกใจที่เห็นฤทธิชัยยืนยิ้มเอามือไพล่หลัง ฤทธิชัยสั่งให้คนร้ายถอยไป ไม่อย่างนั้นจะหาว่าเขาไม่เตือน พวกคนร้ายไม่กลัวคำขู่ แถมเปลี่ยนเป้าหมายพุ่งเข้าหาฤทธิชัยแทน

"ว่าไงพี่ดาว จะปล่อยให้คุณฤทธิชัยโชว์เดี่ยวหรืออย่างไร" จักจั่นชักคันไม้คันมือ

"ให้เขาสนุกไปก่อน เราลุยไปช่วยพวกผู้หญิงดีกว่า ระวังอย่าแสดงฝีมือมากเกินไปเดี๋ยวเขาจะสงสัย"

ดาวกับจักจั่นล่อหลอกพวกนั้นบางส่วนให้ตามไปอีกทาง ขณะคนร้ายกำลังไล่กวดมาติดๆดาวตีลังกากลับหลังข้ามหัวพวกนั้นแล้วปรี่ไปยัง รถตู้ซึ่งเต็มไปด้วยเด็กสาวที่โดนฉุด จัดการคนเฝ้ารถตู้สลบเหมือด

เธอโดดขึ้นประจำที่นั่งคนขับ สตาร์ตเครื่องขับไปยังทิศทางที่ฤทธิชัยกำลังต่อสู้ คนร้ายเห็นดาวขับรถพุ่งใส่ต่างโดดหลบกันจ้าละหวั่น ดาวจอดรถรับฤทธิชัยก่อนจะพุ่งไปทางที่จักจั่นอยู่ จักจั่นรอจังหวะที่รถชะลอความเร็ว ดีดตัวเข้าทาง ประตูข้างที่พวกเด็กสาวเปิดรอ รถตู้ทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว...

ทันทีที่ลุงเดชรู้จากป้าเนียนว่าดาวกับจักจั่นตามไปช่วยเด็กสาวที่โดนฉุด รีบกดโทรศัพท์หา แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับจากมือถือของดาวและของจักจั่น ลุงเดชนึกเป็นห่วงรีบเอารถออกตาม...

ดาว จักจั่นกับฤทธิชัยขับรถตระเวนส่งเด็กสาวทั้งหมดกลับบ้านอย่างปลอดภัย ฤทธิชัยเห็นดาวขับรถตู้เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันอาสาขับแทน ระหว่างทางไปบ้านป้าเนียนเจอด่านตำรวจตั้งอยู่ ตำรวจเห็นทะเบียนรถตรงกับรถที่มีคนแจ้งความรถหาย รีบโบกให้จอด สั่งให้ทุกคนลงจากรถ

ฤทธิชัยแสดงตัวว่าเป็นตำรวจหน่วยปราบปรามพิเศษกำลังปฏิบัติหน้าที่ ตำรวจประจำด่านไม่เชื่อ พวกเขารู้ว่าผู้กองฤทธิชัยถูกสั่งพักงาน ไม่มีหน้าที่ยุ่งเกี่ยวกับงานใดๆของสำนักงานตำรวจฯ

"การปฏิบัติการครั้งนี้ ผมไม่ได้แอบอ้างตำแหน่ง แต่ผมทำในฐานะพลเมืองดี"

"ใช่ค่ะ พวกเราสองคนพี่น้องกำลังจะถูกฉุดขึ้นรถคันนี้ คุณฤทธิชัยมาช่วยเราไว้ได้ทันท่วงที"

"และนำรถคันนี้ไปส่งเหยื่อรายอื่นๆที่ถูกฉุดมา กลับบ้านเรียบร้อยแล้วด้วย เราสมควรจะได้รับการชมเชยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมากกว่าการถูกควบคุมตัว" จักจั่นต่อว่าฉอดๆ

ตำรวจไม่สน ถึงอย่างไรทั้งสามคนต้องไปโรงพักเพื่อสอบปากคำก่อน แล้วยึดปืนกับมือถือของฤทธิชัยไป ดาวกับจักจั่นมองหน้ากันเกรงจะถูกยึดปืนไปด้วย จักจั่นแกล้งร้องไห้กระจองอแงอยากกลับบ้าน เบี่ยงเบนความสนใจของตำรวจ ได้ผลพวกนั้นไม่ได้ตรวจด้วยซ้ำว่าพวกเธอพกพาอาวุธหรือเปล่า ตำรวจพาทั้งสามคนขึ้นรถตู้คันเดิม แล้วให้ตำรวจหนึ่งนายเป็นคนขับ อีกสามนายคอยควบคุมผู้ต้องสงสัยในรถ

รถตู้แล่นมาพักใหญ่ เจอด่านตำรวจอีกด่านหนึ่งเบื้องหน้า ตำรวจในรถตู้สงสัยว่าตรงนี้มีด่านได้อย่างไร ดาวกระซิบบอกจักจั่นว่าเธอได้ยินพวกที่ด่านคุยกัน พวกนั้นเป็นตำรวจปลอม จักจั่นขยับมือไปแตะด้ามปืน ดาวปรามให้ใจเย็นๆ ทันทีที่รถจอด คนร้ายในคราบตำรวจเอาปืนจี้บังคับตำรวจทั้งสี่นายออกจากรถไปมัดไว้ในป่า ฤทธิชัยกระซิบบอกสองสาวอยู่เฉยๆไว้ก่อนเดี๋ยวเขาจัดการเอง แล้วร้องเอะอะขึ้น

"วู้...เกือบไปถึงโรงพักแล้ว โชคดีที่พี่มาดักไว้ก่อน ฉันได้ผู้หญิงมาสองคน"

"ไอ้โยมันโทร.มาบอกว่ามีคนมาปล้นรถกับพวกผู้หญิงไป"

"ใช่...แต่เจอด่านตำรวจซะก่อนก็เลยโดนรวบ แต่ที่เหลือฉันกับน้องสองคนนี่เพราะตำรวจจะเอาไปสอบปากคำ" ฤทธิชัยแต่งเรื่องเป็นตุเป็นตะ หัวหน้าคนร้ายไม่แน่ใจสั่งให้สมุนโทร.ถามนายโย แต่ติดต่อไม่ได้ไม่มีสัญญาณ ฤทธิชัย กล่อมจนหัวหน้าพวกนั้นหลงเชื่อว่าฤทธิชัยเป็นพวกเดียวกัน สั่งให้เขาเอาตัวสองสาวไปส่งที่ค่าย แต่เพื่อความไม่ประมาทจะให้นายทูสมุนอีกคนหนึ่งขับรถพาไปส่ง...

ด้านลุงเดชจอดรถหลบข้างทางใกล้แนวป่า ค่อยๆหลับตาทำสมาธิ ขอให้สายลมช่วยตามหาดาวกับจักจั่น พลัน สายตาลุงเดชเห็นดาวกับจักจั่นผ่านทางสายตาของสายลม รีบกลับขึ้นรถมุ่งหน้าไปทิศทางนั้น...


ฤทธิชัยรอจนนายทูขับรถเข้าใกล้ค่ายกักกันหญิงสาว ออกอุบายล่อหลอกนายทูให้ลองทดสอบสินค้าสองชิ้นในรถก่อนเอาไปส่ง นายทูหลงกลเบนรถจอดข้างทางเดินมาเปิดประตู ทันทีที่ประตูรถเลื่อนเปิด นายทูถูกฤทธิชัยเตะปลายคางสลบคาเท้า ผู้กองหนุ่มจับเขามัดมือมัดปากติดกับต้นไม้ใหญ่ ยึดปืนของเขาเอาไว้ก่อนจะขับรถตู้จอดหลบๆ แล้วชวนดาวกับจักจั่นเดินเท้าต่อไปยังค่ายกักกันหญิงสาว...

ไม่นานนัก ลุงเดชตามมาเจอนายทูถูกพันธนาการอยู่ รีบแกะผ้ามัดปากออก ซักไซ้จนได้ความว่าถูกหญิงสองคนกับชายอีกหนึ่งคนจับมัด นายทูไม่รู้ว่าพวกนั้นไปกันนานหรือยังเพราะเขาเพิ่งฟื้นตอนที่ลุงเดชมาถึง

"งั้นเอ็งหลับต่อไปก็แล้วกัน" ลุงเดชว่าแล้วเอาพาน ท้ายปืนลูกซองเสยปลายคางนายทูสลบเหมือด

ลุงเดชสังเกตจากรอยเท้ารอบๆบริเวณแล้ว สรุปว่าผู้หญิงสองคนที่คนร้ายพูดถึงต้องเป็นดาวกับจักจั่นแน่ๆ แต่ผู้ชายเป็นใครยังเป็นปริศนา

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น